จุดเริ่มต้นทริปนี้ มาแบบงงๆ เพื่อนให้เงื่อนไขว่าจะไปต่างประเทศ และพวกเรายังไม่เคยไป แต่เวลาให้สามวันถ้วนซึ่งตรงกับช่วงวันหยุด เราคิดหนักมาก ว่าจะไปไหนที่ดี สรุปจบลงที่ที่นี่ อินโดนีเซีย และแน่นอน ถ้าเราแนะนำต้องไม่ใช่ที่ที่คนนิยมมากๆ ด้วย บาหลีหรอ โบรโม่หรอ ไม่ค่ะ ดูเวลาบินแล้ว ไม่พอจ้า เลยต้องมาจบที่บันดุง มีอะไรไม่รู้ จองตั๋วไปก่อน ค่อยว่ากัน 🤣🤣

     กระทู้นี้รูปจะน้อยหน่อย ตอนแรกว่าจะไม่รีวิว เพราะไม่ได้เตรียมตัวหาข้อมูลมารีวิวให้ แต่จบทริปแล้ว ก็รู้สึกว่า เมืองนี้ก็มีอะไรดีเหมือนกันแฮะ และไม่ต้องใช้เวลามาก มีแค่สามวันก็เที่ยวที่สำคัญๆ หมดแล้ว เหมาะกับเป็นทริปสั้นๆ มาเปลี่ยนบรรยากาศ หลบร้อนจากประเทศไทย

    เมือง bandung บันดุง อยู่ในส่วนที่เรียกว่า west java หรือเกาะชวาตะวันตก ห่างจากเมืองจาร์กาต้าไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 100 กว่ากิโลเมตร เคยได้สมญานามว่าเป็น Paris of Java เราขอยกให้เป็นเมืองที่อากาศดีมากกก สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 750 เมตร ขนาดเราไปช่วง dry (ฤดูแล้ง) ยังไม่มีวันไหนร้อนเลย แม้จะอยู่ในตัวเมือง อุณหภูมิที่เจอต่ำสุดที่ 1x องศา สูงสุดที่ 2x องศา ส่วนที่เที่ยวจะได้เจอแต่ภูเขาไฟ น้ำพุร้อน ป่าฝนเขตร้อน และไร่ชา เคยได้สมญานามว่าเป็น Paris of Jav

เราออกเดินทางกัน 27-30 july 2023
27 july 
     22.25 dmk-cgk
28 july
     02.00 arrive cgk
     South of Bandung : White carter-Rancabali-Glamping lakeside
     City of Bandung : Braga Steet
29 july
     North of Bandung : Tangkuban-Kopi luwak cikole-Orchid Forest Cikole
     City of Bandung : Braga Steet
30 july
     8.00 go to jakarta
     National monument-Central park mall
     16.25 cgk-dmk

ค่าใช้จ่าย
ตกคนละ 14xxx ไม่รวมค่าของฝากนิดหน่อย 
ตั๋วเครื่องบิน 7,430 บาท
โรงแรม 2 คืน 1,209 บาท
ค่ารถ+ไกด์ประมาณ 3,000 บาท
ค่าเข้าสถานที่ประมาณ 1,400 บาท
ค่าอาหาร ขนมประมาณ 1,400 บาท
     ค่าทริปถูกลงกว่านี้ได้อีก อันนี้คือตั๋วแพงแบบจุกๆ เพราะจองเลย ไม่ได้รอลด เราต้องบินเวลานั้นวันนั้นเท่านั้น

การเดินทางไป bundung
1. บินลงสนามบิน bandung airport (husein sastranegara) ไม่ได้แนะนำขนาดนั้น ถ้าไปจากไทย เพราะต้องต่อเครื่องอยู่ดี เสียเวลาพอๆ กันกับลงที่จาร์กาต้า แต่ถ้ามาจากเมืองอื่นๆ ในอินโดนีเซีย หรืออยากเที่ยวที่อื่นด้วย บินลงเลยก็ดีกว่า
2.รถบัส จากสนามบินจาร์กาต้า ราคาประมาณคนละ 400-700 บาท จะมี 2-3 เจ้า เพื่อนแนะนำ Jackal Holidays แต่เที่ยวเช้าสุดน่าจะประมาณ 6 โมงเช้า สำหรับคนมาน้อยๆ 1-2 คน แนะนำใช้มากกว่า ใช้เวลาประมาณ 3-4ชั่วโมง แล้วแต่เวลาว่าจะรถติดขนาดไหน
3.รถไฟตอนนี้มีแต่แบบธรรมดา ขึ้นที่ gambir อันนี้ไม่ได้หาข้อมูลต่อ เพราะเวลาเราน้อย ไม่ได้ใช้แน่นอน ต่อไปจะมีความเร็วสูงจากจาร์กาต้า ยังไม่เปิดใช้บริการ เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อเดือนที่แล้วเอง เดือนนี้น่าจะเปิดให้ทดลองใช้ฟรีสำหรับคนอินโด ใช้ระยะเวลาประมาณแค่หนึ่งชั่วโมง ซึ่งย่นระยะเวลาไปได้มากๆ ต่อไปจะสะดวกสุดๆ
4.เหมารถ แน่นอนว่าสะดวกสุดแล้ว 🤣🤣 อันนี้ไม่ได้หาข้อมูลละเอียดมาก เราก็ทักแต่ละเจ้าไปเรื่อยๆ ว่าถ้าไปเท่านี้คน จำนวนวันเท่านี้ เที่ยวที่ไหนบ้างคร่าวๆ ขอราคามา สรุปจบที่ของ agency นี้

   Ekaputra tour ไม่ใช่ที่ที่เราบอกว่าเริ่ด ต้องไปกับที่นี่เท่านั้น มีทั้งข้อดี ข้อเสีย ขอรีวิวแบบละเอียดตรงนี้เลยที่เดียว
https://ekaputrawisata.com/

   เราขอให้เค้าจัดรถสำหรับ 6 คน เค้าเสนอว่า ต้องรถตู้เท่านั้น toyota hiace 13 ที่นั่ง แต่ก็มีที่นั่งจริงแค่ 9 ที่ เพราะพับเบาะแถวหลังสุดไว้วางกระเป๋า แต่ถ้าอยากนั่งเต็ม 12 ที่นั่ง ก็ต้องเอากระเป๋ามาใบเล็กๆ อันนี้ 6 คน กลิ้งบนรถได้สบายมาก ราคาอยู่ที่ 5.000.000IDR ประมาณ 11xxx บาท ราคารวม คนขับรถ น้ำมัน ค่าทางด่วน รับส่งสนามบิน สำหรับ 3 วัน วันแรกตีสอง-วันที่สามถึงบ่ายสามโมง
     แต่..คนขับรถตู้ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ เพราะฉนั้น เค้าเสนอให้เราจ้างไกด์อีก 3 วัน ที่ราคา 2.500.000IDR ประมาณ 5xxx บาท ราคารวมที่พักของไกด์ ถ้ามากันน้อย สามารถใช้รถเล็ก toyota innova นั่งได้มากสุด 5 ที่นั่ง

ความคิดเห็นส่วนตัว
     ราคาโดยรวมเรา ค่าเหมารถไม่แพงเลยสักนิด แต่เราต้องมีไกด์ด้วย ทำให้ถ้าหาร 6 คนแพงไปหน่อย แต่ถ้ามามากกว่านี้ ถือว่าถูกเลย เพราะค่ารถจากจาร์การ์ต้าไปกลับก็ 800 บาทต่อคนแล้ว ไม่รวมเหมารถเที่ยวอีกสองวัน และถ้าไฟต์บินแบบเราลงเครื่องตีสอง เหนื่อยมากแล้ว เหมารถเถอะ

ข้อดี
ไว้ใจได้ ไม่ได้โดนหลอก พาไปมั่ว
ไม่ได้พาเข้าร้านนู้นนี้ที่ไม่ได้อยากไป
ไม่ได้โดนทิ้งกลางทาง
คิดเงินตามปกติที่แจ้งราคาไว้
สามารถติดต่อได้ตลอดเวลา ตอบไว

ข้อเสีย
ถ้าอยากรู้อะไรก็ถามได้ แต่ถ้าไม่ถาม ก็ไม่บอก ไม่ได้แนะนำว่าต้องเตรียมตัวอะไร เที่ยวอะไรที่ไหน อันนี้ไม่แน่ใจว่า เพราะเราไม่ได้ไปแบบทัวร์เค้าจัดไหม ตอน confirm ว่าเราไปถึงกี่โมง เค้าบอกจะไปรอ terminal3 เราบอก เราลง terminal2 นะ ก็งงๆ นิดหน่อย เพราะตอนเราส่งเป็น ter2 ให้เค้านะ

คนขับรถตู้ มามิ ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️
     เป็นคุณลุงชื่อ มามิ เริ่ดที่สุด คือถ้าลุงพูดภาษาอังกฤษได้นะ ยกให้เป็นนัมเบอร์วันในใจเลยค่ะ แต่การขับรถต้องหลับหูหลับตาหน่อย ลุงแซงแบบสุดติ่งมาก แซงไหล่ทางซ้าย แล้วปาดกลับขวา หรือไฟสูงใส่คันข้างหน้าที่ช้าพร้อมบีบแตร แต่ก็ปลอดภัยนะ เรื่องขับรถและรู้ทางและมีความรู้สถานที่ต่างๆ เก่งมาก ถ้าเราพยายามที่จะบอกจะบอกว่าไปที่ไหน ลุงก็พยายามฟัง ตั้งใจฟังตลอด และใน bundung ลุงรู้ทางหมดเลย และลุงก็จะจอดรถที่เราสามารถก้าวขาลงรถคือประตูทางเข้าเลย ไม่ต้องเดินสักก้าวเดียว ขากลับมาก็สามารถจอดรอเป็นคันแรกที่ประตูได้เช่นกัน เริ่ดกว่านี้ไม่ไหวละ ถ้าทาง Jakarta อาจจะถามเรื่องประตู ถามเรื่องที่จอดบ้าง แต่ลุงสูบบุหรี่ สูบอยู่นอกรถแล้วค่อยเข้ามา

ไกด์ nanda
     เราขอไกด์ผู้หญิงไปตั้งแต่แรก เพราะเพื่อนๆ เคยไปเมืองอื่นๆในอินโดนีเซีย ก็เคยเจอประสบการณ์ดีบ้างไม่ดีบ้าง เราเลยเน้นให้รู้สึกว่าปลอดภัยกว่าถ้าเป็นไกด์ผู้หญิง 😅 ตอนลงเครื่อง แน่นอนว่า...หาไกด์ไม่เจอจ้าาา เค้าไปนั่งแบบไม่ถือป้าย อยู่ตรงเก้าอี้ แล้วเราก็ไม่มีเบอร์ติดต่อ ทำให้เราต้องโทรไปหาเบอร์แอดมินตอนตีสาม ก็โชคดีไป ที่เค้ารับโทรศัพท์ และให้ไกด์ติดต่อมาอีกที ขอบอกเลยว่าคะแนนติดลบตั้งแต่วินาทีแรกยันจบทริป ที่เที่ยว ไม่รู้จักอะไรเลยยย แม้แต่เวลาเปิดปิด ค่าเข้าสถานที่ ในสถานที่นั้นมีอะไร ค่าบัตรใช้เล่นเครื่องเล่น หรือเข้าโซนไหนได้ ไม่รู้เลย ต้องไปถามคนตรงนั้นทุกอย่าง ทุกที่ ไม่แนะนำสิ่งรอบข้างว่าเป็นอะไร เราต้องถาม แต่ถ้าเราพูดอะไรไป เค้าจะตอบว่า yes สรุปทุกสิ่งที่เราคิดเองเออเอง คือสิ่งที่ถูก ก็เลยไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่เค้าเล่าละ บวกกับไม่มีเอนเนอจี้และความเป็นไกด์ เราคาดหวังว่าจะไปแบบไม่เตรียมตัว คือให้สถานที่ที่เราอยากไปอยู่สองสามที่ ส่วนที่เหลือจะให้เค้าแนะนำ ว่ามีลิสที่เที่ยวไหม อะไรยังไง ถ้ามีเวลาเหลือ สรุปให้เราไปตามตารางที่เราใส่ไว้หลวมๆแค่นั้นแหละ ถึงแม้เวลาจะเหลือค่อนวัน บอกว่ากลับตัวเมือง ทั้งที่ตรงนั้นที่เที่ยวเยอะมาก 😑😑 เลยไม่แน่ใจว่าผิดที่เราไม่บอกเอง ไม่หาข้อมูลมาเองรึเปล่า เที่ยวแบบจ้างไกด์และคนขับ คือเราต้องคิดเองและวางแพลนเวลาว่าจะไปไหนอะไรยังไงก่อนรึเปล่า เราเองก็ไม่ได้เที่ยวแบบมีไกด์นานมากแล้ว 🤣🤣 แต่ใดใด ใครไปเจอไกด์คนนี้เลี่ยงได้เลี่ยงค่ะ

     ได้เวลาเข้าเรื่อง เราบิน air asia 22.45-02.00(+1) รอบนี้เวลาน้อย ไฟต์บินแบบนี้ ไม่แนะนำเลย แต่เป็นไฟต์ที่ประหยัดเวลาได้ดีสุดละ

     ในที่สุดก็มาถึงแล้ววว อินโดนีเซียในรอบ 6 ปี ผ่านตมง่ายมาก ตอนนี้กฎล่าสุดคือ ไม่ต้องซื้อประกัน ไม่ต้องกรอกข้อมูลใดใด สามารถซื้อตั๋ว บินมาพร้อม passport ได้เลย ลงเครื่องแล้ว
1. ก่อนผ่านตม จะมี qr code ให้แสกน กรอกข้อมูล มาจากไฟต์ไหน เดินทางลงที่ไหน มีกระเป๋ามากี่ใบ ใช้หลังจากรับที่สายพานกระเป๋าเสร็จแล้ว จะมีพนักงานเช็ค qr code นี้

2. ผ่านตม passport ไทยฟรีวีซ่า 30 วัน ตม.ก็ถามว่ามาทำอะไร มากี่คน ไปเที่ยวไหน พักที่ไหน แล้วก็ให้ผ่านเลย
3. รับกระเป๋า
4. เช็ค qr code

     เราออกมานอกสนามบิน สนามบินนี้ส่วน outdoor จะเยอะกว่า พวกร้านอาหารจะอยู่ด้านนอกติดกันเป็นสิบร้านเลย ณ เวลานั้น มีร้านเปิดอยู่เกือบครึ่งได้ มีคนคอยถามเราเยอะมาก นั่ง taxi ไหม มาถึงตอนตีสองครึ่งก็ยังมี taxi ไม่ต้องเป็นห่วง เราขึ้นรถตู้ของเรา วันนี้เราจะเที่ยวทางด้านใต้ของ bandung ที่แรกของเราคือ White carter (Kawah Putih)
Kawah = carter ปากปล่อง
Putih = white สีขาว
     ขับรถใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงบนทางด่วนตั้งแต่ออกจากสนามบินมา เป็นถนน 4 เลนซะส่วนใหญ่ (ไป2 กลับ2) รถใหญ่และรถบรรทุกเยอะมากๆ มีแวะพักจุดพักรถ เข้าห้องน้ำและซื้อขนมด้วย จากนั้นอีก 1 ชั่วโมง จะเป็นทางขับรถขึ้นเขาโค้งไปโค้งมา จะเหลือถนน 2 เลน จะมีรถช้าและมอไซต์เป็นส่วนใหญ่ ถ้าถึงตอนแซงจะขับกันหวาดเสียวนิดนึง ส่วนสองข้างทางจะเจอกับไร่สตอเบอรี่และไร่ชามากมายเต็มสองข้างทาง
     และแล้วเราเดินทางมาถึงที่แรก แต่...ยังไม่ถึงเวลาเปิด ไกด์บอกว่าเปิด 7.00 แต่เปิดจริงเกือบ 8.00 เราจอดรอหน้าทางขึ้นไปเลย

การแต่งกาย
     อากาศเช้าวันนั้นอยู่ที่ 10 กลางๆ เย็นไปหน่อยนึง นี่อากาศช่วงหน้าร้อน ใครมาเมืองนี้เดือนอื่น ก็ให้พกเสื้อกันหนาวมาด้วย หนาวกว่านี้แน่นอน ใครขี้หนาว ก็เตรียมตัวมาให้พร้อม เพราะ bundung อยู่สูง และอากาศเย็นตลอดทั้งปี บางช่วงก็ฝนตก เราโชคดีมาก อาทิตย์นึงก่อนเรามาฝนตกทั้งอาทิตย์ ซึ่งอาทิตย์นี้อากาศดี ฟ้าโปร่ง
     ผู้หญิงใส่กางเกงขาสั้นได้ แต่ไม่สั้นมาก แต่ก็แปลกอยู่ดี 🤣🤣 กระโปรงใส่ได้ แต่ละที่ที่เราไปไม่ได้ลำบากมาก เราไม่ได้เลือกเดินรูทเดินป่า ปีนเขา ไม่มีปัญหา แต่รองเท้าส้นสูงไม่ต้องเอามา พื้นไม่เหมาะให้เดินเลยจ้า

     White carter จากประตูทางเข้า ขับรถขึ้นเขาอีก 5 นาที ก็จะถึง เดินอีกห้านาทีจากที่จอดรถ ก็จะถึงทางเข้า และให้เราเดินลงไปยังปากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งยังเป็น active volcano อยู่ ตอนนี้ จะเจอกับทะเลสาบน้ำสีฟ้า ซึ่งมีกลิ่นกำมะถันค่อนข้างแรง แต่ไม่ถึงกับมีควันฟุ้ง มีทางเดินตรงกลางที่เห็นจะมีค่าเข้า 25,000IDR/คน

     มีทางเดินสามารถเดินไปดูวิวได้ด้านบน จะไม่มีต้นไม้บัง เสียเงิน 25,000IDR/คน เหมือนกัน(ทางเดินด้านขวาบนที่ขนานกัน) แต่ถ้าทางปกติ ก็สามารถดูวิวมุมสูงได้ ไม่เสียตัง แต่มีต้นไม้บัง

ค่าเข้า 110,000IDR/คน +รถ 15,000IDR/คัน