สวัสดีค่ะ !!
ก่อนอื่นขอเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างระหว่างเรา
เขาเห็นหัวหน้างานมีตำแหน่งสูงกว่าเรา
ส่วนเราก็แค่หัวหน้างานระดับต้น ๆ
เรื่องของเราเริ่มจากการที่เขามาตรวจสาขา
นั่นเป็นครั้งแรกที่เราได้เจอกัน . . .
ช่วงนั้นเรามีปัญหากับแฟนและได้เลิกกัน
แต่ยังอยู่บ้านผู้ชาย (รอหยุดงาน เพื่อจะย้ายของออก)
หลังจากที่เราเลิกกับแฟน เราก็ได้ตั้งรูปโปร์ในไลน์
เป็นสีดำ แล้วเขาก็ทักมาหา มาถามเราว่าเป็นอะไร
เพราะเขากลัวมีผลกระทบกับงาน
หลังจากที่เราคุยกันทุกวัน เราก็สนิทกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
เรารู้สึกว่าตอนนั้นเรามีความสุขมาก ๆ
เขา คือ คนที่มาเติมเต็มให้เราในทุกเรื่องที่เราขาด
เราสองคนวีดีคอลคุยกันทุกวัน เช้า เย็น
เวลาเราทำงานเขาก็จะแอบส่องกล้องดูเราที่สาขา
เวลาผ่านไปเราสองคนก็ได้มีความสัมพันกัน
โดยก่อนหน้านั้นเราถามเขาตลอดว่าเขามีแฟนมั้ย
เขาก็บ่ายเบี่ยงไม่ตอบและตอบติดตลกไป
จนเราก็ได้คบกัน เป็นแฟนกัน (เราอายุห่างกันมาก)
หลังจากนั้นเขาก็มีปัญหาเรื่องงาน เลยออกจากงาน
ส่วนเราก็ยังทำอยู่ แต่ทำอีกไม่นานเราก็ลาออก
และได้ย้ายมาอยู่ กทม. โดยที่เขาเป็นคนช่วยหาหอ
และจ่ายค่ามัดจำหอให้เรา ขนของให้เราทั้งหมด
หลังจากนั้นเราก็หางานทำใหม่ที่ กทม.
ส่วนเขาก็ยังไม่ได้งาน ( เป็นช่วงโควิดรอบแรกพอดี )
ระหว่างที่รองาน เราก็ไปตะเวนขายของตามที่ต่างๆด้วยกัน
(ช่วงนั้นไม่มีรถส่วนตัวเนื่องจากตกงานเลยขายรถ)
เราหอบของขึ้นรถเมลล์ไปขายด้วยกัน เรียกรถรับจ้าง
เราสองคนไปเป็นพ่อค้าแม่ค้าด้วยกันครั้งแรก
ทำธุรกิจหลาย ๆ อย่างด้วยกัน ดีบ้าง เจ๊งบ้าง
ผ่านความรำบากด้วยกันสาระพัด
สองคนเหลือเงิน 10 บาท ก็เคยผ่านมาด้วยกัน
ทุกวันที่ขายของเสร็จเขาก็จะมาอยู่หอกับเราทุกวัน
พอมืด ๆ เขาก็กลับบ้านเขา ( ห่างจากหอประมาณ 7-8 โล)
เราสองคนเป็นอยู่แบบนี้สักพัก
วันนึงเราเกิดความสงสัยเรื่องสถานะของตัวเอง
ทำไมรู้สึกมันไม่ชัดเจน เราเลยเสียมารยาทแอบดูโทรศัพท์เขา
แต่สิ่งที่เจอ คือ . . . จุดเริ่มต้นของความเสียใจ
เดี๋ยวมาต่อนะคะ แบตหมด !!!
ทำไมเขาถึงยังทนกับคนห่วยๆแบบเรา
ก่อนอื่นขอเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างระหว่างเรา
เขาเห็นหัวหน้างานมีตำแหน่งสูงกว่าเรา
ส่วนเราก็แค่หัวหน้างานระดับต้น ๆ
เรื่องของเราเริ่มจากการที่เขามาตรวจสาขา
นั่นเป็นครั้งแรกที่เราได้เจอกัน . . .
ช่วงนั้นเรามีปัญหากับแฟนและได้เลิกกัน
แต่ยังอยู่บ้านผู้ชาย (รอหยุดงาน เพื่อจะย้ายของออก)
หลังจากที่เราเลิกกับแฟน เราก็ได้ตั้งรูปโปร์ในไลน์
เป็นสีดำ แล้วเขาก็ทักมาหา มาถามเราว่าเป็นอะไร
เพราะเขากลัวมีผลกระทบกับงาน
หลังจากที่เราคุยกันทุกวัน เราก็สนิทกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
เรารู้สึกว่าตอนนั้นเรามีความสุขมาก ๆ
เขา คือ คนที่มาเติมเต็มให้เราในทุกเรื่องที่เราขาด
เราสองคนวีดีคอลคุยกันทุกวัน เช้า เย็น
เวลาเราทำงานเขาก็จะแอบส่องกล้องดูเราที่สาขา
เวลาผ่านไปเราสองคนก็ได้มีความสัมพันกัน
โดยก่อนหน้านั้นเราถามเขาตลอดว่าเขามีแฟนมั้ย
เขาก็บ่ายเบี่ยงไม่ตอบและตอบติดตลกไป
จนเราก็ได้คบกัน เป็นแฟนกัน (เราอายุห่างกันมาก)
หลังจากนั้นเขาก็มีปัญหาเรื่องงาน เลยออกจากงาน
ส่วนเราก็ยังทำอยู่ แต่ทำอีกไม่นานเราก็ลาออก
และได้ย้ายมาอยู่ กทม. โดยที่เขาเป็นคนช่วยหาหอ
และจ่ายค่ามัดจำหอให้เรา ขนของให้เราทั้งหมด
หลังจากนั้นเราก็หางานทำใหม่ที่ กทม.
ส่วนเขาก็ยังไม่ได้งาน ( เป็นช่วงโควิดรอบแรกพอดี )
ระหว่างที่รองาน เราก็ไปตะเวนขายของตามที่ต่างๆด้วยกัน
(ช่วงนั้นไม่มีรถส่วนตัวเนื่องจากตกงานเลยขายรถ)
เราหอบของขึ้นรถเมลล์ไปขายด้วยกัน เรียกรถรับจ้าง
เราสองคนไปเป็นพ่อค้าแม่ค้าด้วยกันครั้งแรก
ทำธุรกิจหลาย ๆ อย่างด้วยกัน ดีบ้าง เจ๊งบ้าง
ผ่านความรำบากด้วยกันสาระพัด
สองคนเหลือเงิน 10 บาท ก็เคยผ่านมาด้วยกัน
ทุกวันที่ขายของเสร็จเขาก็จะมาอยู่หอกับเราทุกวัน
พอมืด ๆ เขาก็กลับบ้านเขา ( ห่างจากหอประมาณ 7-8 โล)
เราสองคนเป็นอยู่แบบนี้สักพัก
วันนึงเราเกิดความสงสัยเรื่องสถานะของตัวเอง
ทำไมรู้สึกมันไม่ชัดเจน เราเลยเสียมารยาทแอบดูโทรศัพท์เขา
แต่สิ่งที่เจอ คือ . . . จุดเริ่มต้นของความเสียใจ
เดี๋ยวมาต่อนะคะ แบตหมด !!!