รักตัวเองมากที่สุด
รักเมียน้อยรองลงมา
รักลูกกับเมียหลวงน้อยกว่านั้นจนอาจจะไม่ได้รักแล้ว(ตอนนี้แยกกันอยู่แล้ว)
พ่อมีทัศนคติเหมือนโจโฉอย่างนึงคือ ยอมทรยศคนทั้งโลกแต่ไม่ยอมให้ใครมาทรยศเขาสักคนเดียว
เรื่องสมบัติไม่ได้แอ้มพ่อสักอย่างหวงมาก ไม่ยอมเสียเปรียบใครในเรื่องการเงินแม้แต่กับภรรยาหลวงและลูก
เราไม่สามารถตรวจสอบทรัพย์สินพ่อได้เลย พอจะใช้เงินสดตลอด
ญาติฝ่ายพ่อจะพยายามป้องกันไม่ให้เจอกับเราเลยญาติขอเบอร์กับพ่อก็ไม่ให้ (เป็นตั้งแต่แยกกันอยู่)
ดูเหมือนพ่อจะรู้เรื่องกฎหมายมีเจตนา พยายามทำทุกอย่างให้เราฟ้องแกได้ทรัพย์สินให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
กว่าผมจะรู้ตัวพ่อก็เสียไปแล้วทำอะไรไม่ได้ ทรัพย์สินก็ได้กลับคืนมาน้อยมาก
จะฟ้องพ่อก็ไม่ทันแล้วเพราะพ่อเสียไปแล้ว ไปเช็คบัญชีในฐานะผู้จัดการมรดกคือพ่อแทบไม่มีบัญชีเคลื่อนไหวเลยหลังจากแยกอยู่กับแม่(เป็นไปได้ไง)
มีเงินซื้อรถมีเงินสร้างบ้านกับเมียน้อย แต่บัญชีตัวเองไม่มีการเคลื่อนไหวเกือบสิบปีแล้ว(ตั้งแต่แยกกันอยู่กับเมียน้อย)
นี่แสดงว่ามีเจตนาไม่ให้ลูกและเมียหลวงได้ทรัพย์สินใช่ไหมครับ
รักตัวเองอันดับ1 มากกว่าเมียหลวงและลูก
พ่อรักตัวเองมากกว่าครอบครัวและลูก เป็นท่านจะรู้สึกยังไงครับ
รักเมียน้อยรองลงมา
รักลูกกับเมียหลวงน้อยกว่านั้นจนอาจจะไม่ได้รักแล้ว(ตอนนี้แยกกันอยู่แล้ว)
พ่อมีทัศนคติเหมือนโจโฉอย่างนึงคือ ยอมทรยศคนทั้งโลกแต่ไม่ยอมให้ใครมาทรยศเขาสักคนเดียว
เรื่องสมบัติไม่ได้แอ้มพ่อสักอย่างหวงมาก ไม่ยอมเสียเปรียบใครในเรื่องการเงินแม้แต่กับภรรยาหลวงและลูก
เราไม่สามารถตรวจสอบทรัพย์สินพ่อได้เลย พอจะใช้เงินสดตลอด
ญาติฝ่ายพ่อจะพยายามป้องกันไม่ให้เจอกับเราเลยญาติขอเบอร์กับพ่อก็ไม่ให้ (เป็นตั้งแต่แยกกันอยู่)
ดูเหมือนพ่อจะรู้เรื่องกฎหมายมีเจตนา พยายามทำทุกอย่างให้เราฟ้องแกได้ทรัพย์สินให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
กว่าผมจะรู้ตัวพ่อก็เสียไปแล้วทำอะไรไม่ได้ ทรัพย์สินก็ได้กลับคืนมาน้อยมาก
จะฟ้องพ่อก็ไม่ทันแล้วเพราะพ่อเสียไปแล้ว ไปเช็คบัญชีในฐานะผู้จัดการมรดกคือพ่อแทบไม่มีบัญชีเคลื่อนไหวเลยหลังจากแยกอยู่กับแม่(เป็นไปได้ไง)
มีเงินซื้อรถมีเงินสร้างบ้านกับเมียน้อย แต่บัญชีตัวเองไม่มีการเคลื่อนไหวเกือบสิบปีแล้ว(ตั้งแต่แยกกันอยู่กับเมียน้อย)
นี่แสดงว่ามีเจตนาไม่ให้ลูกและเมียหลวงได้ทรัพย์สินใช่ไหมครับ
รักตัวเองอันดับ1 มากกว่าเมียหลวงและลูก