อันนี้สังเกตมาจากสังคมรอบด้านนะครับของผมเพราะว่าตัวผมนั้นรู้สึกว่าตัวเองมีอาการซึมเศร้าเลยเข้ารับการรักษาจากจิตเวชเป็นประจำ
เมื่อก่อนรักษาโดยใช้สิทธิ์บัตรทอง
แต่ตอนนี้เริ่มทำงานเองได้แล้วเลยเลือกแบบจ่ายเงินเอง
ตอนเราตรวจหมอก็วินิจฉัยแล้วว่าเราไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้านะ เราปกติทุกอย่างแต่เป็นเพียงเพราะความคิด
ของเราเลยทำให้เราเป็นซึมเศร้าชั่วขณะ
ก็คือไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้านั่นเองแต่มีอาการซึมเศร้าแค่ช่วงนั้น
เพราะว่าถ้าเป็นโรคซึมเศร้าหมอบอกว่าจะรักษายากกว่านี้เพราะว่ามันเป็นโรคจากสารเคมีในสมอง
มีครั้งนึงที่เรานั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนผู้ชายมีทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องหลายคนเราก็จำไม่ได้แล้วว่าใครเป็นคนพูดเรื่องเราไปหาหมอขึ้นมา แล้วก็มีคนนึงพูดมาอีกว่าผมอ่ะเป็นผู้ชายจะไปหาทำไมหมอไม่ต้องไปหาหมอหรอก
หมอเค้าหลอกเอาเงินเราทั้งนั้นแหละ
หมอเค้าแบบนั้นแบบนี้ บลาๆ
พูดให้เราไม่เชื่อใจหมอ
ช่วงแรกเราก็เชื่อเขาส่วนนึงนะว่า ก็อาจจะเป็นจริงอยู่บางส่วน
แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เวลาผ่านไปซักเดือนสองเดือน
ผมเริ่มรู้สึกแย่ลงมากเลยกลับไปหาหมออีกรอบ
เรารู้สึกว่าการไปหาหมอนั้น
ไม่จำเป็นต้องรับยาหรือกินยาเลย
หมอเค้าก็ไม่ได้บังคับด้วยถ้าเราเจรจากับเขาให้รู้เรื่อง
ของผมจะขอเป็นเรื่องออกไปคุยปรับทัศนคติเป็นช่วงๆได้ไหม
แต่จะไม่ขอกินยาเพราะว่าผมกลัวเรื่องตับของผม
การปรับทัศนคติเหมือนเค้าพูดในมุมมองที่เราไม่เข้าใจหมอเค้าไม่ได้มองว่าเราเป็นคนป่วยแต่เค้าจะพูดในมุมมองที่เห็นทั้งตัวเราและคนอื่น
หมอจิตเวชก็คือหมอทางจิตนั่นแหละเค้าผ่านด้านนี้มาเค้าก็ต้องทำได้
เพราะตอนนี้เรารู้แล้วเราก็เลือกที่จะรักษาต่อ
ของเราไม่มีอะไรมากเพียงแค่ปรับทัศนคติ
... ผมอยากจะเป็นกำลังใจให้หลายคนเลย
ที่ไม่รู้ทางออกว่าตอนนี้ตัวเองอยากจะไปปรึกษาใครที่ไหน
คนที่เป็นหมอก็ต้องรู้อยู่แล้วเพราะเขาผ่านด้านนั้นมา
แต่เรายังมองสังคมไทยส่วนมากที่ไปหาหมอจิตเวชเป็นคนบ้าและจัดการตัวเองไม่ได้อยู่
ในเมื่อคนเราเกิดมาโชคชะตาไม่เหมือนกัน
ก็ไม่จำเป็นต้องไปข่มเหงรังแกคนที่อ่อนแอกว่านะครับ
บางทีเค้าอาจจะไม่ได้อ่อนแอด้วยเค้าอาจจะเข้มแข็งกว่าคุณด้วยซ้ำ
ที่เขาผ่านมันมาได้ขนาดนี้
ทำไมบางคนถึงยังเหยียดเรื่องการไปหาหมออยู่
เมื่อก่อนรักษาโดยใช้สิทธิ์บัตรทอง
แต่ตอนนี้เริ่มทำงานเองได้แล้วเลยเลือกแบบจ่ายเงินเอง
ตอนเราตรวจหมอก็วินิจฉัยแล้วว่าเราไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้านะ เราปกติทุกอย่างแต่เป็นเพียงเพราะความคิด
ของเราเลยทำให้เราเป็นซึมเศร้าชั่วขณะ
ก็คือไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้านั่นเองแต่มีอาการซึมเศร้าแค่ช่วงนั้น
เพราะว่าถ้าเป็นโรคซึมเศร้าหมอบอกว่าจะรักษายากกว่านี้เพราะว่ามันเป็นโรคจากสารเคมีในสมอง
มีครั้งนึงที่เรานั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนผู้ชายมีทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องหลายคนเราก็จำไม่ได้แล้วว่าใครเป็นคนพูดเรื่องเราไปหาหมอขึ้นมา แล้วก็มีคนนึงพูดมาอีกว่าผมอ่ะเป็นผู้ชายจะไปหาทำไมหมอไม่ต้องไปหาหมอหรอก
หมอเค้าหลอกเอาเงินเราทั้งนั้นแหละ
หมอเค้าแบบนั้นแบบนี้ บลาๆ
พูดให้เราไม่เชื่อใจหมอ
ช่วงแรกเราก็เชื่อเขาส่วนนึงนะว่า ก็อาจจะเป็นจริงอยู่บางส่วน
แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เวลาผ่านไปซักเดือนสองเดือน
ผมเริ่มรู้สึกแย่ลงมากเลยกลับไปหาหมออีกรอบ
เรารู้สึกว่าการไปหาหมอนั้น
ไม่จำเป็นต้องรับยาหรือกินยาเลย
หมอเค้าก็ไม่ได้บังคับด้วยถ้าเราเจรจากับเขาให้รู้เรื่อง
ของผมจะขอเป็นเรื่องออกไปคุยปรับทัศนคติเป็นช่วงๆได้ไหม
แต่จะไม่ขอกินยาเพราะว่าผมกลัวเรื่องตับของผม
การปรับทัศนคติเหมือนเค้าพูดในมุมมองที่เราไม่เข้าใจหมอเค้าไม่ได้มองว่าเราเป็นคนป่วยแต่เค้าจะพูดในมุมมองที่เห็นทั้งตัวเราและคนอื่น
หมอจิตเวชก็คือหมอทางจิตนั่นแหละเค้าผ่านด้านนี้มาเค้าก็ต้องทำได้
เพราะตอนนี้เรารู้แล้วเราก็เลือกที่จะรักษาต่อ
ของเราไม่มีอะไรมากเพียงแค่ปรับทัศนคติ
... ผมอยากจะเป็นกำลังใจให้หลายคนเลย
ที่ไม่รู้ทางออกว่าตอนนี้ตัวเองอยากจะไปปรึกษาใครที่ไหน
คนที่เป็นหมอก็ต้องรู้อยู่แล้วเพราะเขาผ่านด้านนั้นมา
แต่เรายังมองสังคมไทยส่วนมากที่ไปหาหมอจิตเวชเป็นคนบ้าและจัดการตัวเองไม่ได้อยู่
ในเมื่อคนเราเกิดมาโชคชะตาไม่เหมือนกัน
ก็ไม่จำเป็นต้องไปข่มเหงรังแกคนที่อ่อนแอกว่านะครับ
บางทีเค้าอาจจะไม่ได้อ่อนแอด้วยเค้าอาจจะเข้มแข็งกว่าคุณด้วยซ้ำ
ที่เขาผ่านมันมาได้ขนาดนี้