รวันดา (Rwanda)🇷🇼เป็นประเทศเล็กๆใจกลางทวีปแอฟริกา (Africa) ประชากรราว 5.5 ล้านคน49.7% เป็นคาทอลิก
ระหว่างปีค.ศ. 1981 ถึง ค.ศ. 1989 กีเบโฮ (Kibeho) เป็นสถานที่แม่พระได้ประจักษ์แก่เด็ก 6 คน แม่พระได้สอนบทเพลง , บทภาวนา และให้พวกเขาได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
คุณพ่อ Gabriel Maidron ชาวฝรั่งเศส🇫🇷ได้เขียนบันทึกเหตุการณ์เหล่านี้โดยบิชอปได้อนุญาต ท่านรู้จักกับพวกเด็กๆในระหว่างที่ท่านประจำอยู่ที่นั่น ท่านยังได้สัมภาษณ์หมอและผู้ที่มาทำการสอบสวนเหตุการณ์นี้ด้วย
💙 แม่พระแห่งกีเบโฮ (Our Lady of Kibeho) หรือ แม่พระมหาทุกข์แห่งกีเบโฮ (Our Lady of Sorrows of Kibeho) 💙
👀 Alphonsine Mumureke 👀
เกิดเมื่อปีค.ศ. 1965 มาจากครอบครัวคาทอลิกที่ยากจน ตามหนังสือไดอารี่ของเธอ เธอเห็นแม่พระครั้งแรกเมื่อ 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 1981 :
"ฉัน กำลังอยู่ในโรงอาหารของโรงเรียน ก็ได้ยินเสียงมาจากข้างหลัง : 'ลูกสาวของแม่!'
ฉันก็ตอบว่า : 'ลูกอยู่นี่... ท่านเป็นใครคะ?'
'ฉันเป็นมารดาขององค์พระวจนาตถ์ (Mother of the Word หรือ Nyina wa Jambo)'
แม่พระสวยงามจนสุดบรรยายได้ พระนางยืนเท้าเปล่า สวมเสื้อคลุมยาวไม่มีสายรัดและผ้าคลุมศีรษะสีขาว
ในระหว่างการเข้าญาณนี้ (ตามที่เพื่อนร่วมชั้นของฉันบอก) - ฉันพูดภาษาอื่นที่พวกเขาไม่รู้จักเช่น : ฝรั่งเศส🇫🇷 , อังกฤษ🇬🇧 , และภาษาท้องถิ่นที่ฉันพูดอยู่คือ ภาษาคินยาร์วันดา (Kinyarwand) และอื่นๆ
ครูและเพื่อนร่วมชั้นของเธอที่อยู่ร่วมเหตุการณ์การประจักษ์ครั้งแรกในตอนเย็นและอีกหลายครั้งต่อมาต่างพากันคิดว่า Alphonsine ป่วยและไม่ยอมเชื่อว่าเธอได้เห็นพระราชินีแห่งสวรรค์ เดือนธันวาคม การประจักษ์เกิดขึ้นทุกวันเสาร์ เพื่อนร่วมชั้นของเธอที่อยากรู้อยากเห็นและต้องการรู้ว่าการประจักษ์เป็นเรื่องจริงหรือไม่
ระหว่างการประจักษ์ซึ่งเธอเข้าญาณ พวกเขาได้เอาไม้ขีดไฟมาเผาที่มือของเธอ แต่เธอก็ไม่ขยับหนี แม่พระได้บอกแก่เธอว่า : 'หนูรู้มั้ยพวกเขากำลังเอาไฟเผาหนูอยู่?' - Alphonsine จึงดึงมือออกมาจากไฟ แต่มือของเธอก็ไม่มีรอยไหม้ สาส์นที่มีมาถึงเพื่อนร่วมชั้นและเหตุการณ์อื่นที่เกิดขึ้นเป็นการยืนยันว่าAlphonsine ไม่เสียสติและเห็นการประจักษ์จริงๆ ข่าวนี้กระจายไปอย่างรวดเร็วทั่วราวันดาและดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมากให้มาที่กีเบโฮ
ในวันที่ 16 มกราคม ค.ศ. 1982 การประจักษ์เกิดขึ้นที่สนามโรงเรียน ไม่มีนักเรียนหญิงคนใดเห็นแม่พระ แต่พวกเขาได้ยินสาส์นของพระนางที่เต็มไปด้วยความรักเยี่ยงมารดา
นักเรียนบางคนได้เอาสายประคำมาให้ Alphonsine เพื่อขอให้แม่พระอวยพร พวกเขาเอาสายประคำมารวมกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่ Alphonsine จะจำได้ว่าเป็นของใครบ้าง เมื่อเธอยื่นสายประคำให้แม่พระ มีสายประคำบางอันหนักมากจนเธอยกขึ้นส่งให้แม่พระไม่ไหว มีผู้สังเกตุว่า สายประคำเหล่านั้นเป็นของนักเรียนที่ไม่เชื่อว่าการประจักษ์เป็นเรื่องจริงและพูดวิจารณ์ในเรื่องนี้
เนื่องจากมีการโต้แย้งกันมากในการประจักษ์ครั้งแรก มีนักเรียนและครูบางคนพูดว่า "พวกเราจะเชื่อว่า แม่พระประจักษ์มาที่โรงเรียนจริง ถ้าพระนางประจักษ์มาให้แก่นักเรียนคนอื่นด้วยนอกเหนือจากAlphonsine" Alphonsine ตอบพวกเขาว่า "จงสวดภาวนาเพื่อให้เธอได้รับพระพรนี้"
👀 Anathalie Mukamazimpaka 👀
เกิดเมื่อค.ศ. 1965 ในครอบครัวคาทอลิก แม่พระประจักษ์แก่เธอครั้งแรกเมื่อ 12 มกราคม ค.ศ. 1982 สาส์นที่มอบให้เธอ คือ จงเป็นคนถ่อมตน ยอมรับทุกอย่างตามน้ำพระทัยของพระ รักการภาวนาจากหัวใจและการพลีกรรมเพื่อทำให้พวกเขามีความเข้าใจในเรื่องความทุกข์ตามแบบอย่างคริสตชน
ในวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 1982 แม่พระได้ตรัสกับ Anathalie ว่า :
“แม่ได้พูดกับลูก แต่ลูกก็ไม่ได้ยิน แม่ต้องการประคองลูกขึ้น แต่ลูกก็ยังคงล้มลง แม่เรียกลูก แต่ลูกกลับทำหูหนวก เมื่อไรลูกจึงจะยอมทำตามที่แม่ขอร้อง? ลูกเมินเฉยต่อคำขอร้องของแม่ เมื่อไรลูกจึงจะยอมเข้าใจเสียที? เมื่อไรลูกจึงจะหันมาสนใจในสิ่งที่แม่ต้องการบอกแก่ลูก? แม่ได้ให้เครื่องหมายแก่ลูกแต่ลูกก็ยังสงสัย. อีกนานเท่าไรลูกจึงจะหันหูหนวกของลูกมาฟังเสียงวอนขอของแม่?”
👀 Marie-Claire Mukangang 👀
เกิดปีค.ศ. 1961 ตอนแรกเธอไม่เชื่อในเรื่องการประจักษ์ของอัลฟองซีนและเรียกอัลฟองซีนว่า "คนโง่เขลา" เธอเรียนหนังสือไม่เก่งและต้องซ้ำชั้นหนึ่งปี
การประจักษ์ครั้งแรกของ Marie-Claire มีขึ้นเมื่อ 2 มีนาคม ค.ศ. 1982 และสิ้นสุดใน 6 เดือนต่อมาแม่พระได้เลือกเธอให้เผยแพร่สาส์นของพระนาง : 'จงรำพึงถึงพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าและความเจ็บปวดแสนสาหัสในดวงใจของแม่ จงสวดสายประคำสำหรับคนเจ็บป่วยเพื่อที่เขาจะได้รับพระหรรษทานในการสำนึกผิดกลับใจ’
Marie-Claire ได้กลับมาเป็นครูสอนที่โรงเรียนlและสอนได้ดี
นี่เป็นบทสนทนาระหว่าง Marie-Claire และแม่พระเมื่อวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1982 :
💙 แม่พระ : “จงสำนึกผิดกลับใจ! สำนึกผิดกลับใจ! สำนึกผิดกลับใจ!”
👀 Marie-Claire : “แต่ลูกก็ทำแล้ว!”
💙 แม่พระ : “เมื่อแม่พูดกับลูกอย่างนี้ แม่ไม่ได้พูดกับลูกเพียงคนเดียว แต่แม่พูดกับคนอื่นๆทุกคนด้วยมนุษย์ยุคสมัยนี้ได้ทำให้ความหมายที่แท้จริงกลายเป็นสิ่งไร้สาระ : พวกเขาทำความผิดโดยไม่สำนึกรู้ว่ากำลังทำสิ่งที่ผิด”
👀 Marie-Claire : “พวกเราอ่อนแอ ไม่มีพละกำลัง โปรดประทานพละกำลังแก่พวกเราด้วยเพื่อจะได้สำนึกรู้ถึงความผิดของพวกเราและขออภัยโทษสำหรับสิ่งเหล่านั้น”
แม่พระทรงแนะนำเราให้สวดสายประคำพร้อมรำพึงความทุกข์ 7 ประการของแม่พระเพื่อจะได้รับพระหรรษทานในการสำนึกผิดในบาปของเรา
วันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1982 แม่พระตรัสกับ Marie-Claire ว่า :
“สิ่งที่แม่ร้องขอจากลูกคือการสำนึกผิดกลับใจ เมื่อลูกสวดสายประคำพร้อมรำพึงตาม ลูกจะมีพละกำลังที่จะสำนึกผิดกลับใจ ทุกวันนี้ ประชาชนจำนวนมากไม่รู้วิธีที่จะให้อภัยกัน พวกเขาตอกตะปูตรึงพระบุตรของพระเจ้าบนกางเขนอีกครั้ง ดังนั้นแม่จึงมาที่นี่ ที่รวันดา เพื่อเตือนความจำพวกลูก เพราะที่นี่แม่ยังคงพบคนที่สุภาพถ่อมตนอยู่บ้าง ซึ่งไม่ยึดติดกับทรัพย์สิ่งของหรือเงินทอง”
👀 Stephanie Mukamurenzi 👀
เกิดปีค.ศ. 1968 ได้รับการประจักษ์ครั้งแรกเมื่ออายุ 14 ปี
👀 Agnes Kamagaju 👀
เกิดปีค.ศ. 1960 ได้รับการประจักษ์ตั้งแต่ 1 สิงหาคม ถึง 21 กันยายน ค.ศ. 1982 เธอได้เห็นทั้งแม่พระและพระเยซูเจ้า
มีการบอกถึงเวลาเป็นการล่วงหน้าก่อนที่แม่พระจะประจักษ์มาต่อสาธารณชน ประชาชนจำนวนมากจึงมาจากทุกแห่งทั่วประเทศ มีการสร้างพื้นเวทีบริเวณสนามหญ้าของโรงเรียน และเจ้าหน้าที่การสื่อสารก็มอบอุปกรณ์วิทยุและลำโพงให้ด้วย การประจักษ์ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง แก่เด็กหญิงทั้งโดยเป็นส่วนรวมหรือเป็นการส่วนตัวในเวลาเดียวกัน ผู้รับการประจักษ์บางครั้งจะร้องเพลง บางคนจะล้มลงบนพื้นในลักษณะเข้าญาณ เมื่อสิ้นสุดการประจักษ์ พวกเด็กมีลักษณะเหมือนอาการโคม่า และจะฟื้นขึ้นภายใน 5 นาที หรือ 1 ชั่วโมง
👀 Emanuel Segatashya 👀
เกิดปีค.ศ. 1967 ในหมู่บ้านชื่อ Rwamiko พ่อแม่นับถือความเชื่อดั้งเดิมของท้องถิ่น (ภูติผี) เขาไม่ได้เข้าโรงเรียนเพราะครอบครัวอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งไม่มีเครื่องมือสื่อสารอาทิ เช่น วิทยุ
Emanuel Segatashya ไม่รู้จักการทำสำคัญมหากางเขนหรือความหมายของการทำสำคัญมหากางเขนเลย เมื่ออายุ 15 ปี เขาเริ่มได้รับการประจักษ์จากพระเยซูเจ้า ในไม่ช้าประชาชนต่างก็อยากรู้อยากเห็นว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น จำนวนผู้ที่สนใจเพิ่มมากขึ้นเมื่อได้ฟังสาส์นจากเด็กเลี้ยงแกะที่นับถือความเชื่อดั้งเดิมผู้นี้ซึ่งดึงดูดความสนใจ ต่างสงสัยว่าเด็กได้รับความรู้ในเรื่องศีลอภัยบาป , บาป และความรักมาจากที่ใด?
พระเยซูเจ้าเองทรงเป็นผู้ที่สอนเขาให้รู้วิธีการทำสำคัญมหากางเขน วิธีสวดบทข้าแต่พระบิดา บทวันทามารีย์ และสวดสายประคำ Emanuel Segatashya ได้รับศีลล้างบาปในปีค.ศ. 1983 และใช้ศาสนานามว่า อิมมานูเอล (Emanuel) ตามที่พระเยซูต้องการ
👀 Vestine Salima 👀
เกิดปีค.ศ. 1960 ในครอบครัวที่เป็นมุสลิม ถึงแม้ว่า แม่ของเธอได้รับศีลล้างบาปเป็นคาทอลิกในโบสถ์ แต่ต่อมาก็ได้เปลี่ยนไปถือศาสนาอิสลามตามสามี อย่างไรก็ตามพ่อแม่ของเธอก็เห็นเหมาะสมที่จะให้เธอได้รับการศึกษาในโรงเรียนคาทอลิก เธอได้รับศีลล้างบาปที่นั่น
การประจักษ์แก่เธอเริ่มเมื่อ กรกฏาคม ค.ศ. 1980 ที่บ้านของเธอ มีเพียงพี่สาว Teofista และแม่ของเธอเท่านั้นที่รู้เรื่องการประจักษ์ครั้งแรกนี้ การประจักษ์ต่อเธอเป็นที่รับรู้ต่อสาธารณชนในวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 1982 ที่โรงเรียน และครั้งสุดท้ายของการประจักษ์เมื่อ 24 ธันวาคม ที่บ้านของเธอ เธอได้บันทึกเรื่องการประจักษ์เอาไว้ในสมุดไดอารี่ เธอเล่าว่า เธอได้รับการประจักษ์จากพระเยซูเจ้าก่อน ต่อมาจึงเป็นแม่พระ สาส์นของเธอได้เผยแพร่ไปในหลายสังฆมณฑลของรวันดาพร้อมด้วยข้อแนะนำของบิชอปJean-Baptiste Gahamanyi
วันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 1982 Vestine ได้สวดสายประคำโดยกางแขนออกในรูปกางเขน และเธอไม่ได้เคลื่อนไหวแขนของเธอเลยถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง
🇷🇼 รวันดา การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย (Rwanda The Visions of Life and Death) 🇷🇼
รวันดา (Rwanda)🇷🇼เป็นประเทศเล็กๆใจกลางทวีปแอฟริกา (Africa) ประชากรราว 5.5 ล้านคน49.7% เป็นคาทอลิก
ระหว่างปีค.ศ. 1981 ถึง ค.ศ. 1989 กีเบโฮ (Kibeho) เป็นสถานที่แม่พระได้ประจักษ์แก่เด็ก 6 คน แม่พระได้สอนบทเพลง , บทภาวนา และให้พวกเขาได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
คุณพ่อ Gabriel Maidron ชาวฝรั่งเศส🇫🇷ได้เขียนบันทึกเหตุการณ์เหล่านี้โดยบิชอปได้อนุญาต ท่านรู้จักกับพวกเด็กๆในระหว่างที่ท่านประจำอยู่ที่นั่น ท่านยังได้สัมภาษณ์หมอและผู้ที่มาทำการสอบสวนเหตุการณ์นี้ด้วย
💙 แม่พระแห่งกีเบโฮ (Our Lady of Kibeho) หรือ แม่พระมหาทุกข์แห่งกีเบโฮ (Our Lady of Sorrows of Kibeho) 💙
👀 Alphonsine Mumureke 👀
เกิดเมื่อปีค.ศ. 1965 มาจากครอบครัวคาทอลิกที่ยากจน ตามหนังสือไดอารี่ของเธอ เธอเห็นแม่พระครั้งแรกเมื่อ 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 1981 :
"ฉัน กำลังอยู่ในโรงอาหารของโรงเรียน ก็ได้ยินเสียงมาจากข้างหลัง : 'ลูกสาวของแม่!'
ฉันก็ตอบว่า : 'ลูกอยู่นี่... ท่านเป็นใครคะ?'
'ฉันเป็นมารดาขององค์พระวจนาตถ์ (Mother of the Word หรือ Nyina wa Jambo)'
แม่พระสวยงามจนสุดบรรยายได้ พระนางยืนเท้าเปล่า สวมเสื้อคลุมยาวไม่มีสายรัดและผ้าคลุมศีรษะสีขาว
ในระหว่างการเข้าญาณนี้ (ตามที่เพื่อนร่วมชั้นของฉันบอก) - ฉันพูดภาษาอื่นที่พวกเขาไม่รู้จักเช่น : ฝรั่งเศส🇫🇷 , อังกฤษ🇬🇧 , และภาษาท้องถิ่นที่ฉันพูดอยู่คือ ภาษาคินยาร์วันดา (Kinyarwand) และอื่นๆ
ครูและเพื่อนร่วมชั้นของเธอที่อยู่ร่วมเหตุการณ์การประจักษ์ครั้งแรกในตอนเย็นและอีกหลายครั้งต่อมาต่างพากันคิดว่า Alphonsine ป่วยและไม่ยอมเชื่อว่าเธอได้เห็นพระราชินีแห่งสวรรค์ เดือนธันวาคม การประจักษ์เกิดขึ้นทุกวันเสาร์ เพื่อนร่วมชั้นของเธอที่อยากรู้อยากเห็นและต้องการรู้ว่าการประจักษ์เป็นเรื่องจริงหรือไม่
ระหว่างการประจักษ์ซึ่งเธอเข้าญาณ พวกเขาได้เอาไม้ขีดไฟมาเผาที่มือของเธอ แต่เธอก็ไม่ขยับหนี แม่พระได้บอกแก่เธอว่า : 'หนูรู้มั้ยพวกเขากำลังเอาไฟเผาหนูอยู่?' - Alphonsine จึงดึงมือออกมาจากไฟ แต่มือของเธอก็ไม่มีรอยไหม้ สาส์นที่มีมาถึงเพื่อนร่วมชั้นและเหตุการณ์อื่นที่เกิดขึ้นเป็นการยืนยันว่าAlphonsine ไม่เสียสติและเห็นการประจักษ์จริงๆ ข่าวนี้กระจายไปอย่างรวดเร็วทั่วราวันดาและดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมากให้มาที่กีเบโฮ
ในวันที่ 16 มกราคม ค.ศ. 1982 การประจักษ์เกิดขึ้นที่สนามโรงเรียน ไม่มีนักเรียนหญิงคนใดเห็นแม่พระ แต่พวกเขาได้ยินสาส์นของพระนางที่เต็มไปด้วยความรักเยี่ยงมารดา
นักเรียนบางคนได้เอาสายประคำมาให้ Alphonsine เพื่อขอให้แม่พระอวยพร พวกเขาเอาสายประคำมารวมกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่ Alphonsine จะจำได้ว่าเป็นของใครบ้าง เมื่อเธอยื่นสายประคำให้แม่พระ มีสายประคำบางอันหนักมากจนเธอยกขึ้นส่งให้แม่พระไม่ไหว มีผู้สังเกตุว่า สายประคำเหล่านั้นเป็นของนักเรียนที่ไม่เชื่อว่าการประจักษ์เป็นเรื่องจริงและพูดวิจารณ์ในเรื่องนี้
เนื่องจากมีการโต้แย้งกันมากในการประจักษ์ครั้งแรก มีนักเรียนและครูบางคนพูดว่า "พวกเราจะเชื่อว่า แม่พระประจักษ์มาที่โรงเรียนจริง ถ้าพระนางประจักษ์มาให้แก่นักเรียนคนอื่นด้วยนอกเหนือจากAlphonsine" Alphonsine ตอบพวกเขาว่า "จงสวดภาวนาเพื่อให้เธอได้รับพระพรนี้"
👀 Anathalie Mukamazimpaka 👀
เกิดเมื่อค.ศ. 1965 ในครอบครัวคาทอลิก แม่พระประจักษ์แก่เธอครั้งแรกเมื่อ 12 มกราคม ค.ศ. 1982 สาส์นที่มอบให้เธอ คือ จงเป็นคนถ่อมตน ยอมรับทุกอย่างตามน้ำพระทัยของพระ รักการภาวนาจากหัวใจและการพลีกรรมเพื่อทำให้พวกเขามีความเข้าใจในเรื่องความทุกข์ตามแบบอย่างคริสตชน
ในวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 1982 แม่พระได้ตรัสกับ Anathalie ว่า :
“แม่ได้พูดกับลูก แต่ลูกก็ไม่ได้ยิน แม่ต้องการประคองลูกขึ้น แต่ลูกก็ยังคงล้มลง แม่เรียกลูก แต่ลูกกลับทำหูหนวก เมื่อไรลูกจึงจะยอมทำตามที่แม่ขอร้อง? ลูกเมินเฉยต่อคำขอร้องของแม่ เมื่อไรลูกจึงจะยอมเข้าใจเสียที? เมื่อไรลูกจึงจะหันมาสนใจในสิ่งที่แม่ต้องการบอกแก่ลูก? แม่ได้ให้เครื่องหมายแก่ลูกแต่ลูกก็ยังสงสัย. อีกนานเท่าไรลูกจึงจะหันหูหนวกของลูกมาฟังเสียงวอนขอของแม่?”
👀 Marie-Claire Mukangang 👀
เกิดปีค.ศ. 1961 ตอนแรกเธอไม่เชื่อในเรื่องการประจักษ์ของอัลฟองซีนและเรียกอัลฟองซีนว่า "คนโง่เขลา" เธอเรียนหนังสือไม่เก่งและต้องซ้ำชั้นหนึ่งปี
การประจักษ์ครั้งแรกของ Marie-Claire มีขึ้นเมื่อ 2 มีนาคม ค.ศ. 1982 และสิ้นสุดใน 6 เดือนต่อมาแม่พระได้เลือกเธอให้เผยแพร่สาส์นของพระนาง : 'จงรำพึงถึงพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าและความเจ็บปวดแสนสาหัสในดวงใจของแม่ จงสวดสายประคำสำหรับคนเจ็บป่วยเพื่อที่เขาจะได้รับพระหรรษทานในการสำนึกผิดกลับใจ’
Marie-Claire ได้กลับมาเป็นครูสอนที่โรงเรียนlและสอนได้ดี
นี่เป็นบทสนทนาระหว่าง Marie-Claire และแม่พระเมื่อวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1982 :
💙 แม่พระ : “จงสำนึกผิดกลับใจ! สำนึกผิดกลับใจ! สำนึกผิดกลับใจ!”
👀 Marie-Claire : “แต่ลูกก็ทำแล้ว!”
💙 แม่พระ : “เมื่อแม่พูดกับลูกอย่างนี้ แม่ไม่ได้พูดกับลูกเพียงคนเดียว แต่แม่พูดกับคนอื่นๆทุกคนด้วยมนุษย์ยุคสมัยนี้ได้ทำให้ความหมายที่แท้จริงกลายเป็นสิ่งไร้สาระ : พวกเขาทำความผิดโดยไม่สำนึกรู้ว่ากำลังทำสิ่งที่ผิด”
👀 Marie-Claire : “พวกเราอ่อนแอ ไม่มีพละกำลัง โปรดประทานพละกำลังแก่พวกเราด้วยเพื่อจะได้สำนึกรู้ถึงความผิดของพวกเราและขออภัยโทษสำหรับสิ่งเหล่านั้น”
แม่พระทรงแนะนำเราให้สวดสายประคำพร้อมรำพึงความทุกข์ 7 ประการของแม่พระเพื่อจะได้รับพระหรรษทานในการสำนึกผิดในบาปของเรา
วันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1982 แม่พระตรัสกับ Marie-Claire ว่า :
“สิ่งที่แม่ร้องขอจากลูกคือการสำนึกผิดกลับใจ เมื่อลูกสวดสายประคำพร้อมรำพึงตาม ลูกจะมีพละกำลังที่จะสำนึกผิดกลับใจ ทุกวันนี้ ประชาชนจำนวนมากไม่รู้วิธีที่จะให้อภัยกัน พวกเขาตอกตะปูตรึงพระบุตรของพระเจ้าบนกางเขนอีกครั้ง ดังนั้นแม่จึงมาที่นี่ ที่รวันดา เพื่อเตือนความจำพวกลูก เพราะที่นี่แม่ยังคงพบคนที่สุภาพถ่อมตนอยู่บ้าง ซึ่งไม่ยึดติดกับทรัพย์สิ่งของหรือเงินทอง”
👀 Stephanie Mukamurenzi 👀
เกิดปีค.ศ. 1968 ได้รับการประจักษ์ครั้งแรกเมื่ออายุ 14 ปี
👀 Agnes Kamagaju 👀
เกิดปีค.ศ. 1960 ได้รับการประจักษ์ตั้งแต่ 1 สิงหาคม ถึง 21 กันยายน ค.ศ. 1982 เธอได้เห็นทั้งแม่พระและพระเยซูเจ้า
มีการบอกถึงเวลาเป็นการล่วงหน้าก่อนที่แม่พระจะประจักษ์มาต่อสาธารณชน ประชาชนจำนวนมากจึงมาจากทุกแห่งทั่วประเทศ มีการสร้างพื้นเวทีบริเวณสนามหญ้าของโรงเรียน และเจ้าหน้าที่การสื่อสารก็มอบอุปกรณ์วิทยุและลำโพงให้ด้วย การประจักษ์ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง แก่เด็กหญิงทั้งโดยเป็นส่วนรวมหรือเป็นการส่วนตัวในเวลาเดียวกัน ผู้รับการประจักษ์บางครั้งจะร้องเพลง บางคนจะล้มลงบนพื้นในลักษณะเข้าญาณ เมื่อสิ้นสุดการประจักษ์ พวกเด็กมีลักษณะเหมือนอาการโคม่า และจะฟื้นขึ้นภายใน 5 นาที หรือ 1 ชั่วโมง
👀 Emanuel Segatashya 👀
เกิดปีค.ศ. 1967 ในหมู่บ้านชื่อ Rwamiko พ่อแม่นับถือความเชื่อดั้งเดิมของท้องถิ่น (ภูติผี) เขาไม่ได้เข้าโรงเรียนเพราะครอบครัวอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งไม่มีเครื่องมือสื่อสารอาทิ เช่น วิทยุ
Emanuel Segatashya ไม่รู้จักการทำสำคัญมหากางเขนหรือความหมายของการทำสำคัญมหากางเขนเลย เมื่ออายุ 15 ปี เขาเริ่มได้รับการประจักษ์จากพระเยซูเจ้า ในไม่ช้าประชาชนต่างก็อยากรู้อยากเห็นว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น จำนวนผู้ที่สนใจเพิ่มมากขึ้นเมื่อได้ฟังสาส์นจากเด็กเลี้ยงแกะที่นับถือความเชื่อดั้งเดิมผู้นี้ซึ่งดึงดูดความสนใจ ต่างสงสัยว่าเด็กได้รับความรู้ในเรื่องศีลอภัยบาป , บาป และความรักมาจากที่ใด?
พระเยซูเจ้าเองทรงเป็นผู้ที่สอนเขาให้รู้วิธีการทำสำคัญมหากางเขน วิธีสวดบทข้าแต่พระบิดา บทวันทามารีย์ และสวดสายประคำ Emanuel Segatashya ได้รับศีลล้างบาปในปีค.ศ. 1983 และใช้ศาสนานามว่า อิมมานูเอล (Emanuel) ตามที่พระเยซูต้องการ
👀 Vestine Salima 👀
เกิดปีค.ศ. 1960 ในครอบครัวที่เป็นมุสลิม ถึงแม้ว่า แม่ของเธอได้รับศีลล้างบาปเป็นคาทอลิกในโบสถ์ แต่ต่อมาก็ได้เปลี่ยนไปถือศาสนาอิสลามตามสามี อย่างไรก็ตามพ่อแม่ของเธอก็เห็นเหมาะสมที่จะให้เธอได้รับการศึกษาในโรงเรียนคาทอลิก เธอได้รับศีลล้างบาปที่นั่น
การประจักษ์แก่เธอเริ่มเมื่อ กรกฏาคม ค.ศ. 1980 ที่บ้านของเธอ มีเพียงพี่สาว Teofista และแม่ของเธอเท่านั้นที่รู้เรื่องการประจักษ์ครั้งแรกนี้ การประจักษ์ต่อเธอเป็นที่รับรู้ต่อสาธารณชนในวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 1982 ที่โรงเรียน และครั้งสุดท้ายของการประจักษ์เมื่อ 24 ธันวาคม ที่บ้านของเธอ เธอได้บันทึกเรื่องการประจักษ์เอาไว้ในสมุดไดอารี่ เธอเล่าว่า เธอได้รับการประจักษ์จากพระเยซูเจ้าก่อน ต่อมาจึงเป็นแม่พระ สาส์นของเธอได้เผยแพร่ไปในหลายสังฆมณฑลของรวันดาพร้อมด้วยข้อแนะนำของบิชอปJean-Baptiste Gahamanyi
วันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 1982 Vestine ได้สวดสายประคำโดยกางแขนออกในรูปกางเขน และเธอไม่ได้เคลื่อนไหวแขนของเธอเลยถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง