คำสอนหลวงปู่มั่น
https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/54210/-brelbud-brel-
มีป่าช้าอยู่กับตัวกลัวอะไร
สิ้นลมที่ไหน
ก็ปล่อยร่างวางไว้ที่นั่น
อย่าอาลัยเสียดายชีวิตยิ่งไปกว่าธรรม
เราเป็นนักรบในวงปฏิบัติ หากมัวแต่หดหัวกลัวทุกข์
ไม่บุกทำลายรังกิเลสให้เด็ดขาด มัวขลาดมัวเขลาเบาปัญญา ไม่กล้าเข้าเผาทลายกิเลสด้วยการปฏิบัติธรรมอันเลิศล้ำและยอดยิ่ง
แล้วจะรู้ จะได้ความจริงมาจากไหน
แม้พระพุทธเจ้าพระองค์ใดก็ตาม กว่าจะได้บรรลุธรรม
ก็ทรงพยายามฟันฝ่ากล้าต่อสู้
หากยังมิได้ตรัสรู้ธรรมนำเฉลย ก็อย่าหวังเลยว่าจะถอยหนี
ให้กิเลสน้อยใหญ่เยาะเย้ยเหยียบย่ำทำลายลง
****************************************************
การพิจารณากายนี้ เป็นของสำคัญ
ผู้ที่จะพ้นทุกข์ ล้วนแต่ต้องพิจารณากายทั้งสิ้น
สิ่งสกปรก น่าเกลียดนั่นก็คือ ตัวเรานี่เอง
ร่างกายนี้เป็นที่ประชุมแห่งของโสโครก เป็นอสุภะปฏิกูลน่าเกลียด
เพราะฉะนั้นจงพิจารณากายนี้ให้ชำนิชำนาญ
ให้มีสติพิจารณาในที่ทุกสถาน ยืน เดิน นั่ง นอน
กิน ดื่ม ทำ คิด พูด ก็ให้มีสติ รอบคอบในกายอยู่เสมอ ณ ที่นี้
จึงทำให้มาก เจริญให้มาก คือพิจารณา ไม่ต้องถอยเลยทีเดียว
****************************************************
พระบรมศาสดาจารย์เจ้าทรงตั้งมหาสติปัฏฐานเป็นชัยภูมิ
ก็โดยผู้ที่เข้าสู่สงครามรบข้าศึกคือกิเลส
ต้องพิจารณากายานุปัสนาสติปัฏฐานเป็นต้นก่อน
เพราะคนเราที่เกิดกามราคะก็เกิดที่กายและใจ
เพราะตาแลเห็นกายทำใจให้กำเริบ
เหตุนั้น จึงได้ความว่ากายเป็นเครื่องก่อเหตุ
จึงต้องพิจารณาที่กายนี่ก่อน
จะได้เป็นเครื่องกำจัดนิวรณ์ทำให้ใจสงบก่อน
ในการปฏิบัติธรรม ยากก็ทน ลำบากก็ทำ ทุกข์ก็ต้องต่อสู้
https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/54210/-brelbud-brel-
มีป่าช้าอยู่กับตัวกลัวอะไร
สิ้นลมที่ไหน
ก็ปล่อยร่างวางไว้ที่นั่น
อย่าอาลัยเสียดายชีวิตยิ่งไปกว่าธรรม
เราเป็นนักรบในวงปฏิบัติ หากมัวแต่หดหัวกลัวทุกข์
ไม่บุกทำลายรังกิเลสให้เด็ดขาด มัวขลาดมัวเขลาเบาปัญญา ไม่กล้าเข้าเผาทลายกิเลสด้วยการปฏิบัติธรรมอันเลิศล้ำและยอดยิ่ง
แล้วจะรู้ จะได้ความจริงมาจากไหน
แม้พระพุทธเจ้าพระองค์ใดก็ตาม กว่าจะได้บรรลุธรรม
ก็ทรงพยายามฟันฝ่ากล้าต่อสู้
หากยังมิได้ตรัสรู้ธรรมนำเฉลย ก็อย่าหวังเลยว่าจะถอยหนี
ให้กิเลสน้อยใหญ่เยาะเย้ยเหยียบย่ำทำลายลง
****************************************************
การพิจารณากายนี้ เป็นของสำคัญ
ผู้ที่จะพ้นทุกข์ ล้วนแต่ต้องพิจารณากายทั้งสิ้น
สิ่งสกปรก น่าเกลียดนั่นก็คือ ตัวเรานี่เอง
ร่างกายนี้เป็นที่ประชุมแห่งของโสโครก เป็นอสุภะปฏิกูลน่าเกลียด
เพราะฉะนั้นจงพิจารณากายนี้ให้ชำนิชำนาญ
ให้มีสติพิจารณาในที่ทุกสถาน ยืน เดิน นั่ง นอน
กิน ดื่ม ทำ คิด พูด ก็ให้มีสติ รอบคอบในกายอยู่เสมอ ณ ที่นี้
จึงทำให้มาก เจริญให้มาก คือพิจารณา ไม่ต้องถอยเลยทีเดียว
****************************************************
พระบรมศาสดาจารย์เจ้าทรงตั้งมหาสติปัฏฐานเป็นชัยภูมิ
ก็โดยผู้ที่เข้าสู่สงครามรบข้าศึกคือกิเลส
ต้องพิจารณากายานุปัสนาสติปัฏฐานเป็นต้นก่อน
เพราะคนเราที่เกิดกามราคะก็เกิดที่กายและใจ
เพราะตาแลเห็นกายทำใจให้กำเริบ
เหตุนั้น จึงได้ความว่ากายเป็นเครื่องก่อเหตุ
จึงต้องพิจารณาที่กายนี่ก่อน
จะได้เป็นเครื่องกำจัดนิวรณ์ทำให้ใจสงบก่อน