เคยได้ยินใครหรือคนรู้จักบ้างไหมที่เมื่อก่อนเคยรวยปัจจุบันตกอับไม่มีอะไรเลย

ก่อนอื่นต้องออกตัวเลยว่าไม่ได้มาซ้ำเติมนะครับ   แค่อยากรู้ว่าเคยเห็นคนที่เมื่อก่อนร่ำรวยมีบ้านมีรถมีกิจการใหญ่โต  แค่เดินทางชีวิตพลาดพลั้งถึงขั้นไม่เหลืออะไรเลยมั้ยครับ  

     เริ่มจากผมก่อนละกัน  ผมมีคนรู้จักคนหนึ่งเป็นเพื่อนของเพื่อนอีกทีเธอแต่งงานกับฝรั่งทำธุรกิจขายอาหาร  ลงทุนตกแต่งร้านเป็นล้านบาท  ลูกจ้างเป็นสิบๆ   ต่อมาเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจเมื่อ3-4 ปีก่อนรายได้ตกวูบจนต้องเลิกกิจการ มีบ้านขายบ้านมีรถขายรถ  ขายที่   ที่น่าสงสารคือเธอก็เล่นแต่พนันจนหมดตัวท้ายสุดแฟนทิ้งบินกลับต่างประเทศ   ตอนนี้ทำงานเป็นแม่บ้านล้างจานอยู่ภัตตาคารแห่งหนึ่งครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 62
ญาติค่ะ เวรกรรมมีจริง รับเหมาก่อสร้างร่ำรวย บ้านหลังใหญ่โต มีธุรกิจคาร์แคร์ ร้านกาแฟ รถสิบกว่าคัน เคยยืมสร้อยทองย่าไป แล้วไม่คืน ย่าต้องทวง เขาก็จ่ายให้ย่าเราทีาละ 20-30บาท ไปขอเขายังกับขอทาน ตอนนี้เขาล้มไม่เป็นท่า ธุรกิจทุกอย่างเจ๊งหมด ไม่มีเหลืออะไรเลย ไม่มีแม้แต่เงินร้อยเดียว ต้องไปหายืมคนนั้นคนนี้ จนชาวบ้านเขาสมเพชเวทนา
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
ผมนี่แหละครับ   อดีตลูกเจ้าสัว พ่อเป็นคนจีนงานไม้มือเทพมาตั้ง บ. เฟอร์นิเจอร์ที่ไทย ช่วงปี 37 - 40 ก่อตั้ง บ. รายได้พุ่งมาก ด้วยดีไซท์ที่เหนือคนไทยด้วยกัน    ผมได้เรียน รร. อินเตอร์นานาชาติดีๆ กินดีอยู่ดี แม่ผมก็สุขสบายช้อปปิ้งไปวันๆ PS1 เด็กไทยยังไม่ทันได้เล่นก็มีคนหิ้วมาให้เล่นชิวๆ กินหรูทุกวัน

พลาดตรงไหน? พลาดตอนฟองสบู่แตกครับ   

- เงินจมเยอะ เพราะพ่อถือหลักจ่ายเต็ม ไม่มีการบริหารหนี้ เงินหมุนไม่มี  แถมไม่มีบัญชี  โดนภาษีย้อนหลังอ้วกครับ
- โรงงานข้างๆไฟไหม้ ลามมา โรงงานพ่อผม เสียหายเป็นวงกว้าง
- ค่าเสียหายกับหนี้สิ้นโถมมาพร้อมกัน สุดท้ายเป็นหนี้ติดตัวกันประมาณ 5 ล้าน  โดนฟ้องล้มละลาม
- บ้าน คอนโด โดนยึดหมด กลายเป็นบุคคลล้มละลาย พ่อกับแม่หย่ากัน พ่อกลับไปประเทศบ้านเกิด ส่วนแม่ขึ้นศาลรัวๆ
- ต้องระเหิดไปอยู่ เชียงใหม่ กับญาติอยู่ในสลัมชุมชนแออัดที่อุดมด้วยเด็กแว้นกับขี้ยา   เข้าโรงเรียนเทศบาลตอน ม.1 เอา
- แม่ จากสาวที่ไม่เคยทำงานหนักเพราะแต่งงานกับพ่อ ต้องออกไปรับจ้างหาเงินที่ กทม ให้ผมใช้
- บ้านที่เชียงใหม่ที่สร้างด้วยเงินก้อนสุดทา้าย โดนญาติหลอก และยึดไป (ภายหลัง 10 กว่าปี ถึงจะเจรจาขายให้ญาติด้วยเงินไม่กี่หมื่น)
- กลายเป็นคนไร้บ้านโดยสมบูรณ์ครับ  

ดีที่ ม.ปลาย หนัมาอยู่หอคนเดียว + พ่อติดต่อมาอีกครั้ง ทำให้พ่อส่งเงินมาเยียวยาให้ จนจบมหาลัย

ทุกวันนี้มีเงินพอใช้บ้าง จากงานตัวเอง แต่ก็ยังไม่เท่าไหร่ แต่ถือว่าสุขสบายดี
ความคิดเห็นที่ 18
ทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอนค่ะ       เยอะมากที่หนุ่มสาวเคยรวยแล้วพอแก่ลำบาก     พ่อแม่เราสอนเสมอว่าให้เจียมตัว   ให้ประหยัด   คนบางคนประหยัดไม่เป็นค่ะ      เชื่อหรือไม่ว่าเราไม่เคยและไม่ชอบที่จะไปกินอาหารร้านใหญ่โตแพงๆๆสั่งกันมาเต็มโต๊ะเลย      แม้ใครจะเลี้ยงเราก็ไม่ชอบเพราะเรากินไม่มาก   พอเห็นอาหารเต็มโต๊ะพาลกินไม่ลงเลย       แต่ไหนแต่ไรมา   ชอบอาหารจานเดียวที่ธรรมดาๆๆติดดิน     แต่ไม่ใช่ข้างถนนนะ   เรารักอนามัยพอควรเลยล่ะ    บางทีก็ง่ายๆๆ  ไข่เจียวไข่ต้มน้ำปลามะนาวพริก       และถ้าที่ร้านตักให้เราเยอะเราจะให้เค้าเอาออกเลยเพราะไม่เคยทิ้งข้าวและอาหาร    เราทานหมดจานทุกครั้งเพราะรู้จักคุณค่าของทุกสิ่งที่เรามีเราได้        เพราะเหตุนี้กระมัง      ทำให้ชีวิตเราไม่ตกอับ   ไม่ขึ้นสูงเกินและหล่นตุบลงมา       นั่งรถเมล์ที่ทำงานรับส่ง     ไม่เคยคิดซื้อรถเพราะพ่อและน้องมีคนละคันแล้ว        ไม่อยาก ทำให้บ้านเมืองรถติดมากไปกว่านี้       รถบริการที่ทำงานฟรีก็นั่งสบายดีออก   ซื้อรถทำไมกันอีก       เห็นหัวหน้าที่ทำงานมีลูก 3 คน  ในบ้านเดียวกันมีรถ 4 คัน      รถมันถึงได้ติดกันสาหัสในกรุงเทพนี่ล่ะนะ     เราไม่ทำอะไรตามคนอื่นนะ       เป็นตัวของตัวเองมาตลอด     คนอื่นต่างหากที่ควรทำตามเรา         เราก็เก็บตังได้อีกเพราะ งด.รับเต็ม     ไม่มีหนี้สินที่ต้องผ่อน      มีความสุขจนบัดนี้เพราะเราธรรมดาๆๆมาตลอดเวลาที่ผ่านมา
ความคิดเห็นที่ 72
เท่าที่เคยเห็นชีวิตคนมั่งมี เปลี่ยนเป็นไม่มี ที่เราสะเทือนใจที่สุด คือสาเหตุมาจากถูกหลอกค่ะ

สามี ไปหลงเชื่อแก๊งค์มิจฉาชีพ มาหลอกว่าจะเอาเงินไปลงทุนทำการค้าข้ามชาติ
เขาก็ไม่ชุ่ยนะคะ บินไปดูบริษัทแม่ ที่ประเทศสิงคโปร์  ประเมินแล้วมีความน่าเชื่อถือทุกอย่าง
เขาจึงนำเงินทั้งหมดทั้งของตนเองและของภรรยา อีกทั้งไปชักชวนญาติๆให้มาร่วมทุนด้วย

สุดท้ายถูกหลอก

สามียิงตัวตาย ภรรยาต้องเลี้ยงลูกคนเดียวในสภาพสิ้นเนื้อประดาตัว !

ประสบการณ์ของเขา ให้ข้อคิดเราจริงๆ เรื่องการอย่าไว้ใจคนที่เปลือกนอก
คนที่จ้องจะหลอก จะเข้ามาแบบดูดีที่สุด มีหลักฐานสนับสนุนสิ่งที่พูดแนบเนียนที่สุด
และคนพวกนี้ ทำเป็นกระบวนการค่ะ

ที่ทำให้เราสะเทือนใจก็เพราะ เราไม่รู้จริงๆว่า ถ้าเป็นเรา ตกอยู่ในสถานการณ์อย่างเขา
เราจะเชื่อไหม จะพลาดท่าไหม ?

เพราะเท่าที่เราเคยเจอ ก็แค่พวกแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ที่ยังไม่เนียน เรายังจับพิรุธได้  จึงรอดมาได้

ตอนนี้ก็ได้แต่เตือนตัวเอง และคนรอบตัวว่า หากอะไรที่ดูมีผลประโยชน์ตอบแทนแบบ "เกินจริง"
ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า "ไม่จริง"  

อย่างน้อยก็เสมือนมีเกราะป้องกันตัวเองจากเหล่า 18 มงกุฎแล้วสักชั้นหนึ่งค่ะ
ชั้นต่อๆไป ก็คงต้องยกให้เป็นเรื่องของความรอบคอบ และ บุญเก่าของแต่ละคนแล้ว

เทียน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่