ขอเกริ่นก่อนว่า เดิมทีที่บ้านผมใช้บริการ True Fiber อยู่แล้วจดทะเบียนในนามพี่สาว
ต่อมาได้มีเซลล์ติดต่อมาเสนอโปรโดยตรงกับตัวผมเอง โดยมาการแจ้งว่า "โปรที่เสนอให้นั้น มีความเร็วมากกว่าของเดิม
ราคาถูกกว่าเดิมและมีการแถมกล่องตัวใหม่ (True Inno Hybrid+) ซึ่งใหม่กว่าและดีกว่าของเดิม แถมโปรดูฟุตบอลฟรี 1 คู่
กล้องcctv 1 ตัว(ถ้าไม่ใช้จะไม่มีค่าบริการติดตั้ง 450฿) โดยทั้งหมดนี้ เซลล์ได้แจ้งว่า ติดตั้งฟรี ถ้าไม่เอากล้อง
พร้อมกับแนะนำให้ติดตั้งโปรใหม่ก่อน ถึงค่อยไปยกเลิกโปรเก่า" ทางผมจึงเห็นว่า น่าสนใจเพราะได้เน็ตเร็วกว่าเดิม แต่จ่ายเท่าเดิม
จึงตอบตกลงนัดวันติดตั้ง
เข้าสู่ปัญหาที่1
พอวันติดตั้งจริง ช่างก็เข้ามาติดตั้ง เปลี่ยน Router ใหม่ กล่องTVใหม่ จากเสียบบัตร เปลี่ยนเป็นกล่อง (True Inno Hybrid+) ซึ่งไม่ต้องเสียบบัตร
เพราะเป็นกล่อง Android TV แล้วก็มีกล้องcctvมา1 ตัว แต่ทางผมแจ้งไปว่าไม่ใช้กล้อง จึงไม่ได้ให้ติดตั้ง แต่พอติดตั้งInternetเสร็จ ช่างแจ้งว่า
มีค่าบริการติดตั้ง 450฿ ผมก็แจ้งกลับไปว่าเซลล์บอกไม่เสียค่าบริการ ถ้าไม่ติดตั้งกล้องcctv แต่ช่างก็บอกว่า ถึงไม่ติดตั้ง เค้าก็แถมกล้องให้อยู่ดี
เลยยอมจบปัญหาด้วยการจ่ายค่าบริการไป เพราะเสียเวลาติดตั้งInternetทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว
หลังจากนั้น พี่สาวได้ไปทำการยกเลิก แล้วคืนอุปกรณ์เก่า พนักงานที่ศูนย์บริการถามกลับว่า "เปลี่ยนโปรทำไม ของเก่าเน็ตเร็วกว่าที่เพิ่งเปลี่ยนไปอีก"
ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็ถามกลับไปว่า แล้วแบบนี้ก็เท่ากับว่าเซลล์ที่โทรมาแนะนำโปรโมชั่นก็ไม่ได้พูดความจริงตอนเสนอโปรล่ะสิ พนักงานที่ศูนย์ก็ได้แต่ปัดว่า
น่าจะเป็นเซลล์จากข้างนอกโทรไปแนะนำ ทีหลังอยากเปลี่ยนโปรให้มาเปลี่ยนที่ศูนย์บริการเท่านั้น อย่าไปเชื่อเซลล์ทางโทรศัพท์ (มีแบบนี้ด้วยหรอ)
เดี๋ยวจะประสานให้เซลล์คนที่เสนอโปรติดต่อกลับมารับผิดชอบภายใน 24ชม. จนถึงตอนนี้เดือนนึงแล้วยังไม่โทรมาเลย เท่ากับว่าผมต้องยอมทนติดสัญญา
ไปอีก2ปี โดยที่ได้เน็ตช้าลง ถึงจะเปลี่ยนโปรได้ เลยยอมๆไปเพราะคิดว่าไม่อยากเสียเวลาโยนกันไปมา อันนี้ก็จบไปปัญหาที่หนึ่ง
ปัญหาที่2
เกิดตั้งแต่อาทิตย์แรกที่ใช้งาน ตัวกล่อง True Inno Hybrid มีปัญหาค้างทุกครั้งที่เริ่มใช้งาน โทรถามช่างที่เข้ามาติดตั้ง ช่างก็แจ้งแค่ว่า ให้resetตัวกล่อง
มันหายก็จริง แต่เป็นทุกครั้งที่ใช้งาน เลยตัดสินใจโทรเข้าไปที่1242 แล้วแจ้งปัญหาไปว่ากล่องค้าง และช้ามาก ทางพนักงานฟังปัญหาจากที่แจ้ง ก็ได้ตอบ
กลับว่า มันเป็นปัญหาที่ตัวกล่องเดี๋ยวจะให้ช่างเอากล่องตัวใหม่เข้ามาเปลี่ยนให้ จึงทำการนัดช่าง พอช่างเข้ามา ช่างก็แนะนำว่า"ถึงเปลี่ยนกล่องใหม่ แต่ถ้า
เป็นกล่องรุ่นเดิม ก็จะเจอปัญหาแบบเดิม เพราะมันเป็นกล่องที่ตกรุ่นแล้ว เคยกำชับกับเซลล์ไปแล้วว่าไม่ควรเสนอกล่องนี้ให้กับลูกค้า เพราะมันมีปัญหาทุก
ตัว แต่เซลล์ก็ยังจะเสนอขายให้ลูกค้าต่อไป" พอได้ยินแบบนี้จึงปรึกษากับช่างว่าควรแก้ไขยังไง ช่างเลยแนะนำว่า ให้กลับไปใช้กล่องแบบเก่า (แบบเสียบ
บัตร)แบบที่1รุ่นต่ำกว่า ไม่เสียเงินเพิ่ม กับแบบที่2 รุ่นใหม่กว่า แต่มีค่าบริการเพิ่มเดือนละ 50฿ ผมก็เลยแย้งไปว่า ถ้าหากว่าลูกค้าคนอื่นที่ไม่ได้ใช้ Smart TV
การเปลี่ยนกล่องข้ามรุ่นนี่เหมือนกับการเอาเปรียบลูกค้าเลยนะ เพราะกล่อง True Inno Hybrid มันเป็นกล่อง Android TV ที่มีแอพพลิเคชั่นรองรับ
ส่วนกล่องแบบเสียบบัตรไม่มีแอพพลิเคชั่น ทางช่างก็ได้แค่บอกว่า ได้เคยส่งเรื่องไปทางระดับบนแล้วว่า กล่องTrue Inno Hybridมันชอบมีปัญหา
ทำไมยังเอาของ "ห่วยๆ" ไปเสนอให้ลูกค้า แต่ก็ไม่มีการปรับปรุงอะไร ช่างก็ได้แต่ไปแก้ทุกบ้านที่ติดตั้งกล่องนี้
สรุปก็คือ 1.ผมต้องยอมใช้โปรที่เน็ตช้ากว่าเดิม จาก1000/500 เหลือ 500/500 จากการเสนอโปรที่ผิดพลาด โดยไม่มีการรับผิดชอบใดๆ
2.ผมต้องยอมเปลี่ยนกล่อง จากกล่องTrue Inno Hybrid ที่รวมอยู่ในโปร แล้วกลับมาใช้กล่องแบบเสียบบัตรแบบเดิม โดยไม่มีการรับผิดชอบใดๆ
อยากสอบถามผู้รู้ว่าแบบนี้ถือเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคไหม อยากร้องเรียนไประดับที่สูงกว่า Call center ต้องร้องเรียนทางไหนครับ
เรื่องนี้ก็ถือว่าเอาประสบการณ์มาเล่าเพื่อประกอบการตัดสินใจของท่านที่จะย้ายมาใช้บริการของค่าย True แล้วกันนะครับ
ใครที่คิดจะเปลี่ยนมาใช้ Internet ของ True เข้ามาอ่านก่อนเผื่อตัดสินใจง่านขึ้น
ต่อมาได้มีเซลล์ติดต่อมาเสนอโปรโดยตรงกับตัวผมเอง โดยมาการแจ้งว่า "โปรที่เสนอให้นั้น มีความเร็วมากกว่าของเดิม
ราคาถูกกว่าเดิมและมีการแถมกล่องตัวใหม่ (True Inno Hybrid+) ซึ่งใหม่กว่าและดีกว่าของเดิม แถมโปรดูฟุตบอลฟรี 1 คู่
กล้องcctv 1 ตัว(ถ้าไม่ใช้จะไม่มีค่าบริการติดตั้ง 450฿) โดยทั้งหมดนี้ เซลล์ได้แจ้งว่า ติดตั้งฟรี ถ้าไม่เอากล้อง
พร้อมกับแนะนำให้ติดตั้งโปรใหม่ก่อน ถึงค่อยไปยกเลิกโปรเก่า" ทางผมจึงเห็นว่า น่าสนใจเพราะได้เน็ตเร็วกว่าเดิม แต่จ่ายเท่าเดิม
จึงตอบตกลงนัดวันติดตั้ง
เข้าสู่ปัญหาที่1
พอวันติดตั้งจริง ช่างก็เข้ามาติดตั้ง เปลี่ยน Router ใหม่ กล่องTVใหม่ จากเสียบบัตร เปลี่ยนเป็นกล่อง (True Inno Hybrid+) ซึ่งไม่ต้องเสียบบัตร
เพราะเป็นกล่อง Android TV แล้วก็มีกล้องcctvมา1 ตัว แต่ทางผมแจ้งไปว่าไม่ใช้กล้อง จึงไม่ได้ให้ติดตั้ง แต่พอติดตั้งInternetเสร็จ ช่างแจ้งว่า
มีค่าบริการติดตั้ง 450฿ ผมก็แจ้งกลับไปว่าเซลล์บอกไม่เสียค่าบริการ ถ้าไม่ติดตั้งกล้องcctv แต่ช่างก็บอกว่า ถึงไม่ติดตั้ง เค้าก็แถมกล้องให้อยู่ดี
เลยยอมจบปัญหาด้วยการจ่ายค่าบริการไป เพราะเสียเวลาติดตั้งInternetทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว
หลังจากนั้น พี่สาวได้ไปทำการยกเลิก แล้วคืนอุปกรณ์เก่า พนักงานที่ศูนย์บริการถามกลับว่า "เปลี่ยนโปรทำไม ของเก่าเน็ตเร็วกว่าที่เพิ่งเปลี่ยนไปอีก"
ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็ถามกลับไปว่า แล้วแบบนี้ก็เท่ากับว่าเซลล์ที่โทรมาแนะนำโปรโมชั่นก็ไม่ได้พูดความจริงตอนเสนอโปรล่ะสิ พนักงานที่ศูนย์ก็ได้แต่ปัดว่า
น่าจะเป็นเซลล์จากข้างนอกโทรไปแนะนำ ทีหลังอยากเปลี่ยนโปรให้มาเปลี่ยนที่ศูนย์บริการเท่านั้น อย่าไปเชื่อเซลล์ทางโทรศัพท์ (มีแบบนี้ด้วยหรอ)
เดี๋ยวจะประสานให้เซลล์คนที่เสนอโปรติดต่อกลับมารับผิดชอบภายใน 24ชม. จนถึงตอนนี้เดือนนึงแล้วยังไม่โทรมาเลย เท่ากับว่าผมต้องยอมทนติดสัญญา
ไปอีก2ปี โดยที่ได้เน็ตช้าลง ถึงจะเปลี่ยนโปรได้ เลยยอมๆไปเพราะคิดว่าไม่อยากเสียเวลาโยนกันไปมา อันนี้ก็จบไปปัญหาที่หนึ่ง
ปัญหาที่2
เกิดตั้งแต่อาทิตย์แรกที่ใช้งาน ตัวกล่อง True Inno Hybrid มีปัญหาค้างทุกครั้งที่เริ่มใช้งาน โทรถามช่างที่เข้ามาติดตั้ง ช่างก็แจ้งแค่ว่า ให้resetตัวกล่อง
มันหายก็จริง แต่เป็นทุกครั้งที่ใช้งาน เลยตัดสินใจโทรเข้าไปที่1242 แล้วแจ้งปัญหาไปว่ากล่องค้าง และช้ามาก ทางพนักงานฟังปัญหาจากที่แจ้ง ก็ได้ตอบ
กลับว่า มันเป็นปัญหาที่ตัวกล่องเดี๋ยวจะให้ช่างเอากล่องตัวใหม่เข้ามาเปลี่ยนให้ จึงทำการนัดช่าง พอช่างเข้ามา ช่างก็แนะนำว่า"ถึงเปลี่ยนกล่องใหม่ แต่ถ้า
เป็นกล่องรุ่นเดิม ก็จะเจอปัญหาแบบเดิม เพราะมันเป็นกล่องที่ตกรุ่นแล้ว เคยกำชับกับเซลล์ไปแล้วว่าไม่ควรเสนอกล่องนี้ให้กับลูกค้า เพราะมันมีปัญหาทุก
ตัว แต่เซลล์ก็ยังจะเสนอขายให้ลูกค้าต่อไป" พอได้ยินแบบนี้จึงปรึกษากับช่างว่าควรแก้ไขยังไง ช่างเลยแนะนำว่า ให้กลับไปใช้กล่องแบบเก่า (แบบเสียบ
บัตร)แบบที่1รุ่นต่ำกว่า ไม่เสียเงินเพิ่ม กับแบบที่2 รุ่นใหม่กว่า แต่มีค่าบริการเพิ่มเดือนละ 50฿ ผมก็เลยแย้งไปว่า ถ้าหากว่าลูกค้าคนอื่นที่ไม่ได้ใช้ Smart TV
การเปลี่ยนกล่องข้ามรุ่นนี่เหมือนกับการเอาเปรียบลูกค้าเลยนะ เพราะกล่อง True Inno Hybrid มันเป็นกล่อง Android TV ที่มีแอพพลิเคชั่นรองรับ
ส่วนกล่องแบบเสียบบัตรไม่มีแอพพลิเคชั่น ทางช่างก็ได้แค่บอกว่า ได้เคยส่งเรื่องไปทางระดับบนแล้วว่า กล่องTrue Inno Hybridมันชอบมีปัญหา
ทำไมยังเอาของ "ห่วยๆ" ไปเสนอให้ลูกค้า แต่ก็ไม่มีการปรับปรุงอะไร ช่างก็ได้แต่ไปแก้ทุกบ้านที่ติดตั้งกล่องนี้
สรุปก็คือ 1.ผมต้องยอมใช้โปรที่เน็ตช้ากว่าเดิม จาก1000/500 เหลือ 500/500 จากการเสนอโปรที่ผิดพลาด โดยไม่มีการรับผิดชอบใดๆ
2.ผมต้องยอมเปลี่ยนกล่อง จากกล่องTrue Inno Hybrid ที่รวมอยู่ในโปร แล้วกลับมาใช้กล่องแบบเสียบบัตรแบบเดิม โดยไม่มีการรับผิดชอบใดๆ
อยากสอบถามผู้รู้ว่าแบบนี้ถือเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคไหม อยากร้องเรียนไประดับที่สูงกว่า Call center ต้องร้องเรียนทางไหนครับ
เรื่องนี้ก็ถือว่าเอาประสบการณ์มาเล่าเพื่อประกอบการตัดสินใจของท่านที่จะย้ายมาใช้บริการของค่าย True แล้วกันนะครับ