ก่อนอื่นต้องบอกว่า ผมเป็นคนไม่เชื่อเรื่องบ้านเลือกคนเลย เพราะเงินอยู่กับเรา บ้านเป็นแค่สิ่งปลูกสร้าง มันจะเลือกเราได้ยังไง จนกระทั่งผมเจอเหตุการณ์แปลกๆ กับตัวเอง โดยเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
ช่วงเดือน ก.ค. 66 ผมจองบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น โครงการ Local Brand แห่งนึง สมมติว่าชื่อโครงการ ก. โครงการแก้ไขดีเฟคให้ครบถ้วน จนใกล้วันโอนบ้านปรากฏว่าน้ำรั่วลงมาจากพื้นห้องน้ำชั้น 2 เซลส์จากที่ปกติก็บริการไม่ค่อยดีอยู่แล้ว กลับไม่ให้ทดสอบการรั่วซึมโดยการขังน้ำ ผมจึงยกเลิกไม่โอนบ้านหลังดังกล่าว ความรู้สึกตอนซื้อบ้านหลังนี้คือใกล้บ้านเดิมและราคาไม่แพง ความรู้สึกกับตัวบ้านคือเฉยๆ ไม่ชอบ ไม่เกลียด
ต่อมา ผมได้จองบ้านโครงการใหม่ สมมติว่าชื่อโครงการ ข. เป็นโครงการบ้านหลังเล็กๆแต่ราคาแอบแพง ความรู้สึกแรกคือชอบบ้านนี้มาก บ้านสงบ เย็น รู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก จึงตัดสินใจจองและผลธนาคารผ่านภายใน 2 วัน ใช่ครับ ฟังไม่ผิด ธนาคารอนุมัติภายใน 2 วัน!!! หลังจากตรวจบ้านเสร็จ ช่างโครงการไม่ค่อยตามงานให้ ดีเฟคอะไรที่ให้แก้ก็แถไปเรื่อย ไม่จิกไม่ตามก็เฉย จนรู้สึกรำคาญและอยากยกเลิกบ้านหลังนี้
จากนั้นก็ได้แอบไปดู โครงการ ค. ซึ่งทำเลดีกว่า 2 โครงการแรกมากๆราคาแพงกว่านิดหน่อย เซลส์บริการดีมาก แทบอุ้มผมลงจากรถ โดยเสนอขายบ้านหลังนึง ส่วนลดมากกว่าบ้านทุกหลัง ซึ่งบ้านหลังนี้อยู่ซอยย่อยที่ไม่ไกลจากหน้าโครงการเลย เดินแปปเดียวก็ถึง จึงพากันเดินไปดูบ้านจริง จังหวะมองเข้าไปตัวบ้าน ผมรู้สึกถึงความอึดอัดชอบกล และเมื่อเปิดประตูเข้าไปผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว ตัวบ้านมีไอเย็นชื้นๆกระจายทั่วบ้าน Layout บ้านออกแบบได้แปลกประหลาด ห้องต่างๆ มีซอกมุม มีจุดอับที่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำให้ห้องหักไปหักมา กลางวันแดดร้อนแต่ในบ้านกลับเย็นยะเยือก ไม่ใช่เย็นแบบร่มเย็น เดินอยู่ในบ้านมีแต่ความหวาดระแวง ความรู้สึกผมบอกว่า ต่อให้ผมซื้อบ้านหลังนี้ ผมก็ไม่กล้าอยู่ ผมกลัว
ผมลังเลคิดกลับไปกลับมา เพราะแม้ตัวบ้านจะไม่น่าอยู่ แต่ราคาและทำเลกลับเป็นข้อได้เปรียบ ผมอธิษฐานในใจว่าหากบ้านหลังไหนเป็นของผม ขอให้มีเหตุให้ผมได้เป็นเจ้าของบ้านหลังนั้น และผมกำลังจะแจ้งยกเลิกบ้าน ข. เพื่อมาจอง บ้าน ค. ผมก็มีสีหน้าคล้ำ เครียด จนคนรอบข้างทัก และวันเดียวกันผมก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนต้องใช้เงินจำนวนมากไปกับการซ่อมรถ(ตัวผมไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง) จึงไม่มีเงินพอที่จะจองบ้านใหม่และเดินเรื่องธนาคารอีก
ผมจึงกลับมาฉุกคิดว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่บ้าน โครงการ ข. อยากดึงผมไว้ ส่วนบ้านโครงการ ค. ไม่ต้อนรับผม เพื่อนๆละครับ เคยมีประสบการณ์แปลกๆ ก่อนซื้อบ้านใหม่เหมือนผมบ้างมั้ย เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ เพราะผมเองก็ไม่อยากเชื่อ และไม่เคยคิดจะเชื่อมาตั้งแต่แรกเหมือนกัน
ใครมีประสบการณ์ ลางสังหรณ์ก่อนซื้อบ้านใหม่บ้างมั้ยครับ
ช่วงเดือน ก.ค. 66 ผมจองบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น โครงการ Local Brand แห่งนึง สมมติว่าชื่อโครงการ ก. โครงการแก้ไขดีเฟคให้ครบถ้วน จนใกล้วันโอนบ้านปรากฏว่าน้ำรั่วลงมาจากพื้นห้องน้ำชั้น 2 เซลส์จากที่ปกติก็บริการไม่ค่อยดีอยู่แล้ว กลับไม่ให้ทดสอบการรั่วซึมโดยการขังน้ำ ผมจึงยกเลิกไม่โอนบ้านหลังดังกล่าว ความรู้สึกตอนซื้อบ้านหลังนี้คือใกล้บ้านเดิมและราคาไม่แพง ความรู้สึกกับตัวบ้านคือเฉยๆ ไม่ชอบ ไม่เกลียด
ต่อมา ผมได้จองบ้านโครงการใหม่ สมมติว่าชื่อโครงการ ข. เป็นโครงการบ้านหลังเล็กๆแต่ราคาแอบแพง ความรู้สึกแรกคือชอบบ้านนี้มาก บ้านสงบ เย็น รู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก จึงตัดสินใจจองและผลธนาคารผ่านภายใน 2 วัน ใช่ครับ ฟังไม่ผิด ธนาคารอนุมัติภายใน 2 วัน!!! หลังจากตรวจบ้านเสร็จ ช่างโครงการไม่ค่อยตามงานให้ ดีเฟคอะไรที่ให้แก้ก็แถไปเรื่อย ไม่จิกไม่ตามก็เฉย จนรู้สึกรำคาญและอยากยกเลิกบ้านหลังนี้
จากนั้นก็ได้แอบไปดู โครงการ ค. ซึ่งทำเลดีกว่า 2 โครงการแรกมากๆราคาแพงกว่านิดหน่อย เซลส์บริการดีมาก แทบอุ้มผมลงจากรถ โดยเสนอขายบ้านหลังนึง ส่วนลดมากกว่าบ้านทุกหลัง ซึ่งบ้านหลังนี้อยู่ซอยย่อยที่ไม่ไกลจากหน้าโครงการเลย เดินแปปเดียวก็ถึง จึงพากันเดินไปดูบ้านจริง จังหวะมองเข้าไปตัวบ้าน ผมรู้สึกถึงความอึดอัดชอบกล และเมื่อเปิดประตูเข้าไปผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว ตัวบ้านมีไอเย็นชื้นๆกระจายทั่วบ้าน Layout บ้านออกแบบได้แปลกประหลาด ห้องต่างๆ มีซอกมุม มีจุดอับที่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำให้ห้องหักไปหักมา กลางวันแดดร้อนแต่ในบ้านกลับเย็นยะเยือก ไม่ใช่เย็นแบบร่มเย็น เดินอยู่ในบ้านมีแต่ความหวาดระแวง ความรู้สึกผมบอกว่า ต่อให้ผมซื้อบ้านหลังนี้ ผมก็ไม่กล้าอยู่ ผมกลัว
ผมลังเลคิดกลับไปกลับมา เพราะแม้ตัวบ้านจะไม่น่าอยู่ แต่ราคาและทำเลกลับเป็นข้อได้เปรียบ ผมอธิษฐานในใจว่าหากบ้านหลังไหนเป็นของผม ขอให้มีเหตุให้ผมได้เป็นเจ้าของบ้านหลังนั้น และผมกำลังจะแจ้งยกเลิกบ้าน ข. เพื่อมาจอง บ้าน ค. ผมก็มีสีหน้าคล้ำ เครียด จนคนรอบข้างทัก และวันเดียวกันผมก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนต้องใช้เงินจำนวนมากไปกับการซ่อมรถ(ตัวผมไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง) จึงไม่มีเงินพอที่จะจองบ้านใหม่และเดินเรื่องธนาคารอีก
ผมจึงกลับมาฉุกคิดว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่บ้าน โครงการ ข. อยากดึงผมไว้ ส่วนบ้านโครงการ ค. ไม่ต้อนรับผม เพื่อนๆละครับ เคยมีประสบการณ์แปลกๆ ก่อนซื้อบ้านใหม่เหมือนผมบ้างมั้ย เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ เพราะผมเองก็ไม่อยากเชื่อ และไม่เคยคิดจะเชื่อมาตั้งแต่แรกเหมือนกัน