พี่สาวเรามีอาการทางจิต เคยเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่ช่วงหนึ่ง 3-4 ปีก่อนแต่เค้าต่อต้านการรักษา ไม่ยอมกินยา ถ้าช่วงไหนมีเรื่องเครียดก็จะมีอาการกำเริบ อย่างเช่นตอนนี้ ที่กำลังมีอาการคือ
1.นอนไม่หลับ
2.กลัวลูกจะได้รับอันตราย (ลูกไป รร.ปกติ)
3.ทำร้ายลูก ตี และด่าทอ แบบไม่เคยเป็นมาก่อน
4.เดินออกจากบ้านไปตามหาลูก (ลูกไป รร.ปกติ)
5.เวลามีคนบอกว่าเค้าป่วย ให้ไปหาหมอ เค้าจะอารมณ์ฉุนเฉียวมาก บอกว่ามันไม่มีโรคแบบนี้หรอกพวกเราคิดไปเองจิตปรุงแต่งไปเอง จนบางทีเราก็คิดหรือว่าเราเองที่คิดไปเอง 555
6.3-4 ปีก่อนเคยมีประวัติพยายามฆ่าตัวตาย เพราะสามีติดการพนัน มีหนี้สินเยอะ ทำให้เครียด และเป็นจุดเริ่มต้นของอาการป่วยที่ส่งผลถึงทุกวันนี้
7.จะโมโหหงุดหงิดทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องหนี้สินเมื่อ 3-4 ปีก่อน โมโหทุกคนรอบตัว ยกเว้นสามีที่ก่อหนี้ หาว่าเราและพ่อกับแม่ไม่ช่วย
8.จากข้อ 7 ทำให้เราคุยกับเค้าไม่ค่อยได้ เพราะคุยทีไรก็จะจบด้วยข้อหาที่ว่าเราไม่ช่วยเค้าตอนที่เค้าลำบาก ทำให้ทุกวันนี้เค้าต้องส่งดอกเจ้าหนี้ต่าง ๆ จนเงินไม่พอใช้ เราเลยห่าง ๆ เค้าออกมา ไม่ค่อยได้คุยกัน
9.บางทีก็ร้องไห้ กลัวว่าจะมีคนพรากลูกไป กลัวลูกได้รับอันตราย
แต่เค้าก็สามารถใช้ชีวิตได้ปกติ นอกจากจะมีเรื่องเครียดมา อาการเหล่านี้ก็จะกำเริบ เราอยากรู้ว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้เรื่อย ๆ อาการจะหนักขึ้นไหม ถ้ามีอาการหูแว่ว และเห็นภาพหลอน คือหนักแล้วใช่ไหมคะ เพราะแม่เราเองก็เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แต่แม่เป็นคนพูดง่ายยอมกินยา ยอมไปหาหมอ แต่ตอนนี้จะต้องกินยาไปตลอดชีวิต
เราอยู่คนละจังหวัดซึ่งอาการดังกล่าวก็ฟังมาจากน้องชายที่เข้าไปเฝ้าดูอาการตอนเค้าจะออกไปตามหาลูก ซึ่งตอนนี้สงบลงแล้ว
พอจะมีทางไหนที่จะเอาเค้าไปรักษาได้ไหมคะ เพราะครอบครัวก็ทำทุกทางแล้ว ให้ญาติผู้ใหญ่ที่เค้านับถือมากมาคุยให้ก็ไม่สำเร็จ พอจะมีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่สามารถมาคุยได้ไหมคะ หรือว่าเราต้องพาเค้าไปที่โรงพยาบาลอย่างเดียวซึ่งมันยากมาก
อาการทางจิต ถ้าปล่อยไว้นานจะเป็นหนักขึ้นเรื่อย ๆ หรือไม่
1.นอนไม่หลับ
2.กลัวลูกจะได้รับอันตราย (ลูกไป รร.ปกติ)
3.ทำร้ายลูก ตี และด่าทอ แบบไม่เคยเป็นมาก่อน
4.เดินออกจากบ้านไปตามหาลูก (ลูกไป รร.ปกติ)
5.เวลามีคนบอกว่าเค้าป่วย ให้ไปหาหมอ เค้าจะอารมณ์ฉุนเฉียวมาก บอกว่ามันไม่มีโรคแบบนี้หรอกพวกเราคิดไปเองจิตปรุงแต่งไปเอง จนบางทีเราก็คิดหรือว่าเราเองที่คิดไปเอง 555
6.3-4 ปีก่อนเคยมีประวัติพยายามฆ่าตัวตาย เพราะสามีติดการพนัน มีหนี้สินเยอะ ทำให้เครียด และเป็นจุดเริ่มต้นของอาการป่วยที่ส่งผลถึงทุกวันนี้
7.จะโมโหหงุดหงิดทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องหนี้สินเมื่อ 3-4 ปีก่อน โมโหทุกคนรอบตัว ยกเว้นสามีที่ก่อหนี้ หาว่าเราและพ่อกับแม่ไม่ช่วย
8.จากข้อ 7 ทำให้เราคุยกับเค้าไม่ค่อยได้ เพราะคุยทีไรก็จะจบด้วยข้อหาที่ว่าเราไม่ช่วยเค้าตอนที่เค้าลำบาก ทำให้ทุกวันนี้เค้าต้องส่งดอกเจ้าหนี้ต่าง ๆ จนเงินไม่พอใช้ เราเลยห่าง ๆ เค้าออกมา ไม่ค่อยได้คุยกัน
9.บางทีก็ร้องไห้ กลัวว่าจะมีคนพรากลูกไป กลัวลูกได้รับอันตราย
แต่เค้าก็สามารถใช้ชีวิตได้ปกติ นอกจากจะมีเรื่องเครียดมา อาการเหล่านี้ก็จะกำเริบ เราอยากรู้ว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้เรื่อย ๆ อาการจะหนักขึ้นไหม ถ้ามีอาการหูแว่ว และเห็นภาพหลอน คือหนักแล้วใช่ไหมคะ เพราะแม่เราเองก็เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แต่แม่เป็นคนพูดง่ายยอมกินยา ยอมไปหาหมอ แต่ตอนนี้จะต้องกินยาไปตลอดชีวิต
เราอยู่คนละจังหวัดซึ่งอาการดังกล่าวก็ฟังมาจากน้องชายที่เข้าไปเฝ้าดูอาการตอนเค้าจะออกไปตามหาลูก ซึ่งตอนนี้สงบลงแล้ว
พอจะมีทางไหนที่จะเอาเค้าไปรักษาได้ไหมคะ เพราะครอบครัวก็ทำทุกทางแล้ว ให้ญาติผู้ใหญ่ที่เค้านับถือมากมาคุยให้ก็ไม่สำเร็จ พอจะมีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่สามารถมาคุยได้ไหมคะ หรือว่าเราต้องพาเค้าไปที่โรงพยาบาลอย่างเดียวซึ่งมันยากมาก