หลังจากโรคโควิดที่ทำให้เราไม่สามารถไปเที่ยวต่างประเทศได้เลยในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ได้ผ่านไป ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะได้ไปเที่ยวต่างประเทศกันแล้ว เย้ !!!  

ปีนี้ ผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างประเทศ โดยเริ่มจากตุรกี ต่อด้วย มาเก๊า แล้วล่าสุด คือ เกาะฟู้โกว๊ก ประเทศเวียดนามครับ 

บนหัวกระทู้ ผมเทียบกับเกาะภูเก็ต เพราะ ระยะทางบินจากกรุงเทพไปภูเก็ตใช้ระยะทางประมาณ 675 กิโลเมตร แต่ระยะทางบินจากกรุงเทพไปเกาะฟู้โกว๊ก ประเทศเวียดนาม ระยะทางประมาณ 528 กิโลเมตรเท่านั้น ดังนั้น บินไปต่างประเทศเกาะนี้ใช้เวลาบินน้อยกว่าบินไปภูเก็ตของไทยเราอีกครับ   แล้วภาษาอังกฤษของ 2 เกาะนี้ ก็ขึ้นด้วย Phu ทั้งคู่เลย Phuket กับ Phú Quốc !!! บังเอิญอะไรขนาดนี้

เห็นเกาะนี้จาก Google Map มานาน ก็สงสัยเหมือนกัน ว่าเกาะใหญ่นี้ คือเกาะอะไร อยู่ไม่ไกลจากไทยเลย แถมใกล้กว่าภูเก็ตอีก ไม่คิด ไม่ฝันว่า วันนึงจะได้มาเยือนเกาะนี้เฉย  

ขอเข้าเรื่องเกร็ดความรู้นิดนึงครับ 

เกาะฟู้โกว๊ก (เวียดนาม: Phú Quốc) ในเอกสารของจอห์น ครอว์เฟิร์ด ระบุชื่อในภาษาไทยว่า เกาะดูด เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ตั้งอยู่ในอ่าวไทย โดยอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดเกียนซาง พื้นที่ 574 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรอยู่ถาวร 85,000 คน เขตการปกครองของเกาะฟู้โกว๊กนั้นประกอบด้วยเกาะใหญ่และเกาะเล็กน้อยอีก 21 เกาะ ศูนย์กลางของเกาะตั้งอยู่ที่เมืองใหญ่ที่สุดคือเซืองโดงทางชายฝั่งตะวันตก และยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเกาะอีกด้วย เศรษฐกิจของเกาะขึ้นกับการประมง เกษตรกรรมและการท่องเที่ยว เกาะนี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเวียดนาม 

เกาะฟู้โกว๊กอยู่ในอ่าวไทย ห่างจากสักซ้า (Rạch Giá) ซึ่งเป็นเมืองบนชายฝั่งของเวียดนาม 115 กิโลเมตร อยู่ห่างจากจังหวัดกำปอต ของกัมพูชา 15 กิโลเมตร และห่างจากแหลมฉบังของไทย 540 กิโลเมตร เกาะมีรูปร่างคล้ายสามเหลี่ยมที่มียอดชี้ไปทางทิศใต้ ความยาวจากเหนือลงใต้ยาว 50 กิโลเมตร ส่วนจากตะวันออกไปตะวันตกยาว 25 กิโลเมตร 

จากภาพจะเห็นว่า เกาะฟู้โกว๊กใกล้กัมพูชามากกว่าเวียดนามอีก กัมพูชาถึงเรียกร้องกันเยอะ

ผลิตภัณฑ์พื้นบ้านที่มีชื่อเสียงของเกาะคือพริกไทยดำ และน้ำปลา ปลาที่จับได้ส่วนใหญ่นำไปทำน้ำปลาและปลาร้า การปลูกพริกไทยจะปลูกทางตอนกลางของเกาะ เริ่มมีการทำฟาร์มหอยมุก การท่องเที่ยวถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของเศรษฐกิจ มี ท่าอากาศยานนานาชาติฟู้โกว๊ก ที่มีสายการบินเชื่อมต่อกับสนามบินในนครโฮจิมินห์ คือ ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ตและท่าอากาศยานสักซ้า จริงๆมีหลายเมืองในเวียดนามบินมาเกาะฟู้โกว๊กอีกด้วยทั้ง ดานัง ฮานอย ไฮฟอง ฯลฯ ส่วนไฟลท์ต่างประเทศก็มีบินจากกรุงเทพ กรุงโซล กัวลาลัมเปอร์ จากจีน และยุโรปในช่วงหน้าหนาว และมีเรือแล่นไปยังเมืองฮาเตียน

เครดิต https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%9F%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%8A%E0%B8%81

ผมไปเที่ยวเกาะฟู้โกว๊ก เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน โดยบินไปวันที่ 21 สิงหาคม และกลับวันที่ 23 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมาครับ (ถ้ากลับวันที่ 25 สิงหาคม ก็จะได้เจอแก๊งค์ไม่ยกกระเป๋า อันเลืองชื่อ ที่คุณเบ๊นซ์ อาปาเช่ ได้ประสบมาแน่นอน 55555 เกือบแล้วเรา แต่ไฟลท์ผมก็มีโดนเชิญลง โดยเจ้าหน้าที่เวียดนามคนนึงเหมือนกัน (เป็นคนเวียดนามเอง) แต่ไม่ดราม่าเท่าแก๊งค์คนไทย) 

เริ่มจากไปขึ้นเครื่องสายการบินไทยเวียดเจ็ทแอร์ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ข้อมูลปัจจุบัน มีแค่สายการบินไทยเวียดเจ็ท แอร์สายเดียวที่บินไปเกาะฟู้โกว๊ก โดนบินสัปดาห์ล่ะ 4 วัน วันอาทิตย์ จันทร์ พุธ และศุกร์ครับ

สามารถดูวิวระหว่างทางจากสุวรรณภูมิไปเกาะฟู้โกว๊กได้ที่ Link นี้ครับ https://www.youtube.com/watch?v=AvOj2oEe1nQ

บินเพียง 1 ชั่วโมง ก็มาถึงเกาะฟู้โกว๊ก ประเทศเวียดนามแล้ว เร็วมากกกก

พอลงเครื่องมา ก็นังบัสฟรีสีเขียว ไปตลาดกลางคืนฟู้โกว๊ก (Phu Quoc Night Market)

นั่งมาสัก 15 นาที ก็ถึงตลาดกลางคืนฟู้โกว๊ก

แต่เรามากลางวัน 5555 ร้านรวง แทบไม่เปิดเลย

เลยเดินไปเรื่อยๆ เดินขึ้นสะพาน Nguyen Trung Truc ชมวิถีชีวิตชาวประมงของเกาะฟู้โกว๊ก

เรือประมงบ้านเค้า ทรงเหมือนของบ้านเราเป๊ะๆเลย

เดินไปตลาดสด ชมวิถีชีวิตของชาวเกาะฟู้โกว๊กหน่อย ไปที่ไหน อยากรู้ว่า ชีวิตเค้าเป็นยังไง ให้ไปตลาดครับ

หิวไม่ไหว ขอหาร้านกินหน่อย  เดินไปหลายร้าน กว่าจะเจอร้านที่เปิด 

หมึกซาชิมิ วาซาบิแรงมากกกก

ปลาแมคเคอเรลผัดเปรี้ยวหวาน แบบเวียดนาม

มื้อนี้หมดไป 500 กว่าบาท แรงเอาเรื่องน่ะ เกาะฟู้โกว๊ก 5555

ระหว่างรอแกร๊ปไปที่พักที่อยู่ใน Grand World Phú Quốc เห็นวัดเวียดนาม สวยงามดีครับ เป็นสไตล์ Sinoshere

นั่ง Grab มอร์เตอร์ไซต์ไป ราคาประมาณ 100 กว่าบาท ระยะทางเกือบ 30 กิโลเมตร นั่งจับหมวกกันน็อคไป กันฝนไป กล้ามขึ้นเลยทีเดียว มาเวียดนามต้องแว๊นซ์มอเตอร์ไซต์ เดี๋ยวมาไม่ถึง

ตรงนี้เป็นสนามบินเก่า ได้แว๊นซ์ผ่านรันเวย์ด้วย

มาถึงที่พักด้วยอาการเปียกปอน 

พักที่ Sunset Hostel ราคาคืนล่ะ 500 กว่าบาท โอเค ไม่แพงมาก อยู่ใน Grand World Phú Quốc เลย เดินไปเที่ยวสบาย

Teddy Bear Museum อยู่ใกล้ๆที่พักมากกกก แต่ไม่ได้เข้าไป

เดินจากที่พักไปทะเลสักหน่อย เดี๋ยวจะมาไม่ถึงเกาะ ไปเกาะ ต้องไปทะเล

มีเกาะขายหัวเราะด้วยน่ะ ฟู้โกว๊ก 5555

กลับมาหาอาหารเย็นกินแถวที่พัก จัดเฝอของเมืองเว้หน่อย รสชาติ แซ่บ อร่อยใช้ได้เลยครับ

จำชื่อร้านไม่ได้ แต่เป็นร้านอาหารของเมืองเว้ (อดีตเมืองหลวงเวียดนาม) ใน Grand World Phú Quốc

พอถึงเวลา 4 ทุ่มของทุกวัน ก็จะมีการแสดง แสง สี เสียง ตระการตา ใน Grand World Phú Quốc ครับ ตอนท้าย เปิดเพลง แดนซ์ เต้นกระจายกันมันมากกกกกก  ที่สำคัญ ฟรี !!! จ้าาาาาา

ระหว่างเดินทางกลับที่พัก ก็ถ่าย Grand World Phú Quốc หน่อย ให้อารมณ์แบบเวนิส อิตาลี

คืนนี้ขอนอนก่อนครับ เดี๋ยว Day 2-3 จะมาต่อให้ใน คอมเม้นต์ต่อไปน่ะครับ พรุ่งนี้ทำต่อแน่นอน คืนนี้เผอิญมีธุระต้องรีบทำด่วนก่อนครับ ฝันดีครับ ทุกท่าน 

ผมขอส่งกระทู้นี้ร่วมสนุกกับ Pantip และ Traveloka ครับ

Let's go. ไปเที่ยวกัน! แชร์ที่เที่ยวกับTraveloka

#แชร์ที่เที่ยวกับTraveloka