ท้าวความก่อนว่า ณ ปัจจบันนี้ มีอาการปวดท้อง แสบท้องลิ้นปี่ แน่นท้อง มาร่วม 2 ปี เรอบ่อย และ ท้องร้อง ( โดยเฉพาะ บริเวณลำไส้ช่วงกลางคืน ) 

สิ่งที่เคยตรวจ 2 ปีที่ผ่านมา 
- เมื่อ 2 ปีที่แล้ว  CT SCAN  ผลปกติ มีก้อนที่ตับก้อนเล็กๆ 
- เดือนธันวาปลายปีที่แล้ว ส่องกล้อง ลำไส้ + กระเพาะ พบว่า ติดเชื้อ H pylori และ มีรอยแดง ส่วนลำไส้ ปกติ  
- รักษา กินยา ฆ่าเชื้อ h pylori และ ตรวจอุจจาระ เมื่อต้น ปีนี้ ผลปกติ ไม่มีเชื้อ
- MRI 2 รอบ เพื่อ  Follow ตับโดย ผลล่าสุดเมื่อเดือน พค ปีนี้ ผลตรวจปกติไม่มีขยาย คาดว่าเป็นปานแดง 

ทั้งนี้อาการปวดท้องแน่นท้องก็มีช่วงหายปวด เหมือนกัน โดยที่หายล่าสุดจะเป็นช่วงต้นปี มกราคม และกลับมาเป็นอีกครั้งตอนกลางเดือน กุมภา- ปัจจุบัน( คาดว่าอาจเกิดจากกินเบียร์ ซึ่งตอนนั้นเข้าใจว่า นึกว่า หายแล้ว T T ) 

ณ ปัจจุบันนี้ อาการที่ยังมีอยู่คือจะปวดแน่นท้องช่วงล่างๆ หรือฝั่งทางขวา ท้องร้อง(ช่วงลำไส้) บ่อยมาก โดยเฉพาะตอนกลางคืน
และ เรอทั้งวัน  ขับถ่ายปกติน้ำหนักไม่ลด มีแต่เพิ่ม 555   โดยอาการดังกล่าวจะเป็นทั้งวัน แต่ก็จะมีช่วงเบาบ้าง และก็จะสลับที่วนไป อาทิเช่น ตรงกลาง หรือ ถ้านอนราบก็จะย้ายช่วง บริเวณสะดือ ( ทั้งนี้ถ้าเปรียบเทียบอาการปวดท้องเมื่อปีที่แล้ว ถือว่าปวดท้องไม่หนัก เนื่องจากปีที่แล้วคือหนักมาก นั่งไม่ได้ แน่นมาก แสบอก ตลอดเวลา แต่ ณ ปัจจุบัน ไม่มีอาการแสบอก หรือลิ้นปี่แล้ว )

- เลยอยากสอบถามเพื่อนๆ ว่าใครมีอาการแบบนี้บ้างครัง และมีวิธีการรับมือหรือรักษาอย่างไรบ้างครับ ตอนนี้กิน โพรไบโอติก อยู่ครับ
- การตรวจดังกล่าวถือว่าครอบคลุมเพียงพอไหมครับ
- และอันนี้อยากถามเป็นความรู้การส่อง กล้องควรทำอีกครั้ง เว้นระยะกี่ปีครับ ปล ผมอายุ 29 ครับ 
- โรคนี้เหมือนไม่ร้ายแรง แต่ ทรมาณ จิตใจมากกว่าครับ เคยเป็น แพนิค อยู่ช่วงนึงต้องกินยาเลย T T