คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ส่วนตัว ไอ้คนที่ว่าเที่ยวมันมีความสุขสุด นี่แหละจุดสูงสุดของชีวิต มันก็แค่ความคิดตัวเองที่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดนั้นจะถูกครับ แต่ใช้ไม่ได้กับคนอีกประเภท มันก็แค่นั้นครับ
ความสุขของคุณควรจะรู้จักตัวเองว่า คุณทำอะไรแล้วมีความสุข ไม่ใช่มาเชื่อตามคนอื่นว่าทำตามคนอื่นที่เขาบอกว่าอันนี้ชั้นทำแล้วสุข
เหมือนคุณกำลังถามว่าคุณชอบอะไร แต่ให้คนอื่นตอบมันไม่มีใครรู้หลอกนะ แล้วไปเชื่อทำตามมากๆ แล้วสักวันคุณอาจจะโดนความคิดว่าไอ้พวกที่ว่านั่นนู่นนี้แล้วมีความสุข โคตรขี้โม้เลย
คุณไม่เตยเห็นคนที่ชอบสะสมสิ่งของหรอครับ สะสมของเล่น สะสมพวกงานศิลปะภาพวาดภาพเขียน ผมไม่เห็นเขาเที่ยวเลยนะ ไม่บ่อยแต่เขากลับพูดเล่ายาวเหยียดแล้วสุขใจกับการได้ของสิ่งนี้มาเยอะมาก แล้วมูลค่าของสิ่งของก็เหมือนเที่ยว 1 ครั้ง เป็นของประดับเก็บความทรงจำ
เด็กบางคนบอกนี่แหละเกมส์คือจุดสูงสุดของชีวิตถ้าให้เล่นแล้วมีตังไม่ทำไรจะเล่นทั้งวัน แต่โตมากลับติดเมียก็มี
นั่นแหละครับคุณควรรู้จักตัวเอง ไม่ใช่เชื่อคนอื่นครับ แล้วก่อนจะไปก็ควรถามทุกครั้งว่าเราชอบมันหรืออยากทำมันจริงไหม ถ้าไม่แน่ใจให้ทดลองไปเองตามธรรมชาติแบบไปลองดูก่อนก็ได้ แต่ต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง
ส่วนคำแนะนำของคนอื่น เอาไว้ถามตอนที่คุณลองไปทำอะไรมาเยอะแล้ว หรือ อยากลองไปทำอะไรสักอย่างแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงก็พอ ไม่ใช่ไปถามเขาว่าทำแล้วมีความสุขไหม เพราะอีกฝ่ายที่เขาทำแล้วมีความสุขเขาก็จะตอบแค่มุมของเขาว่าสำหรับเขามีความสุข
เดี๋ยวก็ได้เจอวลีเด็ดแบบคนดัง ไอ้คนที่ใช้เงินซื้อความสุขไม่ได้ เงี้ย แล้วมาพูดว่าไอ้พวกที่ใช้เงินซื้อความสุขนะงั้นๆ อะ ผมมองดูก็รุ้แล้วว่า นี่มันคนไม่รู้จักตัวเองแล้วพูดไปเรื่อย ทำไปเรื่อย แล้วมาบ่นไปเรื่อย ให้ดูเท่ ดูเหมือนคนตรัสรู้แล้วเงี้ยความคิดตัวเองถูก
เพราะบางคนเงินก็ซื้อความสุขได้เยอะจริง แต่การใช้เงินซื้อเยอะไปแล้วเงินหมดมันก็แค่สิ้นหวังแล้วนั่งลำลึกแบบนั้นไปเรื่อยๆ แหละครับ
ผมเห็นคนบ่นหมด passion อาการออกแบบเดียวกันหมด พอเบื่อไม่อยากทำไร ก็ไปถามคนอื่นแบบนี้เสมอ สมองสิ้นคิดความสุขไม่เหลือแล้วไง กับอะไรที่คนอื่นทำแล้วมันสุขแน่ๆ ถึงจะแค่ชั่ววูบแต่ลองไปทำแล้วอาจจะสุขใจแต่ไม่ใช่สิ่งที่ชอบที่สุด ก็ไปยึดทำตามแล้วทำอะไรตามกันไปหมด จนลืมถามตัวเองว่า ลึกๆ แล้วสิ่งที่ตัวเองอยากทำจริงๆ คืออะไร
บางทีชีวิตมันมีรูปแบบของการหาความสุข มากกว่าการเที่ยวตั้งไม่รู้กี่อย่างครับ ขนาดนั่งดูแมวลื่น แมวตื่นตูมยังมีความสุขเลย
ส่วนตัวผมนะ ที่ผ่านมามีแต่คนบอกให้ไปเปิดหูเปิดตาเปิดโลก แล้วไง?? คนเยอะก็น่ารำคาญเดินทางไกลก็น่าเบื่อ แล้วผมทำอะไรผมแค่ถามตัวเองว่าอยากทำอะไร แล้วก็เจอผมก็ไปเล่นกีฬา กินบุฟเฟ่ราคาแพง เดินช็อปปิ้ง ยิงธนู ว่าจะหาจักรยานปั่น แต่ก็เดินซื้อของเล่นด้วย แล้วเอามาประกอบทำสี ถ่ายรูป จัดวางโพส หาดูเสื้อผ้าแต่งตัว อ่านหนังสือ สารพัดเลยครับที่ใช้เงินน้อยกว่าเที่ยว แต่ได้ความสุขเต็มที่ เพราะเป็นสิ่งที่อยากทำ
ไม่ใช่ไปนั่งกางเต้นแล้วถามว่า ชั้นมาทำอะไรที่นี่วะ?? อยู่ที่ไหนถ้าใจทำสิ่งที่ไม่ชอบมันก็มีแต่คำถาม
มันเลยทำให้เรารู้ว่า งานอดิเรกกที่ใช่ ตรงกับสิ่งที่ชอบ มันก็คือความสุขที่ยั่งยื่นนะ ต่างกับเที่ยวที่ รอแก่หลังไม่ไหวก็ไม่ได้ไปแล้ว
ความสุขของคุณควรจะรู้จักตัวเองว่า คุณทำอะไรแล้วมีความสุข ไม่ใช่มาเชื่อตามคนอื่นว่าทำตามคนอื่นที่เขาบอกว่าอันนี้ชั้นทำแล้วสุข
เหมือนคุณกำลังถามว่าคุณชอบอะไร แต่ให้คนอื่นตอบมันไม่มีใครรู้หลอกนะ แล้วไปเชื่อทำตามมากๆ แล้วสักวันคุณอาจจะโดนความคิดว่าไอ้พวกที่ว่านั่นนู่นนี้แล้วมีความสุข โคตรขี้โม้เลย
คุณไม่เตยเห็นคนที่ชอบสะสมสิ่งของหรอครับ สะสมของเล่น สะสมพวกงานศิลปะภาพวาดภาพเขียน ผมไม่เห็นเขาเที่ยวเลยนะ ไม่บ่อยแต่เขากลับพูดเล่ายาวเหยียดแล้วสุขใจกับการได้ของสิ่งนี้มาเยอะมาก แล้วมูลค่าของสิ่งของก็เหมือนเที่ยว 1 ครั้ง เป็นของประดับเก็บความทรงจำ
เด็กบางคนบอกนี่แหละเกมส์คือจุดสูงสุดของชีวิตถ้าให้เล่นแล้วมีตังไม่ทำไรจะเล่นทั้งวัน แต่โตมากลับติดเมียก็มี
นั่นแหละครับคุณควรรู้จักตัวเอง ไม่ใช่เชื่อคนอื่นครับ แล้วก่อนจะไปก็ควรถามทุกครั้งว่าเราชอบมันหรืออยากทำมันจริงไหม ถ้าไม่แน่ใจให้ทดลองไปเองตามธรรมชาติแบบไปลองดูก่อนก็ได้ แต่ต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง
ส่วนคำแนะนำของคนอื่น เอาไว้ถามตอนที่คุณลองไปทำอะไรมาเยอะแล้ว หรือ อยากลองไปทำอะไรสักอย่างแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงก็พอ ไม่ใช่ไปถามเขาว่าทำแล้วมีความสุขไหม เพราะอีกฝ่ายที่เขาทำแล้วมีความสุขเขาก็จะตอบแค่มุมของเขาว่าสำหรับเขามีความสุข
เดี๋ยวก็ได้เจอวลีเด็ดแบบคนดัง ไอ้คนที่ใช้เงินซื้อความสุขไม่ได้ เงี้ย แล้วมาพูดว่าไอ้พวกที่ใช้เงินซื้อความสุขนะงั้นๆ อะ ผมมองดูก็รุ้แล้วว่า นี่มันคนไม่รู้จักตัวเองแล้วพูดไปเรื่อย ทำไปเรื่อย แล้วมาบ่นไปเรื่อย ให้ดูเท่ ดูเหมือนคนตรัสรู้แล้วเงี้ยความคิดตัวเองถูก
เพราะบางคนเงินก็ซื้อความสุขได้เยอะจริง แต่การใช้เงินซื้อเยอะไปแล้วเงินหมดมันก็แค่สิ้นหวังแล้วนั่งลำลึกแบบนั้นไปเรื่อยๆ แหละครับ
ผมเห็นคนบ่นหมด passion อาการออกแบบเดียวกันหมด พอเบื่อไม่อยากทำไร ก็ไปถามคนอื่นแบบนี้เสมอ สมองสิ้นคิดความสุขไม่เหลือแล้วไง กับอะไรที่คนอื่นทำแล้วมันสุขแน่ๆ ถึงจะแค่ชั่ววูบแต่ลองไปทำแล้วอาจจะสุขใจแต่ไม่ใช่สิ่งที่ชอบที่สุด ก็ไปยึดทำตามแล้วทำอะไรตามกันไปหมด จนลืมถามตัวเองว่า ลึกๆ แล้วสิ่งที่ตัวเองอยากทำจริงๆ คืออะไร
บางทีชีวิตมันมีรูปแบบของการหาความสุข มากกว่าการเที่ยวตั้งไม่รู้กี่อย่างครับ ขนาดนั่งดูแมวลื่น แมวตื่นตูมยังมีความสุขเลย
ส่วนตัวผมนะ ที่ผ่านมามีแต่คนบอกให้ไปเปิดหูเปิดตาเปิดโลก แล้วไง?? คนเยอะก็น่ารำคาญเดินทางไกลก็น่าเบื่อ แล้วผมทำอะไรผมแค่ถามตัวเองว่าอยากทำอะไร แล้วก็เจอผมก็ไปเล่นกีฬา กินบุฟเฟ่ราคาแพง เดินช็อปปิ้ง ยิงธนู ว่าจะหาจักรยานปั่น แต่ก็เดินซื้อของเล่นด้วย แล้วเอามาประกอบทำสี ถ่ายรูป จัดวางโพส หาดูเสื้อผ้าแต่งตัว อ่านหนังสือ สารพัดเลยครับที่ใช้เงินน้อยกว่าเที่ยว แต่ได้ความสุขเต็มที่ เพราะเป็นสิ่งที่อยากทำ
ไม่ใช่ไปนั่งกางเต้นแล้วถามว่า ชั้นมาทำอะไรที่นี่วะ?? อยู่ที่ไหนถ้าใจทำสิ่งที่ไม่ชอบมันก็มีแต่คำถาม
มันเลยทำให้เรารู้ว่า งานอดิเรกกที่ใช่ ตรงกับสิ่งที่ชอบ มันก็คือความสุขที่ยั่งยื่นนะ ต่างกับเที่ยวที่ รอแก่หลังไม่ไหวก็ไม่ได้ไปแล้ว
แสดงความคิดเห็น
อยากทราบว่าการไปเที่ยวคือการเติมไฟให้ชีวิตจริงๆหรอครับ
ไปตจวแต่ละทีคือไปทำงานไม่ได้ดื่มด่ำเลยครับ พอคิดจะไปจริงๆก็คิดว่าเสียดายตังจัง
เล่าให้เพื่อนฟังคนรอบข้างฟังว่า
ตอนนี้รู้สึกมันหมดไฟในการทำงานมากๆเหมือนหมดpassion นอยตัวเองทุกอย่าง
เพื่อนบอกไปเที่ยวสิไปดื่มด่ำบรรยากาสไปพบผู้คนๆใหม่ๆ แล้วจะดีขึ้นมาก
ผมควรต้องเริ่มออกไปใช่ไหมครับฃ
****เพิ่มเติมครับ****
ส่วนตัวผมได้มานั่งคิดๆดูแล้วครับ เมื่อก่อนก้ลองดูวิธีเติมไฟออกไปชอปปิ้งกินข้าวดีๆ ทำกิจกรรมที่ชอบ ต่างๆนาๆทุกวัน ก็ยังไม่สามารถเติมไฟได้เดี่ยวผมจะลองออกไป เที่ยวนั่งชิวๆๆๆๆๆปล่อยใจดูครับเผื่อจะได้เอเนอจีบวกกลับมาครับ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้น