วิมานมายา โดย ศักดา ตอนที่ 91

กระทู้สนทนา
ดังเต้พูดอีกว่า "สำหรับเจมส์ เดวิดชอบเข้าหาเขา ตีสนิทเขา
 
แต่ชอบพูดบ่อย ๆ ว่าเขาสู้สีทันดรไม่ได้ สีทันดรกำลังเป็น
 
ที่ยอมรับในโรงเรียนมากยิ่งขึ้น การพูดตอกย้ำให้เจมส์ฟังบ่อย ๆ
 
ผมก็ว่ามันไม่ดี แต่ผมไม่สามารถจะไปเตือนเดวิดได้"
 
 
 
 
เพลิงภพกล่าวขึ้นบ้าง "วันที่เจมส์ตัดสินใจเอามีดไปแทงสีทันดร
 
คิดว่าแค่สั่งสอนนะ ไม่กะให้ตาย เพียงแต่แรงที่เหวี่ยงไป
 
ดันไปตัดขั้วหัวใจพอดี พยานของเราคือแจ็คสันกับจอร์เจสกำลังสนทนา
 
กันอยู่อีกอาคารหนึ่ง บนชั้นที่ 4 ถึงจะไกลหน่อยแต่พวกเขาเห็นเหตุการณ์พอดี"
.......................................................
เจมส์ถูกส่งมาที่บ้านทารุณ คนรอต้อนรับเขาคือผู้คุมที่ชื่อไกเซอร์

ไกเซอร์ไม่พูดอะไรเลย เขาเอากรรไกรมาตัดกางเกงในของเจมส์ทันที
 
แล้วปลดกุญแจมือเขา ไกเซอร์ให้สมุนพาเจมส์ไปนอนบนเตียงเหล็ก
 
ในสภาพเปลือยเปล่า แล้วมัดข้อมือข้อเท้ากับเสาเตียงจนแน่น
 
จากนั้นจึงให้สมุนเตรียมร่างกายและองคชาติของเขาให้พร้อมสำหรับการทรมาน
 
มีการลูบไล้หัวนมกับองคชาติให้แข็งถึงขีดสุด 
 
สมุนเอารังมดแดงที่เตรียมไว้มาหลายรัง รังแรกพยายามให้มดแดงไปกระจุกที่
 
หัวนมทั้งสองข้างและรุมกัดหัวนมเขา อีกรัง ทางสมุนเอาองคชาติที่กำลังแข็งตัว
 
ยัดเข้าไปอยู่ในรังมดแดงเลย แล้วยังหารังอื่นมาเพิ่มอีก
 
ที่ทำแบบนี้เพื่อให้มดแดงของแถบนี้ที่กัดเจ็บมาก รุมกัดองคชาติของเจมส์

เจมส์ร้องอย่างโหยหวน แต่เป็นการร้องครางที่โดนใจไกเซอร์มาก
 
ไกเซอร์ชอบฟังเสียงร้องแมน ๆ ของผู้ชายที่กำลังเจ็บปวดทรมานมาก ๆ
 
มันเหมือนเสียงไวโอลินที่แสนไพเราะ ขณะนั่งฟังเจมส์ร้องด้วยความเจ็บปวดทรมาน
 
สมุนของเขาได้เสริฟไวน์ให้เขาได้ดื่มด้วย การดื่มไวน์เคล้าเสียงโหยหวนแบบแมน ๆ
 
คือความสุขในชีวิตของไกเซอร์ที่เขาพึงปรารถนา
.....................................................................
เฟอดินานสรุปว่า "จากข้อมูลเหล่านี้ทำให้เห็นได้ว่าท่านนายพลเดวิด
มีส่วนที่เข้ามายุ่ง ทำให้กลุ่ม 10 สิงหราชมีปัญหา แต่ยังไม่อาจเอาผิดได้"

เพลิงภพชี้แจงว่า "ยังมีสิ่งที่เดวิดเกี่ยวข้องอีก ซึ่งผมได้เชิญคุณอนันตยามาชี้แจงครับ"

"สวัสดีค่ะทุกท่าน ดิฉันค้นพบว่าท่านนายพลเดวิดอยู่เบื้องหลังลูซิเฟอร์
และการจัดฉากคนตาย 17 ศพ จริง ๆ แล้วทั้ง 17 คนยังไม่ตาย
รวมทั้งพ่อของดิฉัน มายูมิและพวก 5 หรดีด้วย ดิฉันได้แจ้งพวกเขาไปหมดแล้ว
พอดีเพื่อนของดิฉันเป็นเจ้าของโรงละครแห่งหนึ่งในต่างประเทศ
ดิฉันเลยรู้ว่าฉากการแต่งงานของลูซิเฟอร์เป็นฉากในโรงละคร
และผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดคือเดวิดค่ะ เขาหลอกพวกนั้นว่าจะมีคนมาฆ่าพวกเขา
เพราะฉะนั้นแกล้งจัดฉากว่าตายก่อนเป็นการดีที่สุด อีกอย่างเขาอยากจะปรามพวกทหาร
ส.ส.และ ส.ว.ที่ฉ้อฉล ที่เดวิดเองไม่ชอบด้วยค่ะ"

เจ้าชายจักรภพได้แจ้งในที่ประชุมว่า
"ตอนนี้ 10 สิงหราชที่มีอยู่คือลำพอง สวิส โอรส โจ โจ้และโจโฉ"

"มีผู้ประสงค์จะเข้าร่วมกลุ่ม 10 สิงหราชอีก 4 คน ซึ่งจะทำให้ครบ 10 พอดีครับ
3 คนเป็นเพื่อนของสีทันดร ที่นั่งอยู่ตรงโน้นครับ จะมีอองซาน ยามาดะและซูซูกิ"

"อีกคนนึง อ้อ เดินเข้ามาพอดีครับ เขาคือแซม น้องชายต่างมารดาของสีทันดร"

เจ้าหญิงศรีจิตราทรงยับยั้งการลาออกของพระเลขาฯจินตหรา
ทรงกล่าวขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันทำให้เรื่องวุ่นวายหลายเรื่องคลี่คลายลงไป
และยังทรงรับเป็นผู้ปกครองของกลุ่ม 10 สิงหราชร่วมกับเจ้าชายจักรภพ

ขณะที่อนันตยากำลังจะเดินไปขึ้นรถ เพลิงภพวิ่งเข้าไปหาเธอ
"ขอบคุณมากนะครับสำหรับวันนี้"
อนันตยามองหน้าเขาแล้วยิ้ม
"ถ้าไม่ใช่คุณ ฉันไม่มาหรอก เสียดายที่ภันดรเอาไปกินซะแล้ว"
เพลิงภพยิ้มอย่างเขิน ๆ "ลูซิเฟอร์อยู่กับคุณใช่ไหม เขาเป็นใครครับ"
"เมื่อถึงเวลา คุณก็จะรู้เอง"
...............................................................................................
อรชุนหรืออัศนัย คุยกับปรัสสา ณ โชนหนานสุริเยนทร์ เมืองหลวงของโชกุนโพ
"นึกไม่ถึงว่าเพียวเพียวจะสวยงามถึงขนาดนี้"

"แล้วจะเอายังไงต่อไปล่ะ" ปรัสสาถาม
"อืม ถ้าให้เป็นนางสนม จนกลายเป็นพระสนมเอก ก็ต้องได้เป็นราชินีแน่นอน
เพียงแต่ว่ามันช้ามาก ไม่ทันการ ได้ข่าวว่าคนที่เคยมาส่งคือมาคัส
ลูกชายคหบดีที่โพสรวงวัสสะ เรื่องนี้น่าสนใจนะ อาจมีผู้มีอิทธิพลของโชนหนาน
สนใจเพียวเพียวด้วยก็ได้ งานที่เราจะเปิดตัว อรอนงค์ โรงเรียนฝึกหัดการเป็นนางสนม
ของเรา เราควรเปิดตัวเพียวเพียวไปเลยก็น่าจะดี"
"อีกอย่าง ตอนนี้ขั้วอำนาจอาจจะเปลี่ยนนะ นายพลเดวิดกำลังเป็นที่สนใจไปทั่ว
พวกเราอาจจะต้องรับมือเรื่องพวกนี้ด้วย" ปรัสสาเตือน
"ใช่ แต่ตอนนี้ต้องเอาตัวให้รอดก่อน พวกเรายังคงเป็นคนต่างด้าวของที่นี่
โชคดีที่พวกตำรวจไม่เคร่งครัด คงจะหวังแต่เรื่องเศรษฐกิจ พอเราตั้งตัวได้
คงต้องคิดกันต่อว่าจะเอายังไงกับชีวิต"
.......................................................
เจ้าชายจักรภพเดินเข้ามาในห้อง เขาไม่ได้สวมเสื้อ
พอเห็นเจ้าหญิงศรีจิตรานอนเล่นอยู่ จึงเลื้อยขึ้นไปคร่อม
"วันนี้เครียดไหมครับ ที่รัก"
"นิดหน่อยค่ะ"
จักรภพจูบอย่างแผ่วเบาไปที่แก้มก่อน ศรีจิตราจึงหันมาหน่อย
ให้ปากตรงกับปากแล้วการจูบอย่างแผ่วเบาก็เกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่ง
"หายเครียดหรือยังที่รัก"
"ถ้าตอบว่าไม่หายล่ะค่ะ"
จักรภพยิ้มอย่างมีเสน่ห์ก่อนจะลงไปเล้าโลมบริเวณเนินอก
แล้วกลับมาที่ซอกคอ ซอกหู แล้วก็หน้าผาก และค่อยลงมาที่ปากอีกครั้ง
"วันนี้คุณนุ่มนวลเป็นพิเศษเลยนะคะ"
"เพราะรักคุณไงครับ"

จักรภพพลิกตัวมานอนหงาย ศรีจิตราซบไหล่เขา เขาโอบเธออย่างแผ่วเบา
"เวลาที่ฉันมีความสุขทุกครั้งคือตอนคิดถึงครั้งแรกที่เราเจอกัน
คุณยืนหลบมุม ดูเซอร์ ๆ เถื่อน ๆ โคตรเท่เลย เหมือนฝันนะคะ
ที่วันนี้ได้ใกล้ชิดคุณถึงขนาดนี้ ได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งและอ่อนโยนในตัวคุณ
ทุกอย่างนี้ทำให้ความเครียดทุกเรื่องมันล้มหายตายจากไปหมดค่ะ
ยามมีคุณอยู่ข้าง ๆ นั่นคือเวลาที่ดีที่สุดกว่าทุกอย่างในโลกนี้"
จักรภพก้มลงไปจูบเธออีกครั้ง
"ชมมาก เดี๋ยวผมลอยนะ ผลลอยไปไกลจนสุดจักรวาล
แล้วคุณจะทำยังไงครับ"
"แค่คุณลอยนิดเดียว ฉันก็คว้าแล้วค่ะที่รัก ฉันไม่ปล่อยให้คุณลอยไกลขนาดนั้นหรอก"
จักรภพก้มลงไปหอมอีกครั้ง "ฟังแล้วชื่นใจจัง"
จักรภพนอนหงาย ศรีจิตราลูบไล้แผงอกเขา
"ช่วงนี้มีเรื่องมากมายเลยนะคะ ดูคุณไม่ค่อยเครียด คุณจัดการยังไงกับ
ความรู้สึกพวกนี้คะ"
"อืม ก้แก้เป็นเรื่อง ๆ ครับ ขออย่างเดียวว่าอย่าเอาทุกเรื่องมาพันกันจนรู้สึกว่ามันแก้ไม่ได้"
"อิจฉาผู้ชายอย่างคุณจังเลยนะคะ ดูเหมือนคุณจะฝ่าฟันได้ทุกเรื่อง"
"แต่ผมอิจฉาผู้หญิงอย่างคุณครับ"
"เรื่องอะไรคะ"
"คุณไม่รู้ตัวหรอกว่าคุณเองก็เข้มแข็งมาก ฝ่าฟันมาหลายเรื่องเหมือนกัน
ผู้หญิงหลายคนเข้มแข็งกว่าผู้ชายนะครับ แต่บางครั้งตัวเธอเองนั่นแหละที่มองข้าม
สิ่งนั้นไป"
ศรีจิตราขึ้นไปนั่งคร่อมจักรภพ
"แต่ฉันไม่เคยมองข้ามคุณเลยค่ะ"
เธอก้มลงไปจูบแผงอกเขาอย่างแผ่วเบา
จักรภพเองก็ใช้มือสัมผัสอกเธออย่างแผ่วเบาไปด้วย
ศรีจิตรานอนลงบนตัวเขา "โชคดีที่มีคุณค่ะ"
จักรภพกระซิบที่ข้างหู "ผมโชคดีที่มีคุณต่างหาก"
จักรภพโชว์แกร่งด้วยการอุ้มศรีจิตราไปตรงระเบียง
"พามาที่นี่ทำไมค่ะ"
"เปลี่ยนบรรยากาศไงครับ"
เขาให้เธอนั่งตรงขอบระเบียง
"เสียวตกนะคะ แล้วจะมีคนเห็นไหม"
"ไม่หรอก ผมสำรวจมาแล้ว คุณไว้ใจผมไหมที่รัก"
"ไว้ใจสิคะ แต่ข้างนอกอากาศเย็นจัง"
"ดีแล้ว คุณจะได้รู้ว่าความอบอุ่นของผม มันมีค่าแค่ไหน"
แล้วเขาก็ทำให้เธอล่องลอยไปจนสุดขอบจักรวาล
มันดีตรงที่ไม่ว่าเธอจะรู้สึกลอยไปไกลแค่ไหน
แต่เธอยังสัมผัสแผ่นหลังแกร่งเขาได้เสมอ นี่คือความมหัศจรรย์
......................................................
ในค่ายโหดนรกแตก เดวิดฝังความชั่วร้ายไว้หลายแบบมาก
และเขาไม่แพร่งพรายให้ใครรู้เลย
จังโก้อยู่ที่นี่ เขาต้องเจอการกดดันหลายรูปแบบ
ทั้งไม่ยอมให้สวมเสื้อผ้าเลยตลอดเวลา
ตอนกินข้าวก็ต้องกินอย่างหมา โดยจะมีคนมาใส่กุญแจไพล่หลัง
เขาต้องนั่งคุกเข่าก้มลงไปกินข้าวในชามข้าวหมา
ทั้งวันจะโดนด่าโดนตบ ลงแส้ ต่อยท้อง บังคับให้ออกกำลังสารพัด
เดวิดต้องการให้เขาด้อยค่าตัวเองและต่อต้านสังคม

ทุกวัน จักราจะอาบน้ำให้เขาสองครั้ง เช้าเย็น
โดยพวกสมุนของเดวิดจะเอาจังโก้มามัดโยงแบบรูปตัว X  จนแน่น
จักรามีหน้าที่ทำความสะอาดจังโก้ แปรงฟันให้ อาบน้ำให้ ฟอกสบู่ให้
เขาสังเกตว่าจังโก้เริ่มแย่ลงทุกวัน เขาก็เลยคิดวิธีทำให้จังโก้มีชีวิต
ตอนฟอกสบู่ แทนที่จะฟอกแบบปกติ เขาเอาสบู่ฟอกตัวเขาก่อน
แล้วค่อยเอาตัวไปเสียดสีกับตัวของจังโก้ การทำแบบนั้นทำให้จังโก้เริ่มตื่น
ความเป็นชีวิตบางอย่างกลับมาอีกครั้ง 
จนมาถึงวันที่จักราฟอกสบู่ตัวเอง 
แล้วเอาตัวไปเสียดสีจังโก้ตรงด้านหน้า
กฎระหว่างเขากับจังโก้คือห้ามพูดคุยกัน
จักราเลยหาวิธีการสื่อสารแบบอื่น
ซึ่งมันก็ใช้ได้ผล
เมื่อจักราเอาตัวเสียดสีแบบหน้าชนหน้า 
จังโก้ก็จูบเขาอย่างแผ่วเบา
จักรารู้ว่าจังโก้ยังมีชีวิตจากการจูบของเขา
และมันจะทำให้จังโก้มีชีวิตมากขึ้นเรื่อย ๆ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่