สวัสดีพี่น้องทุกท่านครับ กระทู้นี้ เป็นกระทู้แรกของผม 

ตอนที่ 2 คลิก
ตอนที่ 3 คลิก

ฝากผลงานรีวิวการเดินทางได้ที่เพจ The Walker - เดินทางไป เล่าไป ใน Facebook
และ Tiktok https://www.tiktok.com/@nornu.ss ด้วยนะครับ

วันนี้จะมาบอกเล่าประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยว ประเทศกัมพูชา 7 วัน 6 คืน ในวันที่ 24 - 30 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา
ประเทศที่หลายๆ ท่านอาจจะคิดว่าไม่มีอะไร แต่สำหรับผม กัมพูชาเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เที่ยวสนุก และน่าจดจำมากๆครับ
และทริปกัมพูชานี้ ยังเป็นทริปแรกของนุ หลังจากเหตุการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 อีกด้วยครับ



แผนการเดินทางในครั้งนี้ เราจะนั่งเครื่องจากกรุงเทพ ไปลงพนมเปญ และขากลับ จากเสียมราฐ กลับกรุงเทพ โดยแบ่งเป็น 
วันที่ 1 - ภูเก็ต - กรุงเทพ - พนมเปญ
วันที่ 2 - ตลาดกลาง,วัดพนม,วัดอุณาโลม,เดินเล่นริมแม่น้ำโขง
วันที่ 3 - พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกัมพูชา,พระบรมราชวังจตุมุขมงคล,อนุสาวรีย์อิสรภาพ 
วันที่ 4 - พนมเปญ - เสียมราฐ,Old Market,Pub Street
วันที่ 5 - นครวัด,นครธม,วัดตาพรม,โตนเลสาบ
วันที่ 6 - Free day, ซื้อของฝาก Old Market, ปั่นจักยานเล่นที่นครวัด
วันที่ 7 - เสียมราฐ - กรุงเทพ - ภูเก็ต

การเดินทางในครั้งนี้ ผมเดินทางออกจากภูเก็ต - กรุงเทพ - พนมเปญ และบินกลับจาก เสียมราฐ - กรุงเทพ - ภูเก็ต จองล่วงหน้า 1 เดือน ได้มาในราคารวมทั้งสิ้น 6,740 บาท โดยทริปนี้ ผมมีเวลาเตรียมตัวเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น เอาจริงๆ มาหาข้อมูลตอน 3 วันสุดท้ายด้วยซ้ำ 

และแล้ว วันที่รอคอยก็มาถึง

วันที่ 1 - ภูเก็ต - กรุงเทพ - พนมเปญ

ออกจากสนามบินภูเก็ต ด้วยเที่ยวบิน FD3002 10.30 ถึงกรุงเทพ 9.50 

ถึงกรุงเทพแล้ว ต้องออกจากอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ มาที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เพื่อมาเช็คอินและรับตั๋วอีกรอบ เนื่องจากเที่ยวบินทั้ง 4 ขา จองตั๋วแยกกัน เพราะเห็นแก่ตั๋วถูก แหะๆ

และแล้ว ก็มีเรื่องให้ตื่นเต้นจากเที่ยว FD606 บินระกว่างกรุงเทพ 15.05 ไปถึงพนมเปญ 16.20 เมื่อผู้โดยสารขึ้นเครื่องเสร็จ และประตูเครื่องบินถูกปิดลง กัปตันก็ได้ประกาศว่ามีความจำเป็นต้องล่าช้า เนื่องจากบริเวณสนามบินดอนเมือง มีลมและพายุที่เป็นอันตรายต่อการบิน ทำให้เที่ยวบินนี้ล่าช้าออกไปถึง 1 ชั่วโมง 20 นาที


พอเครื่องขึ้นได้ระดับ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ก็ได้เอาบัตรตรวจคนเข้าเมืองมาให้เรากรอก


พอเครื่องลง ผ่าน ตม.เสร็จ ก็เดินทางออกมานอกสนามบิน 


นั่งรถตุ๊กๆ เข้าเมือง คนขับเสนอราคามา 10 USD ผมบอกว่าไม่ไป เพราะว่าแพงเกิน แกยื่นมือถือมาให้ ว่ายูอยากได้เท่าไหร่กดมา ผมให้ 4 USD คนขับขอ 6 USD ผมเลยบอก 5 USD ผมโอเค สุดท้าย ค่ารถเข้าเมือง อยู่ที่ 5 USD



มาถึงโรงแรมก็มืดพอดี เราจะพักที่ Hyatt Regency Phnom Penh ตลอดที่อยู่ในพนมเปญทั้ง 3 คืนครับ นุมาพักโดยใช้สวัสดิการพักฟรีจากการทำงานโรงแรมในเครือ Hyatt ครับ

ส่วนราคาทั่วไปของที่นี่ต่อคืนอยู่ที่ประมาณ 5,000 - 7,000 บาท  และมีทำเลที่ตั้งที่ดีมากๆ อยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติกัมพูชา และไม่ไกลจากพระราชวังจตุมุขมงคลอีกด้วย เดินเที่ยวทั่วทั้งเมืองได้สบายๆ






เช็คอินเสร็จ ออกไปหาร้านอาหารท้องถิ่นใกล้ๆกับโรงแรม มื้อนี้สั่ง Stir fried noodle with pork and egg ราคา 9,000 เรียล
และน้ำอ้อย ราคา 3,500 เรียล เส้นผัดรสชาติกลางๆ ส่วนน้ำอ้อย คนกัมพูชาบีบมะนาวใส่ด้วย ทำให้มีความเปรี้ยวนิดๆ อร่อยแบบแปลกๆ
ด้วยความที่มีแต่เงิน USD เพราะยังไม่ได้แลก เลยให้คุณป้าคิดราคา USD ให้ คือ 4 USD
ในประเทศกัมพูชา เงินสกุล USD เป็นที่ยอมรับอย่างกว่าขวาง แต่ส่วนตัวคิดว่าแลกเงิน USD เป็น KHR (สกุลเงินท้องถิ่น) จะถูกกว่า

เสร็จจากการทานอาหารเย็น ก็เดินกลับโรงแรม เข้านอน เพราะเหนื่อยจากการเดินทางมาตลอดทั้งวัน 

---

วันที่ 2 - ตลาดกลาง,วัดพนม,วัดอุณาโลม,เดินเล่นริมแม่น้ำโขง

ตื่นเกือบเที่ยง และยังไม่มีเงินกัมพูชา เลยเดินตามหาร้านแลกเงิน เดินมาประมาณหนึ่งชั่วโมง ตาม GPS ไป บางร้านก็ปิดบ้าง บางร้านก็ไม่รับแลกแล้วบ้าง เลยมาแวะพักทานเฝอในราคา 1.5 USD ที่กัมพูชานิยมเสริฟชาแทนน้ำเปล่า น่าจะได้รับอิทธิพลจากฝั่งตะวันตก เนื่องจากเคยเป็นเมืองขึ้นของ
ประเทศฝรั่งเศส



ทานเฝอเสร็จ เจอร้านแลกเงินอยู่ข้างๆพอดี เลยแลกไป 30 USD ได้เงินกัมพูชามาแสนกว่าเรียล วันนี้เป็นเศรษฐีแล้ว เดินหามาตั้งนาน


เดินกลับไปหากาแฟทานต่อแถวริมแม่น้ำโขง ผ่านร้านขายพระพุทธรูปและภาพวาดศิลปะ มีหลายร้านมากๆ บางร้านกำลังปั้นพระพุทธรูปกันอยู่เลย


กาแฟเย็น แก้วละ 9,000 เรียล และบรรยากาศภายในร้านกาแฟ 


และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องเดินต่ออีกประมาณ 1.7 กิโลเมตร เพื่อไปตลาดกลาง ฝนก็ใกล้ตกแล้วด้วย


ด้านในขายของหลายหมวดหมู่ เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของใช้ต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และของฝาก


สถานีต่อไป วัดพนม เดินต่ออีก 1.3 กิโลเมตร ระหว่างทางก็แวะเก็บภาพบรรยากาศ


แอบถ่ายคุณลุงแบบไม่ทันตั้งตัว พอคุณลุงรู้ตัว มียกมือมาบ้ายบายด้วย


ถึงจะเดินไกล แต่บ้านเมืองเขาร่มรื่น เดินชมนกชมไม้ไป เพลินดี




เดินผ่านกระทรงพลังงานและเหมืองแร่ ที่ตั้งอยู่ก่อนถึงวัดพนม


ถึงแล้วทางเข้าวัดพนม ค่าตั๋ว 1 USD


วัดนี้ ถือเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของคนพนมเปญเลย โดยมีศาลของยายเปญอยู่บริเวณหลังวัด เชื่อว่าเป็นผู้สร้างวัดแห่งนี้


เที่ยววัดพนมเสร็จแล้ว วัดต่อไปที่เราจะไปกันคือวัดอุณาโลม ระยะทาง 1.4 กิโลเมตร ระหว่างทางเจอร้านกล้วยปิ้ง ราคา 2,500 เรียล แต่ผมไม่ต้องการซอสที่เอาไว้ราด แม่ค้าเลยให้จ่ายแค่ 2,000 เรียล


เดินผ่านร้านขายหอยยำของคนกัมพูชา แวะถ่ายรูปไว้


พอคุณลุงเห็นผมถ่ายรูปเท่านั้นแหละ แกโพสท่าให้ถ่ายไม่หยุด 


ถึงแล้ววัดอุณาโลม อีกหนึ่งวัดเก่าแก่และเป็นที่เคารพของคนกัมพูชา


แวะสักการะขอพรพระ ให้การเดินทางตลอดทริปนี้ผ่านไปอย่างราบรื่น 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สรุปก็ราบรื่นดีมาก ตลอดทริปเจอทั้งคนท้องถิ่นและเพื่อนร่วมเดินทางที่น่ารักมากๆ โปรดติดตาม feel good มากๆ บอกเลย


เย็นแล้ว ที่เที่ยวสุดท้ายของวันคือบริเวณข้างแม่น้ำโขง เราเดินเที่ยวเป็นวงกลม เลยกลับมาที่เดิม ติดกับแม่น้ำโขงคือ Royal Palace ซึ่งเราจะไปกันในวันพรุ่งนี้ 


เนื่องจากฝนกำลังจะตก และอยู่ติดกับแม่น้ำโขง จึงมีลมพัดตลอด อากาศเย็นสบายมากๆ เด็กๆวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน เป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจยอดฮิตของทั้งคนกัมพูชาและนักท่องเที่ยว 


ข้ามถนนไปใกล้ๆแม่น้ำโขง ก็บรรยากาศดีไม่แพ้กัน 


แวะซื้อขนมจีนน้ำแกง คล้ายๆแกงมัสมั่นไก่ มันๆ หวานๆ ราคา 5,000 เรียล 


นั่งทานอยู่กับแม่ค้าได้สักพัก ฝนก็เทกระหน่ำลงมา แม่ค้าแค่นำร่มที่เตรียมไว้ขึ้นมากาง ส่วนนักท่องเที่ยวก็วิ่งกระเจิงกันไปคนละทิศทาง


จากนักท่องเที่ยว ตอนนี้เข้าสู่โหมดผู้ประสบภัย


ฝนซาลงแล้ว ท้องก็อิ่มแล้ว เลยเดินกลับที่พักซึ่งก็อยู่ไม่ไกล ผ่านบริษัททัวร์เลยแวะเข้าไปซื้อตั๋วรถจาก พนมเปญ ไป เสียมราฐ ราคา 12 USD
จองล่วงหน้า 2 วันไปเลย ไม่อยากไปลุ้นตอนหน้างาน


กลับถึงโรงแรม อาบน้ำ เข้านอนอย่างไว เพราะวันนี้เดินทั้งวัน 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้วันอื่นก็เดินทั้งวัน แถมปั่นจักยานให้อีก

Part 2 มาแล้ว คลิก