BTS ปูทาง — BTS paved the way
เขียนโดย อาจารย์คิมยองแด
นักวิจารณ์เพลงผู้คร่ำหวอดในวงการ K-Pop
ผู้แต่งหนังสือ ‘BTS The Review: วิเคราะห์ความสำเร็จของ BTS’
‘อิทธิพลของ BTS’ ที่โค่นจอมโอหังอย่างสหรัฐและสหราชอาณาจักรด้วยกระแส K-Pop
แสงสีม่วงย้อมสถานที่สำคัญในกรุงโซลจนอร่าม ทุกหัวระแหงทั่วนครหลวงแห่งเกาหลีใต้ต่างจัดงานเฉลิมฉลองวันครบรอบเดบิวต์ของศิลปินเกาหลีกลุ่มหนึ่ง ท่ามกลางมหาชนที่เพลิดเพลินไปกับเทศกาลครั้งนั้นไม่ได้มีแค่ชาวเกาหลีใต้ แต่ยังพบชาวต่างชาติที่หลั่งไหลมาจากทั่วโลกได้ไม่ยาก ทัศนียภาพที่กล่าวมานี้คือเทศกาล FESTA เฉลิมฉลองการเดบิวต์ครบรอบ 10 ปีของศิลปินวง BTS นั่นเอง สำหรับใคร ๆ ที่ไม่ได้สนใจเรื่องดนตรี อาจคิดว่าพวกเขาเป็นเพียงคนในแสงสีที่มีชื่อเสียง แต่สำหรับแฟน ๆ K-Pop และแฟนคลับของ BTS อย่างอาร์มี่แล้ว การเดบิวต์ของพวกเขาได้รับการจดจำเป็นหนึ่งในช่วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์ K-Pop หรือช่วงเวลาที่สำคัญของประวัติศาสตร์ดนตรีสมัยนิยมก็ว่าได้
FESTA ฉลองการเดบิวต์ครบรอบ 10 ปีจัดขึ้นทั่วทุกหัวระแหงในกรุงโซล
หลาย ๆ สิ่งที่ได้รับการประเมินว่าเป็นความสำเร็จของวงการ K-Pop นั้นเกิดขึ้นผ่าน BTS สถานะและแนวเพลง K-Pop จึงถูกยกระดับขึ้นตามมา แต่สิ่งที่ BTS ทำสำเร็จกลับยังไม่เป็นที่รับรู้รับทราบอย่างเหมาะสม หรือไม่ก็ยังรอได้รับการประเมินอย่างเป็นธรรม
หลายฝ่ายพยายามเสาะหาเกี่ยวกับความสำเร็จของ BTS จาก ‘ผลงาน’ ที่พวกเขาทำได้อย่างเช่น สถิติอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard อีกทั้งยังมีการประเมินในแง่ของอิทธิพลทางเศรษฐกิจว่าพวกเขาทำเงินกี่ร้อยล้าน หรือกี่ล้านล้าน แน่นอนว่าผมในฐานะผู้เขียนไม่อยากดันทุรังโต้แย้งผลความสำเร็จที่น่าตื่นตานี้ ครั้งหนึ่ง จุดยืนของเกาหลีใต้ในตลาดเพลงโลกเคยทำให้รู้สึกต่ำต้อย เมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดเพลงป็อป รวมถึงต่อญี่ปุ่นที่บุกเบิกอุตสาหกรรมเพลงป็อปสมัยใหม่มาก่อนเกาหลีเราตั้งนมนาน ทว่าผลความสำเร็จที่จับต้องได้ของ BTS เช่นการคว้าอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard หรือการคว้ารางวัลในงานประกาศรางวัลด้านดนตรีต่าง ๆ กลับน่าขนลุกและน่ายินดีเสียยิ่งกว่าอะไร
ศิลปินผู้แจ้งเกิดจากเกาหลีใต้เก็บเกี่ยวความสำเร็จอันยิ่งใหญ่จากตลาดเพลงอเมริกา โอ้อวดพละกำลังมหาศาลด้วยการขายบัตรคอนเสิร์ตในระดับสเตเดียมขนาดใหญ่หมดเกลี้ยงหลายวัน ที่ซึ่ง
บรรดาศิลปินตัวท็อปในอเมริกาก็ยังไม่สามารถทำได้ ในขณะเดียวกันเมื่อได้เฝ้ามองแฟนเพลงทั้งคนขาว คนดำ คนละติน ผู้ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับเพลงป็อปเกาหลีคลั่งไคล้ในตัว BTS ผู้เป็นศิลปินเกาหลีแล้ว ความน้อยเนื้อต่ำใจที่ผมมีต่อกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วในด้านดนตรีมายาวนานก็ทุเลาลงเปลาะหนึ่ง สำหรับใครที่ตีมูลค่าความสำเร็จในระดับบุคคลเท่ากับความสำเร็จระดับชาติ ก็แสดงว่าความสำเร็จทั้งหมดทั้งมวลของพวกเขาที่ทำให้เรารู้สึกภาคภูมิไม่ใช่สิ่งที่จะมองข้ามไปได้เช่นกัน แม้แต่ผมในฐานะผู้เขียนเองก็ไม่มีข้อยกเว้น
หากมาลองสืบเสาะนัยในสเกลที่ใหญ่กว่าเดิมขึ้นมาสักหน่อย คุณจะพบว่านับตั้งแต่เพลงป็อปสมัยใหม่เริ่มต้นขึ้นในสหรัฐอเมริกา ป็อปสตาร์ของสหรัฐและสหราชอาณาจักรล้วนเป็น ‘ไอค่อน’ ประจำวงการเพลงป็อปเสมอมา เรียกว่าพวกเขาคือทรัพย์สินของคนขาวก็ย่อมได้ กระทั่งในปัจจุบันที่เพลงคนดำและเพลงคนละตินกำหนดทิศทางของกระแสเพลงป็อป ผู้ที่ถูกขนามนามว่าเป็น ‘ไอค่อน’ ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นคนขาวที่ใช้ภาษาอังกฤษทั้งนั้น
ถึงอย่างนั้น ท่ามกลางประวัติศาสตร์เพลงป็อปอันแสนสั้น กลับมีป็อปไอค่อนนอกเขตพื้นที่ทางตะวันตกที่ใช้ภาษาอื่นนอกเหนือจากภาษาอังกฤษปรากฏตัวขึ้นมาเป็นครั้งแรก สิ่งที่จินตนาการไม่ออกเมื่อ 10 ปีที่แล้วกลับกลายมาเป็นความจริง และการปรากฏตัวของป็อปสตาร์ ‘ชาวเอเชีย’ จากนอกสหรัฐและสหราชอาณาจักรก็หมายความว่า บัดนี้ โลกได้เปิดประตูสู่ยุคใหม่แล้ว เช่นเดียวกับปรากฏการณ์ ‘อังกฤษบุกอเมริกา (British Invasion)’ ของวงเดอะบีเทิลส์ หรือสมัยที่ป็อปสตาร์ ‘คนดำ’ อย่างไมเคิล แจ็กสันมาปรากฏตัวนั่นเอง ซึ่งเราก็ต้องให้ความสนใจด้วยว่า กระแสเหล่านี้ไม่ได้มาจากระบบของเพลงป็อปอังกฤษอเมริกัน หากแต่เข้าแทรกซึมและยึดครองอุตสาหกรรมเพลงตะวันตกโดยอาศัยศักยภาพจากภายนอกที่เรียกว่ากระแส K-Pop ล้วน ๆ
บทเพลงของ BTS กับความเป็นสากลของสารที่สอดแทรกอยู่ภายใน
หลังจาก BTS ขึ้นสู่จุดสูงสุด ตลาดเพลงป็อปทั่วโลกก็เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงฉับพลัน อำนาจนำตลาดไอดอลที่เคยเป็นของสหรัฐและสหราชอาณาจักรเรื่อยมา เปลี่ยนมาอยู่ในมือเกาหลีใต้ ภาพชาวเอเชียที่ปรากฏขึ้นมาเมื่อนึกถึงใบหน้าหรือภาพลักษณ์ของ ‘ไอค่อน’ อายุน้อยไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป และนี่ก็คือ ‘อิทธิพลของ BTS’ ที่มีนัยสำคัญกว่าตัวเลขและสถิติใด ๆ นั่นเอง
BTS ได้เปลี่ยนเกมกระดานนี้ไปแล้ว นับตั้งแต่พวกเขาขึ้นสู่ตำแหน่งศิลปินกลุ่มที่โด่งดังที่สุดในโลก เพลงป็อปในกระแสหลักก็เปลี่ยนแปลงไปในบรรยากาศที่ให้การยอมรับ ‘อาณาเขต’ ของ K-Pop ซึ่งในขณะที่ตลาดเพลงอเมริกันทุ่มเทให้กับศิลปินหน้าใหม่ ๆ ในวงการ K-Pop เป็นพิเศษเพื่อเฟ้นหา ‘BTS วงถัดไป’ พวกเขาก็ศึกษาสูตรความสำเร็จและระบบของวงการ K-Pop เพื่อปั้นวงอย่าง BTS ไปด้วยเช่นกัน ต่อไปเราก็จะได้เห็นรายการออดิชันต่าง ๆ ของอเมริการ่วมกับค่ายเพลงเกาหลีที่มีองค์ความรู้เกี่ยวกับ K-Pop ค่อย ๆ ทยอยเปิดตัวตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ซึ่งในที่นี้ก็จะมีบริษัทมีเดียระดับยักษ์ใหญ่ผู้เป็นเจ้าของสื่อและทุนมหาศาลมามีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน
แม้จะไม่สะทกสะท้านทั้งที่ถูกกระทุ้งมานาน ทว่าความสำเร็จระดับปาฏิหาริย์ของ BTS กลับเป็นช่องทางให้ตลาดเพลงอเมริกาจอมโอหัง หันมาเปลี่ยนแปลงทัศนคติและกลยุทธ์ของตัวเอง สำหรับผู้เขียนในฐานะชาวเกาหลีคนหนึ่ง รู้สึกภูมิใจเพียงพอแล้วที่ศิลปินเกาหลีประสบความสำเร็จในตลาดเพลงอเมริกา แต่สิ่งที่สร้างความประทับใจยิ่งกว่าคือข้อเท็จจริงที่ว่า ผู้ที่กำลังเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมดนตรีอเมริกาที่ไม่สั่นสะเทือนมาหลายสิบปีนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นศิลปินเกาหลีนี่เอง
ผลงานครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดที่ BTS สร้างไว้คือ การที่พวกเขาเชื่อมต่อกับโลกผ่านบทเพลงของตัวเอง BTS คือศิลปินที่ทำภารกิจที่เราเคยเข้าใจว่าเป็นเอกสิทธิ์ของเพลงป็อปอังกฤษอเมริกาเสมอมาสำเร็จ ภารกิจนั้นคือความเป็นสากลในดนตรีและสารที่สอดแทรกอยู่ภายใน แม้ ‘อาร์มี่’ หลายสิบล้านรายทั่วโลกจะมีสัญชาติ ชนชาติ และวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน แต่พวกเขากลับเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแข็งแกร่งผ่านเรื่องราวอันจริงใจและความงดงามอันเป็นสากลที่ BTS เป็นผู้ถ่ายทอด
บางทีอาร์มี่ก็เป็นทั้งแฟนคลับเลือดร้อน นักวิจารณ์ผู้ดุดันเอาจริงเอาจัง รวมทั้งเป็นผู้พิทักษ์ เพื่อนร่วมทาง และกองหนุนผู้ทรงพลังที่สุดของ BTS พวกเขาฟันฝ่าสารพัดความยากลำบากที่ขวางทางเดินของ BTS เช่นการเหยียดเชื้อชาติและความเกลียดชังที่มีต่อชาวเอเชีย อีกยังสละทั้งเงินทองและเวลาเพื่อความสำเร็จของ BTS แต่เมื่อคุณลองคิดดูให้ดี คุณจะพบว่ากระแสของอาร์มี่ทั่วโลกเช่นนี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะพวกเขามีความเข้าใจและความซาบซึ้งในคุณค่าและปรัญชาที่ BTS ตั้งใจที่จะถ่ายทอดผ่านบทเพลงอยู่เป็นพื้นฐาน
K-Pop ยุคใหม่เริ่มต้นขึ้นบนหนทางที่ BTS กรุยไว้
คุณค่าต่าง ๆ ที่สอดแทรกอยู่ในบทเพลงของ BTS ยกตัวอย่างเช่น พลังบวกต่อตัวเอง การค้นหาตัวตน ทัศนคติแง่บวกและมองการณ์ไกลว่าจะฟันฝ่าความเจ็บปวดทุกข์ทรมานแล้วก้าวไปข้างหน้าโดยไม่ยอมจำนนท่ามกลางโลกที่ลำเค็ญ เหล่านี้เองที่ทำให้แฟน ๆ BTS ก้าวข้ามทุกสิ่งอย่างและถักทอพวกเขาเป็นหนึ่งเดียว และพลังอันยิ่งใหญ่ที่อุบัติขึ้นผ่านสิ่งเหล่านี้ก็ได้รับการนำไปใช้เปลี่ยนแปลงโลกสารพัดวิธี รวมทั้งบัญญัติคุณค่าและศักยภาพของ ‘ฐานแฟนคลับ (Fandom)’ วงไอดอลขึ้นใหม่ ศิลปินเกาหลีอย่าง BTS กำลังสร้าง ‘อิทธิพลอันดี’ ในระดับโลกที่ครั้งหนึ่งถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะของศิลปินอังกฤษอเมริกัน
ในหมู่แฟนคลับ ‘อาร์มี่’ มีวลีภาษาอังกฤษอยู่วลีหนึ่งที่พวกเขาใช้อยู่บ่อย ๆ นั่นคือ ‘BTS paved the way’ อันมีความหมายว่า ‘BTS ปูทาง’ หนทางที่ใครหลายคนเยื้องย่างไปไม่สำเร็จแม้พยายามมาแล้วนักต่อนัก ถูกกรุยให้เป็นดังที่เห็นอยู่ทุกวันนี้โดยอาศัยความอุตสาหะของผู้สนับสนุนเบอร์ใหญ่ที่สุดของ BTS ร่วมกับ BTS ไม่ทันไร ยุคเฟื่องฟูยุคใหม่ของวงการ K-Pop ก็เริ่มต้นขึ้นบนหนทางเส้นนั้น บรรดาผู้ลงสนาม ‘หลังจาก BTS’ ต่างสาวเท้าขึ้นสู่จุดสูงสุดและเดินหน้านำยุคใหม่ สิ่งเหล่านี้อาจเพียงพอแล้วต่อ ‘การพิสูจน์ (Proof)’ ที่ครั้งหนึ่ง BTS เคยต้องการก็เป็นได้
BTS ปิดฉากบทที่หนึ่งของพวกเขาลงและเปิดหน้าบทใหม่โดยมุ่งเน้นไปยังกิจกรรมเดี่ยว ณ เบื้องหน้าหนทางที่กว้างไกลเส้นนี้ BTS ผู้ยังคงสมบูรณ์พร้อมก็ยังเดินหน้าเสาะแสวงหาหนทางใหม่ ๆ เราคงไม่อาจทราบว่าอีก 10 ปีข้างหน้าจะเป็นเช่นไร แต่จนถึงตอนนี้เราได้รู้แล้วว่า ประวัติศาสตร์ของ BTS จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ของ K-Pop ดังเช่นที่เป็นมาเสมอนั่นเอง
BTS PAVED THE WAY 🫶
BTS ปูทาง — BTS paved the way