สภาพใจแย่มาก

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะวันนี้อยากจะมาเล่าในสิ่งที่กำลังประสบพบเจอตอนนี้ เริ่มแรกนะคะเราเป็น นศ ปี4 ซึ่งเทอมนี้เราทำวิจัยใกล้จะจบแล้ว (มั้ง) เพราะเทอมหน้าเราต้องฝึกงาน เรื่องของเรื่องคือเรามีเพื่อนค่ะที่เคยสนิทกันมากๆแต่ได้เกิดการทะเลาะกันและไม่เข้าใจในด้านต่างๆเพียงเพราะเราเริ่มมีแฟน แปลกไหมคะถ้าเป็นคนปกติก็ควรยินดีที่เพื่อนเจอความรักที่ดี แต่เพื่อนคนนี้กลับตีตัวออกห่างแบบงงๆ (เพื่อนเราเป็น ชายรักชายค่ะ) เริ่มไปไหนไม่ชวนหรือบางทีชวนเราก็ไม่ว่าง พอแบบนั้นเรื่อยๆนางก็เริ่มดีดเราออกกลุ่มแล้วไปตั้งกลุ่มใหม่ซึ่งดึงคนอื่นเข้ามา จากนั้นเราก็อึดอัดงงไปหมดว่าทำอะไรผิดและยังไม่จบแค่นั้น พอเริ่มเข้าปี4 ได้จับหัวข้อวิจัย อยู่ๆแกก็สนิทกับอ.ที่ปรึกษาวิจัยเราแบบงงๆ แต่เราก็ไม่ได้เอะใจแต่มีครั้งนึงเราไปทำวิจัยกับอาจารย์ แกก็ถามเรื่องส่วนตัวเอง ซึ่งเราก็ตกใจว่าแกรู้จากไหนเพราะไม่มีใครรู้นอกจากเพื่อน เราก็ตอบแบบตามความจริง และมันเป็นจุดสะสมมาเรื่อยๆเพราะเขายิ่งสนิทกันแบบสุดๆ เคยไหมคะ เราไปทำเขาไม่เคยเห็น พอเราไม่ไปแต่กลับเห็น และเป็นจุดตัดสินว่าเราไม่ทำวิจัยไม่ขยัน แต่แกไปเห็นเพื่อนคนนั้นทำแลป แล้วแกก็ถ่ายรูปคู่กับเพื่อนคนนั้นลงเฟสแล้วบอกว่าขยันจัง นั้นนี้ให้เราคิดแบบไหนล่ะคะ ไอเราก็พยายามเปิดโลกกว้างแต่เพื่อนๆรอบข้างใครก็ดูออก จนมันเป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ บางอย่างเราไม่ไปร่วมกิจกรรมแกก็จะตีตราว่าเราผิดมาก บางครั้งเรื่องสุขภาพเราก็สำคัญมันเป็นเหตุสุดวิสัยที่เราไม่รู้ว่ามันจะเกิด แต่เราผิดค่ะที่ใช้ชีวิตไม่ได้ดั่งใจแกไปสะทุกอย่าง แล้วเราก็มารู้ว่าเพื่อนคนนั้นเอาเรื่องส่วนตัวของเราไปเล่าให้แกฟัง มันเลยทำให้แกใจแคบลง เราถามเล่มวิจัยอะไรแกก็ไม่ตอบได้แต่อ่านไม่ตอบ ไม่มีไกด์ไลน์ว่าตรงไหนผิด ปรับตรงไหน เราท้อมากค่ะชีวิตมันคือจุดชี้เป็นชี้ตาย เป็นความรู้สึกที่พูดไม่ออก เพราะเราไม่เคยเอาเรื่องส่วนตัวของเพื่อนคนนั้นไปพูดที่ไหนกับใครเพราะเราคิดว่ามันเป็นเรื่องคนคนคนนั้น คนอื่นทำไมต้องรับรู้ หรือถ้ารับรู้เขาก็ควรแยกแยะมั้งคะ ไม่ใช่เอามาปนกับเรื่องงานแบบนั้น การทำงานตอนนี้ลำบากมากค่ะ เราท้อสุดๆ เราไม่เคยคิดจะทำแบบที่เพื่อนคนนี้ทำเพราะเรายังเห็นว่าคือเพื่อนถึงแม้ว่าจะทะเลาะกันมา ก็ยังเห็นว่าเป็นเพื่อนมนุษย์คนนึง เราเสียใจสุดๆเลยค่ะจนเราพูดอะไรไม่ออกเราแค่อยากให้อาจารย์มองให้กว้างขึ้น แล้วแยกแยะว่าอะไรคืออะไร เราก็คือวัยรุ่นคนนึงค่ะที่ต้องการใช้ชีวิตตามช่วงวัย อยากให้แกมองที่เราเป็นเรา ไม่ใช่มองเราเพียงเพราะคำพูดคนอื่น TT เจอแบบนี้เราอยากหายไปเลยค่ะ ถ้าไม่ติดว่ามีคนข้างหลังที่รออยู่ดูความสำเร็จเราคงออกไปแล้วแบบไม่พูดอะไรอีก เพราะมันเกินที่เราจะรับไว้ ทั้งการToxic  จากสังคมและคำพูดคนToxicอีก ปล.นางไม่ได้เอาไปเล่าให้แค่อาจารย์ฟังนะคะ นางยังเอาไปเล่ากับบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ซึ่งเป็นวัยผู้ใหญ่ทำงานกันหมด ทำให้เราตกอยู่ในสภาพที่จิตใจย่ำแย่มากสุดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่