มีใครที่มีแม่ที่รักลูกไม่เท่ากันบ้างคะ
เราเป็นลูกผู้หญิงคนโต มีน้องชาย 2 คน เรา 23 น้องคนกลาง 21 คนเล็ก 19
ใครเป็นลูกคนโตจะเข้าใจเลยว่า เราจะโดนพ่อแม่กดดันเป็นพิเศษ เพราะว่าจะต้องเป็นแบบอย่างให้น้อง ต้องมีความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกคนโตโดนตลอดคือ "ก็ลูกคนพี่ไง" ซึ่งโลกของเรากว้างขึ้นมาก ๆ เมื่อได้เจอเพื่อนในสังคมมหาลัย เราเข้าใจเลยว่าทำไมคนแต่ละคนถึงมองเรื่องเดียวกัน แต่คิดในมุมมองที่ต่างกัน ในกลุ่มเราจะมีเพื่อน 5 คน เรากับอื่นคนอายุเท่ากัน และเป็นพี่คนโต ส่วนอีก 2 คนเป็นน้องคนเล็กสุด ของครอบครัวของเค้า และคนสุดท้ายเป็นลูกคนเดียว เรามักจะทำอะไร ๆ เอง หาเอง อยากได้อะไรที่มากกว่าค่าเทอม คือต้องหาเอง เราขับรถไปเรียนเอง ทุกปิดเทอมจะต้องหางานพาร์ทไทม์ทำ เพราะถ้าอยู่เฉย ๆ แม่จะด่าว่า " ชาวบ้านเค้าหางานทำกันโครม ๆ จะมาอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่อายบ้างหรือไง " แต่มันเป็นช่วงปิดเทอมของเรา เพื่อนเราบางคนอยู่บ้านเฉย ๆ บางคนพ่อแม่พาไปเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะคนที่เป็นลูกคนเล็ก
แต่น้องเราก็อายุ 21 และ 19 ทั้งสองคนไม่เรียนต่อ คนที่ 21 ไม่เรียนต่อตั้งแต่ ม.3 คนเล็ก 19 ไม่เรียนต่อตั้งแต่ ม.1 แต่กลับเป็นเราที่ต้องเรียน และ ทำพาร์ทไทม์ แต่น้อง2 คนของเราไม่ทำมีแต่ใช้เงินพ่อแม่ แถมติดเกมส์ ถ้าเป็นบ้านอื่นเค้าต้องช่วยกันทำมาหากินแล้ว แต่น้องเราไม่หา ยังขอเงินแม่เติมเกมส์อีก และน้องคนเล็กก็ชอบขโมยตังเราหลายครั้งมาก ตั้ง 100-1000 บาท เราบอกแม่แต่แม่ก็หาว่าเราเก็บไม่ดีเอง เราก็บอกว่า แล้วจะไม่ทำอะไรน้องหน่อยหรอ แม่บอก มันเป็นน้อง ถ้าโตแล้วก็คิดเองสิ จะให้ทำอะไร ให้ตีมันหรอไง มันโตแล้ว ตีไปก็เท่านั้น เราเลยบอกว่าก็ให้มันไปหางานทำดิ ญาติแม่ลูกเค้ายังไปหางานโรงงานทำเลย อายุก็เท่ากัน ถ้าช่วยกันหาเงินและแบ่งเงินส่วนกลางก็ดฃเป็นเงินเก็บครอบครัวไม่ดีกว่าหรอ แม่ก็บอก เราเป็นพี่ เรียนก็สูง ก็ต้องหางานดีทำสิ เราก็คิด ว่าแล้วจะให้เรามาทำงานคนเดียวเพื่อเลี้ยง 2 คนที่ไม่ทำอะไรเลย แต่มีกินหรอ เวลาเราเครียดเรื่องที่บ้าน เราจะชอบขับรถไปตอนกลางคืนเพื่อเลี่ยงการเจอกับคนที่บ้านค่ะ เราทำบ่อยเพราะรู้สึกเป็นอิสระ ชอบคิด บางทีก็ร้องไห้ไปขับรถไป พอไปถึงบ้าน ก็เจอเรื่อง toxic ทันที เพราะแม่เราด่าว่า ออกไปก็นาน โทรให้ซื้อกับข้าวก็ไม่รับ น้องยังไม่มีข้าวกินเลย!! เราก็บอกไปว่า เอาเวลาที่มันเล่นเกมส์ไปซื้อข้าวก็ได้กินแล้วมั้ยหล่ะ และเดินหนีไปเลย
แต่ในมุมเพื่อนเราที่เป็นลูกคนเล็ก พ่อแม่จะให้เงินเดือนเป็นค่ากิน ค่าซื้อของ มีพี่ไปรับไปส่ง เข้าผับเข้าบาร์ ปาร์ตี้ยังตี3 พ่อแม่เป็นห่วง มันก็บอก ทำอะไรก็ได้โตแล้ว เราคิดเลย ว่าถ้าเราทำแบบนั้นบ้างจะโดนอะไรบ้าง เราเข้าใจเลยว่าคนที่อายุเท่ากัน แต่ภาระและหน้าที่ต่างกันมาก คนที่เป็นพี่ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ ก็โดนพูดว่า ก็เราเป็นพี่ ต้องให้น้องก่อน เพราะเราเป็นพี่ต้องเป็นอย่างนั้น ส่วนคนเป็นน้อง ถ้ามีคนในครอบครัวที่แก่กว่า คนที่น้องก็ยังเป็นน้องอยู่วันยังคำ่ ไม่ว่าอายุจะเท่าไหร่ก็ตาม เราชอบที่บางครอบครัวไม่ใช่เรื่องอายุในการเป็นข้อข้างในเรื่องต่าง ๆ บางคนเป็นคนเล็กแต่หาเงินได้มากกว่าพี่ก็มี หรือมีความรับผิดชอบมากกว่า และเรื่องการเถียงก็เหมือนกัน เถียงเท่ากับบาท แต่บางทีเราแค่อยากอธิบาย แต่ก็ต้องยอมให้แม่ถูกทั้ง ๆ ที่เค้าผิด เพราะคำว่า บาป
ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เค้าจะใช้ปัญหาที่เราเคยปรึกษาเค้ามาด่าเรา มาจี้จุดเรา และมันทำให้เราไม่กล้านำปัญหาอื่น ๆ มาปรึกษาเค้าอีกเลย เราเลยค่อนข้างเก็บกด ทุกอย่างไว้กลับตัวเอง เราค่อนข้างเป็นคน introvert ไม่ค่อยพูดและเข้าสังคมไม่เก่ง ไม่กล้าพูดเพราะกลัวโดน judge แล้วเรารับไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนเราไม่เป็น เรารู้สึกว่าหรือจริง ๆ เราจะไม่เหมอะกับโลกใบนี้นะ ถ้าแค่นี้ยังทนไม่ได้ แล้วเราจะอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ยังไง เรามักจะเงียบเพื่อปกป้องตัวเองเสมอ บางคนไม่ชอบเพราะดูหยิ่ง บางคนริดว่าเราโกรธ แต่บางทีเราไม่ได้คิดอะไรด้วยซำ้
เราอยากรู้ว่า มีคนเคยเจอเหตุการทั้งเรื่องพี่คนโต และคนที่เป็น introvert และโดนคนที่เป็น extrovert ล้อ ว่า "พวก introvert เป็นพวกซึมเศร้า ดีนะฉันเป็น Extrovert ไม่ก่อย เลยมีเพื่อนเยอะ " ใช่ค่ะ เราเคยโดนพูดประโยคนี้ใส่จริง ๆ อยากรู้ว่าทุกคนรับมืออย่างไรของทั้ง 2 เรื่องคะ
ลูกคนโตผิดเสมอ introvert ไม่เคยดี
เราเป็นลูกผู้หญิงคนโต มีน้องชาย 2 คน เรา 23 น้องคนกลาง 21 คนเล็ก 19
ใครเป็นลูกคนโตจะเข้าใจเลยว่า เราจะโดนพ่อแม่กดดันเป็นพิเศษ เพราะว่าจะต้องเป็นแบบอย่างให้น้อง ต้องมีความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกคนโตโดนตลอดคือ "ก็ลูกคนพี่ไง" ซึ่งโลกของเรากว้างขึ้นมาก ๆ เมื่อได้เจอเพื่อนในสังคมมหาลัย เราเข้าใจเลยว่าทำไมคนแต่ละคนถึงมองเรื่องเดียวกัน แต่คิดในมุมมองที่ต่างกัน ในกลุ่มเราจะมีเพื่อน 5 คน เรากับอื่นคนอายุเท่ากัน และเป็นพี่คนโต ส่วนอีก 2 คนเป็นน้องคนเล็กสุด ของครอบครัวของเค้า และคนสุดท้ายเป็นลูกคนเดียว เรามักจะทำอะไร ๆ เอง หาเอง อยากได้อะไรที่มากกว่าค่าเทอม คือต้องหาเอง เราขับรถไปเรียนเอง ทุกปิดเทอมจะต้องหางานพาร์ทไทม์ทำ เพราะถ้าอยู่เฉย ๆ แม่จะด่าว่า " ชาวบ้านเค้าหางานทำกันโครม ๆ จะมาอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่อายบ้างหรือไง " แต่มันเป็นช่วงปิดเทอมของเรา เพื่อนเราบางคนอยู่บ้านเฉย ๆ บางคนพ่อแม่พาไปเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะคนที่เป็นลูกคนเล็ก
แต่น้องเราก็อายุ 21 และ 19 ทั้งสองคนไม่เรียนต่อ คนที่ 21 ไม่เรียนต่อตั้งแต่ ม.3 คนเล็ก 19 ไม่เรียนต่อตั้งแต่ ม.1 แต่กลับเป็นเราที่ต้องเรียน และ ทำพาร์ทไทม์ แต่น้อง2 คนของเราไม่ทำมีแต่ใช้เงินพ่อแม่ แถมติดเกมส์ ถ้าเป็นบ้านอื่นเค้าต้องช่วยกันทำมาหากินแล้ว แต่น้องเราไม่หา ยังขอเงินแม่เติมเกมส์อีก และน้องคนเล็กก็ชอบขโมยตังเราหลายครั้งมาก ตั้ง 100-1000 บาท เราบอกแม่แต่แม่ก็หาว่าเราเก็บไม่ดีเอง เราก็บอกว่า แล้วจะไม่ทำอะไรน้องหน่อยหรอ แม่บอก มันเป็นน้อง ถ้าโตแล้วก็คิดเองสิ จะให้ทำอะไร ให้ตีมันหรอไง มันโตแล้ว ตีไปก็เท่านั้น เราเลยบอกว่าก็ให้มันไปหางานทำดิ ญาติแม่ลูกเค้ายังไปหางานโรงงานทำเลย อายุก็เท่ากัน ถ้าช่วยกันหาเงินและแบ่งเงินส่วนกลางก็ดฃเป็นเงินเก็บครอบครัวไม่ดีกว่าหรอ แม่ก็บอก เราเป็นพี่ เรียนก็สูง ก็ต้องหางานดีทำสิ เราก็คิด ว่าแล้วจะให้เรามาทำงานคนเดียวเพื่อเลี้ยง 2 คนที่ไม่ทำอะไรเลย แต่มีกินหรอ เวลาเราเครียดเรื่องที่บ้าน เราจะชอบขับรถไปตอนกลางคืนเพื่อเลี่ยงการเจอกับคนที่บ้านค่ะ เราทำบ่อยเพราะรู้สึกเป็นอิสระ ชอบคิด บางทีก็ร้องไห้ไปขับรถไป พอไปถึงบ้าน ก็เจอเรื่อง toxic ทันที เพราะแม่เราด่าว่า ออกไปก็นาน โทรให้ซื้อกับข้าวก็ไม่รับ น้องยังไม่มีข้าวกินเลย!! เราก็บอกไปว่า เอาเวลาที่มันเล่นเกมส์ไปซื้อข้าวก็ได้กินแล้วมั้ยหล่ะ และเดินหนีไปเลย
แต่ในมุมเพื่อนเราที่เป็นลูกคนเล็ก พ่อแม่จะให้เงินเดือนเป็นค่ากิน ค่าซื้อของ มีพี่ไปรับไปส่ง เข้าผับเข้าบาร์ ปาร์ตี้ยังตี3 พ่อแม่เป็นห่วง มันก็บอก ทำอะไรก็ได้โตแล้ว เราคิดเลย ว่าถ้าเราทำแบบนั้นบ้างจะโดนอะไรบ้าง เราเข้าใจเลยว่าคนที่อายุเท่ากัน แต่ภาระและหน้าที่ต่างกันมาก คนที่เป็นพี่ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ ก็โดนพูดว่า ก็เราเป็นพี่ ต้องให้น้องก่อน เพราะเราเป็นพี่ต้องเป็นอย่างนั้น ส่วนคนเป็นน้อง ถ้ามีคนในครอบครัวที่แก่กว่า คนที่น้องก็ยังเป็นน้องอยู่วันยังคำ่ ไม่ว่าอายุจะเท่าไหร่ก็ตาม เราชอบที่บางครอบครัวไม่ใช่เรื่องอายุในการเป็นข้อข้างในเรื่องต่าง ๆ บางคนเป็นคนเล็กแต่หาเงินได้มากกว่าพี่ก็มี หรือมีความรับผิดชอบมากกว่า และเรื่องการเถียงก็เหมือนกัน เถียงเท่ากับบาท แต่บางทีเราแค่อยากอธิบาย แต่ก็ต้องยอมให้แม่ถูกทั้ง ๆ ที่เค้าผิด เพราะคำว่า บาป
ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เค้าจะใช้ปัญหาที่เราเคยปรึกษาเค้ามาด่าเรา มาจี้จุดเรา และมันทำให้เราไม่กล้านำปัญหาอื่น ๆ มาปรึกษาเค้าอีกเลย เราเลยค่อนข้างเก็บกด ทุกอย่างไว้กลับตัวเอง เราค่อนข้างเป็นคน introvert ไม่ค่อยพูดและเข้าสังคมไม่เก่ง ไม่กล้าพูดเพราะกลัวโดน judge แล้วเรารับไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนเราไม่เป็น เรารู้สึกว่าหรือจริง ๆ เราจะไม่เหมอะกับโลกใบนี้นะ ถ้าแค่นี้ยังทนไม่ได้ แล้วเราจะอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ยังไง เรามักจะเงียบเพื่อปกป้องตัวเองเสมอ บางคนไม่ชอบเพราะดูหยิ่ง บางคนริดว่าเราโกรธ แต่บางทีเราไม่ได้คิดอะไรด้วยซำ้
เราอยากรู้ว่า มีคนเคยเจอเหตุการทั้งเรื่องพี่คนโต และคนที่เป็น introvert และโดนคนที่เป็น extrovert ล้อ ว่า "พวก introvert เป็นพวกซึมเศร้า ดีนะฉันเป็น Extrovert ไม่ก่อย เลยมีเพื่อนเยอะ " ใช่ค่ะ เราเคยโดนพูดประโยคนี้ใส่จริง ๆ อยากรู้ว่าทุกคนรับมืออย่างไรของทั้ง 2 เรื่องคะ