หลักฐานการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ด้วยการใช้การบริหารสถานศึกษาแบบโรงเรียนนิติบุคคล ซึ่งคล้ายกับแนวคิด SCHOOL BASED MANAGEMENT ของสหรัฐอเมริกา ในยุค80
เนื่องจากการจัดบริการการศึกษาอย่างเสมอภาคให้ประชาชนทุกคนถูกคัดค้านในปี2538 โดยนักการศึกษาชื่อดังของประเทศไทย จึงถูกลบไปจากประวัติศาสตร์การศึกษาไทย
เพื่อให้จัดบริการการศึกษามีคุณภาพ ใกล้บ้าน เป็นไปตามความต้องการของประชาชนในท้องถิ่น ไม่ขัดแย้งกับวัฒนธรรม และ ทำลายสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งให้สถานศึกษา ปรับปรุงเป็นมาตรฐานเดียวกันกับ สถานศึกษาอินเตอร์ สอน2. ภาษาและ ใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอน
คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล จึงต้องการจัดงบประมาณให้สถานศึกษา40000 แห่ง แห่งละ 1ล้านบาทอย่างเสมอภาค เป็นการกระจายอำนาจ แก้ไขปัญหาเหลื่อมล้ำ และ ใช้วิธีพัฒนาโดยมีคนเป็นศูนย์กลาง เมื่อประชาชนเป็นคนเก่ง จะสามารถพัฒนาชีวิตตนเอง ให้มีรายได้ และ มีความสุข เมื่อมีชีวิตดีๆ จะเป็นคนดี
และประเทศจะเจริญ ไปพร้อมๆ กับระบบการศึกษา ประเทศซึ่งใช้การศึกษาพัฒนาประเทศเช่น สิงคโปร์ และ ฟินแลนด์ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว น่าเสียดายประเทศไทยรัฐบาลจากการเลือกตั้ง และรัฐประหาร เลือกใช้แนวทางประชานิยม เพื่อ แลนด์สไลด์ เพราะเห็นผลเร็ว ต่างจากสิงคโปร์
ประเทศไทยในปี 2563 จึงไม่ได้บรรลุเป้าหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่8 หน้าขอไข่ คือเป็นประเทศพัฒนาแล้ว
ความเหลื่อมล้ำของประชาชนไทย ในยุคเสือตัวที่ 5 ก่อนการอภิวัฒน์การศึกษาไทยระหว่างปี 2538-2540 มีใครจำได้ไหมคะ?
หลักฐานการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ด้วยการใช้การบริหารสถานศึกษาแบบโรงเรียนนิติบุคคล ซึ่งคล้ายกับแนวคิด SCHOOL BASED MANAGEMENT ของสหรัฐอเมริกา ในยุค80
เนื่องจากการจัดบริการการศึกษาอย่างเสมอภาคให้ประชาชนทุกคนถูกคัดค้านในปี2538 โดยนักการศึกษาชื่อดังของประเทศไทย จึงถูกลบไปจากประวัติศาสตร์การศึกษาไทย
เพื่อให้จัดบริการการศึกษามีคุณภาพ ใกล้บ้าน เป็นไปตามความต้องการของประชาชนในท้องถิ่น ไม่ขัดแย้งกับวัฒนธรรม และ ทำลายสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งให้สถานศึกษา ปรับปรุงเป็นมาตรฐานเดียวกันกับ สถานศึกษาอินเตอร์ สอน2. ภาษาและ ใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอน
คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล จึงต้องการจัดงบประมาณให้สถานศึกษา40000 แห่ง แห่งละ 1ล้านบาทอย่างเสมอภาค เป็นการกระจายอำนาจ แก้ไขปัญหาเหลื่อมล้ำ และ ใช้วิธีพัฒนาโดยมีคนเป็นศูนย์กลาง เมื่อประชาชนเป็นคนเก่ง จะสามารถพัฒนาชีวิตตนเอง ให้มีรายได้ และ มีความสุข เมื่อมีชีวิตดีๆ จะเป็นคนดี
และประเทศจะเจริญ ไปพร้อมๆ กับระบบการศึกษา ประเทศซึ่งใช้การศึกษาพัฒนาประเทศเช่น สิงคโปร์ และ ฟินแลนด์ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว น่าเสียดายประเทศไทยรัฐบาลจากการเลือกตั้ง และรัฐประหาร เลือกใช้แนวทางประชานิยม เพื่อ แลนด์สไลด์ เพราะเห็นผลเร็ว ต่างจากสิงคโปร์
ประเทศไทยในปี 2563 จึงไม่ได้บรรลุเป้าหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่8 หน้าขอไข่ คือเป็นประเทศพัฒนาแล้ว