สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 20
เอาคนใกล้ตัวผมได้ไหมน้องชายผมเอง ก่อนทำธุรกิจเป็น จนท.ลิสซิ่ง ไปเจอกับแฟนเป็นเซลส์ขายน้ำมันกับอุปกรณ์ในโรงงาน คบกันไม่นานน่าจะไม่เกิน 4 - 5 เดือน ดันไปทำอีกท่าไหนเค้าท้องเลยจัดงานแต่งงาน แรกๆแฟนเปิดบริษัทขายทำคนเดียว ไป ๆ มาๆ ให้น้องชายผมออกมาช่วย ให้แม่ไปหยิบยืมเงินจากญาติ ๆ มาเป็นทุนเพื่อซื้อของมาขายพวกเหล็ก น้ำมัน อุปกรณ์ที่ใช้ในโรงงาน แรกๆพอไปได้ สักพักพอเริ่มมีเงิน ก็ไปซื่อสำนักงาน ซื้อบ้านเดี่ยว ซื้อรถป้ายแดงทั้ง BMW X1 ปาเจโร่ เบนซ์ป้ายแดง ไม่รวมกระเป๋าแบรนด์เนมหรู ๆ ตัวน้องชายไปเปิดร้านเช่าพระให้ภรรยาดูบัญชี ไม่ได้สนใจบริษัท สุดท้ายเจ๊งมีหนี้สินทั้งในระบบ นอกระบบ ไหนจะคดีอาญา รถ บ้าน สำนักงานโดนยึดหมด เละเทะไปหมด แม่ผมก็ออกหน้าช่วยน้องเรื่องคดีอาญา แพ่ง วุ่นวายไปหมด บ้านที่อยู่ก็กำลังจะโดนยึด ทาวน์เฮาส์ชื่อแม่ ๆ ก็แอบเอาไปให้น้องจดจำนองเอาเงินออกมาหมุน สุดท้ายพังครับ จะโดนยึดอีกไม่นาน ผมพอสรุปได้คร่าวๆ ที่เป็นแบบนี้
1. นิสัยน้องชายกับภรรยาคล้าย ๆ กัน ไม่ประหยัด ทุกวันนี้ไม่มีเงินแต่ค่าไฟเดือนละ 3 - 4 พัน ตอนมีเงินซื้อทอง ซื้อนาฬิกาเรือนเป็นแสน
2. ไม่มีความรู้ความเชื่ยวชาญในการทำธุรกิจ และไม่เขี้ยวพอ ตัวเองเป็นธุรกิจซื้อมา ขายไป ไม่มีอะไรเป็นของตัวเองซึ่งโตยากมาก
3. ทั้งน้องและภรรยาเป็นคนหน้าใหญ่ใจโต เสียตังค์ไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้ แต่งงานกัน 3 ปี จัดงานเลี้ยงครบรอบใหญ่โต ลูกต้องเรียน รร.อินเตอร์
4. ทั้งน้อง ทั้งภรรรยา เป็นคนขาดความรับผิดชอบ ไม่มีสัจจะ ความน่าเชื่อถือ รับปากอะไรแล้วไม่เคยทำได้ เช่น น้องชายยืมเงินเก็บผมไป 1แสนกว่า ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่ายไม่โทรมาหา ทวงไปก็บอกจะมีคืน ให้ความหวังแล้วก็หายหัว ตัวน้องสะใภ้ผมกดเงินสดให้ร่วม 4 หมื่นช่วยประกันตัวออกมาจากศาล ตกลงกันดิบดีว่าจะใช้คืน สุดท้ายเป็นผมต้องก้มหน้าก้มตาผ่อนบัตรกดเงินสดที่กดเงินช่วยให้ไม่ต้องนอนคุก ล่าสุดผมช่วยน้องออกมาจาก สภอ.คูคต เพราะน้องโดนหมายจับประกันตัวไป 12,000 บาท บอกจะใช้คืนเดือน กพ. จนป่านนี้เงียบ
ทุกวันนี้สาปส่ง ผมไม่อยากรับรู้อะไรเกี่ยวกับน้องชายและน้องสะใภ้อีกแล้ว
1. นิสัยน้องชายกับภรรยาคล้าย ๆ กัน ไม่ประหยัด ทุกวันนี้ไม่มีเงินแต่ค่าไฟเดือนละ 3 - 4 พัน ตอนมีเงินซื้อทอง ซื้อนาฬิกาเรือนเป็นแสน
2. ไม่มีความรู้ความเชื่ยวชาญในการทำธุรกิจ และไม่เขี้ยวพอ ตัวเองเป็นธุรกิจซื้อมา ขายไป ไม่มีอะไรเป็นของตัวเองซึ่งโตยากมาก
3. ทั้งน้องและภรรยาเป็นคนหน้าใหญ่ใจโต เสียตังค์ไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้ แต่งงานกัน 3 ปี จัดงานเลี้ยงครบรอบใหญ่โต ลูกต้องเรียน รร.อินเตอร์
4. ทั้งน้อง ทั้งภรรรยา เป็นคนขาดความรับผิดชอบ ไม่มีสัจจะ ความน่าเชื่อถือ รับปากอะไรแล้วไม่เคยทำได้ เช่น น้องชายยืมเงินเก็บผมไป 1แสนกว่า ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่ายไม่โทรมาหา ทวงไปก็บอกจะมีคืน ให้ความหวังแล้วก็หายหัว ตัวน้องสะใภ้ผมกดเงินสดให้ร่วม 4 หมื่นช่วยประกันตัวออกมาจากศาล ตกลงกันดิบดีว่าจะใช้คืน สุดท้ายเป็นผมต้องก้มหน้าก้มตาผ่อนบัตรกดเงินสดที่กดเงินช่วยให้ไม่ต้องนอนคุก ล่าสุดผมช่วยน้องออกมาจาก สภอ.คูคต เพราะน้องโดนหมายจับประกันตัวไป 12,000 บาท บอกจะใช้คืนเดือน กพ. จนป่านนี้เงียบ
ทุกวันนี้สาปส่ง ผมไม่อยากรับรู้อะไรเกี่ยวกับน้องชายและน้องสะใภ้อีกแล้ว
ความคิดเห็นที่ 48
เคยได้ยินจากรุ่นพ่อแม่มา เอามาเป็นประสบการณ์สอนชีวิตได้อย่างดี
เคสแรกคือ ลูกคนรวยในจังหวัด เคยเป็นร้านจำหน่ายเครื่องไฟฟ้าขนาดใหญ่ มีตึกประมาณ10 คูหา มีที่ดิน มีรถยนต์ขับ ลูกชายคนเดียวคนจีน คิดดูว่าสปอยขนาดไหน
แม่เล่าว่าสมัยก่อน ชาวบ้านธรรมดาทั่วไป ไก่ขานึงกินกันได้ทั้งครอบครัว หมูกิโลนึงเค้ากินกันเป็นอาทิตย์ แต่คนนั้นเค้ากินภัตตาคารทุกมื้อ วันละพัน (เงินเดือนข้าราชการประมาณ2-3พัน)
ปัจจุบัน ไม่มีอะไรสักอย่าง ตึกหมด ร้านหมด บ้านยังไม่มีอยู่ต้องเช่าไปวันๆ
สาเหตุจากพ่อแม่สปอย ลูกทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง มีอะไรพ่อแม่คิดให้ พ่อแม่ทำให้ พอหมดพ่อแม่ก็สานต่อไม่ได้ ทำงานไม่เป็นสักอย่าง ใช้ชีวิตเป็นอย่างเดียว
พอตัวเองจนลงก็ไม่ได้ตระหนัก ใช้คุณภาพชีวิตเท่าเดิมเคยยังไงก็อย่างนั้น แต่เงินมันไม่ได้เท่าเดิมไง เงินหมดก็ขายตึกขายสมบัติใช้เงินกินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่เหลืออะไรสักอย่าง ถึงเพิ่งมาตระหนักตอนไม่เหลือจริงๆ มั้ง
ตอนนี้ก็ได้ข่าวว่าใช้ชีวิตไปวันๆ เท่านั้น ขายของก๊อกๆ แก๊กๆ ประทังชีวิตไป
เคสสอง ลูกคุณหนูมีอันจะกิน
เติบโตมาแบบบ้านรวย หลังใหญ่มากติดแอร์ ที่บ้านมีทีวี (สมัยโน้นบ้านไหนมีทีวีก็รวยแล้ว) มีห้องแต่งตัว ห้องน้ำบ้านเค้ายังใหญ่กว่าบ้านคนทั่วไปอีก มีแม่บ้าน และไปเที่ยวต่างประเทศตั้งแต่วัยรุ่น ยุโรปประเทศไหนเป็นยังไงรู้หมด (ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีโอกาสได้ไปต่างประเทศ)
พ่อแม่รักมาก เกิดมาบนกองกองทอง แต่ดันพลาดหลงผู้ชาย
ตามืดบอดหลงผู้ชายจัด พ่อแม่คงรู้อะไรมาแหละเลยบอกว่าผู้ชายไม่ดีอย่าไปคบ ญาติ คนรอบข้าง เพื่อนๆ ก็ไม่มีใครสนับสนุน แต่เพราะรักเลยหนีตามผู้ชายไป ผู้ชายก็คนละชนชั้นจัด อารมณ์ดอกฟ้ากับหมาวัด
อันนี้ตัวเค้ามาเล่าชีวิตรันทดตัวเองว่า ตอนหนีตามกันไปมีความสุขกันแค่ไม่ถึง3ปี หลังจากนั้นก็เริ่มมีปัญหากัน หลักๆ คือเรื่องเงิน เรื่องการใช้ชีวิตที่ต่างกันมากๆ แต่ตัวเองละอายใจเกินกว่าจะบากหน้ากลับไปหาพ่อแม่
พอท้องพอคลอดผู้ชายก็เริ่มเปลี่ยนไปแต่ตัวเองก็อดทน แล้วก็รักกันทะเลาะกันมาเรื่อยๆ สามีก็ติดเหล้าติดพนัน เงินก็ไม่มี และสามีขี้หึงไม่ยอมให้ทำงาน เค้าเลยอยู่กับบ้านเลี้ยงลูกไป
เค้าเล่าว่าโดนตบตีก็ต้องทนเพราะไม่มีที่ไป รู้ว่าสามีมีผู้หญิงติดพันเรื่อยๆ มีมาตลอดแต่ก็ทน จนสุดท้ายผ่านไปเกือบ20ปี สามีบอกเลิกจะไปแต่งงานกับคนใหม่ ไล่ตัวเองออกจากบ้าน ไม่มีที่ไป ลูกก็โตรู้ความ แต่ก็ยังต้องพึ่งการเงินสามี ส่วนผู้หญิงคือแก่และไม่มีรายได้อะไรเลย
เค้าหมดหนทางเลยนึกถึงพ่อแม่ อยากกลับไปไหว้ขอโทษ แต่พอกลับมาถึงได้รู้ว่าพ่อแม่ตายไปสิบกว่าปีแล้ว เพราะตรอมใจ ตามหาลูกสาวไม่พบ
ไปหาญาติพี่น้อง เค้าก็ตัดไม่คบไม่คุยเพราะโกรธที่อกตัญญูจนพ่อแม่ตายเพราะตัวเองยังไม่รู้ แต่ก็ยังเจียดเงินบางส่วนให้ แต่ห้ามมาหาอีก เค้าก็ไม่กล้าบากหน้าไปขอหยิบยืมเงินญาติ เพราะญาติไม่ยอมรับนับญาติกับเค้า
ตอนนี้พอจะมีรายได้บ้างจากการไปเรียนนวด แล้วเป็นหมอนวดหารายได้ ได้เงินมาพออยู่พอประทังชีวิตและมีเก็บเล็กน้อย ส่วนหนึ่งก็ส่งไปให้ลูกชายลูกสาวใช้
แล้วเค้าก็มองผู้ชายที่เป็นลูกเพื่อนพ่อสมัยนั้นพ่อแม่แนะนำให้ปัจจุบันมีครอบครัวอบอุ่น เป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่โต ชีวิตมีความสุข
พอมาเทียบกับตัวเองที่เป็นแค่หมอนวด ชีวิตล้มเหลวต้องลำบากยามแก่ ก็คิดว่าตอนนั้นตัวเองไม่น่าดื้อรั้นเลย
ฟังๆ แล้วชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย
เคสสาม
อันนี้ไม่มีอะไรมาก
เจ้าของร้านอาหารที่รายได้เยอะมาก แต่เอาเงินไปทุ่มกิจการที่มีคนแนะนำว่าดี รายได้ดี กำไรงาม แต่ตัวเองไม่ได้เชี่ยวชาญในกิจการนั้น สุดท้ายหมดไปหลายสิบล้าน ขาดสภาพคล่อง
รายจ่ายเท่าเดิม แต่รายได้ไม่พอ เอาตรงไหนมาหมุนเวียนไม่ได้ สุดท้ายเลยกระทบกับกิจการร้านอาหารตัวเอง สุดท้ายโดนฟ้องล้มละลาย ร้านก็โดนยึด รถหรู ที่ดินอะไรไปหมด ชีวิตพัง
แต่คิดว่าเดี๋ยวเค้าคงตั้งตัวได้ แต่คงไม่สามารถกลับมาหรูหราฟู่ฟ่าเท่าสมัยก่อน
เคสสี่
เป็นคนเก่งมาก รายได้เยอะมาก เป็นผู้บริหารระดับสูง ครอบครัวใช้ชีวิตดีมาก แต่เพราะทำงานหนักเกินไป ไม่ทันแก่ก็ป่วยซะก่อน หลายโรคโหมเข้ามาเลย จนต้องออกจากงาน มะเร็งอย่างนึง แล้วมีอะไรก็ไม่รู้อีก3-4 โรคเวียนมาเป็น แบบอันนี้หาย มาเป็นอีกอันต่อ พอหายก็มีโรคอันใหม่จ่อคิว ค่ารักษาหมดไปรวมๆ เกือบ20 ล้านเพราะยานอกบัญชีบางอย่างก็แบบหลอดละหมื่นไรงี้
ทุกอย่างเล็กลงเรื่อยๆ บ้านหลังใหญ่ขายไปเช่าบ้านหลังเล็กๆ แทร กระเป๋าใบละแสนก็ไม่เหลือ รถหรู4-5คันก็เปลี่ยนเป็นรถญี่ปุ่นคันเดียวทั้งครอบครัว จากกินอาหารfine dining ก็เปลี่ยนมาซื้อข้าวแกงถุง ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ
แต่แบบครอบครัวเค้าก็สู้กันแหละ ยอมขายหมดทุกอย่างเพื่อรักษาคนในครอบครัว เรียกว่าแทบหมดตัวกันเลย
สุดท้ายโชคดีที่หาย
แต่หลังจากนั้นครอบครัวเค้าก็ใช้ชีวิตกันสมถะมากๆ คิดว่าตอนนี้พวกเค้าก็พอมีเงินใช้กันแหละ แต่คงแบบระมัดระวังกันสุดๆ แล้วก็ดูแลสุขภาพกันมากขึ้น
ประมาณนี้ค่ะ ได้รับรู้มาก็เอามาสอนใจได้เป็นอย่างดี
เคสแรกคือ ลูกคนรวยในจังหวัด เคยเป็นร้านจำหน่ายเครื่องไฟฟ้าขนาดใหญ่ มีตึกประมาณ10 คูหา มีที่ดิน มีรถยนต์ขับ ลูกชายคนเดียวคนจีน คิดดูว่าสปอยขนาดไหน
แม่เล่าว่าสมัยก่อน ชาวบ้านธรรมดาทั่วไป ไก่ขานึงกินกันได้ทั้งครอบครัว หมูกิโลนึงเค้ากินกันเป็นอาทิตย์ แต่คนนั้นเค้ากินภัตตาคารทุกมื้อ วันละพัน (เงินเดือนข้าราชการประมาณ2-3พัน)
ปัจจุบัน ไม่มีอะไรสักอย่าง ตึกหมด ร้านหมด บ้านยังไม่มีอยู่ต้องเช่าไปวันๆ
สาเหตุจากพ่อแม่สปอย ลูกทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง มีอะไรพ่อแม่คิดให้ พ่อแม่ทำให้ พอหมดพ่อแม่ก็สานต่อไม่ได้ ทำงานไม่เป็นสักอย่าง ใช้ชีวิตเป็นอย่างเดียว
พอตัวเองจนลงก็ไม่ได้ตระหนัก ใช้คุณภาพชีวิตเท่าเดิมเคยยังไงก็อย่างนั้น แต่เงินมันไม่ได้เท่าเดิมไง เงินหมดก็ขายตึกขายสมบัติใช้เงินกินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่เหลืออะไรสักอย่าง ถึงเพิ่งมาตระหนักตอนไม่เหลือจริงๆ มั้ง
ตอนนี้ก็ได้ข่าวว่าใช้ชีวิตไปวันๆ เท่านั้น ขายของก๊อกๆ แก๊กๆ ประทังชีวิตไป
เคสสอง ลูกคุณหนูมีอันจะกิน
เติบโตมาแบบบ้านรวย หลังใหญ่มากติดแอร์ ที่บ้านมีทีวี (สมัยโน้นบ้านไหนมีทีวีก็รวยแล้ว) มีห้องแต่งตัว ห้องน้ำบ้านเค้ายังใหญ่กว่าบ้านคนทั่วไปอีก มีแม่บ้าน และไปเที่ยวต่างประเทศตั้งแต่วัยรุ่น ยุโรปประเทศไหนเป็นยังไงรู้หมด (ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีโอกาสได้ไปต่างประเทศ)
พ่อแม่รักมาก เกิดมาบนกองกองทอง แต่ดันพลาดหลงผู้ชาย
ตามืดบอดหลงผู้ชายจัด พ่อแม่คงรู้อะไรมาแหละเลยบอกว่าผู้ชายไม่ดีอย่าไปคบ ญาติ คนรอบข้าง เพื่อนๆ ก็ไม่มีใครสนับสนุน แต่เพราะรักเลยหนีตามผู้ชายไป ผู้ชายก็คนละชนชั้นจัด อารมณ์ดอกฟ้ากับหมาวัด
อันนี้ตัวเค้ามาเล่าชีวิตรันทดตัวเองว่า ตอนหนีตามกันไปมีความสุขกันแค่ไม่ถึง3ปี หลังจากนั้นก็เริ่มมีปัญหากัน หลักๆ คือเรื่องเงิน เรื่องการใช้ชีวิตที่ต่างกันมากๆ แต่ตัวเองละอายใจเกินกว่าจะบากหน้ากลับไปหาพ่อแม่
พอท้องพอคลอดผู้ชายก็เริ่มเปลี่ยนไปแต่ตัวเองก็อดทน แล้วก็รักกันทะเลาะกันมาเรื่อยๆ สามีก็ติดเหล้าติดพนัน เงินก็ไม่มี และสามีขี้หึงไม่ยอมให้ทำงาน เค้าเลยอยู่กับบ้านเลี้ยงลูกไป
เค้าเล่าว่าโดนตบตีก็ต้องทนเพราะไม่มีที่ไป รู้ว่าสามีมีผู้หญิงติดพันเรื่อยๆ มีมาตลอดแต่ก็ทน จนสุดท้ายผ่านไปเกือบ20ปี สามีบอกเลิกจะไปแต่งงานกับคนใหม่ ไล่ตัวเองออกจากบ้าน ไม่มีที่ไป ลูกก็โตรู้ความ แต่ก็ยังต้องพึ่งการเงินสามี ส่วนผู้หญิงคือแก่และไม่มีรายได้อะไรเลย
เค้าหมดหนทางเลยนึกถึงพ่อแม่ อยากกลับไปไหว้ขอโทษ แต่พอกลับมาถึงได้รู้ว่าพ่อแม่ตายไปสิบกว่าปีแล้ว เพราะตรอมใจ ตามหาลูกสาวไม่พบ
ไปหาญาติพี่น้อง เค้าก็ตัดไม่คบไม่คุยเพราะโกรธที่อกตัญญูจนพ่อแม่ตายเพราะตัวเองยังไม่รู้ แต่ก็ยังเจียดเงินบางส่วนให้ แต่ห้ามมาหาอีก เค้าก็ไม่กล้าบากหน้าไปขอหยิบยืมเงินญาติ เพราะญาติไม่ยอมรับนับญาติกับเค้า
ตอนนี้พอจะมีรายได้บ้างจากการไปเรียนนวด แล้วเป็นหมอนวดหารายได้ ได้เงินมาพออยู่พอประทังชีวิตและมีเก็บเล็กน้อย ส่วนหนึ่งก็ส่งไปให้ลูกชายลูกสาวใช้
แล้วเค้าก็มองผู้ชายที่เป็นลูกเพื่อนพ่อสมัยนั้นพ่อแม่แนะนำให้ปัจจุบันมีครอบครัวอบอุ่น เป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่โต ชีวิตมีความสุข
พอมาเทียบกับตัวเองที่เป็นแค่หมอนวด ชีวิตล้มเหลวต้องลำบากยามแก่ ก็คิดว่าตอนนั้นตัวเองไม่น่าดื้อรั้นเลย
ฟังๆ แล้วชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย
เคสสาม
อันนี้ไม่มีอะไรมาก
เจ้าของร้านอาหารที่รายได้เยอะมาก แต่เอาเงินไปทุ่มกิจการที่มีคนแนะนำว่าดี รายได้ดี กำไรงาม แต่ตัวเองไม่ได้เชี่ยวชาญในกิจการนั้น สุดท้ายหมดไปหลายสิบล้าน ขาดสภาพคล่อง
รายจ่ายเท่าเดิม แต่รายได้ไม่พอ เอาตรงไหนมาหมุนเวียนไม่ได้ สุดท้ายเลยกระทบกับกิจการร้านอาหารตัวเอง สุดท้ายโดนฟ้องล้มละลาย ร้านก็โดนยึด รถหรู ที่ดินอะไรไปหมด ชีวิตพัง
แต่คิดว่าเดี๋ยวเค้าคงตั้งตัวได้ แต่คงไม่สามารถกลับมาหรูหราฟู่ฟ่าเท่าสมัยก่อน
เคสสี่
เป็นคนเก่งมาก รายได้เยอะมาก เป็นผู้บริหารระดับสูง ครอบครัวใช้ชีวิตดีมาก แต่เพราะทำงานหนักเกินไป ไม่ทันแก่ก็ป่วยซะก่อน หลายโรคโหมเข้ามาเลย จนต้องออกจากงาน มะเร็งอย่างนึง แล้วมีอะไรก็ไม่รู้อีก3-4 โรคเวียนมาเป็น แบบอันนี้หาย มาเป็นอีกอันต่อ พอหายก็มีโรคอันใหม่จ่อคิว ค่ารักษาหมดไปรวมๆ เกือบ20 ล้านเพราะยานอกบัญชีบางอย่างก็แบบหลอดละหมื่นไรงี้
ทุกอย่างเล็กลงเรื่อยๆ บ้านหลังใหญ่ขายไปเช่าบ้านหลังเล็กๆ แทร กระเป๋าใบละแสนก็ไม่เหลือ รถหรู4-5คันก็เปลี่ยนเป็นรถญี่ปุ่นคันเดียวทั้งครอบครัว จากกินอาหารfine dining ก็เปลี่ยนมาซื้อข้าวแกงถุง ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ
แต่แบบครอบครัวเค้าก็สู้กันแหละ ยอมขายหมดทุกอย่างเพื่อรักษาคนในครอบครัว เรียกว่าแทบหมดตัวกันเลย
สุดท้ายโชคดีที่หาย
แต่หลังจากนั้นครอบครัวเค้าก็ใช้ชีวิตกันสมถะมากๆ คิดว่าตอนนี้พวกเค้าก็พอมีเงินใช้กันแหละ แต่คงแบบระมัดระวังกันสุดๆ แล้วก็ดูแลสุขภาพกันมากขึ้น
ประมาณนี้ค่ะ ได้รับรู้มาก็เอามาสอนใจได้เป็นอย่างดี
ความคิดเห็นที่ 10
มาจากการใช้เงินและลงทุนผิดพลาด
1. ถ้ารวยเร็ว ไม่ให้เวลาตัวเองปรับตัวเข้ากับเงินทองที่เข้ามาเยอะในเวลาอันรวดเร็ว ความคิดของคนประสบความสำเร็จเหล่านี้จะสะกดจิตให้เราใจใหญ่ เช่น เลี้ยงเพื่อนฝูง แจกเงิน ทำบุญทำทานเกินคนทั่วไป ให้คนยืมเงิน อุปการะญาติ ซื้อกิจการคนอื่นที่แพ้กิจการเรา ซื้อของฟุ่มเฟือยที่ขายยากราคาตกง่าย แถมซื้อเยอะผิดปกติจากคนทั่วไป ซื้อที่ดิน บ้าน รถ และของเล่นคนรวย แบบหลายๆ ชิ้น
ดารานักร้อง นักกีฬา คนถูกหวยรางวัลที่ 1 นักธุรกิจอายุน้อยร้อยล้าน เศรษฐีคริปโต หมอจากครอบครัวที่ยากจนมาก่อน
2. กลัวว่าเงินจะหมดเลยลงทุนให้งอกเงย ลงทุนหุ้นเอาปันผลเจอหุ้นตกเจอเพิ่มทุน จนอยากจะเอาปันผลไปคืน บางคนกระโจนเข้าไปร่วมหุ้นกับเพื่อนแล้วเจ๊ง ถูกเพื่อนโกง เป็นดาราเปิดร้านอาหารทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน อดทนทำได้น้อยก็เปลี่ยนธุรกิจอีก บางคนขยายกิจการตัวเองแล้วไม่เป็นอย่างที่คิด ไม่ใช่เหลือ 0 แต่ติดลบมีหนี้มหาศาล ต้องทยอยขายที่ดิน ขายบ้าน ขายรถ ขายของเล่นคนรวยที่ตัวเองซื้อมาตอนรวยใหม่ๆ เลยกลับมาจนกว่าเดิม ฆ่าตัวตาย
ทางออกดีที่สุดของคนรวยไวรวยกระทันหัน คือ ถือเงินสดอย่างเดียว กินดอกผลกันไป เงินต้นยังอยู่ ยอมแพ้เงินเฟ้อบ้างก็ได้ ของบางอย่างสู้เท่าไหร่ก็ไม่ชนะ ยิ่งดิ้นยิ่งจนครับ
1. ถ้ารวยเร็ว ไม่ให้เวลาตัวเองปรับตัวเข้ากับเงินทองที่เข้ามาเยอะในเวลาอันรวดเร็ว ความคิดของคนประสบความสำเร็จเหล่านี้จะสะกดจิตให้เราใจใหญ่ เช่น เลี้ยงเพื่อนฝูง แจกเงิน ทำบุญทำทานเกินคนทั่วไป ให้คนยืมเงิน อุปการะญาติ ซื้อกิจการคนอื่นที่แพ้กิจการเรา ซื้อของฟุ่มเฟือยที่ขายยากราคาตกง่าย แถมซื้อเยอะผิดปกติจากคนทั่วไป ซื้อที่ดิน บ้าน รถ และของเล่นคนรวย แบบหลายๆ ชิ้น
ดารานักร้อง นักกีฬา คนถูกหวยรางวัลที่ 1 นักธุรกิจอายุน้อยร้อยล้าน เศรษฐีคริปโต หมอจากครอบครัวที่ยากจนมาก่อน
2. กลัวว่าเงินจะหมดเลยลงทุนให้งอกเงย ลงทุนหุ้นเอาปันผลเจอหุ้นตกเจอเพิ่มทุน จนอยากจะเอาปันผลไปคืน บางคนกระโจนเข้าไปร่วมหุ้นกับเพื่อนแล้วเจ๊ง ถูกเพื่อนโกง เป็นดาราเปิดร้านอาหารทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน อดทนทำได้น้อยก็เปลี่ยนธุรกิจอีก บางคนขยายกิจการตัวเองแล้วไม่เป็นอย่างที่คิด ไม่ใช่เหลือ 0 แต่ติดลบมีหนี้มหาศาล ต้องทยอยขายที่ดิน ขายบ้าน ขายรถ ขายของเล่นคนรวยที่ตัวเองซื้อมาตอนรวยใหม่ๆ เลยกลับมาจนกว่าเดิม ฆ่าตัวตาย
ทางออกดีที่สุดของคนรวยไวรวยกระทันหัน คือ ถือเงินสดอย่างเดียว กินดอกผลกันไป เงินต้นยังอยู่ ยอมแพ้เงินเฟ้อบ้างก็ได้ ของบางอย่างสู้เท่าไหร่ก็ไม่ชนะ ยิ่งดิ้นยิ่งจนครับ
แสดงความคิดเห็น
จุดเปลี่ยนของชีวิตที่ทำให้คนที่เคยร่ำรวยมากๆทางการเงินจนตกต่ำกลายเป็นคนจนๆมากๆถึงปัจจุบันมาจากเรื่องอะไรกันครับ