สวัสดีนักเดินทางที่เข้ามาอ่านทุกท่านครับ กระทู้นี้ เป็นตอนที่ 2 ของประสบการท่องเที่ยวที่ประเทศกัมพูชาของผม วันนี้ เรายังอยู่ที่พนมเปญ และพรุ่งนี้เราจะย้ายเมืองไปเสียมราฐกัน

ฝากผลงานรีวิวการเดินทางได้ที่เพจ The Walker - เดินทางไป เล่าไป ใน Facebook
และ Tiktok : https://www.tiktok.com/@nornu.ss ด้วยนะครับ

ตอนที่ 1 คลิก

ตอนที่ 3 คลิก

วันที่ 3 - พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกัมพูชา,พระบรมราชวังจตุมุขมงคล,อนุสาวรีย์อิสรภาพ,ห้างกลางเมือง AEON Mall

วันนี้ตื่นเช้า เนื่องจากนอนเร็ว เดินออกมาหน้าโรงแรม เจอร้านอาหารตามสั่งแบบกัมพูชา เลยแวะสั่งข้าวผัด 5,000 เรียล รสชาติหวานนำ (แบบนำไปค่อนข้างเยอะ ฮ่าๆ)



นั่งทานข้าวไป สายตาดันไปเจอกับร้านแลกเงิน 2 ร้านติด ที่เมื่อวานเดินหาอยู่นานนับชั่วโมง


พร้อมแล้วก็เดินไปเที่ยวที่แรกของวันนี้กัน ระหว่างทางแวะถ่ายรูปน้องหมา


พี่ๆเขาพร้อมบริการนักท่องเที่ยวแล้วจ้า


สถานที่แรกของวัน คือ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติกัมพูชา อยู่เยื้องๆกับโรงแรมที่ผมพักเลย ค่าเข้า 10 USD สำหรับต่างชาติ 


ข้างในจัดแสดงของสะสมโบราณของกัมพูชามากมาย (ข้อมูลใน Wikipedia บอกว่ามีมากถึง 14,000 ชิ้น) ไม่ว่าจะเป็นศิลาจารึกภาษาขอม
พระพุธรูปเก่าแก่และมีปางแปลกๆมากมาย เช่นปางทรงครุฑ ทรงนกยูง อาวุธโบราณ เช่น ดาบ หอก ทวน แต่น่าเสียดายที่ข้างในไม่สามารถถ่ายรูปได้ เลยเก็บมาได้แค่ความทรงจำ และมาเขียนบรรยายให้เพื่อนๆ ได้อ่าน


ปืนใหญ่ที่เคยใช้งานได้จริงในอดีต ถูกวางอยู่ด้านนอกตัวอาคาร


เดินไปที่ต่อไป Independence Monument ระยะทาง 1.4 กิโลเมตร บรรยากาศร่มรื่นตลอดสองข้างทาง




ถึงแล้ว Independence Monument สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงการประกาศเอกราชจากประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี ค.ศ.1953 


ที่ต่อไป อนุสรณ์สถาน พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ซึ่งอยู่ติดกับ Independence Monument เป็นอนุสรณ์สถานที่อุทิศแด่อดีตพระมหากษัตริย์ เพื่อยกย่องความสำเร็จที่พระองค์ท่านทรงทำให้กัมพูชาเป็นเอกราชจากประเทศฝรั่งเศส



เดินผ่านซอกตึกข้างถนนใหญ่


ที่ต่อไป เดินมาอีก 1.4 กิโลเมตร ห้างกลางเมืองของคนกัมพูชา 


ห้าง Aeon Mall นั่นเอง บรรยากาศข้างในคนค่อนข้างมาก อาจเป็นเพราะว่าวันที่ไปเป็นวันเสาร์ด้วย


มีโรงหนังและมีหนังของไทยกำลังฉายด้วย


เวลาบ่ายโมงแล้ว แวะทานราเมนที่ร้านนี้ ราคา 19,000 เรียล ที่จริงรวมเกี๊ยวซ่าด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายเพราะทานหมดก่อน 


ขากลับไปพระราชวัง เรียกใช้บริการ Grab ตุ๊กๆ แอพนี้ช่วยชีวิตได้เยอะมาก ใช้ตลอดทริป ไปเสียมราฐใช้แอพนี้ได้เลยรัวๆ แอพเดียวกับที่ใช้ในประเทศไทย สะดวกมากๆ ใครใช้ครั้งแรกแนะนำว่าผูกบัตรเครดิตให้เรียบร้อยจากไทย เพราะต้องใช้ OTP จากเบอร์มือถือเรา หรือจะเลือกจ่ายเป็นเงินสดให้คนขับก็ได้ ครั้งนี้จ่ายค่ารถ 4,700 เรียล บัตรเครดิตเรียกเก็บ 40.92 บาท 


ระหว่างทางเจออุบัติเหตุ 


ก่อนเข้าพระราชวัง แวะซื้อไอติมถั่วที่ขายอยู่ด้านหน้า ราคา 2,000 เรียล รสชาติหวานตัดขา 


เข้ามาแล้วพระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล ค่าเข้าจัดไปอีก 10 USD (ส่วนตัวไม่ว้าว ถ้าเทียบกับตั๋วราคานี้)


สถานที่ส่วนใหญ่ภายในเขตพระราชวังเปิดให้เข้าชมได้ ยกเว้นเขตหวงห้ามบางเขต เช่น เขตพระราชฐานที่ประทับ และมีแบบจำลองของนครวัดด้วย ซึ่งเราจะได้เดินทางไปเยี่ยมชมของจริงกันในทริปนี้แหละ


ภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณ 


วันนี้เที่ยวเสร็จแล้ว เดินหาอาหารเย็นทานกัน


ที่เห็นภาพด้านบนคือกระเพราไก่ไข่ดาว ราคา 10,000 เรียล หรือประมาณ 85 บาท (แพงจัง ฮ่าๆ) สังเกตเห็นคนท้องถิ่นโต๊ะข้างสั่งบางอย่างมา พอดูใกล้ๆ มันคือกบชุบแป้งทอด ทานกับน้ำจิ้มไก่ และซอสพริก เลยขอถ่ายรูป เขาก็น่ารักชวนทานด้วยกัน แต่ก็ได้ปฎิเสธไป เพราะมันบ่ได้จริงๆ 


ทานข้าวเสร็จก็เดินกลับโรงแรม เก็บของ พรุ่งนี้ต้องเช็คเอาท์แต่เช้า เพราะเราจะนั่งรถ 5 ชั่วโมง ย้ายเมืองไปเสียมราฐ เมืองมรดกโลกกันแล้ว 

จบวันที่ 3 กันเพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบครับ

---

วันที่ 4 - พนมเปญ - เสียมราฐ,Old Market,Pub Street

เช็คเอาท์ออกจากโรงแรม 8.30 เพราะต้องขึ้นรถไปเสียมราฐรอบ 9.00 


เรียก Grab ไป Virak Buntham Express สาขาวัดพนม อารมณ์ประมาณบริษัทขมส่งบ้านเรา ค่าตุ๊กๆ 4,600 เรียล


มาถึงก่อนเวลารถออก 15 นาที จองล่วงหน้าไว้เมื่อ 2 วันที่แล้ว ค่าตั๋ว 12 USD


รถออกเวลา 9.00 ตรง มีบริการน้ำดื่ม 1 ขวด


รถใหม่เอี่ยม แบรนด์เกาหลี นั่งสบาย แอร์เย็นฉ่ำ ดีกว่าภาพที่คาดหวังไว้มากๆ


ลาก่อน พนมเปญ มีโอกาสจะมาอีกนะ


ท้องฟ้าแจ่มใสสลับกับมีเมฆตลอดทาง 


จอดรถครั้งแรก ให้เข้าห้องน้ำ ขอเติมพลังด้วยกาแฟ 3,000 เรียล


ประมาณบ่ายโมง รถจอดให้พักทานอาหารกลางวัน ชี้สั่งข้าว สั่งผัดผัก สั่งต้มจืด เพราะคิดไปเองว่าจะราดข้าวมาเหมือนร้านข้าวแกงบ้านเรา และพนักงานสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้ สุดท้ายแยกกันมา ทานไม่หมดด้วยและค่าเสียหายโดนไป 8 USD จ่ายเป็นเงินเขมรคือ 32,000 เรียล


ถึงแล้วเสียมราฐ ประมาณใกล้ๆบ่ายสาม เรียก Grab ไปที่พัก 8,000 เรียล


นุพักที่นี่อีก 3 คืน Park Hyatt Siem Reap โรงแรมหรูกลางเมืองเสียมราฐที่ทำเลดีมากๆ อยู่ศูนย์กลางแทบจะทุกสิ่ง ติดร้านอาหาร ติดผับสตรีท และตลาด Old Market


เข้าไปเช็คอินมี Welcome Drink มาเสริฟ มีหลายตัวให้เลิก นุเลือกเป็น Signature หลักๆคือน้ำแตงโม ส่วนผสมอย่างอื่นลืม
เพราะมัวแต่ถ่ายรูป โรงแรมสวยมากกกกก


การตกแต่งทางเดิน ห้องพัก สระว่ายน้ำก็สวยงามมากๆ และบริการจากพนักงานก็ดีมากๆด้วยเช่นกัน 10/10


แลกเงินหน้าโรงแรมอีก 30 USD เงินหมดเพราะร้านข้าวกลางวัน ได้เงินมาอีกประมาณ 124,000 เรียล เที่ยวต่อได้ 
สังเกตเห็นเงินในตู้กระจก แล้วถามพี่พนักงานว่าเงินของจริงหรอ พนักงานตอบว่าใช่ เงินจริงทั้งหมด แต่เป็นแบงค์เล็กมากๆ
เช่น 100 เรียล 500 เรียล ส่วนผมก็ยังอึ้ง เพราะคิดว่าเป็นเงินปลอมที่เอาไว้โชว์มาโดยตลอด เห็นร้านแลกเงินโชว์กันแทบจะทุกร้าน 


เดินไปหาข้าวทานที่ข้างแม่น้ำกับเพื่อนใหม่จากประเทศญี่ปุ่นที่เจอกันบนรถ โดยท่านนี้เดินทางจากเวียดนามมาครึ่งเดือน มากัมพูชา 7 วัน กรุงเทพ 7 วัน กัวลาลัมเปอร์ 7 วัน แล้วเดินทางกลับญี่ปุ่น (โหดมาก และอยากทำแบบเขามากเช่นกัน ถ้ามีโอกาสได้ทำแบบนั้นสัญญาว่าจะมีเขียนรีวิวให้เพื่อนๆได้อ่านกันแน่นอนครับ ฮ่าๆ) 

ผมสั่งข้าวผัดหมู จานละ 1.5 USD ส่วนโชตะโระ(ชื่อเพื่อนใหม่) สั่งข้าวผัดเนื้อ ราคาเดียวกัน 1.5 USD 


เดินเล่นไปเรื่อยๆ ผ่านแม่น้ำที่เริ่มเปิดไฟอย่างสวยงาม ผ่าน Old Market และ Pub Street สถานที่เหล่านี้อยู่ติดกันทั้งหมด เดินเที่ยวได้สบายๆ 


เดินไปหาร้านนั่งใน Pub Street เพื่อวางแพลนวันพรุ่งนี้กัน


ฉลองแด่มิตรภาพระหว่างนักเดินทางด้วย Gin Tonic แก้วละ 1 USD ถูกมาก สวนทางกับค่าอาหาร โดนไปหลายแก้วอยู่ ฮ่าๆ 


สี่ทุ่มก็พากันแยกย้ายกลับที่พักรีบนอน เพราะวันต่อไปต้องตื่นกันตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง เรามีนัดกันตอนตีห้า เพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นครวัด เที่ยวนครธม
และวัดตาพรมกัน

Part 3 มาแล้วครับ

---