ในฐานะเป็นประชาชนคนที่เลือกพรรคเพื่อไทย ไม่รู้สึกเสียใจเลยที่เพื่อไทย ประกาศแยกทางออกมาจากก้าวไกล จากการรับฟังช่องทีวีหลายช่องที่เชิญกูรูทางรัฐศาสตร์ให้ความเห็น วิเคราะห์ กูรูก็คือ ประชาชนคนหนึ่งที่มี 1 เสียง เหมือนประชาชนทุกคน แต่กูรูหลายๆคน รวมถึงนักข่าว มีโอกาสในการสื่อสารความเห็นของตนเอง ที่แฝงความเป็นVoter ของพรรคการเมืองของตน สื่อสารออกมาทุกวัน ชื่นชมให้เครดิตพรรคการเมืองหนึ่ง ถือโอกาสที่ชักจูงให้คนคล้อยตามความเห็นของตนเอง...ในฐานะที่ไม่ได้ออกสื่อ...ไม่มีโอกาสพูดผ่านสื่อ แต่มีคำถามอยู่ตลอดว่า ทำไมไม่มีกูรูคนไหน พูดประเด็น คำถามต่อไปนี้ อยากให้ Voter ก้าวไกล หรือกูรู ที่สนับสนุนก้าวไกล ช่วยมาตอบให้กระจ่างด้วยครับ 

 1 .พรรคการเมืองที่จดทะเบียนพรรคการเมือง และลงสมัครเลือกตั้ง มีพรรคไหนบ้างที่ฝักไฝ่เผด็จการ ไม่สนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรย์เป็นองค์พระประมุข
2.ก้าวไกล และกูรูทั้งหลาย มักจะพูดเสมอว่าประชาชนที่เลือก 8 พรรค เป็นประชาชนที่ฝักไฝ่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรย์เป็นองค์พระประมุข แต่ก้าวไกล ไม่เคยพูดว่า ประชาชนอีกฝั่งหนึ่ง เป็นประชาชนที่ฝักไฝ่เผด็จการ ไม่นิยมการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรย์เป็นพระประมุข แสดงว่า ยอมรับว่า voter อีกฝั่งหนึ่งก็เป็นประชาชนที่ศรัทธาการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรย์เป็นพระประมุข ใช่หรือไม่
 
3. จากข้อที่ 1 และ ข้อที่ 2 ดังนั้นถ้าไม่สามารถหาข้อโต้แย้งใดๆได้ แสดงว่า ก้าวไกลยอมรับว่า ทุกพรรคการเมืองสนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรย์เป็นองค์พระประมุข และ Voter ของทุกพรรคการเมือง ไม่ได้สนับสนุนเผด็จการ มีความศรัทธาในประชาธิปไตย ดังนั้น การที่พรรคการเมืองใดๆ จะไปร่วมทำงานกับพรรคอื่นๆ ที่มีสถานะ ในความเป็นประชาธิปไตยไม่ต่างกันในทางกฎหมาย มันเป็นสิทธิที่เขาย่อมทำได้ เสมือนก้าวไกลได้กระทำมาแล้วในการเลือกนายกครั้งที่ 1 ดังนั้นถ้ามองว่าทุกพรรคการเมืองเป็นพรรคการเมืองที่มาจากระบอบประชาธิปไตย ตามกฎหมายมันไม่ได้เกิดปัญหาใดๆ แต่ที่มันเกิดปัญหาทุกวันนี้ เพราะใช้ความรู้สึก ใช้ความคิดเห็นส่วนตัว พูดออกสื่อทุกๆวัน เสมือนการปลุกระดมมวลชน ที่ไม่ได้แตกต่างไปจากการปลุกระดมเพื่อสร้างลัทธิ หรือความเชื่อ