พุทธวจนะ พระคึกฤทธิ์ วัดนาป่าพง : ตอน "พระสูตรหิ่งห้อยที่นักบวชผู้นี้บิดเบือน"

พระสูตรหิ่งห้อยที่นักบวชผู้นี้บิดเบือน




นักบวชผู้นี้ชอบนำคำว่า "หิ่งห้อย" มาเปรียบเทียบกับพระอริยสาวกสงฆ์ในพุทธกาล

เช่น พระสารีบุตร ฯลฯ โดยเปรียบเทียบว่า สาวกนั้นเปรียบเสมือนแสงหิ่งห้อย พระพุทธเจ้าเปรียบเสมือนแสงอาทิตย์


นี่คือข้อบิดเบือนสำคัญที่นักบวชผู้นี้นำมาบิดเบือนเพื่อลดทอนความน่าเชื่อถือของพระอริยสาวก เช่น พระสารีบุตร ฯลฯ


ความจริง ตามพระพุทธวจนะของจริง !!!!


พระพุทธเจ้าทรงเปรียบเหล่าอัญเดียรถีย์เสมือนแสงหิ่งห้อย

ไม่พบว่าพระพุทธเจ้าทรงเปรียบเหล่าสาวกของพระองค์เสมือนแสงหิ่งห้อยเลย

แต่นักบวชผู้นี้ กลับนำคำนี้มาใช้ในการเหยียดหยามอริยสาวกสงฆ์และพระภิกษุ

รวมไปถึงอุบาสก อุบาสิกา ที่ไม่เลื่อมไสศรัทธาตน ไม่นำลาภสักการะเข้าสู่ตนว่าเป็น แสงหิ่งห้อย

ทำให้เหล่าสาวกของนักบวชผู้นี้ นำพระพุทธวจนะบทนี้ไปเหยียบย่ำชาวพุทธด้วยกันเองอย่างน่ารังเกียจที่สุด


อ่านพระพุทธวจนะของจริงกันชัดๆ นะคะว่าพระองค์ตรัสเรื่องแสงหิ่งห้อยนั้น หมายถึงใคร


"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่เสด็จอุบัติขึ้นในโลก เพียงใด

พวกอัญญเดียรถีย์ย่อมเป็นผู้อันมหาชนสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ยำเกรง

และได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร เพียงนั้น

แต่เมื่อใด พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก เมื่อนั้น 

พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชก ย่อมเป็นผู้อันมหาชนไม่สักการะ เคารพ นับถือ บูชา ยำเกรง

และไม่ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ

บัดนี้ พระผู้มีพระภาคและภิกษุสงฆ์ ย่อมเป็นผู้อันมหาชนสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ยำเกรง

และได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

"ดูกรอานนท์ จริงอย่างนั้น ดูกรอานนท์ จริงอย่างนั้น

ดูกรอานนท์ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่เสด็จอุบัติขึ้นในโลกเพียงใด ...

แต่เมื่อใดพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก ... ฯ


ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า


"หิ่งห้อยนั้น ส่งแสงสว่างอยู่ชั่วเวลาพระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นไปแล้ว หิ่งห้อยนั้นก็อับแสง

และไม่สว่างได้เลย พวกเดียรถีย์สว่างเหมือนหิ่งห้อยนั้น ตราบเท่าที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่เสด็จอุบัติขึ้นในโลก

แต่เมื่อใดพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก เมื่อนั้น พวกเดียรถีย์และแม้สาวกของพวกเดียรถีย์เหล่านั้นย่อมไม่หมดจด

พวกเดียรถีย์ผู้มีทิฐิชั่วย่อมไม่พ้นไปจากทุกข์ ฯ

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต

แหล่งข้อมูล : http://watnaprapong.blogspot.com/2016/02/blog-post.html?m=1
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่