เรามาถึงจุดที่ละครสะท้อนสังคม ตันไอเดีย กันแล้วหรอครับ

ผมดูทั้งของไทยและต่างประเทศ 
ค้นพบว่าทั้งคู่มีขอบเขตของสิ่งที่โฟกัสแคบ เหมือนกันเลย

ไทยเอง จะเน้นใน
- เหยียดอาชีพจน (แม่บ้าน คนทำความสะอาด คนขับรถ)
- เหยียดคนที่แต่งตัวดูจน
- เหยียดเพื่อนเก่าที่โตมาจน
(ซึ่ง 90% ของคนที่ทำตัวจน ก็มาเปิดตัวว่าเป็นประธานหรือญาติประธานในภายหลัง และ 40% คือบททดสอบคัดเลือกพนักงานใหม่)
- คู่รักที่เลิกกันเพราะมือที่สามแซ่บกว่าหรือรวยกว่า
- ลูกคุณหนูไฮโซผู้สูงส่ง จะทำอะไรก็ได้
- เพื่อนร่วมงานอิจฉา เลยพยายามเลียแข้งเลียขาเจ้านายเอาหน้า ขโมยผลงาน หรือเปิดร้านอาหารแบบเดียวกันมาแข่งกดราคา
- ปัญหาร้านอาหาร (โดยเฉพาะ กลโกงคนขาย กลโกงจ่ายเงิน ลูกค้าเสียมารยาท สิ่งแปลกปลอมในอาหาร)
- แม่เลี้ยงใจร้าย
- คนบ้ากาม ทั้งกับผู้หญิงและผู้ชาย
- ความสองมาตราฐานในพี่น้อง ทั้ง ลูกที่ไม่ได้การยอมรับ และ แฝดที่โตมาคนละแบบ

มันก็วนๆอยู่แค่นี้นะครับหลักๆ

ส่วนของตะวันตก หลักๆเลยคือเน้นใน
- คู่รักนอกใจกัน
- เพื่อนสนิทแอบวางยาในของกิน
- Gold digger (รวย แต่งตัวมีคลาส ขับรถหรู) แล้วมีผู้หญิงมาอ่อยจะขอเดท
- ปัญหาโรงเรียน (โดยเฉพาะ การบุลลี่ซึ่งเกิดจากการเหยียด ครูไม่ดี)
- ปัญหาจากการใช้เส้นสาย
- การใช้ชีวิตกับผู้ป่วยทางจิต
- เจ้าหน้าที่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งดีๆที่ประชาชนทำ (เช่น ปลูกสวนในที่สาธารณะ ให้ชุมชนมันน่าอยู่) หรือ สิ่งที่ดีแต่แค่มันขัดต่อกฎหมายข้อบังคับเมืองอะไรก็ตามแต่. ดังนั้นถ้าพูดภาพรวมก็คือ เจ้าหน้าที่ทำตัวเป็นหุ่นยนต์บ้าอำนาจ

วนๆเช่นกัน
ของฝรั่งหัวข้อน้อย แต่ความหลากหลายของสตอรี่สูงกว่า
เช่น ของไทย เปิดด้วยอะไรที่ดูจนสักอย่าง จบด้วย การฟาดหน้าว่ารวยแล้วคนที่ดูถูกก็เป็นหมา ส่วนคนที่ซัพพอร์ต คอยเข้าใจช่วยเหลือปัญหาชีวิตคนจนคนนั้นก็ได้ดีไป เช่น ได้ตำแหน่งสูงมา หรือ ได้บรรจุเป็นพนักงาน ซึ่งเอาตามตรงมันเฟคมาก
แล้วก็จะวนอยู่แค่นี้
ในขณะที่ฝรั่งดำเนินเรื่องดีกว่าเรามากๆ (ในฐานะคนที่ชอบวิเคราะห์, ของไทย 60-75% ของที่ดูมาผมดูแล้วหงุดหงิดเพราะดูแล้วเกิดคำถาม เกิดความรู้สึกแบบ อิหยังวะ อะ 55, ส่วนของฝรั่ง ผมเกิดความรู้สึกนี้แค่ 5-15% เท่านั้นเอง)
แต่ของฝรั่ง ก็ยังสะท้อนสังคมได้ไม่ดีเท่าเรานะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่