หลังบ้าน

หลังบ้าน
สวัสดีครับ
ผมชื่อมาร์ค เป็นคนจังหวัดหนึ่งในภาคเหนือ ซึ่งต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ ผมยังเป็นเด็ก ตั้งแต่เกิดมาผมได้
อาศัยอยู่ที่บ้าน กับตาและยาย และพี่สาวพี่ชาย ต่างแม่
(ลูกพี่ลูกน้อง) ในบ้านไม้เก่า สมัยซัก30-40 ปีได้เลย ซึ่งตายายผมเนี่ยมีลูกด้วยกัน3คน มีป้าเป็นคนโต และ ลุงเป็นคนกลาง ส่วนแม่ผมเป็นคนสุดท้อง ซึ่งแม่กับพ่อผมแยกทางกันตั้งแต่ผมยังเด็กมาก จำไม่ได้ว่ากี่ขวบ และแม่ได้มีแฟนใหม่เป็นคนกรุงเทพและแม่ก็ได้พาแฟนมาที่บ้านซึ่งแกเห็นสภาพบ้านแกคงรับไม่ไหวหรือเปล่าเพราะบ้านไม้อายุขนาดนี้ต้องมีผุพังกันบ้างเป็นธรรมดาและแกกำลังจะมีน้อง แกเลยถามแม่ว่ามีที่ดินว่างอยู่แถวนี้มั้ย เพื่ออยากสร้างบ้านใหม่ยายเลยบอกว่ามีอยู่ที่หนึ่งซึ่งเป็นที่ว่างติดกับบ้านของน้องสาวของยายผม ซึ่งยายผมเนี่ยมีพี่น้องด้วยกัน3คน ขอใช้นามสมมตินะครับ มียายหนึ่ง ยายสอง และยายสาม ยายผมเป็นคนโตสุด และที่ว่างตรงนี้ยายผมยังไม่ได้เอาไปทำอะไร เลยเป็นป่ารกล้างไปหมด จากนั้นเนี่ยพ่อเลี้ยงก็ได้สร้างบ้านใหม่ ซึ่งติดกับบ้านของน้องสาวยายเนี่ย พื้นที่ตรงนี้จะเป็น4เหลี่ยมจตุรัส ครับ แบ่งเป็น4ช่องเท่ากัน ช่องที่1กับ2จะเป็นที่ของยายสาม ซึ่งแกปลูกบ้านแค่ช่องที่1ส่วนที่2เนี่ยเป็นที่ว่าง และช่องที่3เป็นบ้านของยายสอง และช่องที่4เป็นบ้านของผมที่กำลังสร้างใหม่ และมีแพลนว่าจะขอซื้อที่ช่อง2เก็บไว้ แต่ยายสามเนี่ยได้ขายให้กับคนอื่น ซึ่งเป็นแม่ของเพื่อนผม และบ้านผมยังสร้างไม่ทันเสร็จพ่อเลี้ยงก็ได้มาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนแม่ต้องเป็นคนดำเนินการต่อจนเสร็จ และได้ยายเข้ามาอยู่กันหมด และบ้านหลังเก่าก็ไม่มีใครอยู่เลย แล้วหลังจากนั้นไม่นานบ้านเพื่อนผมที่หลังบ้านผมเนี่ยก็ได้สร้างเสร็จเหมือนกัน แต่เป็นบ้านไม้ สภาพพออยู่ไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งห่างจากตัวบ้านผมประมาณเกือบ70เมตรได้ และก็ได้พากันย้ายเข้ามาอยู่กันหมด บ้านหลังนั้นอยู่กัน 6คน มียายของเพื่อนผม และแม่กับพ่อ และก็ลูกอีก3คน ซึ่งก็อยู่กันมาหลายปีไม่มีอะไร จนมาตอนที่ยายของเพื่อนผมเนี่ยป่วย ด้วยโรคอะไรไม่ทราบได้เพราะตอนนั้นยังแค่อายุ ประมาณ 9-10 ขวบน่าจะได้ เลยไม่ค่อยได้สนใจอะไร และยายของเพื่อนผมเนี่ยก็ได้เสียชีวิตลงที่บ้านไม้หลังนั้น หลังจากผ่านมาได้ ไม่นานแม่ของเพื่อนผมเนี่ย ชื่อว่าป้านก(นามสมมุติ) ป้านกและครอบครัวเนี่ยได้สร้างบ้านใหม่ซึ่งขยับมาติดกับบ้านผมเนี่ยแค่ไม่ถึง10เมตร เป็นบ้านปูนทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า (รูปทรงคล้ายโรงศพ) ไม่มีหลังคาเพราะแกจะสร้างบ้าน2ชั้นแต่ยังสร้างไม่เสร็จเลยได้ทำการเทปูนด้านบนเพื่อเป็นหลังคาไปก่อนและได้ย้ายเข้ามาอยู่ก่อน ซึ่งหลังจาก2-3ปีต่อมาเนี่ย ป้านกเนี่ยได้ไปติดการพนันจนต้องเอาที่เอาบ้านเนี่ยไปจำนองไว้ และจากนั้นอีกไม่นานแกก็โดนเจ้าหนี้เนี่ยมาทวงเงินบ่อยจนไม่มีจ่ายเลยได้หนีไปทำงานที่อื่น และ ลูก กับผัวแกก็กระจัดกระจายกันไป ทิ้งไว้แค่บ้าน หลังนี้ไว้ที่ยังสร้างไม่เสร็จจนเริ่มมีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นกับบ้านหลังนี้ ซึ่งบางคนที่อยู่ในระแวกใกล้เคียงก็เห็นเหมือนมีคนยืนกวาดหรือเก็บของอะไรอยู่หน้าบ้านบ้างหรือวันดีคืนดีเห็นเหมือนกับว่าบ้านนี้ถูกไฟไหม้บ้าง แต่โทรแจ้งผู้ใหญ่บ้านมาดูกลับไม่มีแม้แต่รอยไฟไหม้หรือร่องรอยของคนอยู่เลยเพราะเป็นเป็นบ้านล้างไปแล้ว ในนั้นมีแต่เศษใบไม้และหยากไย่ขึ้นเต็มบ้านไปหมด และมีแค่ตู้เสื้อผ้ากับรูปและโกฐกระดูกของยายที่เสียชีวิตคนนั้นอยู่ในบ้าน และ ยายสามเนี่ยเห็นมีคนเดินเข้าบ้านหลังนั้นไปบ่อยก็ไม่ได้คิดอะไรคิดว่าเป็นลูกๆของบ้านนี้มาเก็บของหรือป่าวแต่มีอยู่วันนึงยายสามเนี่ยก็เห็นเหมือนเดิมเลยตะโกนถามไปว่ามาเก็บของหรอ แต่ไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับและยายสองเนี่ยก็เห็นเป็นคนแก่ๆคนหนึ่งใส่ชุดขาวกำลังยืนอยู่ตรงในครัวของบ้านหลังนั้น และแกรู้เลยว่าไม่ใช่คนแน่ๆเพราะชาวบ้านที่นี้เห็นแบบนี้กันบ่อยจนมาวันหนึ่ง ยายของผมเองได้ยินเสียงเหมือนคนอาบน้ำเลยเดินเข้าไปดูที่ห้องน้ำ กลับไม่มีใครและไม่มีแม้แต่รอยเปียกในห้องน้ำ มีแค่อ่างอาบน้ำที่แห้งสนิท และตาของผมได้ยินเสียงเหมือนมีคนกำลังทำกับข้าวเพราะเสียงตะหลิวกับกระทะโดนกันเสียงดังมาก จนตาผมเดินเข้าไปดู ต้องบอกก่อนนะครับว่าตาผมเป็นคนที่มีของอยู่บ้างเลยไม่ได้กลัวอะไรพวกนี้เลยกล้าเข้าไปดูแต่ตอนที่ตาเดินเข้าไปดูกลับเจอแค่ตระกร้าเครื่องปรุงเก่าๆพังๆและกระทะพังๆอยู่ใบนึงและหลังจากนั้นด้วยความที่ผมเป็นเด็กผู้ชายคนนึงอะครับ ซึ่งมีความซนอยู่แล้วตามประสาเด็ก ได้ไปเล่นที่บ้านหลังนั้น และได้ยินเสียงเหมือนคนเอาไม้มาเคาะที่เสากลางบ้าน1ครั้ง แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรคงคิดว่าไม้น่าลั่นหรือเปล่าจนดังครั้งที่2และ3 และผมก็วิ่งออกมาทันทีด้วยความกลัว ผมเป็นคนที่จิตอ่อนมาก และค่อนข้างที่จะมี Six Senses
จนคืนนั้นผมฝันว่าผมยืนอยู่หน้าบ้านหลังเนี้ย ในฝันของผมคือเป็นบ้านหลังนี้เป๊ะๆเลย แล้วเห็นมีมุ้งสีขาวกลางอยู่หน้าบ้าน ผมได้เดินเข้าไปเปิดมุ้งดูว่าใครมานอนตรงนี้ ทันทีที่เปิดมุ้งดูกลับมีหน้าคนแก่ผมขาวๆพุ่งเข้ามาตรงหน้าผมและอ้าปากแยกเขี้ยวใส่ผมและบอกว่าอย่ามายุ่งกับพวกกู พอตื่นเช้ามาผมเป็นไข้หนัก จนไม่ได้ไปโรงเรียนประมาณ3วันตอนนั้น และหลังจากนั้นผมก็ไปเล่าใครยายฟัง ก็ไม่ใครไปยุ่งกับบ้านหลังนั้นเลย จนยายผมแกได้ไม้มาเผาถ่าน ก็ได้เผาถ่านใช้เองในบ้านเพราะเสียดายไม้ และได้มาหลายกระสอบ แต่บ้านผมเนี่ยไม่มีที่เก็บและกลัวมันจะโดนฝน ยายเลยใช้ให้ผมเนี่ยเอากระสอบถ่านไปเก็นที่บ้านหลังนี้ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงประมาณเกือบจะทุ่มแล้ว ซึ่งตะวันก็ใกล้จะตกดินแล้ว ผมเลยรีบเอากระสอบถ่านไปวางตั้งไว้ จนมาถึง3กระสอบสุดท้ายผมวางกระสอบแรก เหมือนมีเสียงคนกระทืบเท้ามาจากด้านบนหนึ่งครั้ง และวางกระสอบที่2ก็ได้ยืนเสียงคนกระทืบเท้าอีกหนึ่งครั้ง จะมาถึงกระสอบที่3เนี่ยซึ่งมันไม่เต็มกระสอบได้แค่ครึ่งกระสอบเลยวางไปด้านบน พอวางเสร็จได้ยินเสียงคนกระทืบเท้าอีกแต่ทีนี้กระทืบเท้าถึง2ครั้ง จนผมอยู่ไม่ได้เลยต้องวิ่งหน้าตั้งออกมา ด้วยความกลัว และตัวสั่นไปหมด เกือบจะร้องไห้เลยก็ว่าได้ จากนั้นก็ได้ยินเสียงแปลกๆจากบ้านหลังนี้มาตลอดแต่ด้วยความที่เริ่มจะชินกันแล้วเลยไม่ได้สนใจอะไร จนหลายปีต่อมา ผมได้เรียนจบ ปวช และได้ไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพ กับพี่ชายพี่สาว ส่วนแม่ก็ไปทำงานที่ต่างประเทศเหลืออยู่บ้านกันแค่3คน มีตา ยาย และน้องชาย และผ่านมาหลายปีตาผมก็ได้ป่วยด้วยโรคมะเร็งคอ ทำให้พูดไม่ได้และ ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเหมือนก่อน และแกลงไปหลังบ้านที่ไรแกต้องทำหน้าตกใจกลัวอะไรตลอด จากคนที่ไม่เคยกลัวอะไรเลย จนเริ่มอาการทรุดลงต้องเข้าโรงพยาบาลอยู่หลายครั้ง จนครั้งนี้หนักที่สุดอาการไม่ดีขึ้นเลย หมอบอกว่าอาการตอนนี้อยู่ไม่ถึง20%แล้วนะ ให้รีบมาดูอาการ จนลูกหลานมาครบ และตาก็ได้เสียชีวิตลง และผ่านมาได้อีก 1-2 ปี น้องชายผมได้ไปเรียนที่ในตัวเมืองซึ่ง ห่างจากบ้าน30กว่ากิโล เลยต้องนอนหอ และยายได้อยู่บ้านคนเดียวจากนั้นยายก็เริ่มป่วย ออดๆแอดๆ ตามประสาคนแก่ อายุ60ปลายๆแหละครับ และแกก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเอาอะไรมาปาที่หลังคาตรงในครัวตลอด เมื่อยายผมเป็นคนไม่กลัวอะไรเหมือนกับตาเลยครับ แต่แค่เป็นคนที่ไม่มีของแค่นั้นเอง แต่ทุกวันแค่เดินลงไปหลังบ้านก็รู้สึกกลัวที่แบบบอกไม่ถูก เพราะบ้านหลังนั้นเนี่ยอยู่ติดมาก เห็นทีไรก็รู้สึกกลัวตลอด และยังคงมีคนได้ยินเสียงแปลกๆแทบจะทุกวันเลยจากบ้านหลังนี้ จนยายไปสวดมนต์ที่วัดตามปกติของคนแก่อะนะครับ เลยไปเล่าให้กับคนที่มาสวดมนต์ด้วยกันฟังว่ามันเป็นแบบนี้ๆนะ และมีคนนึงที่เป็นร่างทรงบอกว่า ระวังไว้นะ บ้านหลังนั้นมี ผีกะมาอยู่อีก3ตัว คนแก่เป็นหญิงพาเข้ามา และบอกยายตอนตะวันตกดินห้ามออกไปหลังบ้านเด็ดขาด เพราะมันแรงมาก จากนั้นยายก็ไม่กล้าออกไปหลังบ้านหลังตะวันตกดินอีกเลย ขนาดตอนกลางวันยังรู้สึกเย็นวาบๆตลอดเวลาเลยครับ และทุกวันใครมาแถวนี้ไม่กล้ามองเข้ามาแล้วนะครับ เพราะมันเฮี้ยนขึ้นทุกวันแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่