ยังไม่สิ้นหวัง "พริษฐ์ วัชรสินธุ" อดีตประชาธิปัตย์ กลายเป็นอนาคตใหม่ของพรรคก้าวไกล

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ







[ ญัตติด่วนให้สภาฯ พิจารณาเห็นชอบและ แจ้ง ครม. จัดประชามติ เดินหน้ารัฐธรรมนูญใหม่ ]
.
📌 ถามประชาชนตรงไปตรงมา เห็นด้วยหรือไม่ ทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้ง 100%
 📌 หวังทุกพรรคสนับสนุน เร่งบรรจุวาระพิจารณาสัปดาห์หน้าทันที
-----------
วันนี้ ผมและพรรคก้าวไกลได้เสนอญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบและแจ้งให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการให้มีการออกเสียงประชามติ เพื่อสอบถามความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
.
🍊 [ ทำรัฐธรรมนูญใหม่ ฟื้นฟูประชาธิปไตยไทย คืนความปกติให้การเมือง ]
.
พรรคก้าวไกลยืนยันมาตลอดว่าภารกิจสำคัญในการฟื้นฟูประชาธิปไตยและนำพาการเมืองไทยกลับสู่สภาวะประชาธิปไตยปกติ คือการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มาแทนที่รัฐธรรมนูญ 2560 ที่พรรคก้าวไกลมองว่าขาดความชอบธรรมทางประชาธิปไตยทั้ง ที่มา กระบวนการ เนื้อหา และมีส่วนนำพาประเทศไทยมาสู่วิกฤตทางการเมือง ณ ปัจจุบัน
.
หากดำเนินการตามกระบวนการที่ถูกกำหนดโดยรัฐธรรมนูญ 2560 ขั้นตอนในการนำพาประเทศไปสู่การมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อาจต้องอาศัยการที่ประชาชนเข้าคูหาทั้งหมด 4 ครั้ง ประกอบด้วย ประชามติ 2 ครั้ง ต่อด้วยการเลือกตั้ง สสร. 1 ครั้ง และประชามติหลังมีร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ร่างโดยสสร. 1 ครั้ง
.
โดยขั้นตอนแรกคือการจัดทำประชามติครั้งที่ 1 ก่อนจะมีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญใดๆ เกี่ยวกับ สสร. เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา เพื่อถามประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่ให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
.
แม้การจัดประชามติครั้งที่ 1 นี้ อาจไม่ได้มีความจำเป็นในเชิงกฎหมาย แต่หากประชาชนลงมติเห็นชอบกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผลของประชามติดังกล่าว จะทำให้ไม่มีสมาชิกรัฐสภาคนใดสามารถยกเหตุผลใดๆ หรือหยิบคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ 4/2564 มาปัดตกเจตจำนงของประชาชนได้
.
🍊 [ ปีศาจอยู่ในรายละเอียด = คำถามในประชามติ ]
 .
ผมเชื่อว่าหลายพรรคเห็นตรงกัน ว่าการจัดประชามติลักษณะนี้ เป็นกระดุมเม็ดแรกในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่เราควรติดโดยเร็ว แต่ "ปีศาจอยู่ในรายละเอียด" เสมอ และรายละเอียดที่สำคัญของประชามติที่จะเกิดขึ้น คือคำถามในประชามติ
.
หากเราต้องการให้ประชามติดังกล่าวนำไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่สะท้อนฉันทามติใหม่ของสังคม พรรคก้าวไกลเสนอว่าคำถามควรถูกใช้ในประชามติครั้งที่ 1 คือ: "ท่านเห็นชอบหรือไม่ ว่าประเทศไทยควรมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ แทนที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๐ ฉบับปัจจุบัน โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน?"
.
🍊 [ 4 เหตุผล ทำไมคำถามนี้จะนำไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่สะท้อนฉันทามติใหม่ของสังคม ]
.
👉 1. เป็นการถามเพื่อยืนยันหลักการสำคัญ ว่าควรมีการร่าง ‘รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ’ - พรรคก้าวไกลยืนยันจุดยืนมาตลอด ว่าควรร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เพราะรัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ได้มีปัญหาเพียงแค่ไม่กี่มาตรา ที่การแก้ไขรายมาตราเพียงอย่างเดียวจะเพียงพอ แต่รัฐธรรมนูญ 2560 มีปัญหาเรื่องความชอบธรรมทางประชาธิปไตยด้านที่มา กระบวนการ และมีปัญหาเชิงเนื้อหาสาระในหลายมาตราที่มีลักษณะพัวพันกัน เช่น อำนาจและที่มาของวุฒิสภา อำนาจและที่มาองค์กรอิสระ ช่องโหว่ในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ดังนั้น คำถามว่าควรมีการร่างใหม่ทั้งฉบับหรือไม่ จึงเป็นคำถามที่มีความสำคัญต่ออนาคตการเมืองไทย และควรถูกบรรจุในคำถามประชามติครั้งที่ 1
.
👉 2. เป็นการถามเพื่อยืนยันหลักการสำคัญ ว่า สสร. ควรมาจากการเลือกตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ - รายละเอียดอื่นๆ ของ สสร. ไม่ว่าจะเป็น จำนวนสมาชิก ระบบเลือกตั้ง สสร. ระยะเวลาทำงาน เป็นรายละเอียดที่สามารถถกเถียงกันในขั้นตอนต่อไปได้ แต่หลักการสำคัญที่ต้องถามประชาชนให้ยืนยันตั้งแต่ประชามติครั้งที่ 1 คือหลักการว่า สสร. ควรมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด เพื่อให้ สสร. ที่จะมาร่างกฎหมายสูงสุดของประเทศ ประกอบด้วยตัวแทนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และเป็นตัวแทนของทุกชุดความคิดในสังคม
.
ทั้งนี้ ต้องย้ำว่าการกำหนดให้ สสร. มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีพื้นที่ให้ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะแม้มีการเลือกตั้ง สสร. 100% ก็สามารถตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างเพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายที่อาจไม่ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สสร. เข้ามามีส่วนร่วมได้ แต่การทำให้ สสร. มาจากการเลือกตั้ง 100% เป็นการวางหลักประกันว่าทุกการตัดสินใจของ สสร. จะกระทำโดยตัวแทนที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน
.
👉 3. เป็นคำถามที่ ‘เข้าใจง่าย ไม่ชี้นำ - ข้อวิจารณ์สำคัญต่อคำถามพ่วงในประชามติ 2559 ที่นำมาสู่มาตรา 272 ให้ สว. แต่งตั้งมีอำนาจร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี คือการที่คำถามไม่ได้ถามเรื่องดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา แต่เป็นการเขียนคำถามที่มีลักษณะซับซ้อนและชี้นำโดยเจตนา
.
👉 4. เป็นคำถามที่ทุกพรรคการเมืองหลักจากสภาฯ ชุดที่แล้ว เคยลงมติเห็นชอบมาแล้ว - คำถามที่เสนอไม่ได้เป็นคำถามใหม่ แต่เคยถูกเสนอเป็นญัตติด่วนโดย สส. พรรคก้าวไกล คือ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ และ สส. พรรคเพื่อไทย คือ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อปี 2565
.
ยิ่งไปกว่านั้น ญัตติด่วนที่เสนอคำถามประชามติดังกล่าว ได้รับความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากสภาผู้แทนราษฎร จาก สส.ทุกพรรคการเมืองหลักที่เข้าประชุม เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2565 โดยผลคะแนนคือ เห็นด้วย 324 ราย (เช่น จากพรรคเพื่อไทย 62 สส. จากพรรคพลังประชารัฐ 57 ส.ส. จากพรรคภูมิใจไทย 32 สส. จากพรรคประชาธิปัตย์ และ 44 สส. จากพรรคก้าวไกล) ไม่เห็นด้วย 0 ราย งดออกเสียง 1 ราย
.
🍊 [ ขอทุกพรรคการเมืองสนับสนุน ให้มีการพิจารณาญัตตินี้โดยเร็วที่สุด ]
.
สำหรับขั้นตอนต่อไป การเสนอให้จัดประชามติ รวมถึงการเสนอคำถามประชามตินั้น หากอ้างอิงตาม พ.ร.บ.ประชามติ 2564 สามารถดำเนินการได้ 3 ช่องทาง ได้แก่:
(1) ครม. ออกมติด้วยตนเอง
(2) ประชาชนเข้าชื่อ 50,000 คน เพื่อเสนอให้ ครม. อนุมัติ ซึ่งขณะนี้มีภาคประชาชนกำลังรวบรวมรายชื่อเพื่อยื่นข้อเสนอนี้อยู่ภายใต้ชื่อ ‘conforall’ (https://conforall.com/#petition) และ
(3) สมาชิกรัฐสภาเสนอให้สภาผู้แทนฯ และวุฒิสภาเห็นชอบ เพื่อแจ้ง ครม. ให้ดำเนินการ
.
เรามองว่าเพื่อความรวดเร็ว ไม่มีความจำเป็นต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง แต่ดำเนินการคู่ขนานกันได้ ดังนั้น วันนี้พรรคก้าวไกลจึงจะใช้กลไกของสภา เพื่อเสนอญัตติด่วนดังกล่าวฯ ตามคำถามที่เราได้เสนอไว้ ซึ่งสอดคล้องกับคำถามที่ภาคประชาชนเสนอในการเข้าชื่อ
.
ผมและพรรคก้าวไกลเลยขอความร่วมมือจากทุกพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่ประกาศเห็นชอบกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มาร่วมมือกับเราในการให้มีการพิจารณาญัตตินี้โดยเร็วที่สุด ทันทีที่มีการบรรจุเข้าระเบียบวาระ
.
#ก้าวไกล #ประชามติ #รัฐธรรมนูญใหม่







แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่