ประเด็น "ไม่พบพระพุทธดำรัสว่า แต่ละคำพูดเป็นอกาลิโก"
แหล่งอ้างอิง :
http://www.anakame.com/page/1_Sutas/100/102_Sutas.htm
ในหลักฐาน ระบุว่า ผู้ปฏิบัติตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ จะพึงเห็นชัดได้ด้วยตนเอง
แหล่งอ้างอิงพระไตรปิฎกแปลภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย :
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_read.php?B=10&A=2227&w=%E4%C1%E8%A8%D3%A1%D1%B4%A1%D2%C5
ที่มีหลักระบุว่า ไม่กอบด้วยกาล นั้น
หมายถึง "ผลที่เกิดจากการที่ผู้ปฏิบัติตามธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน"
ที่กล่าวว่า ไม่กอบด้วยกาล นั่นก็คือ
"ผลจากการปฏิบัติ ธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งก็คืออริยมรรค" อันเป็นโลกุตระนั่นเอง เป็นธรรมที่ไม่ประกอบด้วยกาลเวลา
แหล่งอ้างอิงคัมภีร์อรรถกถาพระไตรปิฎกแปลภาษาไทย ฉบับหลวง :
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=30&i=532&p=1&h=%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%81#hl
และอีกประการหนึ่ง พบว่า ไม่มีหลักฐายส่วนใดของพระสูตร ระบุไว้เลยว่า "แต่ละคำพูดเป็นอกาลิโกเลย"
เปิดธรรมที่ถูกปิดโดยพุทธวจนะ ประเด็น "ไม่พบพระพุทธดำรัสว่า แต่ละคำพูดเป็นอกาลิโก"
แหล่งอ้างอิง : http://www.anakame.com/page/1_Sutas/100/102_Sutas.htm
ในหลักฐาน ระบุว่า ผู้ปฏิบัติตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ จะพึงเห็นชัดได้ด้วยตนเอง
แหล่งอ้างอิงพระไตรปิฎกแปลภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย : https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_read.php?B=10&A=2227&w=%E4%C1%E8%A8%D3%A1%D1%B4%A1%D2%C5
ที่มีหลักระบุว่า ไม่กอบด้วยกาล นั้น
หมายถึง "ผลที่เกิดจากการที่ผู้ปฏิบัติตามธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน"
ที่กล่าวว่า ไม่กอบด้วยกาล นั่นก็คือ
"ผลจากการปฏิบัติ ธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งก็คืออริยมรรค" อันเป็นโลกุตระนั่นเอง เป็นธรรมที่ไม่ประกอบด้วยกาลเวลา
แหล่งอ้างอิงคัมภีร์อรรถกถาพระไตรปิฎกแปลภาษาไทย ฉบับหลวง : https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=30&i=532&p=1&h=%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%81#hl
และอีกประการหนึ่ง พบว่า ไม่มีหลักฐายส่วนใดของพระสูตร ระบุไว้เลยว่า "แต่ละคำพูดเป็นอกาลิโกเลย"