วันนี้จะรีวิวหม้อหุงข้าวญี่ปุ่นแบบคร่าวๆให้ดูนะคะ เนื่องจากใช้มาทั้งสองแบบ 
ก่อนซื้อหาข้อมูลภาษาไทยไม่ค่อยได้ ราคาก็ค่อนข้างแพง เลยมารีวิวให้ เผื่อใครสนใจ
   
    บอกก่อนว่าไม่ได้ค่าจ้าง หรือได้รับผลประโยชน์ใดๆ ไม่ใช่นายหน้า แต่ชอบสินค้าญี่ปุ่นเป็นพิเศษ เพราะเคยอยู่ที่นั่น และรู้สึกว่ามันดีเท่านั้นเอง 
ทั้งสองแบบที่เอามารีวิว คือของที่เราซื้อมาใช้เอง ผลิตที่ญี่ปุ่นทั้งคู่
   
    ตัวแรก เป็นของญี่ปุ่น ใช้ไฟญี่ปุ่น เวลาใช้ที่ไทย ต้องต่อกับเครื่องแปลงไฟ (ซึ่งเครื่องใหญ่มาก หนัก และไม่สะดวก)
    ตัวที่สอง เป็นรุ่นที่ใช้ไฟไทย แน่นอนว่าซื้อที่ไทย สะดวกกว่า แต่ราคาค่อนข้างแพง เราเพิ่งใช้ไปไม่กี่ครั้ง 
    
    ดีไซน์ทั้งสองตัว ดูภายนอกเผินๆ คล้ายกันมาก แต่เข้าใจว่า(เดาเอง)ใช้เทคโนโลยีต่างกัน ของญี่ปุ่นมีเขียนว่า IH 
   (ไม่ชัวร์ว่าเราเข้าใจถูกมั๊ย ใครรู้มาบอกด้วยก็ดี)



1. ฟังก์ชัน
    ของญี่ปุ่นมีฟังก์ชันมากกว่านิดนึง อบขนมปังได้ แต่เราไม่เคยใช้ เลยไม่รู้ว่าใช้ได้ดีแค่ไหน 

2. วัสดุ
    วัสดุภายนอก ไม่แตกต่างกันมาก พลาสติกของญี่ปุ่นเหมือนจะดีกว่านิดนึง 
    ส่วนด้านใน วัสดุต่างกันค่อนข้างชัดเจน ตั้งแต่ฝาด้านใน จนถึงที่วางหม้อข้าว ของไทยจะคล้ายกับหม้อหุงข้าวทั่วไป มีสปริง วัสดุน่าจะเป็นอลูมิเนียม ส่วนของญี่ปุ่นจะดูเนี้ยบกว่า ไม่มีสปริงก้นหม้อ

   


3. ตัวหม้อด้านใน 
    อันนี้แตกต่างมากที่สุด ของไทยเป็นเหมือนอลูมิเนียมเคลือบ น้ำหนักเบา เป็นรอยง่าย 
    ของญี่ปุ่นเป็นเหมือนเหล็ก หนัก เคลือบดีมาก ที่เห็นเป็นรอยเพราะเราไม่ได้ล้างเองทุกครั้ง คนที่บ้านเราที่มีทั้งเด็ก และคนแก่ อาจจะใช้สก๊อตไบร์ทขัด ซึ่งจริงๆแล้วไม่จำเป็น ข้าวแทบจะไม่ติดหม้อ เอามือลูบๆก็หลุด 
    และรูปร่าง ตรงก้นหม้อ ของญี่ปุ่นจะเป็นทรงโค้ง ตรงนี้เราว่าออกแบบมาได้ดีมาก

 
 
เรามีของญี่ปุ่นก่อน ซึ่งมันหุงข้าวได้ดี แต่ไม่สะดวก เพราะต้องต่อเครื่องแปลงไฟ ค่อนข้างเกะกะพื้นที่ในครัว
แล้วเพื่อนบอกว่าไม่ควรใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เอามาต่อกับเครื่องแปลงไฟ มันจะพังง่าย 
     เลยไปซื้อของไทยมา สำหรับใช้ที่เมืองไทย คิดว่าจะสะดวกกว่าเดิม แต่ใช้แค่ไม่กี่ครั้ง ก็กลับมาใช้อันเดิมค่ะ หลักๆเลยเพราะตัวหม้อด้านใน เราไม่ชอบอันของไทย มันดูก๊องแก๊ง 



** ถ้าดูที่หม้อด้านใน จะเห็นว่าของญี่ปุ่นมีรอยมากกว่า ส่วนของไทย ใหม่มาก เพราะใช้ไปแค่ไม่กี่ครั้ง 
ดูด้านก้นหม้อ จะเห็นชัด ว่าของไทย เริ่มมีลอกแล้ว ส่วนของญี่ปุ่นไม่มีลอกเลย คุณภาพต่างกันมาก

4. ปลั๊ก 
    ของไทยทำเหมือนหม้อหุงข้าวทั่วไป ถอดสายได้ 
    ของญี่ปุ่นเก็บสายได้ สะดวกมาก 

     ส่วนตัวมองว่า ตรงอื่นไม่เหมือนของญี่ปุ่นพอรับได้ แต่หม้อด้านในน่าจะเอาแบบของญี่ปุ่นมา หรืออย่างน้อย มีหม้อด้านในรุ่นที่เป็นวัสดุดีๆ มาให้เลือกซื้อเพิ่มได้ น่าจะดีกว่า   

     จบรีวิวตรงนี้ **** เรื่องคุณภาพข้าวที่ได้ พอๆกันนะคะ เราไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง ****
ส่วนราคาเครื่อง รุ่นของญี่ปุ่นถูกกว่า (แต่ถ้ารวมเครื่องแปลงไฟก็ถือว่าแพงกว่า)
และของญี่ปุ่นก็กินไฟน้อยกว่าด้วย (แต่ไม่รู้ว่าเวลาต่อผ่านเครื่องแปลงไฟ มันจะกินไฟเพิ่มอีกเท่าไหร่นะคะ) 

 ถ้ามีเวลาว่างๆ จะลองหุงข้าวทั้งสองหม้อ แล้วเทียบกันให้ดู

*** เพิ่มเติม *** เผื่อใครสงสัยเรื่องความทนทาน ยี่ห้อนี้ เรามีของหลายชิ้น หม้อหุงข้าวก็มีรุ่นเก่ากว่านี้ ใช้มาแล้วเกิน 10 ปี บางช่วงใช้ทุกวัน บางช่วงไม่ได้ใช้เป็นปีๆ หยิบเอามาใช้เมื่อไหร่ก็ยังคงใช้ได้ดีค่ะ ทุกฟังก์ชันยังคงใช้ได้ตามปกติ อันไหนที่เป็นสีขาวสวย พอเก่าไป พลาสติกมีเหลืองไปบ้าง แต่ไม่มีกรอบ ไม่มีเสีย
    มีอันนึงที่พอใช้ไปนานๆ มีปุ่มนึงที่มันจะกดยากนิดนึง ต้องกดแรงๆหน่อยเท่านั้นเอง