กระทู้ครั้งแรกอาจจงงๆหน่อยนะคะ
เคยทำงานกับหัวหน้าคนนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเขาเป็นผู้ชาย หัวหน้ากับเราเป็นญาติกันแต่ไม่ค่อยสนิทกันนะคะ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราทำงานดีที่สุดเลยค่ะเรียกได้ว่าทำผลงานดีที่สุดในออฟฟิสเลย เราไม่ได้อวยตัวเองนะคะแต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆไม่ใช่ว่าคนอื่นไม่เก่งนะคะแต่เขาขิ้เกียจมาทำงานช้าไม่ค่อยเกรงใจหัวหน้าเพราะพวกเขาเป็นเพื่อนกับหัวหน้าค่ะหัวหน้ามักชมตลอดว่าเราทำงานเก่งทำงานดีแต่เรารู้สึกว่าเขาจ่ายเงินเดือนให้ไม่คุ้มเลยถึงแม้เราจะได้เงินเดือนเยอะสุดก็เถอะแต่เขาก็จ่ายให้เพื่อนๆเขาเยอะนะคะทั้งที่ไม่ค่อยเห็นทำไรเลย พอมาวันหนึงออฟฟิสก็ปิดชั่วคราวเพราะขาดทุนเราก็เลยย้ายไปทำที่อื่นแต่ก็ทำได้ไม่นานเพราะไม่มีคนสอนงานให้เราเลยลาออกแล้วกลับมาอยู่บ้านก่อน พอผ่านมาไม่กี่เดือนเองที่ทำงานเก่าที่ปิดออฟฟิสไปก็กลับมาเปิดอีกครั้งแต่เขาย้ายมาไกล้บ้านเราหัวหน้าเขาก็มาถามนะคะว่าอยากทำกับเขาอีกไหมแต่เราปฎิเสธไปค่ะ พอผ่านไปหลายเดือนเขาก็มาถามอีกแต่ตอนนี้แม่เขาก็ถามแม่เราด้วยว่าให้เราทำงานกับลูกเขาสิอะไรงิ้แล้วเราตอนนั้นก็ไม่มีงานด้วยแม่ก็เลยตอบตกลงให้เราทำงานกับเขามันเลยปฎิเสธไม่ได้แล้วเราก็เลยยอมทำ เหมือนเดิมค่ะเราทำงานดีเหมือนเดิมแล้ววันหนึงเขาก็ชวนลูกน้องไปกินข้าวข้างนอกเราก็ไปด้วย เขาชวนเพื่อนเขามาด้วยนะคะเรารู้จักทุกคนค่ะเพราะเคยเห็นหน้ากันอยู่แล้วตอนเด็กๆ เขานั่งอีกโต้เราก็นั่งกินกับเพื่อนร่วมงานสบายๆนะคะ แล้วเราก็ได้ยินโต้เขาพูดbullyเรื่องน่าตาและหุ่นค่ะคือแบบเจ็บมากถ้าเป็นที่ๆเขานั่งอยู่ เขาคงคิดว่าเราไม่ได้ยินหรอกแต่เราได้ยินหมดหัวหน้าเขาก็นั่งขำ ไม่มีอารมณ์กินต่อนํ้าตาจะไหลแต่เราพยามอั้นไวคือไม่ไหวจริงๆตอนแรกที่ได้ยินคือไม่ใช่หรอกแต่พอได้อีกคนพูดว่าทรงผมนี่เกาหลีเลยแล้วขำ ซึ่งเราตัดทรงเลเยอร์ไว้ไงเราไม่ได้ตั้งใจตัดด้วยแต่ช่างตัดผมบอกว่าเข้ากับเรา เราดูมันก็ไม่เเน่นะแต่ติดที่เราแต่งหน้าแต่งตัวไม่เป็นด้วยเราไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ตัวเองเป็นคนเงียบ ๆ ก่อนหน้านี้เราว่าจะลาออกอยู่แล้วแต่ดูแล้วเขาคงไม่ให้ออกหรอกออฟฟิสดันมาไกล้บ้านอีก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกเรารู้ว่าตอนทำงานกับเขาแรกๆเพื่อนเขาที่ไม่ใช่คนเดียวกับตอนนี้ก็ทำแบบนี้เหมือนกันถึงไม่ได้ยินตรงๆแต่เราเห็นเขาขำเราแต่เราไม่ค่อยแคร์เพราะเราทำงานเก่งกว่า แต่ครั้งนี้คือยินเต็มสองหูทั้งหุ่นเราที่เขาพูดคือมันตรงกับเราอ่ะไม่ต้องสงสัย เขาก็นั่งขำกัน
โดนหัวหน้าbullyหน้าตาและหุ่น
เคยทำงานกับหัวหน้าคนนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเขาเป็นผู้ชาย หัวหน้ากับเราเป็นญาติกันแต่ไม่ค่อยสนิทกันนะคะ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราทำงานดีที่สุดเลยค่ะเรียกได้ว่าทำผลงานดีที่สุดในออฟฟิสเลย เราไม่ได้อวยตัวเองนะคะแต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆไม่ใช่ว่าคนอื่นไม่เก่งนะคะแต่เขาขิ้เกียจมาทำงานช้าไม่ค่อยเกรงใจหัวหน้าเพราะพวกเขาเป็นเพื่อนกับหัวหน้าค่ะหัวหน้ามักชมตลอดว่าเราทำงานเก่งทำงานดีแต่เรารู้สึกว่าเขาจ่ายเงินเดือนให้ไม่คุ้มเลยถึงแม้เราจะได้เงินเดือนเยอะสุดก็เถอะแต่เขาก็จ่ายให้เพื่อนๆเขาเยอะนะคะทั้งที่ไม่ค่อยเห็นทำไรเลย พอมาวันหนึงออฟฟิสก็ปิดชั่วคราวเพราะขาดทุนเราก็เลยย้ายไปทำที่อื่นแต่ก็ทำได้ไม่นานเพราะไม่มีคนสอนงานให้เราเลยลาออกแล้วกลับมาอยู่บ้านก่อน พอผ่านมาไม่กี่เดือนเองที่ทำงานเก่าที่ปิดออฟฟิสไปก็กลับมาเปิดอีกครั้งแต่เขาย้ายมาไกล้บ้านเราหัวหน้าเขาก็มาถามนะคะว่าอยากทำกับเขาอีกไหมแต่เราปฎิเสธไปค่ะ พอผ่านไปหลายเดือนเขาก็มาถามอีกแต่ตอนนี้แม่เขาก็ถามแม่เราด้วยว่าให้เราทำงานกับลูกเขาสิอะไรงิ้แล้วเราตอนนั้นก็ไม่มีงานด้วยแม่ก็เลยตอบตกลงให้เราทำงานกับเขามันเลยปฎิเสธไม่ได้แล้วเราก็เลยยอมทำ เหมือนเดิมค่ะเราทำงานดีเหมือนเดิมแล้ววันหนึงเขาก็ชวนลูกน้องไปกินข้าวข้างนอกเราก็ไปด้วย เขาชวนเพื่อนเขามาด้วยนะคะเรารู้จักทุกคนค่ะเพราะเคยเห็นหน้ากันอยู่แล้วตอนเด็กๆ เขานั่งอีกโต้เราก็นั่งกินกับเพื่อนร่วมงานสบายๆนะคะ แล้วเราก็ได้ยินโต้เขาพูดbullyเรื่องน่าตาและหุ่นค่ะคือแบบเจ็บมากถ้าเป็นที่ๆเขานั่งอยู่ เขาคงคิดว่าเราไม่ได้ยินหรอกแต่เราได้ยินหมดหัวหน้าเขาก็นั่งขำ ไม่มีอารมณ์กินต่อนํ้าตาจะไหลแต่เราพยามอั้นไวคือไม่ไหวจริงๆตอนแรกที่ได้ยินคือไม่ใช่หรอกแต่พอได้อีกคนพูดว่าทรงผมนี่เกาหลีเลยแล้วขำ ซึ่งเราตัดทรงเลเยอร์ไว้ไงเราไม่ได้ตั้งใจตัดด้วยแต่ช่างตัดผมบอกว่าเข้ากับเรา เราดูมันก็ไม่เเน่นะแต่ติดที่เราแต่งหน้าแต่งตัวไม่เป็นด้วยเราไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ตัวเองเป็นคนเงียบ ๆ ก่อนหน้านี้เราว่าจะลาออกอยู่แล้วแต่ดูแล้วเขาคงไม่ให้ออกหรอกออฟฟิสดันมาไกล้บ้านอีก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกเรารู้ว่าตอนทำงานกับเขาแรกๆเพื่อนเขาที่ไม่ใช่คนเดียวกับตอนนี้ก็ทำแบบนี้เหมือนกันถึงไม่ได้ยินตรงๆแต่เราเห็นเขาขำเราแต่เราไม่ค่อยแคร์เพราะเราทำงานเก่งกว่า แต่ครั้งนี้คือยินเต็มสองหูทั้งหุ่นเราที่เขาพูดคือมันตรงกับเราอ่ะไม่ต้องสงสัย เขาก็นั่งขำกัน