อึ้ง activate เฟสบุคอันเก่าเจอภาพคนอื่นส่งน้ำ /ข้าว/ ให้แฟน ตอนผมอยู่ต่างประเทศ ขอวิธีทำใจครับ


ขอเท้าความก่อนว่าเธอเคยเป็นคนรักเก่าของผมครับ เราเป็นเพื่อนกันมาก่อน แต่วันที่ 16/12/2010 เธอจับได้ว่าแฟนเธอนอกใจ เธอเลยคุยกับผมครับ สมัยนั้นก็ msn เนาะ คุยกันไปกันมา ปลอบใจกันไปมา ก็รักกันครับ ผมอยู่ภาคใต้ แต่ได้ขึ้นกรุงเทพไปหาเธอบ่อย ๆ ระหว่างนั้นแฟนเก่าเธอคนที่นอกใจก็แวะเวียนมาก่อกวนผมบ้าง ด้วยการส่งข้อความมาเย้ยหยัน กึ่งต่อว่า ว่าผมจน ปลวก ไม่เหมาะสมกับเธอที่หน้าตาดีและมีฐานะดี บอกผมให้ไปทำศัลยกรรม บลาบลา ตอนนั้นผมไม่อยากตอบโต้อะไรไป เลยส่งรอยยิ้มโง่ๆ ^___^ แบบนี้ครับตอบโต้ แฟนเก่าเธอไป เข้าใจอารมณ์ แบบหวงก้าง ไรงี้ อีกนัยนึงก็คือ ถ้าผมตอบโต้อะไรไป แฟนเก่า เธอก็มักจะโมโหและไประบายอารมณ์กับเธอครับ คือลึกๆ แล้วผมรู้มาตลอดว่าเค้าคงผูกพันธ์กันแหละ เพราะเค้าก็คบกันมาตั้ง เก้าปี  เวลาดำเนินมาเรื่อยๆ  จนผมเกิดอุบัติเหตุ แต่ไม่ถึงกับชีวิต ตำรวจไปเจอผมนอนข้างทาง และโทรออกเบอร์ล่าสุดหาเธอ และก็เป็นเธอ ที่คอยคุยกับผมตลอดเวลาที่รักษาตัว เราคุยกันทุกวันและเกือบจะทั้งวัน ผมส่งจดหมายหาเธอ ออน MSN วีดีโอ คอลกัน เสมอๆ พอผมเริ่มหายดีจากอุบัติเหตุ ก็ไปหาเธอ ที่กรุงเทพเรื่อยๆ ครับ ไปเกือบจะทุกเดือน  จนผมคบกับเธอ ได้หนึ่งปี และตอนนี้เอง ที่แฟนเก่าของเธอ ที่นอกใจไปหาผู้หญิงคนอื่น โดนผู้หญิงคนนั้นหักหลัง จึงพยายามกลับมาหาเธอ แบบเต็มรูปแบบ ผลก็คือ ผมไม่ชนะ ครับ แพ้หมดรูป เพราะไปสืบทราบมาว่าเค้าไปเที่ยว เพลินวานและ ฟาร์มแกะ ที่ฮิตๆ ตอนนั้นด้วยกัน ประมาณวันที่ 18 ในเดือนธันวาคมปี 2011  ผมใจเย็น ไม่ได้โมโหเธอ สิ่งเดียวที่ผมทำได้คือร้องไห้ ( ซึ่งข้อนี้เป็นจุดอ่อนของผมจริงๆ ครับ แฟนเก่าเธอก็เคยส่งข้อความมาด่าผมด้วยว่า " เลิกร้องไห้ได้แล้วเข้มแข็งหน่อย  ไม่มีความเป็นผู้นำ  เดทครั้งแรกพาผู้หญิงไปกินข้าวฟู๊ดคอร์ท บลาบลา )  พอเดือนมกราคมปี 2012  ก่อนที่ผมจะเริ่มงานโรงแรมที่ใหม่  แฟนผมเธอก็มาหาผมครับที่ใต้ ด้วยการบอกพ่อแม่ว่ามาเที่ยวกับที่ทำงาน  พ่อเธอไปส่งที่ รพ. ที่เธอทำงาน ส่วนเธอก็นั่งแท๊กซี่ต่อไปสนามบินเพื่อมาหาผม เราได้อยู่ด้วยกันสามวันเต็ม

ใจผมตอนนั้นคือรักเธอมาก และผมก็รู้ว่าเธอรักผมมาก ผมหาเหตุผลมา support การกระทำของเธอเสมอ เช่น ที่บ้านหวงมาก ไปไหนมาไหน นอนค้างอ้างแรมที่ไหนไม่ได้ แฟนเก่าคือคนที่เธอคบด้วยตั้งแต่มัธยม ตอนนั้นผมฐานะไม่ดีครับเพิ่งเริ่มทำงาน ไม่มีรถยนตร์ ขับแต่มอเตอร์ไซค์ ไม่สามารถพาเธอไปเที่ยวแบบสบายๆ ได้ ตอนที่เธอมาหาผมเธอก็นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ผมครับ ดังนั้นถ้าเธออยากจะไปเที่ยวไหน เธอจำเป็นต้องพึ่งพาแฟนเก่าของเธอ 

พอเธอกลับไปกรุงเทพแล้ว ผมก็บอกเลิกเธอครับ เพราะยังไงตอนนั้นเธอก็เลือกไม่ได้อยู่ดี และช่วงที่แฟนเก่าเธอกลับมาหลังจากเลิกกันไป หนึ่งปีเต็ม เธอก็โดนบังคับให้ลบ facebook ผมออก  ผมรักเธอมากแต่ผมทรมาน ไม่อยากให้เธอเป็นคนโกหกอีกต่อไป  เธอเป็นคนดีครับ เป็นผู้หญิงที่จิตใจดีและดีมากที่สุดคนนึงเท่าที่ชีวิตของผมจะมีได้ ผมอยากจดจำเธอไว้แบบนั้นมากกว่า  ปี 2012 เป็นปีที่ผมทุกข์มาก ผมคิดถึงเธอ เราทำได้แค่ส่งอีเมลล์ถึงกันแบบนานๆ ครั้ง 
ผมใจสลายทุกๆครั้งที่เธอส่งอีเมลล์มา และบางอีเมลล์ก็ทำให้ผมน้ำตาไหล 
"ดีกันได้ไหมคะ เค้าขอโทษ เค้าไม่รู้จะอยู่ยังไงถ้าไม่มีตัวเอง สีน้ำในใจเค้า"
ผมเสียใจมากๆ เฝ้าบอกตัวเองว่า ผมมันก็แค่จุดเปลี่ยนในชีวิตที่ทำให้เค้าสองคนรักกันมากขึ้นละมั้ง เป็น comfort zone หรืออะไรสักอย่างในชีวิต ที่ทำให้เค้าสองคนก้าวสู่ปีที่ 10-11-12-13 ไปเรื่อยๆ 

หลังจากนั้นมาผมก็กลายเป็นคนอีกคน ผมเข้มแข็งขึ้นบ้างาน เดทกับผู้หญิงหลายคน แต่ทีละคนนะครับ แต่ไม่เคยมีความสัมพันธ์จริงจังเลยสักครั้ง เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ผมมีความรัก ผมรู้สึกอ่อนแอ ผมไม่สู้คน ผมชอบรักเธอมากกว่ารักตัวเอง ผมรู้สึกเป็นไอ้ขี้แพ้ ทุกครั้งที่ผมมีความรัก หลังจากวันนั้นมา เธอก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมในการตั้งตาตั้งตาทำงาน เพื่อที่จะมีฐานะดี โดยที่ยังแอบรอเธอต่อไปเรื่อยๆ  โดยที่ผมก็จะส่อง facebook เธอปีละครั้งหรือสองครั้ง หรือมากกว่านั้น (เพื่อดูว่าเธอยังสบายดีอยู่ไหม และเราไม่ได้เป็นเพื่อนกันในเฟสบุค )  ด้วยความที่เราเกิดวันเดียวกัน แต่คนละปี บางครั้งในวันเกิด ผมก็เหมือนเห็นเธอโพสต์อะไรบางอย่างที่สื่อว่า นึกถึงผม โดยที่เธอเปิด public ไว้ ด้วยการแชร์มาจาก content อื่นๆ ผมรู้ครับ ว่าไม่มีใครเข้าใจ แต่ผมดันเข้าใจ 

เวลาเดินมาเรื่อยๆ ระหว่างนี้ผมก็มีส่งอีเมลล์หาเธอบ้าง อีเมลล์สั้นๆ สบายดีไหม อะไรแบบนี้ แต่เธอไม่เคยตอบผมเลย จนกระทั่งในปี 2017 ,2018,2019,2020 หลังจากห่างหายกันไปหลายปี เธอก็เริ่มตอบอีเมลล์ของผม ไม่รู้นะ ผมรู้สึกได้ว่าเธอเหงา ผมไม่รู้เรื่องราวใดใดในชีวิตเธอเลย เพราะเบอร์โทรศัพท์เธอก็เปลี่ยน ผมมีไลน์เธอแต่ไม่เคยทักไปหา ผมจำกัดตัวเองอยู่ในวงโคจรรอบนอกของชีวิตเธอ ไม่อยากรบกวนชีวิตและความสัมพันธ์ของเธอกับเค้าคนนั้น เธอบอกผมว่าอยากเล่นน้ำสงกรานต์ไม่เคยได้เล่นเลย ผมบอกเธอว่าต้องรอผมลาออกจากงานโรงแรมก่อนนะ  แล้วเธอก็ส่งอีเมลล์มาบอกผมว่า" ถ้าคนบางคนหาเหตุผลได้ละมุนแบบคุณก็คงไม่ต้องเสียน้ำตาอยู่แบบนี้"

หลังจากโต้ตอบทางอีเมลล์กันอยู่หลายปี มีโทรคุยกันบ้าง แต่เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจและไม่มีอะไรแอบแฝง ผมเริ่มทำใจว่ายังไงแล้วเธอก็คงจะอยู่ของเธอแบบนี้ กับแฟนของเธอ และผมคือเพื่อนของเธอ เรารักษาระยะห่างในการพูดคุยกันได้ดี จนกระทั่งเรามีนัดไปทานข้าวกันบ้าง และผมก็ซื้อกระเป๋าเงินให้เธอเป็นของขวัญวันเกิด ผมเคยบอกเธอว่า " เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณโสด กรุณาติดต่อผมนะครับ ได้โปรดพิจารณาผมเป็นคนแรก "  

หลังจากที่เธอตอบอีเมลล์ สองสามปีหลังจากนั้น ผมก็เริ่มปลงว่าเธอคงไม่เลิกกับแฟนเธอง่ายๆ แม้จะโดนนอกใจอีก สองถึงสามครั้งในรอบสิบปี หลังจากเหตุการณ์รักสามเศร้าของ ผม เธอ และแฟนเก่าของเธอในปี 2011-2012 

ผมจึงเริ่มมีสานสัมพันธ์ใหม่กับผู้หญิงคนนึงแบบจริงจัง และผมตั้งใจที่จะจีบเธอมากๆ ด้วย ในตอนนั้น เธอทักมาหาผมว่าจะพาญาติๆ มาเที่ยว ที่ใต้ และอยากเจอผมด้วย ผมดีใจมาก เธอหาโอกาสอยู่กับผม ด้วยการบอกที่บ้านว่าเพื่อนจะพาไปกินร้านนั้นร้านนี้ และระหว่างนั้น ผู้หญิงคนผมกำลังสานสัมพันธ์ด้วยโทรมา ผมเปิด speaker คุยในรถ โดยที่มีเธอนั่งอยู่ข้างๆ ผมขอคำปรึกษาจากเธอในภายหลังและเธอก็เชียร์ให้ผมคบน้องคนนี้ น่ารักดี เธอว่า  ผมรู้สึกสับสน ผมต้องรับผิดชอบต่อความสัมพันธ์ที่ผมได้สร้างขึ้น แต่อีกใจนึง นี่เธอเลยนะ ผู้หญิงที่ผมหลงรักมาตลอดนั่งอยู่ข้างๆ ผม ในรถ ผมอยากจะกอดเธอ ให้หายคิดถึง แต่ผมก็ไม่ได้ทำ เพราะศีลธรรมมันค้ำคอผมอยู่ ผมจะต้องเริ่มต้นใหม่และไม่ทำอะไรที่เสียหายต่อผู้หญิงที่ผมกำลังสานสัมพันธ์ด้วย และต่อเธอผู้ซึ่งมีคนรักที่คบกันมายาวนาน  เธอมาสารภาพกับผมภายหลังว่า เธอใจแข็งมากเช่นกันที่จะไม่กระโดดกอดผม และตอนน้องคนนั้นโทรมาเธอรู้สึกเหมือนอกหัก  

เวลาผ่านไปสองปี ผมเลิกกับน้องคนนั้น และก็เช่นเคยผมเสียใจมาก เสียใจทุกทีที่มีความรัก และผมก็มีเหตุให้ต้องไปอยู่ต่างประเทศชั่วคราวในเดือนธันวาคมปี 2022 , และในเดือนนั้นเอง ประมาณ วันที่ 20 ผมก็ทักไปคุยกับเธอ เธอบอกข่าวร้ายผมเรื่องที่เธอเลิกกับแฟนเก่าของเธอ หลังจากคบมา 20ปี เต็ม ด้วยสาเหตุการนอกใจคบซ้อนกับพี่ที่ทำงานมาเกือบๆ สองปี และครั้งนี้เธอเด็ดเดี่ยวมากที่จะเลิก ผมรู้ว่าเธอเสียใจมาก แต่ชีวิตเธอต้องเดินต่อ เธอต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อหลุดออกมาจากความสัมพันธ์นี้ และก็เป็นผมอีกครั้ง ที่โทรทางไกลหาเธอ อยู่กับเธอแทบจะตลอดเวลา และก็เช่นเคย 

เราตกหลุมรักกันอีกครั้ง หรือจริงๆ แล้ว เราอาจจะรักกันมาตลอด 

ผมเสียใจที่รู้เรื่องของเธอเพียงแค่สองอาทิตย์หลังจากการมาอยู่ต่างประเทศ ทำไมต้องผิดที่ ผิดเวลาอีกแล้วนะ
แต่ก็ไม่เป็นไร ผมมีความสุขที่ได้ดูแลหัวใจเธอ เธอเองก็คอยเป็นกำลังใจให้ผมในวันที่เหนื่อยล้า ผมรู้ว่าเรารักกันมากๆ แต่อีกใจนึงผมก็รู้สึกหวั่นใจ เพราะถ้าผมจะใจสลายเพราะเธออีก ผมคงอยู่ไม่ไหวอีกแล้ว 

เวลาดำเนินไปจนเข้าเดือนที่ 6 ผมสังเกตุเห็น คนคนนึง มักจะ แท๊กเธอในเพจต่างๆ เช่นของกินเป็นประจำ เนื่องจากผมมีเฟสบุคสองอัน ผมจึงเห็น และผมจำได้ว่า ผมเคยส่งข้อความไปถามเรื่องการ tag นี้เมื่อสิบปีก่อน ( ตอนนั้นผมคบกับเธอและผมรู้สึกหึงหวง คือผมมีเซนส์ ว่าใครคิดอย่างไรกับเธอ และมักจะถูกทุกครั้งด้วยสิ )  และเวลาที่ได้คุยกัน เธอมักจะอารมณ์เสียใส่ผม ผมเองก็อาจจะกวนประสาทเธอด้วย เหมือนยื่งคุยยื่งทะเลาะ  ผมเข้าใจว่าหลังประจำเดือนเธอหมด เธอจะอารมณ์ดีสองอาทิตย์ และสองอาทิตย์ก่อนประจำเดือนมา เธอจะอารมณ์ดี จากการสังเกตุมานาน แม้กระทั่งสิบปีก่อนก็ตาม 

อย่างที่เกริ่นไปในตอนแรก เธอหายไปวันที่ 29-30 มิถุนายนแบบไม่โทรหาผม ผมเองก็ไม่โทรหาเธอ เพราะผมรอเธอติดต่อมา ก่อนหน้านั้นตึงๆใส่กัน 
จนกระทั่ง ผมทักไปหาเพื่อนสนิทเธอ ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอหายไปไหน เพื่อนเธอก็ตกใจ แต่ก็รับปากว่าจะพยายามติดต่อเธอให้ 

วันนั้นเองเธอโทรกลับมา เธอต่อว่าผมเรื่องไปยุ่งกับเพื่อนสนิทของเธอ  และเธอก็บอกเลิกผม เธอพูดว่า เค้าอยากเลิกนะ แต่ติดที่ตัวเองอยากตาย 
ใช่ครับ ผมเคยบอกเธอว่าผมอยากตาย เพราะวันที่น้องคนนั้นทิ้งผมไปคือวันที่ย่ำแย่  และเเหมือนมันรู้สึกชอคไปเลย ความเจ็บปวดนั่นยังคงอยู่ลึกๆในใจของผม  แต่ผมก็รวบรวมกำลังใจทั้งหมดที่มี เพื่อดูแลหัวใจของเธอในวันที่เธอเศร้าสุดๆ เช่นกัน วันนั้นผมเสียใจมากจริงๆ ที่เธอบอกเลิกผม และ 12 ชั่วโมงต่อมาผมก็ได้รับรู้ความจริง ด้วยการ activated เฟสบุคอันเก่าของผมอีกครั้ง และก็ได้เห็นโพสต์ที่เธอซ่อนไว้ทั้งหมด จากเฟสบุคอันปัจจุบันของผม 

มีการส่งชา ส่งอาหาร และมีอัลบั้มส่วนตัวด้วย ชื่อว่าวันนี้ กินอะไรดีนะ มีการไปเดท 

ผมชอคมากๆ มือสั่น และน้ำตาไหล และใช่ กับคนที่ผมคิดไว้นั่นเอง หมอนั่นบลอคผมด้วย 

ผมไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกนั่นว่ายังไง รู้แค่ว่ามันเจ็บปวดมากกว่า 12 ปีที่แล้ว มันเหมือนคนที่ผมรู้รัก เป็นใครก็ไม่รู้ เธอคือใคร? เธอก็รู้ว่าผมอยู่ในสถานะย่ำแย่ จากหลายๆเหตุการณ์ที่ผมเจอในชีวิต ผมสาบานได้เลยว่าผมไม่เคยคิดที่จะมีคนอื่นนอกจากเธอ และตลอดเวลาที่ผมมีความสัมพันธ์ กับใคร ผมเป็นคนที่ซื่อสัตย์และไว้ใจได้ เสมอ  ถ้าผมไม่ใช่ความสุขของเธอแล้ว ก็แฟร์ แต่ทำไมเธอต้องทำแบบนี้กับผมด้วย เธอมีสิทธิ์อะไรมาเหยียบย่ำหัวใจและความรักของผม 

ผมเข้าใจดีว่าผมอยู่ไกล แต่แบบนี้มันใช่เหรอครับ  ผมรอคุณมา 12 ปีเลยนะ 
ผมอยู่กับคุณวันที่คุณเสียใจที่สุด อย่างน้อยก็สองครั้งในชีวิต ถ้าคุณจะไม่เลือกผมทำไมวันที่คุณเสียใจครั้งที่สอง คุณน่าจะให้คนอื่นปลอบใจไปเลย ผมไม่อยากรู้อยากเห็น อยากเจ็บซ้ำสองแบบนี้ เพราะกว่าที่ผมจะทำใจจากครั้งแรกได้ ก็ 8 -9 ปีเต็มๆ 

สาเหตุของการตั้งกระทู้นี้ ผมอึดอัด ต้องการปรึกษาทุกท่าน ผมควรจะทำยังไงดี ? 
12 ปีที่แล้ว ผมเป็นไอ้ขี้แพ้ ไม่ต้อสู้อะไรเพื่อดึงเธอกลับมา ยอมจำนนต่อโชคชะตาทุกๆอย่าง และผมก็เสียเธอไป 12 ปี 

และคราวนี้จากสิ่งที่ได้เจอ ผมควรจะสู้ไหม หรือทำทุกอย่างให้เธอรู้ว่าผมยังรักเธอ พร้อมให้อภัยเธอ อะไรที่ผมบกพร่องไป ผมจะปรับปรุง เพราะผมรอเธอมานาน แต่ปัญหาก็คือ ถ้าเธอไม่รักแล้ว ผมควรจะต้องต่อสู้กับอะไร ? หรือ ผมควรจะปล่อยวาง ตัดพันธนาการความรู้สึกนี้ออกไปให้หมด และตั้งหน้าตั้งตาใช้ชีวิตอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น ? 

คุณรู้ไหม จนกระทั่งตอนนี้ที่พิมพ์อยู่ ผมก็ยังรักเธอมาก
ผมรักคุณมากๆ คุณรู้ไหม 

12 years ago I said " Don't throw my love away because you might needs it someday " 
and yes 12 years later my words is true 
what if we're Soul mate should i keep loving you ?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่