พระยาจันทพาณิชย์ สถิตสุวรรณภูมิ
พระยาจันทพาณิชย์ สถิตสุวรรณภูมิ ผู้ก่อตั้งนครเวียงจันท์ เมืองหลวงของรัฐจันทคาม เดิมชื่อท้าวจันทะ มีชาติกำเนิดเป็นสามัญชนซึ่งประกอบอาชีพขายใบพลูกินกับหมาก แต่ละวันท้าวจันทะจะหาบตะกร้าขายใบพลูให้ไทบ้านโดยอาศัยวัดเป็นที่พักแรมค้างคืน คืนหนึ่งท้าวจันทะฝันว่าตนสามารถพิชิตดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ด้วยสองมือสองเท้า และในคืนเดียวกันมหาเถระชาวเมืองละโว้ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดก็ได้ยินเสียงดนตรีประหลาดแว่วมาตามสายลมจึงปลุกท้าวจันทะตื่นจากฝันเพื่อฟังเสียงดนตรี วันรุ่งขึ้นท้าวจันทะจึงขอให้คนดูเมื่อช่วยทำนายฝันให้ แต่ไม่มีใครสามารถทำนายฝันได้ ท้าวจันทะจึงขอให้มหาเถระทำนายฝันให้ มหาเถระจึงให้ท้าวจันทะแก้เคล็ดโดยนำมะเขือไปกินกับปลาร้าแล้วสระผม ท้าวจันทะจึงทำตามทุกอย่าง มหาเถระทำนายฝันอิงตามตำรานรลักษณ์ให้ท้าวจันทะว่า หากท้าวจันทะเดินทางขึ้นเหนือไปจนถึงปากแม่น้ำอู ท้าวจันทะจะได้เป็นกษัตริย์ที่มั่งคั่งร่ำรวยด้วยโภไคศวรรย์จนเหล่าวงศ์กษัตริย์สุริยวงศ์และวงศ์กษัตริย์จันทรวงศ์ต้องยอมอ่อนน้อมด้วย แต่ท้าวจันทะห้ามเก็บก้อนทองคำที่พบระหว่างล่องเรือ ถ้าฝืนเก็บจะไม่มีโชคลาภ ท้าวจันทะจึงทำตามพร้อมกำชับลูกเรืออย่าเก็บก้อนทองคำที่ติดไม้พายมาแม้แต่ก้อนเดียว เมื่อถึงเกาะดอนทรายควายห้าบริเวณปากแม่น้ำอู เทวดาซึ่งลองใจท้าวจันทะจึงแปลงกายเป็นชายชราแบกกระสอบใส่ก้อนหินจำนวนหลายมาขอแลกเปลี่ยนสินค้า ท้าวจันทะจึงยอมแลกสินค้าในเรือกับก้อนหินในกระสอบโดยไม่ฟังคำทักท้วงของเหล่าลูกเรือ เทวดาจึงเนรมิตให้ก้อนหินเหล่านั้นรวมถึงก้อนหินเม็ดทรายบริเวณเกาะดอนทรายควายห้ากลายเป็นทองคำ เมื่อไทบ้านเห็นดังนั้นจึงเปลี่ยนชื่อเกาะดอนทรายควายห้าเป็น "เกาะดอนทรายมงคล" และทำพิธีโภคาภิเษกให้ท้าวจันทะขึ้นเป็นกษัตริย์นั่งอยู่บนกองทองคำ เฉลิมพระนามว่า "พระยาจันทพาณิชย์ สถิตสุวรรณภูมิ" และช่วยกันสร้างเมืองใหม่บริเวณนั้นทั้งหมด 7 เมืองได้แก่ เชียงดง เชียงทอง เชียงเงิน เชียงแมน เชียงม่วน เชียงมวก และเชียงเหล็ก เพื่อเป็น "เมืองเซา" หรือจุดแวะพักของเหล่าพ่อค้าซึ่งเดินทางเลียบแม่น้ำเหนือจากนาน้อยอ้อยหนูล่องแม่น้ำอูออกแม่น้ำของ พระยาจันทพาณิชย์จึงนำก้อนทองคำจากดอนทรายมงคลไปแจกจ่ายให้ไทบ้านไทเมืองโดยทั่วถึงกันทุกคน ไทบ้านไทเมืองจึงแซ่ซ้องสรรเสริญพระยาจันทพาณิชย์ ต่อมาพระยาจันทพาณิชย์ได้กลับไปสร้างวัดหลังใหม่ชื่อว่า "วัดจันทาราม" ให้มหาเถระซึ่งเคยช่วยทำนายฝันเป็นเจ้าอาวาส และเกณฑ์ไพร่พลขนก้อนดินจี่ไปก่อสร้างพุทธสถานขนาดใหญ่ชื่อว่า "ไชยโลหะปราสาท" เพื่อประดิษฐานพระธาตุทั้ง 9 ซึ่งอัญเชิญมาจาก 8 ทิศ โดยมีพระจอมโมลีเกศาธาตุประดิษฐานอยู่กลางโลหะปราสาท เจดีย์ทั้ง 9 องค์ทำจากทองคำซึ่งขุดพบระหว่างก่อสร้างฐานโลหะปราสาท พระยาจันทพาณิชย์ขยายชุมชนโดยรอบวัดขึ้นเป็นเมืองใหญ่ชื่อ "นครเวียงจันท์" และรวบรวมบ้านเมืองที่อยู่ใกล้เคียงกันขึ้นเป็นแว่นแคว้น พระยาจันทพาณิชย์เป็นเจ้าแห่งทองคำ ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยศีลธรรม ไทเมืองต่างอยู่เย็นเป็นสุข ต่อมามหาเถระได้ทำนายว่า ภายภาคหน้าบ้านเมืองจะวิบัติล่มจมเพราะผู้คนขาดศีลธรรม ลูกหลานไทบ้านไทเมืองจะทุกข์ยากจนไม่มีกำลังทรัพย์บำรุงพระพุทธศาสนา พระยาจันทพาณิชย์จึงแบ่งราชทรัพย์และพระธาตุไปเก็บรักษาไว้ให้คนรุ่นหลังที่ถ้ำภูซวงซึ่งตั้งอยู่นอกเมืองตามคำแนะนำของมหาเถระ โดยมีงูซวงเฝ้าอยู่ภายในถ้ำและมีนกกระยางปูนปั้นอยู่ที่ปากถ้ำ หากผู้ใดสามารถไขปริศนาธรรมทั้ง 12 ข้อ ซึ่งจารึกไว้บริเวณปากถ้ำจะเข้าถึงขุมทรัพย์ของพระยาจันทพาณิชย์ เมื่อเหล่าไพร่พลนำทรัพย์สมบัติไปเก็บไว้ในถ้ำภูซวงแล้ว พระยาจันทพาณิชย์จึงจัดพิธีบูชาพระธาตุนาน 7 วัน 7 คืน เมื่อสิ้นรัชสมัยของพระยาจันทพาณิชย์ เจ้าฟ้าฮั่วโอรสองค์แรกกับเจ้าฟ้าแหลวโอรสองค์ที่สองได้ออกไปสร้างเมืองใหม่และให้เจ้าฟ้าฮ่วนโอรสองค์สุดท้องขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองนครเวียงจันท์ต่อจากบิดา เจ้าฟ้าฮ่วนปรากฏในนิทานพื้นบ้านหลายเรื่องและมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปอย่างเช่น พระยาลุนจากเรื่องท้าวกำพร้าหมากเขือ พระยาไตรตรึงษ์จากเรื่องท้าวแสนปม พระยาอุ่นเมืองจากเรื่องท้าวกำพร้าสามปูดสามเปา พระยาอุ่นเฮือนจากเรื่องท้าวกำพร้ากับลิง และนางอุ่นเฮือน มเหสีของพระยาพลเจ้าเมืองแพร่ มารดาของนางแก้วกษัตริย์ซึ่งเป็นหนึ่งในมเหสีของพระยาเจืองในมหากาพย์แห่งอุษาคเนย์ เจ้าฟ้าฮ่วนตามสำนวนนิทานพื้นบ้านมักจะมีธิดาเพียงองค์เดียว ไม่มีโอรสสืบราชบัลลังก์ ต่อมาธิดาเจ้าฟ้าฮ่วนได้ให้กำเนิดโอรสโดยไม่รู้ว่าใครคือบิดาจึงถูกเนรเทศออกจากนครเวียงจันท์ แต่โอรสของธิดาเจ้าฟ้าฮ่วนเป็นผู้มีบุญญาธิการ เหล่าเทวดาจึงลงมาสร้างเมืองใหม่ที่มีคูน้ำคันดินล้อมรอบชื่อ "เมืองนพบุรี" ให้ประทับ เมื่อโอรสเจริญวัยจึงไปทวงสิทธิ์รัชทายาทจากเจ้าฟ้าฮ่วน แต่เจ้าฟ้าฮ่วนไม่ยอมมอบให้ เหล่าเทวดาจึงลงมาช่วยโอรสของธิดาเจ้าฟ้าฮ่วนยึดนครเวียงจันท์จากเจ้าฟ้าฮ่วน เหล่าเสนาบดีที่ไม่ยอมรับชาติกำเนิดอันคลุมเครือของกษัตริย์องค์ใหม่จึงย้ายออกไปสร้างเมืองใหม่ชื่อ "เมืองจันทะ" ต่อมาเมืองเซาทั้ง 7 เชียง ซึ่งพระยาจันทพาณิชย์เคยสร้างไว้เพื่อติดต่อกับบ้านเมืองในเขตนาน้อยอ้อยหนูถูกผนวกเข้าเป็นเมืองบริวารของนครเงินยาง พระยาเจืองส่งโอรสไปปกครองเมืองเซาและมีกษัตริย์สืบมาจนถึงรัชสมัยของขุนฮาง ฝ่ายขุนลอซึ่งมีฐานอำนาจอยู่ในเขตนาน้อยอ้อยหนูได้ขยายอำนาจมายังเมืองเซาและขับไล่ขุนฮางไปเป็นผู้นำของชนเผ่าลาวเทิง ขุนลอตั้งเมืองเชียงทองเป็นศูนย์กลางนครรัฐและมีกษัตริย์ปกครองสืบมาจนถึงรัชสมัยของพระยาสุวรรณคำผง เจ้าฟ้างุ้มนัดดาของพระยาสุวรรณคำผงซึ่งลี้ภัยไปเมืองอินทปัตถนครได้ยกกองทัพมาทวงสิทธิ์รัชทายาทจากพระยาสุวรรณคำผงจนได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ และเปลี่ยนชื่อเมืองเชียงทองเป็น "หลวงพระบาง" ตามชื่อพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองซึ่งอัญเชิญมาจากเมืองอินทปัตถนคร เจ้าฟ้างุ้มรวบรวมเมืองบริวารขึ้นเป็นอาณาจักรล้านช้าง และในรัชสมัยของเจ้าฟ้างุ้ม เจ้าเสือข่านฟ้าซึ่งปกครองเมืองมาวได้ผนวกเมืองจันทะเข้าเป็นเมืองบริวาร และรวบรวมเมืองบริวารขึ้นเป็นอาณาจักรหมอกขาวมาวหลวง เหล่าไทบ้านไทเมืองจึงถูกกลืนกลายเป็นไทใหญ่และส่งลูกหลานกลับมาเป็นแง้วกุลาค้าขายกับไทลาว นครทองคำที่หายสาบสูญของพระยาจันทพาณิชย์ สถิตสุวรรณภูมิ จึงไม่เลือนหายไปจากความทรงจำของไทบ้านไทเมืองที่เล่าขานสืบมาจนถึงปัจจุบัน
สืบเนื่องจากกระทู้
https://ppantip.com/topic/42177179
อัพเดทข้อมูล
อ่านกระทู้ต่อเนื่องได้ที่
https://ppantip.com/topic/42217619
พระยาจันทพาณิชย์ สถิตสุวรรณภูมิ กษัตริย์ผู้สร้างนครทองคำที่หายสาบสูญไปจากประวัติศาสตร์ไทย
พระยาจันทพาณิชย์ สถิตสุวรรณภูมิ
พระยาจันทพาณิชย์ สถิตสุวรรณภูมิ ผู้ก่อตั้งนครเวียงจันท์ เมืองหลวงของรัฐจันทคาม เดิมชื่อท้าวจันทะ มีชาติกำเนิดเป็นสามัญชนซึ่งประกอบอาชีพขายใบพลูกินกับหมาก แต่ละวันท้าวจันทะจะหาบตะกร้าขายใบพลูให้ไทบ้านโดยอาศัยวัดเป็นที่พักแรมค้างคืน คืนหนึ่งท้าวจันทะฝันว่าตนสามารถพิชิตดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ด้วยสองมือสองเท้า และในคืนเดียวกันมหาเถระชาวเมืองละโว้ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดก็ได้ยินเสียงดนตรีประหลาดแว่วมาตามสายลมจึงปลุกท้าวจันทะตื่นจากฝันเพื่อฟังเสียงดนตรี วันรุ่งขึ้นท้าวจันทะจึงขอให้คนดูเมื่อช่วยทำนายฝันให้ แต่ไม่มีใครสามารถทำนายฝันได้ ท้าวจันทะจึงขอให้มหาเถระทำนายฝันให้ มหาเถระจึงให้ท้าวจันทะแก้เคล็ดโดยนำมะเขือไปกินกับปลาร้าแล้วสระผม ท้าวจันทะจึงทำตามทุกอย่าง มหาเถระทำนายฝันอิงตามตำรานรลักษณ์ให้ท้าวจันทะว่า หากท้าวจันทะเดินทางขึ้นเหนือไปจนถึงปากแม่น้ำอู ท้าวจันทะจะได้เป็นกษัตริย์ที่มั่งคั่งร่ำรวยด้วยโภไคศวรรย์จนเหล่าวงศ์กษัตริย์สุริยวงศ์และวงศ์กษัตริย์จันทรวงศ์ต้องยอมอ่อนน้อมด้วย แต่ท้าวจันทะห้ามเก็บก้อนทองคำที่พบระหว่างล่องเรือ ถ้าฝืนเก็บจะไม่มีโชคลาภ ท้าวจันทะจึงทำตามพร้อมกำชับลูกเรืออย่าเก็บก้อนทองคำที่ติดไม้พายมาแม้แต่ก้อนเดียว เมื่อถึงเกาะดอนทรายควายห้าบริเวณปากแม่น้ำอู เทวดาซึ่งลองใจท้าวจันทะจึงแปลงกายเป็นชายชราแบกกระสอบใส่ก้อนหินจำนวนหลายมาขอแลกเปลี่ยนสินค้า ท้าวจันทะจึงยอมแลกสินค้าในเรือกับก้อนหินในกระสอบโดยไม่ฟังคำทักท้วงของเหล่าลูกเรือ เทวดาจึงเนรมิตให้ก้อนหินเหล่านั้นรวมถึงก้อนหินเม็ดทรายบริเวณเกาะดอนทรายควายห้ากลายเป็นทองคำ เมื่อไทบ้านเห็นดังนั้นจึงเปลี่ยนชื่อเกาะดอนทรายควายห้าเป็น "เกาะดอนทรายมงคล" และทำพิธีโภคาภิเษกให้ท้าวจันทะขึ้นเป็นกษัตริย์นั่งอยู่บนกองทองคำ เฉลิมพระนามว่า "พระยาจันทพาณิชย์ สถิตสุวรรณภูมิ" และช่วยกันสร้างเมืองใหม่บริเวณนั้นทั้งหมด 7 เมืองได้แก่ เชียงดง เชียงทอง เชียงเงิน เชียงแมน เชียงม่วน เชียงมวก และเชียงเหล็ก เพื่อเป็น "เมืองเซา" หรือจุดแวะพักของเหล่าพ่อค้าซึ่งเดินทางเลียบแม่น้ำเหนือจากนาน้อยอ้อยหนูล่องแม่น้ำอูออกแม่น้ำของ พระยาจันทพาณิชย์จึงนำก้อนทองคำจากดอนทรายมงคลไปแจกจ่ายให้ไทบ้านไทเมืองโดยทั่วถึงกันทุกคน ไทบ้านไทเมืองจึงแซ่ซ้องสรรเสริญพระยาจันทพาณิชย์ ต่อมาพระยาจันทพาณิชย์ได้กลับไปสร้างวัดหลังใหม่ชื่อว่า "วัดจันทาราม" ให้มหาเถระซึ่งเคยช่วยทำนายฝันเป็นเจ้าอาวาส และเกณฑ์ไพร่พลขนก้อนดินจี่ไปก่อสร้างพุทธสถานขนาดใหญ่ชื่อว่า "ไชยโลหะปราสาท" เพื่อประดิษฐานพระธาตุทั้ง 9 ซึ่งอัญเชิญมาจาก 8 ทิศ โดยมีพระจอมโมลีเกศาธาตุประดิษฐานอยู่กลางโลหะปราสาท เจดีย์ทั้ง 9 องค์ทำจากทองคำซึ่งขุดพบระหว่างก่อสร้างฐานโลหะปราสาท พระยาจันทพาณิชย์ขยายชุมชนโดยรอบวัดขึ้นเป็นเมืองใหญ่ชื่อ "นครเวียงจันท์" และรวบรวมบ้านเมืองที่อยู่ใกล้เคียงกันขึ้นเป็นแว่นแคว้น พระยาจันทพาณิชย์เป็นเจ้าแห่งทองคำ ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยศีลธรรม ไทเมืองต่างอยู่เย็นเป็นสุข ต่อมามหาเถระได้ทำนายว่า ภายภาคหน้าบ้านเมืองจะวิบัติล่มจมเพราะผู้คนขาดศีลธรรม ลูกหลานไทบ้านไทเมืองจะทุกข์ยากจนไม่มีกำลังทรัพย์บำรุงพระพุทธศาสนา พระยาจันทพาณิชย์จึงแบ่งราชทรัพย์และพระธาตุไปเก็บรักษาไว้ให้คนรุ่นหลังที่ถ้ำภูซวงซึ่งตั้งอยู่นอกเมืองตามคำแนะนำของมหาเถระ โดยมีงูซวงเฝ้าอยู่ภายในถ้ำและมีนกกระยางปูนปั้นอยู่ที่ปากถ้ำ หากผู้ใดสามารถไขปริศนาธรรมทั้ง 12 ข้อ ซึ่งจารึกไว้บริเวณปากถ้ำจะเข้าถึงขุมทรัพย์ของพระยาจันทพาณิชย์ เมื่อเหล่าไพร่พลนำทรัพย์สมบัติไปเก็บไว้ในถ้ำภูซวงแล้ว พระยาจันทพาณิชย์จึงจัดพิธีบูชาพระธาตุนาน 7 วัน 7 คืน เมื่อสิ้นรัชสมัยของพระยาจันทพาณิชย์ เจ้าฟ้าฮั่วโอรสองค์แรกกับเจ้าฟ้าแหลวโอรสองค์ที่สองได้ออกไปสร้างเมืองใหม่และให้เจ้าฟ้าฮ่วนโอรสองค์สุดท้องขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองนครเวียงจันท์ต่อจากบิดา เจ้าฟ้าฮ่วนปรากฏในนิทานพื้นบ้านหลายเรื่องและมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปอย่างเช่น พระยาลุนจากเรื่องท้าวกำพร้าหมากเขือ พระยาไตรตรึงษ์จากเรื่องท้าวแสนปม พระยาอุ่นเมืองจากเรื่องท้าวกำพร้าสามปูดสามเปา พระยาอุ่นเฮือนจากเรื่องท้าวกำพร้ากับลิง และนางอุ่นเฮือน มเหสีของพระยาพลเจ้าเมืองแพร่ มารดาของนางแก้วกษัตริย์ซึ่งเป็นหนึ่งในมเหสีของพระยาเจืองในมหากาพย์แห่งอุษาคเนย์ เจ้าฟ้าฮ่วนตามสำนวนนิทานพื้นบ้านมักจะมีธิดาเพียงองค์เดียว ไม่มีโอรสสืบราชบัลลังก์ ต่อมาธิดาเจ้าฟ้าฮ่วนได้ให้กำเนิดโอรสโดยไม่รู้ว่าใครคือบิดาจึงถูกเนรเทศออกจากนครเวียงจันท์ แต่โอรสของธิดาเจ้าฟ้าฮ่วนเป็นผู้มีบุญญาธิการ เหล่าเทวดาจึงลงมาสร้างเมืองใหม่ที่มีคูน้ำคันดินล้อมรอบชื่อ "เมืองนพบุรี" ให้ประทับ เมื่อโอรสเจริญวัยจึงไปทวงสิทธิ์รัชทายาทจากเจ้าฟ้าฮ่วน แต่เจ้าฟ้าฮ่วนไม่ยอมมอบให้ เหล่าเทวดาจึงลงมาช่วยโอรสของธิดาเจ้าฟ้าฮ่วนยึดนครเวียงจันท์จากเจ้าฟ้าฮ่วน เหล่าเสนาบดีที่ไม่ยอมรับชาติกำเนิดอันคลุมเครือของกษัตริย์องค์ใหม่จึงย้ายออกไปสร้างเมืองใหม่ชื่อ "เมืองจันทะ" ต่อมาเมืองเซาทั้ง 7 เชียง ซึ่งพระยาจันทพาณิชย์เคยสร้างไว้เพื่อติดต่อกับบ้านเมืองในเขตนาน้อยอ้อยหนูถูกผนวกเข้าเป็นเมืองบริวารของนครเงินยาง พระยาเจืองส่งโอรสไปปกครองเมืองเซาและมีกษัตริย์สืบมาจนถึงรัชสมัยของขุนฮาง ฝ่ายขุนลอซึ่งมีฐานอำนาจอยู่ในเขตนาน้อยอ้อยหนูได้ขยายอำนาจมายังเมืองเซาและขับไล่ขุนฮางไปเป็นผู้นำของชนเผ่าลาวเทิง ขุนลอตั้งเมืองเชียงทองเป็นศูนย์กลางนครรัฐและมีกษัตริย์ปกครองสืบมาจนถึงรัชสมัยของพระยาสุวรรณคำผง เจ้าฟ้างุ้มนัดดาของพระยาสุวรรณคำผงซึ่งลี้ภัยไปเมืองอินทปัตถนครได้ยกกองทัพมาทวงสิทธิ์รัชทายาทจากพระยาสุวรรณคำผงจนได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ และเปลี่ยนชื่อเมืองเชียงทองเป็น "หลวงพระบาง" ตามชื่อพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองซึ่งอัญเชิญมาจากเมืองอินทปัตถนคร เจ้าฟ้างุ้มรวบรวมเมืองบริวารขึ้นเป็นอาณาจักรล้านช้าง และในรัชสมัยของเจ้าฟ้างุ้ม เจ้าเสือข่านฟ้าซึ่งปกครองเมืองมาวได้ผนวกเมืองจันทะเข้าเป็นเมืองบริวาร และรวบรวมเมืองบริวารขึ้นเป็นอาณาจักรหมอกขาวมาวหลวง เหล่าไทบ้านไทเมืองจึงถูกกลืนกลายเป็นไทใหญ่และส่งลูกหลานกลับมาเป็นแง้วกุลาค้าขายกับไทลาว นครทองคำที่หายสาบสูญของพระยาจันทพาณิชย์ สถิตสุวรรณภูมิ จึงไม่เลือนหายไปจากความทรงจำของไทบ้านไทเมืองที่เล่าขานสืบมาจนถึงปัจจุบัน
สืบเนื่องจากกระทู้ https://ppantip.com/topic/42177179
อัพเดทข้อมูล
อ่านกระทู้ต่อเนื่องได้ที่ https://ppantip.com/topic/42217619