คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
เรื่องของเรื่องคือ
ไปสมัครตั้งแต่แรกทำไม ไม่ได้ศึกษาดูลักษณะงานก่อนเหรอ ว่าเหมาะสมกับตัวเราหรือไม่ จะบอกว่า ไม่รุ้ว่าต้องอยู่คนเดียวทั้งคืนและหน้าที่เยอะมาก ทำไม่ไหว เรื่องนี้สามารถสอบถามได้ตั้งแต่ตอนไปสมัคร ว่าต้องทำอะไร งานมากน้อยแค่ไหน ถ้าผู้รับสมัคร บอกอะไรไม่หมด เราก็สามารถที่จะปฏิเสธการทำนอกเหนือจากที่ได้รับข้อมูลมา
แต่นี่ดูลักษณะแล้ว ไม่ได้ดูไม่ได้ถามอะไรเลย คงคิดแต่ว่างานกลางคืนน่าจะเป็นงานสบายๆ ไม่มีอะไรมากนั่งๆนอนๆเล่นไป หารู้ไม่ว่างานกลางคืน นายจ้างส่วนมากจะไม่ตั้งพนักจำนวนมากคนหรอก เอาแค่เพียงพอกับงานที่ต้องทำ เพราะฉนั้นถ้าหวังว่าจะมีเพื่อนนั่งๆคุยๆเล่นรับรองได้ไม่มี แน่นอน
ข้างบ้านเปิดปั๊มน้ำมัน กะกลางคืน ก็มีพนักงานคนเดียว โดยปกติเนื้องานก็เพียงพอกับพนักงานคนเดียว แต่ก็อาจจะมีบางจังหวะ ที่รถเข้ามาเติมพร้อมกันหลายคัน พนักงานคนเดียวให้บริการไม่ทัน รถบางคันรอเติมไม่ได้ก็ขับออกไป เจ้าของปั๊มรู้และเห็น แต่ก็ไม่เห็นเจ้าของจะเพิ่มพนักงานเลย เขาคงบวกลบคูณหารแล้วว่า รถหลุดไปบ้าง คงจะไม่เสียหายเท่าเพิ่มพนักงานอีกคน แล้วจ่ายค่าแรงเพิ่ม แล้วเวลาไม่มีรถ ก็นั่งคุยเล่นกัน
น้องอีกคนที่รู้จัก มาบอกว่าจะไปทำงานเป็น รปภ ที่ ม.ราชภัฐ ก็บอกว่าคิดดีแล้วเหรอ งานไม่สบายนะ บอกว่าคิดดีแล้วไม่น่ายาก สรุปไปทำเข้างาน ตี 5 พอ9 โมงกว่าหนีกลับ ถามว่าหนีงานทำไม ตอบว่า ไม่ไหว ไม่ให้นั่งเลยตอนยืนตั้งแต่เริ่มเข้ากะ นึกว่าไม่ต้องทำอะไร แค่เดินตรวจตราครั้งๆคราวๆ ผมบอกว่ามันมีด้วยเหรองานสบายๆที่ว่า ไม่มีหรอก
การไปสมัครงานที่ๆหนึ่งแล้วเขารับเราเข้าทำงาน รู้มั้ยว่ามันเป็นการลงทุนของนายจ้างชนิดหนึ่ง ขั้นตอนในการรับเราเข้าทำงาน มันมีอะไรมากมาย ไม่ใช่ว่าแค่รับเราแล้วก็จบ การที่เขารับเราเขาอาจจะต้องแจ้งการปฏิเสธคนอื่นที่มาสมัครแล้วรอผล เขาอาจจะต้องมีการวางแผนว่าเราคนที่เขารับสมัครจะเหมาะสมในการทำหน้าที่อะไร
แต่นี่เราไปทำได้ 2 วัน แล้ว ทำไม่ได้ไม่ไหว จะออกจากงาน แล้วยังคิดจะไม่ไปแจ้งการลาออกด้วย นายจ้างที่ไหน งานที่ไหน เขาจะพอใจ ร้อยทั้งร้อย เขาก็จะบอกว่าถ้าทำไม่ได้แล้วมาสมัครทำไม เสียเวลาของเขา เสียเวลาที่จะต้องมาเริ่มขั้นตอนการรับสมัครงานใหม่
แล้วนี่ทำงานแค่2 วัน มีการขอเบิกเงินล่วงหน้าแล้ว หมายความว่าอะไร ไม่มีการเตรียมเงินไม่มีการบริหารการเงินของตัวเองเลยเหรอ แล้วถ้าไม่มีงานทำ เอาเงินที่ไหนมาใช้ ทำได้2 วันขอเบิกล่วงหน้าแล้ว แบบนี้ถ้าทำทั้งเดือน จะเบิกล่วงหน้าเท่าไร ไม่เกินตัวเหรอ
พฤติกรรมของพนักงานลักษณะนี้แหละที่เป็นผลเสียแก่ผู้ที่จะสมัคร จะหางานทำ ต่อไปในอนาคต เพราะเหล่านายจ้างที่ต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้เขาก็จะหาทางป้องกันรัดกุมและตั้งเงื่อนไข ในการรับสมัครงานของพนักงาน ให้มากขึ้น พนักงานใหม่ๆที่กำลังจะต้องหางาน ก็จะลำบากมากขึ้นไป
ส่วนเรื่องของคุณที่ถามว่าจะลาออกได้เลยมั้ย เงินที่เหลือไม่เอาก็ได้ ผมขอตอบว่า ถึงจะไม่ลาออกนายจ้างเขาก็ไม่เอาคุณแล้ว เงินที่เหลือเขาก็จะไม่ให้คุณด้วย ดีที่ไม่มีการเซ็นสัญญากัน ไม่งั้นคุณอาจจะโดนเขาฟ้อง ในข้อ ลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้า
ขอให้กลับไปเปลี่ยนทัศนะคติ ในการทำงานใหม่ครับ ไม่มีงานไหน ที่จะสบาย ทุกงานมีความยากมีความสบายในตัวของมันหมด ไม่มีงานไหนง่ายตลอดแล้วก็ไม่มีงานไหนยากตลอด พวกค้ายาเสพติด ก็ยังต้องระวังตัว ไปไหนมาไหนต้องเหลียวหน้าเหลียวหลังตลอดเวลา เครียดไม่ได้สบายอย่างที่หลายคนคิดเลย
ขอให้โชคดี
ไปสมัครตั้งแต่แรกทำไม ไม่ได้ศึกษาดูลักษณะงานก่อนเหรอ ว่าเหมาะสมกับตัวเราหรือไม่ จะบอกว่า ไม่รุ้ว่าต้องอยู่คนเดียวทั้งคืนและหน้าที่เยอะมาก ทำไม่ไหว เรื่องนี้สามารถสอบถามได้ตั้งแต่ตอนไปสมัคร ว่าต้องทำอะไร งานมากน้อยแค่ไหน ถ้าผู้รับสมัคร บอกอะไรไม่หมด เราก็สามารถที่จะปฏิเสธการทำนอกเหนือจากที่ได้รับข้อมูลมา
แต่นี่ดูลักษณะแล้ว ไม่ได้ดูไม่ได้ถามอะไรเลย คงคิดแต่ว่างานกลางคืนน่าจะเป็นงานสบายๆ ไม่มีอะไรมากนั่งๆนอนๆเล่นไป หารู้ไม่ว่างานกลางคืน นายจ้างส่วนมากจะไม่ตั้งพนักจำนวนมากคนหรอก เอาแค่เพียงพอกับงานที่ต้องทำ เพราะฉนั้นถ้าหวังว่าจะมีเพื่อนนั่งๆคุยๆเล่นรับรองได้ไม่มี แน่นอน
ข้างบ้านเปิดปั๊มน้ำมัน กะกลางคืน ก็มีพนักงานคนเดียว โดยปกติเนื้องานก็เพียงพอกับพนักงานคนเดียว แต่ก็อาจจะมีบางจังหวะ ที่รถเข้ามาเติมพร้อมกันหลายคัน พนักงานคนเดียวให้บริการไม่ทัน รถบางคันรอเติมไม่ได้ก็ขับออกไป เจ้าของปั๊มรู้และเห็น แต่ก็ไม่เห็นเจ้าของจะเพิ่มพนักงานเลย เขาคงบวกลบคูณหารแล้วว่า รถหลุดไปบ้าง คงจะไม่เสียหายเท่าเพิ่มพนักงานอีกคน แล้วจ่ายค่าแรงเพิ่ม แล้วเวลาไม่มีรถ ก็นั่งคุยเล่นกัน
น้องอีกคนที่รู้จัก มาบอกว่าจะไปทำงานเป็น รปภ ที่ ม.ราชภัฐ ก็บอกว่าคิดดีแล้วเหรอ งานไม่สบายนะ บอกว่าคิดดีแล้วไม่น่ายาก สรุปไปทำเข้างาน ตี 5 พอ9 โมงกว่าหนีกลับ ถามว่าหนีงานทำไม ตอบว่า ไม่ไหว ไม่ให้นั่งเลยตอนยืนตั้งแต่เริ่มเข้ากะ นึกว่าไม่ต้องทำอะไร แค่เดินตรวจตราครั้งๆคราวๆ ผมบอกว่ามันมีด้วยเหรองานสบายๆที่ว่า ไม่มีหรอก
การไปสมัครงานที่ๆหนึ่งแล้วเขารับเราเข้าทำงาน รู้มั้ยว่ามันเป็นการลงทุนของนายจ้างชนิดหนึ่ง ขั้นตอนในการรับเราเข้าทำงาน มันมีอะไรมากมาย ไม่ใช่ว่าแค่รับเราแล้วก็จบ การที่เขารับเราเขาอาจจะต้องแจ้งการปฏิเสธคนอื่นที่มาสมัครแล้วรอผล เขาอาจจะต้องมีการวางแผนว่าเราคนที่เขารับสมัครจะเหมาะสมในการทำหน้าที่อะไร
แต่นี่เราไปทำได้ 2 วัน แล้ว ทำไม่ได้ไม่ไหว จะออกจากงาน แล้วยังคิดจะไม่ไปแจ้งการลาออกด้วย นายจ้างที่ไหน งานที่ไหน เขาจะพอใจ ร้อยทั้งร้อย เขาก็จะบอกว่าถ้าทำไม่ได้แล้วมาสมัครทำไม เสียเวลาของเขา เสียเวลาที่จะต้องมาเริ่มขั้นตอนการรับสมัครงานใหม่
แล้วนี่ทำงานแค่2 วัน มีการขอเบิกเงินล่วงหน้าแล้ว หมายความว่าอะไร ไม่มีการเตรียมเงินไม่มีการบริหารการเงินของตัวเองเลยเหรอ แล้วถ้าไม่มีงานทำ เอาเงินที่ไหนมาใช้ ทำได้2 วันขอเบิกล่วงหน้าแล้ว แบบนี้ถ้าทำทั้งเดือน จะเบิกล่วงหน้าเท่าไร ไม่เกินตัวเหรอ
พฤติกรรมของพนักงานลักษณะนี้แหละที่เป็นผลเสียแก่ผู้ที่จะสมัคร จะหางานทำ ต่อไปในอนาคต เพราะเหล่านายจ้างที่ต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้เขาก็จะหาทางป้องกันรัดกุมและตั้งเงื่อนไข ในการรับสมัครงานของพนักงาน ให้มากขึ้น พนักงานใหม่ๆที่กำลังจะต้องหางาน ก็จะลำบากมากขึ้นไป
ส่วนเรื่องของคุณที่ถามว่าจะลาออกได้เลยมั้ย เงินที่เหลือไม่เอาก็ได้ ผมขอตอบว่า ถึงจะไม่ลาออกนายจ้างเขาก็ไม่เอาคุณแล้ว เงินที่เหลือเขาก็จะไม่ให้คุณด้วย ดีที่ไม่มีการเซ็นสัญญากัน ไม่งั้นคุณอาจจะโดนเขาฟ้อง ในข้อ ลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้า
ขอให้กลับไปเปลี่ยนทัศนะคติ ในการทำงานใหม่ครับ ไม่มีงานไหน ที่จะสบาย ทุกงานมีความยากมีความสบายในตัวของมันหมด ไม่มีงานไหนง่ายตลอดแล้วก็ไม่มีงานไหนยากตลอด พวกค้ายาเสพติด ก็ยังต้องระวังตัว ไปไหนมาไหนต้องเหลียวหน้าเหลียวหลังตลอดเวลา เครียดไม่ได้สบายอย่างที่หลายคนคิดเลย
ขอให้โชคดี
แสดงความคิดเห็น
ทำงานได้ 2 วัน อยากลาออกจากงานเลยขอเบิกเงิน จาก 600 บาท ได้200 บาท ผมสามารถออกงานได้เลยมั้ย ที่เหลือผมไม่เอาก็ได้?