ก็อากาศมันร้อน @ บ้านวรรณโกวิท
วันพฤหัสฯ ที่ 13-4-23 วันสงกรานต์วันผู้สูงอายุอยู่เฝ้าบริษัท
ชวนผู้จัดการสิงคโปร์ ที่อดไปเชียงใหม่เพราะต้องไปติดต่อสถานทูตออสเตรเลีย
คห.2 "เที่ยวไปกินไป by laser @ ไชน่าทาวน์ : พาผู้จัดการตะลอนกิน"  https://ppantip.com/topic/41984013
อากาศร้อนชวนไปหาของกินหน้าร้อน คือ ข้าวแช่ เช็คล่วงหน้าร้านเปิดสงกรานต์
บอกแล้วขับรถอย่าชวนคุย หลุดทางด่วนข้ามสะพานพระราม 9 ไปลงสุขสวัสดิ์แทนที่จะลงยมราช
นำทางจนถึงถนนตะนาวเลี้ยวขวาเข้าซอยราชดำเนินกลางใต้ไปบ้านวรรณโกวิท





13.03 น.ถึงบ้านวรรณโกวิท วันนี้ได้ที่จอดรถในบ้าน
มาทุกครั้งได้โต๊ะเดิมติดชิงช้าทุกครั้ง ไม่ได้มา 5 ปีแล้ว คุณแต้วเจ้าของร้านยังจำได้
"เที่ยวไปกินไป by laser @ บ้านวรรณโกวิท" https://ppantip.com/topic/34967582
"เที่ยวไปกินไป by laser @ พาเพื่อนดื่มกาแฟ และเยี่ยมบ้านวรรณโกวิท" https://ppantip.com/topic/37432561













รายการอาหาร





เครื่องดื่มดับร้อนหลงทางด่วน
ของผู้จัดการเป็นอัญชันมะนาว ของตัวเองเป็นน้ำมะปิ๊ด 
(ส้มจิ๊ด/ส้มกิมจ๊อ/กิก/Kumquat) แก้วละ 50 บาท





น้ำมะปิ๊ดอมเปรี้ยวใส่น้ำเชื่อมน้อยเรียกความสดชื่น



ระหว่างรออาหาร เล่าประวัติของบ้านวรรณโกวิทให้เธอฟัง
วันนี้คุณป้าฉวีวรรณ คุณแม่ของคุณแต้วพักผ่อนอยู่ในบ้าน
ท่านอายุ 90 แล้วไม่อยากรบกวน ส่วนคุณป้านิตยาผู้เป็นพี่สาวเสียชีวิตแล้ว
บ่ายโมงแล้วรองท้องด้วยขนมจีนซาวน้ำแจงลอนไร้คาวน้ำปลา 120 บาท



แจงลอน หรือลูกชิ้นปลากราย 
นวดและตีจนเหนียวหนึบหนับ จับเป็นชิ้นต้มกับหัวกะทิ หอมกะทิแทรกในเนื้อปลากราย



ส่วนผสมของขนมจีนซาวน้ำ ทั้งกะทิ ขิงอ่อนซอย สับปะรดหั่น กระเทียมฝานเป็นแผ่น
กุ้งแห้งป่น พริกขี้หนูและมะนาว ดูซีด ๆ ไม่น่ากิน แต่พอบีบมะนาวและคลุกเคล้าให้เข้ากับขนมจีน 
กลับอร่อยอย่างเหลือเชื่อ เป็นของกินที่ดูไม่น่าอร่อย แต่เจอที่ไหนต้องสั่งมาลองกิน





ต่อด้วยปั้นขลิบสดนึ่งไส้ปลา 120 บาท





แป้งบางจนมองเห็นไส้เนื้อปลาข้างใน



หอมเนื้อปลา ที่โขลกผสมเครื่องเทศไม่เน้นพริกไทยจนกลบรสปลา
กินโดยห่อกับผักกาดหอมและผักชี เป็นได้ทั้งของกินเล่นเรียกน้ำย่อย หรือกินเอาอิ่ม



วันนี้มีโรตีแกงเขียวหวานเนื้อ 150 บาท



โรตีหั่นเป็น 8 ชิ้นเล็ก



หอมเครื่องแกง



มาถึงของกินที่อยากให้เธอได้ลอง
ข้าวแช่ชาววัง 300 บาท ที่นี่มีให้กินทั้งปี ยังคงดีงามเหมือนเดิม
ก่อนเธอกลับสิงคโปร์ มีโอกาสพาเธอไปกินข้าวแช่อีกครั้งที่เกาะเกร็ด
ก่อนนั่งเรือรอบเกาะเกร็ด และปิดท้ายด้วยมื้อเย็นที่ร้านครัวจ่ายัณ 2



วันนี้เครื่องเคียงข้าวแช่มีครบ



ทั้งมะม่วงดิบแกะเป็นรูปใบไม้



และกระชายกรีดเป็นดอกจำปี



หนึ่งชุดกินได้สองคน



ผู้จัดการถึงกับทึ่งในการจัดเตรียมอาหารชนิดนี้
ใช้เวลาพอสมควรในการอธิบายถึงส่วนประกอบของข้าวแช่ชุดนี้ 
แต่ก็ถือว่าเป็นการพักยกรอเวลาย่อย จากอาหารสามจานก่อนหน้า
อย่างแรก คือ ข้าว บ้านวรรณโกวิทใช้ข้าวเสาไห้ ข้าวพื้นเมืองของอำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี 
ขัดข้าวด้วยผ้าขาวบาง หุงแล้วได้เม็ดยาวสวย ต้องอาศัยฝีมือและประสบการณ์ ที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
ในการหุงให้ข้าวสุกพอดีทั่วทั้งเมล็ด เมล็ดข้าวไม่แข็งเป็นไตตรงกลาง



การกินยังมีขั้นตอน เรื่มจากตักข้าวใส่ถ้วยแบ่ง 
รินน้ำลอยดอกมะลิอบควันเทียนที่แช่ในโอ่งดินให้เย็น จากโถแก้วใส่ชาม
ใช้ช้อนแยกจากเครื่องข้าวแช่ ไม่ให้ความมันลงไปในน้ำข้าวแช่
และกลิ่นของเครื่องเคียงข้าวแช่ ทำลายกลิ่นหอมของน้ำอบควันเทียนลอยดอกมะลิ
ใช้ส้อมกินเครื่องข้าวแช่ก่อน เคี้ยวจนหมดแล้ว จึงตามด้วยข้าวแช่
เพื่อเป็นการล้างกลิ่นเครื่องเคียงข้าวแช่แต่ละอย่าง ก่อนกินคำค่อไป
หรือจะชิมความหอมของข้าวในน้ำลอยดอกมะลิ หรือดอกชมนาดแล้วแต่มี อบด้วยควันเทียน
แล้วค่อยกินเครื่องข้าวแช่ตามปกติ ก็ไม่ผิดกติกา





เครื่องข้าวแช่วันนี้ยังคงมี 5 อย่าง ประกอบด้วย
พริกหยวกยัดไส้ห่อด้วยหรุ่มไข่







ไส้หมูเด้งปรุงรส



ไช้โป้วหวานหั่นเป็นเส้นยาว



เนื้อปลายี่สนผัดหวาน



หมูเค็มฝอย ออกหวานเล็กน้อย





กะปิหวานชุบไข่ทอด เคี้ยวหนึบ ๆ หอมกลิ่นกระชาย



ปิดท้ายด้วยข้าวตังหน้าตั้ง 120 บาท



น้ำจิ้มข้าวตังหอมรากผักชี กระเทียม พริกไทยและกะทิ ใส่หมูสับและกุ้งสับ



ผู้จัดการประทับใจกับอาหารไทยโบราณมื้อนี้
ไม่สั่งของหวานเพราะจะพาเธอไปดับร้อนอีกร้าน ที่ร้านของหวาน คือ บ้านขนมปังขิง



นึกว่าจะข้ามแยกคอกวัวไปถนนตะนาวฝั่งตรงข้าม 
เพื่อให้ดูบรรยากาศถนนข้าวสารแบบผ่าน ๆ แต่ปิดถนนห้ามเข้า





จากบ้านวรรณโกวิทจะไปต่อที่บ้านขนมปังขิง ซอยหลังโบสถ์พราหมณ์
ปัญหา คือ ที่จอดรถ ตั้งใจว่าจะจอดรถที่ที่จอดรถศาลเจ้าพ่อเสือ หรือวัดมหรรณพฯ
จากถนนอัษฎางค์เลี้ยวซ้ายเข้าถนนแพร่งนรา เลี้ยวซ้ายเข้าถนนบูรณศาสตร์ บังเอิญมีที่จอดรถไม่เสียเงิน
เดินเลี้ยวขวาเข้าถนนบุญศิริออกถนนตะนาวเข้าถนนมหรรณพ 











เดินทางซ้ายเลี่ยงการเปียกน้ำ



เลี้ยวขวาเข้าซอยมหรรณพ 2





ถึงสี่แยกเลี้ยวซ้ายเข้าซอยหลังโบสถ์พราหมณ์ หรือซอยนาวา
ผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวแคะหลังโบสถ์พรามหณ์