สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเราเลย หากผิดพลาดอย่างไร ขออภัยด้วยนะคะ ยาวหน่อยนะคะ
ความรักของเราเริ่มขึ้นเมื่อ 6 ปีที่แล้วค่ะ เราเจอกันด้วยเหตุผลของหน้าที่การงาน ผู้ชายคนนี้เป็นอเมริกัน อายุห่างกับเราประมาณ 16 ปี เค้าเป็นเจ้าของกิจการหลายบริษัทในไทย เป็นคนที่มีฐานะเลยค่ะ ในตอนนั้นเราอายุ 36 ปี ดิวงานกันได้ 2 ปี จนบริษัทเราพาเค้าไปดูงานที่ญี่ปุ่น เราเดินเล่นคุยกันไปเรื่อยเปื่อย กับบรรยากาศหิมะตกในฟูกูชิม่าช่วงเดือน กพ. และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการสานสัมพันธ์..
ในสายตาเค้า เค้ามองว่าเราเก่ง ขยัน คล่อง จนคบกันได้ราว ๆ 1 ปีกว่า เค้าอยากให้เรามีกิจการเป็นของตัวเองเหมือนกับเค้า และมองว่าเราทำได้แน่นอนและจะได้มีอิสระบ้าง เราจึงตัดสินใจลาออกจากงาน และเริ่มต้นธุรกิจ เค้าให้เงินลงทุนก้อนแรก 1 ล้านบาท เราเอาไปต่อยอดเรื่อย ๆ จนกิจการเติบโต ( เราทำคนเดียวค่ะ ไม่ได้จ้างพนักงาน และมีเค้าเป็นที่ปรึกษาบ้าง )
อีก 1 ปีถัดมา เราขยายงานมากขึ้น หาลูกค้าจนได้ออเดอร์มามากมาย และจำเป็นต้องใช้เงินในการซื้อสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งไม่ว่าจะขอเงินเท่าไหร่เค้าก็ให้หมด ถามแค่ว่าเอาไปทำอะไร ซื้อจากไหน ขายให้ใครแค่นั้น จนยอดที่เราเอามาโดยประมาณก็ 10 กว่าล้าน เราหมุนเงินและคืนไปบางส่วนบ้างแล้ว เหลืออีกไม่กี่ล้าน และเราก็มองหาโปรเจคใหม่ ๆ ทำไปเรื่อยๆ ซึ่งต่างคนต่างทำงานกันไปไม่ได้ยุ่งงานของกันและกันเท่าไหร่ ส่วนเค้าก็มีเดินทางต่างประเทศบ้าง แต่หลัก ๆ อยู่ที่ไทยค่ะ เอาง่าย ๆ ว่า แทบไม่มีเวลาเที่ยวกันเท่าไหร่เลย เพราะเค้าบ้างานมากค่ะ เวลาไม่อยู่ไทยเราคุยโทรฯกันตลอด ..อีกมุมก็มีความสุขดีนะคะ แม้จะนั่งทำงานเหงา ๆ บ้าง แต่การที่มีคนรักคอยสนับสนุน ลงทุนในทุก ๆ อย่างที่เราอยากทำ โดยที่เราไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องเงินลงทุนและดอกเบี้ย เพราะเค้าไม่เอาสักบาทเลยค่ะ จนทำให้เราสามารถเก็บเงินซื้อรถยุโรปได้เลย 1 คัน เค้าภูมิใจกับเรามากที่เราประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ด้วยตัวคนเดียว เวลาเค้าขับรถเรา เค้าจะยิ้มและพูดเกือบทุกครั้งว่าภูมิใจจริงๆ
แต่ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา จะมีผู้หญิงคนหนึ่งเป็นคนไทย เป็นเพื่อนสมัยที่เค้าเคยมาอยู๋ไทยตอนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนและตอนมาทำโปรเจคปริญญาตรี และโทที่ไทยและสนิทกันกันมาตั้งแต่เค้าวัยรุ่น จนหายกันไปนาน และมาเจอกันอีกทีตอนไหนไม่ทราบ ( แต่เจอกันมาก่อนที่จะเจอเรานะคะ ) ผู้หญิงคนนี้ปัจจุบันมีครอบครัว แต่หย่ากับสามีคนฝรั่งเศสไปแล้ว มีลูก 2 คนและทำงานอยู่ที่ฝรั่งเศส หน้าที่การงานต่าง ๆ ดีเลยค่ะ เรารู้มาตลอดว่า 1 ปี ผู้หญิงคนนี้จะกลับไทย 1 ครั้ง
ทุกครั้งเวลาที่เค้าเดินทางไปทำงานต่างประเทศ หากต้องมีการแวะเปลี่ยนเครื่อง เค้าจะเลือกลงที่ฝรั่งเศสและไปนอนพักที่บ้านพี่คนนี้ 1-2 คืนบ้างแล้วบินต่อไปปลายทางอีกที เป็นแบบนี้ตลอด บางทีรู้สึกว่าบ่อยไป ตอนแรกเราเลยไม่ได้อะไร เพราะเราเข้าใจว่าเค้าเป็นเพื่อนเก่าแก่กันมานาน แต่ตลอดเวลา 6 ปีที่คบกัน ปีนึงต้องมี 4-5 ครั้งที่เค้าไปแวะ เราเคยขอว่ามีตั้งหลายประเทศให้ transit แต่ทำไมต้องเลือกที่นี่ทุกครั้ง เราไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่นะ มันไม่ค่อยสบายใจ ซึ่งในเมื่อมีทางเลือกอื่นที่ทำให้เราสบายใจกว่านี้ เค้าก็ไม่ค่อยทำค่ะ เราก็ปล่อยไป แอบอึดอัดแต่ก็เลือกมองผ่าน คิดแค่ว่าเค้าก็เป็นเพื่อนกันมาก่อนเรา และถ้าเค้าไม่รักเรา เค้าจะมาให้เรามากขนาดนี้เหรอ ถ้าเป็นคนอื่นที่ยังไม่ใช่สามี ไม่ได้เป็นครอบครัว เงินหลัก 10 ล้านกว่าๆ เราว่ามันน่าจะยากที่จะได้มาโดยไม่ต้องมีผลประโยชน์อะไร
อย่างที่บอกค่ะ ในทุกปี ผู้หญิงคนนี้จะมาไทย มาหาแม่และพี่น้องเค้าที่เชียงใหม่ มาถึงกทม. ก่อนก็จะแวะมาที่คอนโดแฟนเรา มานอนพัก 2-3 คืนก็ไปต่อเชียงใหม่ เราจุกอยู่ครั้งนึงตรงที่ก่อนหน้านี้ คบได้ 1 ปี ช่วงเราลาออกมาทำธุรกิจ เราย้ายมานอนคอนโดเดียวกับแฟน อยู่มาวันนึงเค้าบอกว่าให้เราออกไปก่อน เพราะผู้หญิงคนนี้จะบินมาและนอนที่นี่ เค้าช่วยเราเก็บเสื้อผ้าเลยล่ะค่ะ ร้องไห้เสียใจมากมายที่โดนแบบนี้ ทะเลาะกันใหญ่โต และจำขึ้นใจไว้เลยว่าจะไม่กลับไปนอนอีก เพราะไม่ชอบที่โดนเชิญออกมาแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่เพื่อนควรไปหา รร. นอนมากกว่ามาไล่เราออกไป พอผู้หญิงคนนี้บินกลับไป เค้าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย จนเรางงว่า บ้าหรือเปล่า คุณทำอะไรเราไว้ ไม่รู้เหรอ เมื่อเราไม่กลับเค้าหาคอนโดใกล้ ๆ กันให้เราอยู่ เค้าเป็นคนออกค่าเช่าให้ ในทุกวทุกคืนก็จะแวะมาหา มาดูหนัง ทานข้าวและกลับไปตอนสี่ทุ่ม ห้าทุ่ม ทุกวัน
เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นมาหลายปี ช่วงที่เราย้ายออกมา ทุกปี ผู้หญิงคนนี้ก็มานอนที่ห้องเค้าตลอดถ้ามาไทย เค้าจะเลือกทางนั้นก่อนเสมอ เราบอกว่าเป็นเพื่อนกัน ทำไมเราเจอเค้าไม่ได้ ทำไมไม่บอกเรื่องของเรา และทำไมต้องติดต่อกันเรื่อย ๆ เค้ารู้ว่าเราไม่สบายใจ แต่เค้าก็ยังทำมาตลอด บอกเหตุผลแค่ว่า สงสารเค้าและต้องรับผิดชอบเค้าไปตลอด ผู้หญิงที่อยู่ต่างแดน หย่าสามี ลูก 2 คน เค้าไม่พอใช้หรอก แฟนเราถึงขนาดที่ว่าเอาบัตรเครดิตให้เค้าใช้เลย บินมาไทยก็รูดค่าตั๋ว ของเค้ากับลูกได้เลย เราว่ามันยังไงๆละ ...ตลอดเวลาเราเริ่มไม่อดทน หรือไม่เข้าใจเรื่องนี้เลย เค้าเลือกให้เราทุกข์ใจมากกว่าสบายใจ จนไม่นานมานี้เราบอกว่า พอเหอะ เราไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย เลิกกันเถอะ เราขอกุญแจ่รถเราคืน กุญแจคอนโด คีย์การ์ดทุกอย่างคืน แล้วปล่อยให้เค้าไปรับผิดชอบผู้หญิงคนนั้น อย่างที่เค้าอยากทำ เราไม่รู้ลึก ๆ เลยว่า เค้ายังไงกัน ..ด้วยความที่เวลาส่วนใหญ่อยู่ไทย และอยู่กับเรา วันเกิดเค้ากับเรา วันวาเลนไทน์ อยู่ด้วยกันตลอด แต่พอคริสมาส ปีใหม่ เค้าเลือกไปที่นั่นทุกปี ไม่เคยอยู่ไทยเลย อยู่แค่ปีเดียวคือช่วงโควิด เค้าบินไม่ได้ และฉลองกับเราที่ไทยแทน นอกนั้นไปฝรั่งเศสตลอด.
จนวันนี้เหมือนความอดทนเราหมดลง เพราะทะเลาะกันเรื่อยมา ไม่รู้ว่ามีอะไรปิดบังมากกว่านี้ไหม ทำไมไม่พูด ไม่บอกกันตรงๆ แต่แรก แต่เราเลือกแล้วว่าไม่เอาเค้าแล้วดีกว่า ไม่มีความสุขเลย และดูเหมือนเหตุการณ้เหล่านี้ที่ทำเราเสียใจ เค้าก็ไม่แคร์เราเลยแต่ไหนแต่ไร เค้าไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน มาบอกเราเอาวินาทีสุดท้ายแบบว่า บอกตอนนี้ อีก 4 ชม. ข้างหน้าจะบินแล้ว บอกแบบไม่มีเวลาให้ทะเลาะกันเลยค่ะ มันหลายหนเหลือเกิน หลายทริปแล้วที่ทำแบบนี้.. แต่ถ้าอยู่ไทย เค้าจะแลรักเรามาก ไปกินร้านหรูๆ แพงๆ มิชลิน บ่อยมาก ดอกไม้มาทุกเทศกาล วันเกิดเรานี่ รร. 5 ดาว สั่งพนักงานตกแต่งหรูหรากันเลย จนเพื่อนเราทุกคนอิจฉา ของขวัญแพงๆ เราได้มาหมด แต่สิ่งเหล่านี้ เราสามารถใช้เงินที่เราหามาได้ จากธุรกิจซื้อเองได้ แต่เราไม่ซื้อ เราไม่ใช่คนติดหรู และทำงานหนักมาก กว่าจะได้มา เราเลยเห็นค่าของเงินมาก ๆ สิ่งของเหล่านี้ให้มาก็ขอบคุณ แต่ไม่ได้หลงใหลไปกับของเหล่านี้
ธุรกิจของเรายังคงเดินหน้าต่อ หลาย ๆ โปรเจคที่ต้องใช้เงินเพิ่มจากเค้า ของเก่าที่ยังคืนไม่หมด เรายังรักเค้าอยู่ แต่เลือกเดินออกมาเพราะไม่มีความสุข เลยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร หยุดคุยกันไปพักนึง ก็เหมือนว่า เราต้องกลับไปคุยกับเค้าเรื่องงาน เงิน เค้าก็เหมือนรู้ว่า เราไม่ไปไหนหรอก ต้องกลับมาอยู่แล้ว หลายปีแล้ว เราก็อดทนกับเค้าเรื่องนี้มาตลอด จนเค้าไม่คิดว่าเราจะไปไหนได้ เราขอบคุณทุกครั้ง สำนึกในบุญคุณที่เค้าให้มา จนเรามีวันนี้ได้ จะคืนเงินที่ยังค้างก็ทำไม่ได้ เพราะธุจกินกระแสเงินสดต้องยังใช้หมุนอยู่ โปรเจคใหม่ สรุปไปแล้ว ต้องใช้เงินจากเค้าอีก รู้สึกอึดอัด บอกไม่ถูกเลยค่ะ
ณ ตอนนี้ เราไม่คุยกันหลายวันแล้ว เค้าไลน์ติดต่อมาตลอด เราตอบบ้างแล้วแต่อารมณ์ ..เมื่อก่อนเราทะเลาะกันและคิดเสมอว่า เค้าใจดีกับเราขนาดนี้ เราก็โกรธไม่ลง ให้อภัยทุกครั้งที่เกิดเรื่องและเค้ามาขอโทษ เราสงสารมองว่าเค้าไม่มีใคร เพื่อนไม่มีเลยที่ไทย มีแต่ลูกน้อง พ่อแม่เค้าจากไปหมดแล้ว เค้าเป็นลูกคนเดียวอีก ญาติก็ไม่เห็นเคยบินไปหา แต่มาจุดนี้ เราไม่รู้ว่าจะสงสารตัวเองดี หรือสงสารเค้า เพราะนึกถึงบุญคุณที่ให้มา หรือต้องคิดยังไงกันแน่ค่ะ
ขอบคุณทุกคนนะคะที่อ่านมาถึงตอนจบ เพราะมันยาวเหลือเกิน
ขอบคุณค่ะ
เมื่อความรัก มาพร้อมกับคำว่าบุญคุณ
ความรักของเราเริ่มขึ้นเมื่อ 6 ปีที่แล้วค่ะ เราเจอกันด้วยเหตุผลของหน้าที่การงาน ผู้ชายคนนี้เป็นอเมริกัน อายุห่างกับเราประมาณ 16 ปี เค้าเป็นเจ้าของกิจการหลายบริษัทในไทย เป็นคนที่มีฐานะเลยค่ะ ในตอนนั้นเราอายุ 36 ปี ดิวงานกันได้ 2 ปี จนบริษัทเราพาเค้าไปดูงานที่ญี่ปุ่น เราเดินเล่นคุยกันไปเรื่อยเปื่อย กับบรรยากาศหิมะตกในฟูกูชิม่าช่วงเดือน กพ. และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการสานสัมพันธ์..
ในสายตาเค้า เค้ามองว่าเราเก่ง ขยัน คล่อง จนคบกันได้ราว ๆ 1 ปีกว่า เค้าอยากให้เรามีกิจการเป็นของตัวเองเหมือนกับเค้า และมองว่าเราทำได้แน่นอนและจะได้มีอิสระบ้าง เราจึงตัดสินใจลาออกจากงาน และเริ่มต้นธุรกิจ เค้าให้เงินลงทุนก้อนแรก 1 ล้านบาท เราเอาไปต่อยอดเรื่อย ๆ จนกิจการเติบโต ( เราทำคนเดียวค่ะ ไม่ได้จ้างพนักงาน และมีเค้าเป็นที่ปรึกษาบ้าง )
อีก 1 ปีถัดมา เราขยายงานมากขึ้น หาลูกค้าจนได้ออเดอร์มามากมาย และจำเป็นต้องใช้เงินในการซื้อสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งไม่ว่าจะขอเงินเท่าไหร่เค้าก็ให้หมด ถามแค่ว่าเอาไปทำอะไร ซื้อจากไหน ขายให้ใครแค่นั้น จนยอดที่เราเอามาโดยประมาณก็ 10 กว่าล้าน เราหมุนเงินและคืนไปบางส่วนบ้างแล้ว เหลืออีกไม่กี่ล้าน และเราก็มองหาโปรเจคใหม่ ๆ ทำไปเรื่อยๆ ซึ่งต่างคนต่างทำงานกันไปไม่ได้ยุ่งงานของกันและกันเท่าไหร่ ส่วนเค้าก็มีเดินทางต่างประเทศบ้าง แต่หลัก ๆ อยู่ที่ไทยค่ะ เอาง่าย ๆ ว่า แทบไม่มีเวลาเที่ยวกันเท่าไหร่เลย เพราะเค้าบ้างานมากค่ะ เวลาไม่อยู่ไทยเราคุยโทรฯกันตลอด ..อีกมุมก็มีความสุขดีนะคะ แม้จะนั่งทำงานเหงา ๆ บ้าง แต่การที่มีคนรักคอยสนับสนุน ลงทุนในทุก ๆ อย่างที่เราอยากทำ โดยที่เราไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องเงินลงทุนและดอกเบี้ย เพราะเค้าไม่เอาสักบาทเลยค่ะ จนทำให้เราสามารถเก็บเงินซื้อรถยุโรปได้เลย 1 คัน เค้าภูมิใจกับเรามากที่เราประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ด้วยตัวคนเดียว เวลาเค้าขับรถเรา เค้าจะยิ้มและพูดเกือบทุกครั้งว่าภูมิใจจริงๆ
แต่ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา จะมีผู้หญิงคนหนึ่งเป็นคนไทย เป็นเพื่อนสมัยที่เค้าเคยมาอยู๋ไทยตอนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนและตอนมาทำโปรเจคปริญญาตรี และโทที่ไทยและสนิทกันกันมาตั้งแต่เค้าวัยรุ่น จนหายกันไปนาน และมาเจอกันอีกทีตอนไหนไม่ทราบ ( แต่เจอกันมาก่อนที่จะเจอเรานะคะ ) ผู้หญิงคนนี้ปัจจุบันมีครอบครัว แต่หย่ากับสามีคนฝรั่งเศสไปแล้ว มีลูก 2 คนและทำงานอยู่ที่ฝรั่งเศส หน้าที่การงานต่าง ๆ ดีเลยค่ะ เรารู้มาตลอดว่า 1 ปี ผู้หญิงคนนี้จะกลับไทย 1 ครั้ง
ทุกครั้งเวลาที่เค้าเดินทางไปทำงานต่างประเทศ หากต้องมีการแวะเปลี่ยนเครื่อง เค้าจะเลือกลงที่ฝรั่งเศสและไปนอนพักที่บ้านพี่คนนี้ 1-2 คืนบ้างแล้วบินต่อไปปลายทางอีกที เป็นแบบนี้ตลอด บางทีรู้สึกว่าบ่อยไป ตอนแรกเราเลยไม่ได้อะไร เพราะเราเข้าใจว่าเค้าเป็นเพื่อนเก่าแก่กันมานาน แต่ตลอดเวลา 6 ปีที่คบกัน ปีนึงต้องมี 4-5 ครั้งที่เค้าไปแวะ เราเคยขอว่ามีตั้งหลายประเทศให้ transit แต่ทำไมต้องเลือกที่นี่ทุกครั้ง เราไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่นะ มันไม่ค่อยสบายใจ ซึ่งในเมื่อมีทางเลือกอื่นที่ทำให้เราสบายใจกว่านี้ เค้าก็ไม่ค่อยทำค่ะ เราก็ปล่อยไป แอบอึดอัดแต่ก็เลือกมองผ่าน คิดแค่ว่าเค้าก็เป็นเพื่อนกันมาก่อนเรา และถ้าเค้าไม่รักเรา เค้าจะมาให้เรามากขนาดนี้เหรอ ถ้าเป็นคนอื่นที่ยังไม่ใช่สามี ไม่ได้เป็นครอบครัว เงินหลัก 10 ล้านกว่าๆ เราว่ามันน่าจะยากที่จะได้มาโดยไม่ต้องมีผลประโยชน์อะไร
อย่างที่บอกค่ะ ในทุกปี ผู้หญิงคนนี้จะมาไทย มาหาแม่และพี่น้องเค้าที่เชียงใหม่ มาถึงกทม. ก่อนก็จะแวะมาที่คอนโดแฟนเรา มานอนพัก 2-3 คืนก็ไปต่อเชียงใหม่ เราจุกอยู่ครั้งนึงตรงที่ก่อนหน้านี้ คบได้ 1 ปี ช่วงเราลาออกมาทำธุรกิจ เราย้ายมานอนคอนโดเดียวกับแฟน อยู่มาวันนึงเค้าบอกว่าให้เราออกไปก่อน เพราะผู้หญิงคนนี้จะบินมาและนอนที่นี่ เค้าช่วยเราเก็บเสื้อผ้าเลยล่ะค่ะ ร้องไห้เสียใจมากมายที่โดนแบบนี้ ทะเลาะกันใหญ่โต และจำขึ้นใจไว้เลยว่าจะไม่กลับไปนอนอีก เพราะไม่ชอบที่โดนเชิญออกมาแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่เพื่อนควรไปหา รร. นอนมากกว่ามาไล่เราออกไป พอผู้หญิงคนนี้บินกลับไป เค้าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย จนเรางงว่า บ้าหรือเปล่า คุณทำอะไรเราไว้ ไม่รู้เหรอ เมื่อเราไม่กลับเค้าหาคอนโดใกล้ ๆ กันให้เราอยู่ เค้าเป็นคนออกค่าเช่าให้ ในทุกวทุกคืนก็จะแวะมาหา มาดูหนัง ทานข้าวและกลับไปตอนสี่ทุ่ม ห้าทุ่ม ทุกวัน
เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นมาหลายปี ช่วงที่เราย้ายออกมา ทุกปี ผู้หญิงคนนี้ก็มานอนที่ห้องเค้าตลอดถ้ามาไทย เค้าจะเลือกทางนั้นก่อนเสมอ เราบอกว่าเป็นเพื่อนกัน ทำไมเราเจอเค้าไม่ได้ ทำไมไม่บอกเรื่องของเรา และทำไมต้องติดต่อกันเรื่อย ๆ เค้ารู้ว่าเราไม่สบายใจ แต่เค้าก็ยังทำมาตลอด บอกเหตุผลแค่ว่า สงสารเค้าและต้องรับผิดชอบเค้าไปตลอด ผู้หญิงที่อยู่ต่างแดน หย่าสามี ลูก 2 คน เค้าไม่พอใช้หรอก แฟนเราถึงขนาดที่ว่าเอาบัตรเครดิตให้เค้าใช้เลย บินมาไทยก็รูดค่าตั๋ว ของเค้ากับลูกได้เลย เราว่ามันยังไงๆละ ...ตลอดเวลาเราเริ่มไม่อดทน หรือไม่เข้าใจเรื่องนี้เลย เค้าเลือกให้เราทุกข์ใจมากกว่าสบายใจ จนไม่นานมานี้เราบอกว่า พอเหอะ เราไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย เลิกกันเถอะ เราขอกุญแจ่รถเราคืน กุญแจคอนโด คีย์การ์ดทุกอย่างคืน แล้วปล่อยให้เค้าไปรับผิดชอบผู้หญิงคนนั้น อย่างที่เค้าอยากทำ เราไม่รู้ลึก ๆ เลยว่า เค้ายังไงกัน ..ด้วยความที่เวลาส่วนใหญ่อยู่ไทย และอยู่กับเรา วันเกิดเค้ากับเรา วันวาเลนไทน์ อยู่ด้วยกันตลอด แต่พอคริสมาส ปีใหม่ เค้าเลือกไปที่นั่นทุกปี ไม่เคยอยู่ไทยเลย อยู่แค่ปีเดียวคือช่วงโควิด เค้าบินไม่ได้ และฉลองกับเราที่ไทยแทน นอกนั้นไปฝรั่งเศสตลอด.
จนวันนี้เหมือนความอดทนเราหมดลง เพราะทะเลาะกันเรื่อยมา ไม่รู้ว่ามีอะไรปิดบังมากกว่านี้ไหม ทำไมไม่พูด ไม่บอกกันตรงๆ แต่แรก แต่เราเลือกแล้วว่าไม่เอาเค้าแล้วดีกว่า ไม่มีความสุขเลย และดูเหมือนเหตุการณ้เหล่านี้ที่ทำเราเสียใจ เค้าก็ไม่แคร์เราเลยแต่ไหนแต่ไร เค้าไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน มาบอกเราเอาวินาทีสุดท้ายแบบว่า บอกตอนนี้ อีก 4 ชม. ข้างหน้าจะบินแล้ว บอกแบบไม่มีเวลาให้ทะเลาะกันเลยค่ะ มันหลายหนเหลือเกิน หลายทริปแล้วที่ทำแบบนี้.. แต่ถ้าอยู่ไทย เค้าจะแลรักเรามาก ไปกินร้านหรูๆ แพงๆ มิชลิน บ่อยมาก ดอกไม้มาทุกเทศกาล วันเกิดเรานี่ รร. 5 ดาว สั่งพนักงานตกแต่งหรูหรากันเลย จนเพื่อนเราทุกคนอิจฉา ของขวัญแพงๆ เราได้มาหมด แต่สิ่งเหล่านี้ เราสามารถใช้เงินที่เราหามาได้ จากธุรกิจซื้อเองได้ แต่เราไม่ซื้อ เราไม่ใช่คนติดหรู และทำงานหนักมาก กว่าจะได้มา เราเลยเห็นค่าของเงินมาก ๆ สิ่งของเหล่านี้ให้มาก็ขอบคุณ แต่ไม่ได้หลงใหลไปกับของเหล่านี้
ธุรกิจของเรายังคงเดินหน้าต่อ หลาย ๆ โปรเจคที่ต้องใช้เงินเพิ่มจากเค้า ของเก่าที่ยังคืนไม่หมด เรายังรักเค้าอยู่ แต่เลือกเดินออกมาเพราะไม่มีความสุข เลยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร หยุดคุยกันไปพักนึง ก็เหมือนว่า เราต้องกลับไปคุยกับเค้าเรื่องงาน เงิน เค้าก็เหมือนรู้ว่า เราไม่ไปไหนหรอก ต้องกลับมาอยู่แล้ว หลายปีแล้ว เราก็อดทนกับเค้าเรื่องนี้มาตลอด จนเค้าไม่คิดว่าเราจะไปไหนได้ เราขอบคุณทุกครั้ง สำนึกในบุญคุณที่เค้าให้มา จนเรามีวันนี้ได้ จะคืนเงินที่ยังค้างก็ทำไม่ได้ เพราะธุจกินกระแสเงินสดต้องยังใช้หมุนอยู่ โปรเจคใหม่ สรุปไปแล้ว ต้องใช้เงินจากเค้าอีก รู้สึกอึดอัด บอกไม่ถูกเลยค่ะ
ณ ตอนนี้ เราไม่คุยกันหลายวันแล้ว เค้าไลน์ติดต่อมาตลอด เราตอบบ้างแล้วแต่อารมณ์ ..เมื่อก่อนเราทะเลาะกันและคิดเสมอว่า เค้าใจดีกับเราขนาดนี้ เราก็โกรธไม่ลง ให้อภัยทุกครั้งที่เกิดเรื่องและเค้ามาขอโทษ เราสงสารมองว่าเค้าไม่มีใคร เพื่อนไม่มีเลยที่ไทย มีแต่ลูกน้อง พ่อแม่เค้าจากไปหมดแล้ว เค้าเป็นลูกคนเดียวอีก ญาติก็ไม่เห็นเคยบินไปหา แต่มาจุดนี้ เราไม่รู้ว่าจะสงสารตัวเองดี หรือสงสารเค้า เพราะนึกถึงบุญคุณที่ให้มา หรือต้องคิดยังไงกันแน่ค่ะ
ขอบคุณทุกคนนะคะที่อ่านมาถึงตอนจบ เพราะมันยาวเหลือเกิน
ขอบคุณค่ะ