แตงอันนึงกับ1ชีวิต

กระทู้สนทนา
สวัสดี สิ่งที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่แม่ของผมเป็นคนเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับเรื่อง การรักษาผลผลิตในสมัยก่อนที่พม่า แม่ผมเล่าว่า มีครอบครัวอยู่ครอบครัวหนึ่ง ครอบครัวนี้มีกันอยู่ 5 คน หัวหน้าครอบครับมีหน้าที่ทำไร่ จะเรียกว่าพ่อละกัน และแม่ และลูกอีก3คน ใช้ชื่อว่า จ่อย นวล และ พรเป็นน้องคนเล็ก ครอบครัวนี้ยากจนแต่เปี่ยมไปด้วยความสุข กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน จ่อย จะเป็นคนที่คอยช่วยพ่อทำไร่ นวล และ พร จะมีหน้าที่ช่วยแม่ทำงานบ้าน และด้วยสมัยนั้นการเรียนหนังสือ ต้องเป็นคนที่มีเงินถึงจะได้เรียนได้  ในทุกๆวันพ่อและจ่อยจะออกไปทำไร่ มีอยู่วันหนึ่งหลังจากกลับมาจากสวน พ่อก็ได้ถามแม่ว่ามีอะไรกินบ้าง แม่ก็เลยตอบไปว่ามีอะไรรึป่าว ทุกวันไม่ถาม เพราะในทุกๆวัน แม่จะเตรียมอาหารไว้พร้อมอยู่แล้ว ก่อนที่พ่อจะกลับมา พ่อก็เลยบอกกับแม่ไปว่า แตงที่ปลูกในไร่ถูกขโมยไปหมดเลย พ่อเครียดมากเพราะเงินที่ลงทุนไปเป็นเงินทั้งหมดที่เหลืออยู่ แม่เลยกอดพ่อและปลอบเบาๆว่าไม่เป็นไรนะ เริ่มต้นใหม่ แล้ววันนั้นก็ผ่านไป เช้าวันรุ่งขึ้นพ่อได้ออกจากบ้านเพื่อไปยืมเงินลุง สมัยนั้นเดินเอาเพราะไม่มีเงิน พอไปถึงบ้านลุง พ่อก็คุยกับ(จะเรียกว่าลุงหนาน)
พ่อคุยกับคุณหนานว่า พี่ผมขอเงินไปทำทุนหน่อย ลุงก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นอะไรรึป่าว พ่อก็เลยเล่าให้ลุงฟัง พอฟังจบลุงก็เลยบอกว่า เอางี้ ข้าจะให้เงินเอง และข้าจะให้คาถารักษาผลผลิตในไร่ให้เองด้วย(ใจดีจัด) มันเป็นคาถาสักอย่างนี่แหละ ละทีนี้พ่อก็ได้รับคาถานั้นมา สรรพคุณของมันคือ ถ้านำผลผลิตในสวนไป โดยที่เจ้าของหรือคนท่องคาถายังไม่ได้คลายคำสาปให้ คนนั้นจะต้องตายและแก้ให้ไม่ได้ด้วยหากกินเข้าไป หลังจากนั้นพ่อก็ลากลับบ้าน พอถึงบ้านก็เย็นแล้ว พ่อนั่งอ่านคาถานั้นอย่างใจจดใจจ่อ เพื่อที่จะใช้ แต่ในใจคิด ''มันจะได้ผลเหรอวะ"แต่ก็อ่านๆจนท่องได้ และก่อนจะหลับตานอนแม่ถามว่าเป็นไงบ้างวันนี้เหนื่อยมั้ยพ่อก็เลยตอบว่าไม่ค่อย พ่อเลยบอกรักแม่ "รักนะ" และก็หลับด้วยความเพลีย วันรุ่งขึ้นพ่อก็เลยบอกกับแม่ว่าจะไปซื้อเมล็ดที่ใช้ปลูกแตง(สีขาวๆวงรี) ไม่รู้เรียกไร พอพ่อกลับมา กับกระสอบใบนึง มันคือเมล็ดแตง.. พ่อก็เลยบอกกับทุกคนว่า ทุกคนไม่ต้องอดแล้วนะ พรุ่งนี้จ่อยไปกับพ่อ ไปทำเพื่อสาวๆกัน วันรุ่งขึ้นพ่อก็ไปไร่กับจ่อยเพื่อที่จะปลูกแตง เวลาผ่านไป1อาทิตย์ พ่อได้ท่องคาถาที่ลุงให้มาเป่าไปบนดินและแตงเริ่มออก พ่อดีใจมากและเอาเรื่องนี้ไปบอกทุกคน ทุกคนในครอบครัวดีใจ และเวลาก็ผ่านไปเดือนครึ่ง แตงโตเต็มที่ วันนั้นเป็นวันที่พ่อแม่และนวล ไปงานแต่งในเมือง เหลือจ่อยพี่คนโต และ พร น้องคนเล็กไว้ที่บ้าน ประมาณบ่ายๆทั้งสองกินข้าวเที่ยงเสร็จ กำลังง่วงๆเลย มีญาติมาเยี่ยมที่บ้าน ทั้งสองก็เลยต้อนรับด้วยหน้าที่ง่วงๆ แต่ไม่มีอะไรให้ญาติกินเลย ก็เลยตกลงกันว่าจะไปเอาแตงที่ไร่มากินกัน แต่จ่อยเหมือนนึกขึ้นได้ว่าพ่อสั่งไว้ถ้าจะเอามากินให้บอกพ่อก่อน จ่อยก็เลยบอกน้องไปว่าอย่าไปเอานะ ต้องบอกพ่อก่อน พรถาม ทำไม ทำไมต้องบอกก่อน มันจะตายเหรอ (ปกติพรเป็นคนโผงผาง ห้าวๆ)ไปเอามาเร็ว เดี๋ยวน้าๆ เขาจะกลับแล้ว พูดเสร็จ พรก็เดินออกไปแบบไม่รอพี่จ่อยเลย พอถึงไร่ พรก็เลยเก็บแตงมา 3ลูก กลับบ้าน พอถึงบ้าน ญาติกลับกันหมดแล้ว ทำให้พรหัวเสียมาก แบบว่า นี่เราเดินฟรีเหรอเนี่ย พี่จ่อยก็เลยพูดกับพรไปว่า แตงกินไม่ได้นะ ต้องขอพ่อก่อนพ่อเป่าคาถาไว้ พรก็ทนไม่ไหวแล้ว ขอพ่อ ขอพ่อ อยู่นั่นแหละ แดกยิ้มเลย กัดไป1คำ เคี้ยวๆกลืนตรงนั้นเลย เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากๆ พี่จ่อยทำมือแบบ จะไปห้ามแต่ห้ามไม่ทัน อ้าปากค้าง อุทานว่า เหี้..แล้ว บอกให้พรคลายออกมา พรก็เถียงไปอีกว่าไม่เห็นเป็นไรเลย เถียงกันอยู่พักใหญ่ พ่อแม่และนวลก็กลับมาพ่อถาม มีอะไร แต่ทั้งสองก็ไม่พูด พ่อเหลือบไปเห็นแตงที่มีรอยกัด คิดในใจว่าคงไม่ใช่อย่างที่กูคิดนะ และถามไปว่า นี่ของใคร พรก็บอกว่าของหนูเอง พ่อ:ไปเอามาจากไหน พรตอบ  ในไร่เรา พ่อถึงกับนิ่งไปพักนึงและบอกทุกคนออกไปก่อนยกเว้นพร พอพ่ออยู่กับพรสองคน พ่อก็เดินเข้าไปกอดพรและร้องไห้ พรก็งงว่าทำไม เลยถามไปว่า พ่อเป็นไร พ่อก็เลยบอกกับพรว่า พ่อขอโทษ พ่อขอโทษ และต่ออีกด้วยคำพูดต่อไปนี้ " หนูเหลือเวลาไม่มาแล้วนะ"พรเชื่อเรื่องนี้นี่ทันทีอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะไม่เคยมีใครเคยเห็นพ่อร้องไห้ และถ้ามันไม่จริงคงไม่ขนาดนี้หรอก พอผ่านวันนั้นไปเหตุการณ์ทุกอย่างปกติ ทุกคนกินข้าวพร้อมหน้สพร้อมตากันเหมือนเดิมแต่ที่เปลี่ยนไปคือทุกคนนั่งมองอาหารและร้องไห้ทุกคน ทุกคนกอดพรผู้ซึ่งเป็นน้องเล็ก และแม่ก็ถามพ่อว่าไม่มีทางแก้แล้วเหรอ พ่อตอบด้วยน้ำเสียงเศร้าๆว่า ไม่มี ทำใจเถอะนะ มันเป็นความผิดของผมเอง และแล้ว วันนั้นก็มาถึง วันที่พรจะจากทุกคนไป พรได้ถามพ่อว่าหนูจะเจ็บมั้ย พ่อตอบด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ไม่เจ็บหรอก ไม่ต้องห่วงนะ พรก็ยิ้มมุมปากพรได้สั่งเสียไว้ว่า"ถ้าพรตายทุกคนอย่าลืมพรนะ"สักพัก พรก็เริ่มแน่นอก เหมือนมีอะไรทับ ทุกคนพยายามยิ้อให้ถึงที่สุด แต่แล้วลูกสาวคนสุดท้องก็จากไป จ่อยได้แต่โทษตัวเองว่าทำไมตนถึงห้ามน้องไม่ทัน บรรยากาศภายในครอบครัวโศกเศร้ากันมาก เวลาผ่านไปพ่อก็ไม่ใช้คาถานี้อีกเลย.........
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่