JJNY : เสื้อแดงปราจีนฯ ขอสลายตัว│4คณาจารย์ ร้อง 8พรรค│92% เห็นด้วย รอ 10ด. ส.ว.หมดอำนาจ│‘โกลเบล็ก’ ชี้การเมืองยังไม่นิ่ง

เสื้อแดงปราจีนฯ ขอสลายตัว-ทิ้งอุดมการณ์ หาก เพื่อไทย พูดไม่เป็นคำพูด
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7784292
 
 
เสื้อแดงปราจีนฯ ลั่น ขอสลายตัวทิ้งเสื้อแดง-อุดมการณ์ทันที หาก เพื่อไทย พูดไม่เป็นคำพูด ไร้สัจจะ ขอถามดัง ๆ ต้องการอำนาจกันขนาดนั้นเลยหรือ
 
วันที่ 26 ก.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่ม นปช. พื้นที่ปราจีนบุรีต่อท่าทีของพรรคเพื่อไทย (พท.) ของคนเสื้อแดงในพื้นที่ ได้พบ นายเฉลิม เกียรติบรรจง แกนนำ นปช.ปราจีนบุรี อดีตผู้สมัคร สส.ปราจีนบุรี กล่าวถึงท่าทีของ นปช.ปราจีนบุรี ต่อพรรคเพื่อไทยที่เคลื่อนไหวทางการเมืองในวันนี้
 
นายเฉลิม กล่าวว่า ขออนุญาตเรียนไปถึงผู้บริหารพรรคหรือคณะกรรมการผู้บริหารพรรคเพื่อไทย แม้เป็นเสียงเล็ก ๆ จากชาวบ้านที่พวกตนทำงานและทุ่มเทเพื่อพรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดงมาตลอด ตนอยู่ร่วมอุดมการณ์กันมาตั้งแต่เป็นสมัยพรรคพลังประชาชน พรรคไทยรักไทย มาจนถึงพรรคเพื่อไทย ตอนนั้นมีแกนนำ คนในพรรครู้จักกันหมด ถือว่าเราทำงานด้วยใจ เราไม่มีเรื่องของผลประโยชน์
 
นายเฉลิม กล่าวต่อว่า ตนติดใจจริง ๆ กับคำพูด หรือว่าการนำเสนอของคนเป็นแกนนำพรรคในปัจจุบันนี้มาก ติดใจมากเรื่องการไปหาเสียงที่ทางคุณเศรษฐา ทวีสิน, คุณแพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้ประกาศต่อหน้าสาธารณะชนช่วงไปหาเสียงว่า ไม่ร่วมกับกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือ แม้แต่พรรคของภูมิใจไทย (ภท.) ซึ่งเป็นพรรคที่ส่งเสริมกัญชา พวกเราก็เห็นด้วยกับแกนนำ ถือเป็นความมุ่งมั่นที่พวกเราให้ความไว้วางใจ
 
นายเฉลิม กล่าวอีกว่า ตนได้นำความสิ่งนี้ไปไล่บอกแก่พี่น้อง ทั้งที่กระแสส้ม หรือ พรรคก้าวไกลมาแรงมากที่ จ.ปราจีนบุรี พวกตนได้เดินไปบอกกับชาวบ้านว่า พรรคเพื่อไทยเขาไม่ลืมอุดมการณ์นะครับพี่น้อง เขายังอยู่กับพวกเราไม่เอาแน่นอน ไม่เอาแน่นอนพรรคเผด็จการ ไม่เอา 2 ลุง ไม่เอาพรรคกัญชา ชาวบ้านปราจีนฯ เขาจึงเทคะแนนให้
 
นายเฉลิม กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยคะแนนบัญชีรายชื่อ เกาะติดก้าวไกลตลอดมาอันดับที่ 2 แม้ สส.แบบแบ่งเขตจะไม่ได้สส.ในปราจีนบุรีก็ตาม เพราะชาวบ้านส่วนหนึ่งไม่ศรัทธาตัวคนผู้สมัคร ที่จะมาเป็นตัวแทนของเขา ตนก็ขอคะแนนแบบเลือกพรรค ตนก็เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในนั้น ที่ช่วยกันรณรงค์ ทั้ง ๆ ที่แม้ไม่ได้ค่าจ้างอะไรแม้สักบาทเดียว
 
วันนี้จะขอถามดัง ๆ ไปถึงคนมีอำนาจอยู่ในพรรคเพื่อไทย เราต้องการอำนาจกันขนาดนั้นเลยหรือ เราจำเป็นอะไรขนาดนั้นหรือท่าน พวกผมเป็นชาวบ้าน เรารอกันมา 9 ปีที่ถูกทหารถูกฝ่ายอนุรักษ์นิยมเขากดหัวตลอด แม้น้ำมันจะแพง ยางพาราขายไม่ได้ มันสำปะหลังขายไม่ได้ ทุกอย่างอะไรขายไม่ได้ เขาก็ตอบไปแบบเสียไม่ได้ว่า อยากขายยางพาราได้ให้ไปขายดาวอังคาร พวกผมต้องทนฟัง” นายเฉลิม กล่าว
 
นายเฉลิม กล่าวว่า แต่วันนี้ไม่เชื่อหูตนว่า พรรคเพื่อไทยเราที่ชื่นชม เชื่อถือ ศรัทธามาตลอดว่า คุณไปกอดคอกับเขา มานั่งกินมินต์ช็อกเหมือนคนไม่มีอะไรกันเลย มันเล่นละครเกินไปไหม มันทุเรศไปไหม ตนบอกได้เลย พรรคเพื่อไทยทำแบบนี้พอกันที ตนเชื่อว่าแกนนำคนเสื้อแดงหลายจังหวัด ที่โทรมาคุยกัน บอกว่าจะถอย และจะเลิก ตนจะทำให้พี่น้องคนทั้งประเทศดูว่า คนเสื้อแดง จ.ปราจีนบุรี จะประกาศเป็นที่แรก และกลุ่มผู้ร่วมอุดมการณ์ของตนจะสลายตัวทันที จะไม่เอาเลย
 
นายเฉลิม กล่าวต่อว่า ตนถือว่าเป็นการเอาเปรียบพี่น้องประชาชน และหลอกลวงชาวบ้าน หลอกไม่เอาพรรคนั้น ไม่เอาพรรคนี้ แต่ตอนนี้ นพ.ชลน่าน  หัวหน้าพรรคเพื่อไทยบอกว่า 188 เสียง เป็นพรรคเสียงข้างมาก คิดได้อย่างไร ไม่ใช่อยากมีอำนาจจนลืมอุดมการณ์ตัวเองไปหมด เป็นคนต้องมีสัจจะ ถ้าไม่มีสัจจะคือหมาเห่าดี ๆ นี่เอง คำพูดมันต้องเป็นคำพูดสิโตแล้ว
 
นายเฉลิม กล่าวด้วยว่า พี่น้องคนเสื้อแดงตายที่วัดปทุมวนารามกี่คน พี่น้องคนปราจีนบุรีก็ไปตาย พี่น้องคนปราจีนฯตอนนี้ยังอยู่ในคุกอีก 2 คน ถามหน่อยทุกคนคิดอย่างไร ลองคิดดูให้ดี ๆ ตนไม่ใช่ด้อมส้ม ด้อมเหลืองอะไร มีใจเดียวคือรักเพื่อไทย รักคนเสื้อแดง และทำเสื้อแดงตลอดชีวิต ไม่เคยทำอย่างอื่น
 
แต่วันนี้ยอมทิ้งอุดมการณ์ ยอมทิ้งสิ่งที่รัก ขอทิ้งผ้าพันคอผืนนี้ ที่ได้มาจากคุณจตุพร พรหมพันธุ์ ผมขอเถอะอย่าไปหวังเลยอำนาจวาสนา เมื่อลุงเขาไม่ปล่อยมือก็ให้เขา อยู่กันไปก่อน มันไม่อยู่ไปจนตายหรอก เดี๋ยวมันก็ไปเอง” นายเฉลิม กล่าว



4 คณาจารย์ ม.วลัยลักษณ์ แถลงเรียกร้อง 8 พรรค ‘ให้โอกาสประชาชน’ อย่าทรยศ-กดดันกันเอง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4099131

4 คณาจารย์ ม.วลัยลักษณ์ แถลงเรียกร้อง 8 พรรค ‘ให้โอกาสประชาชน’ อย่าทรยศ-กดดันกันเอง
 
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม รายงานข่าวแจ้งว่า มีการเผยแพร่แถลงการณ์ ‘เรียกร้องให้ 8 พรรคการเมืองให้โอกาสประชาชน’ ลงนามโดยคณาจารย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 4 ราย
 
ความดังนี้
.
ผลการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง ได้ที่นั่งอันดับหนึ่ง และรวบรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ ดังนั้น จึงมีความชอบธรรมที่สุดในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ถูกฝ่ายต่างๆ ร่วมกันสกัดกั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกวุฒิสภาแต่งตั้ง ที่รัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจเผด็จการ เปิดโอกาสให้ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเลือกนายกรัฐมนตรี
.
การกระทำดังกล่าวนี้ แสดงถึงเจตนาที่โจ่งแจ้งในการไม่ยอมรับอำนาจของประชาชนที่ผ่านการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และฉุดรั้งการเมืองไทยให้การเมืองไทยอยู่ในวังวนเดิมต่อไป
.
ล่าสุด มีความพยายามให้พันธมิตร 8 พรรคการเมืองแตกแยกกันเอง และสลายขั้วพันธมิตร ไปรวมกับพรรคการเมืองที่เป็นส่วนหนึ่งในการสืบทอดอำนาจเผด็จการ ซึ่งไม่เพียงเป็นการทำให้พรรคการเมืองเหล่านี้ ทรยศต่อคำมั่นสัญญาที่ให้กับประชาชนในช่วงเลือกตั้ง แต่ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนต่อพรรคการเมืองและระบอบประชาธิปไตยไปพร้อมกันด้วย
.
พวกเรา อาจารย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ดังมีรายชื่อข้างล่าง ต้องการเห็นการเมืองไทยกลับสู่ครรลองประชาธิปไตยอีกครั้ง จึงขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองทั้ง 8 พรรค ผนึกกำลังกันอย่างเหนียวแน่นตามที่ประกาศไว้ต่อไป ในฐานะที่การผนึกกำลังดังกล่าวนั้นเป็นการ “ให้โอกาสประชาชน” ใน 2 ประการ คือ
.
1. ให้โอกาสประชาชนผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้แสดงพลังในการกดดัน ส.ว. และองคาพยพที่เกี่ยวข้อง ให้เคารพเสียงประชาชน ลงคะแนนตามเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร
.
ขณะที่ประชาชนกำลังเริ่มต้นจัดตั้ง ใช้ “สันติวิธี” อย่างหลากหลาย รวมตัวแสดงพลังในการกดดัน ส.ว. ตามวิถีทางประชาธิปไตย พรรคการเมืองทั้ง 8 พรรคต้องร่วมมือกับประชาชน มิใช่สร้างแรงกดดันกันเอง และควรตระหนักว่า การจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วเป็นการตัดตอน ตัดโอกาสประชาชนในการต่อสู้เพื่อยืนยันเจตจำนงของตนเอง
.
2. ให้โอกาสประชาชนได้ร่วมกับพรรคการเมืองผลักดันการเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยให้ออกจากระบอบอำนาจนิยม
.
ชัยชนะของพันธมิตรพรรคฝ่ายค้านเหนือฝ่ายรัฐบาลเดิมด้วยคะแนนกว่า 26 ล้านเสียง ครองที่นั่งกว่าครึ่งในสภาผู้แทนราษฎร 312 ที่นั่ง ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญในรอบ 17 ปีหลังการรัฐประหาร 2549 ที่จะนำการเมืองไทยออกจากระบอบอำนาจนิยมที่มีการเลือกตั้ง ที่การเลือกตั้งและสถาบันการเมืองแบบประชาธิปไตยถูกสร้างขึ้น “พอเป็นพิธี” ไม่ได้ทำหน้าที่สะท้อนเสียงที่แท้จริงของประชาชนและกำหนดอนาคตของประเทศ แต่เพียงเพื่อสืบทอดระบอบอำนาจนิยมเท่านั้น
.
การตั้งรัฐบาลข้ามขั้วเป็นการปกป้องและสืบทอดระบอบที่ฉ้อฉลนี้ต่อไป ปิดโอกาสของประชาชนและสังคมไทยในการผลักดันการปฏิรูปการเมืองไทยครั้งใหญ่ที่จะนำพาการเมืองไทยสู่วิถีทางประชาธิปไตย
.
โปรดให้โอกาสและร่วมมือกับประชาชนที่ได้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ด้วยความอดทนอดกลั้น ครุ่นคิด และให้เวลาสำหรับทุกฝ่ายในการผลักดันภารกิจที่สำคัญในทางประวัติศาสตร์นี้ร่วมกันต่อไป
.
ด้วยความสมานฉันท์
อุเชนทร์ เชียงเสน
สุรัช คมพจน์
จิรวัฒน์ แสงทอง
วิทยา อาภรณ์
มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
.



ยาวชนปลดแอก ชี้ผลโหวตแลนด์สไลด์ 92% เห็นด้วยรอ 10 เดือน ส.ว.หมดอำนาจ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4099248
 
เยาวชนปลดแอก ชี้ผลโหวตแลนด์สไลด์ 92% เห็นด้วยรอ 10 เดือน ส.ว.หมดอำนาจโหวตนายก
 
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม เยาวชนปลดแอก Free YOUTH ได้เผยแพล่ผลโหวตหัวข้อ “เห็นด้วยหรือไม่กับข้อเสนอให้ชะลอการตั้งรัฐบาลไป 10 เดือน จนกว่าสว.จะพ้นวาระ?” โดยมี 2 ตัวเลือกคือ เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย
 
โดย กลุ่มเยาวชนปลดแอก ได้สรุปผลการโหวตไว้ว่า “แลนด์สไลด์! จากผู้เข้าร่วมโหวตกว่า 21,666 คน ผลโหวตชี้ชัด “เจ้าต้องต่อต้าน ไม่ใช่เข้าร่วม” รอ 10 เดือน ดีกว่าต้องอยู่กับเผด็จการไปชั่วลูกชั่วหลาน เพื่อไม่ให้มีสว.ลากตั้งร่วมโหวตนายก “10 เดือนเป็นเพียง Worst case ” ดังที่กัณวีร์ สืบแสงผู้เสนอข้อเสนอได้กล่าวไว้ #จัดตั้งรัฐบาล
  
ผลการสำรวจความคิดเห็น “เห็นด้วยหรือไม่กับการรอ 10 เดือนเพื่อให้สว.ระเหิดหายจนไม่สามารถร่วมโหวตนายกได้” ซึ่งถูกเสนอโดย กัณวีร์ สืบแสง พรรคเป็นธรรม ซึ่งอาจเร็วกว่า 10 เดือนหากสว. “ยอมกำจัดตัวเอง” หรือถูกไล่ออกไปโดยประชาชน เพราะเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าหากไร้ซึ่งเสียงของสว.ลากตั้ง “8 พรรคร่วม” ย่อมโหวตนายกผ่านได้แบบฉิว
 
การยืนยันในหลักการปชต.เช่นนี้จะเป็นการส่งแรงกดดันไปที่สว./องคาพยพฝ่ายเผด็จการว่าหากต้องการให้ประเทศเดินหน้าจริง และห่วงชาติจริง จะต้องโหวตนายกที่มาจากเสียงของปชช. และส่งเสียงไปยังพรรคที่เคยให้คำมั่นกับปชช.ว่าจะหยุดการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ ว่าจะต้องไม่ร่วมกับเผด็จการเด็ดขาด

นี่ไม่ใช่เป็นการเอาประเทศไทยมาเป็นตัวประกัน แต่เพราะการตั้งรัฐบาลที่มีขั้วสนับสนุนเผด็จการเดิมมาร่วมด้วย ก็ไม่ใช่การรับประกันอนาคตที่ประชาธิปไตยจะได้เติบโต ปากท้องของผู้คนจะดีขึ้นภายใต้การเมืองที่มีเสถียรภาพ
 
หากวันก่อนกล่าวว่า “ต้องถามประชาชน” วันนี้เราได้เปิดให้ประชาชนได้ส่งเสียงใน 3 Platforms ทั้ง Facebook, Instagram และ Twitter แล้ว
 
จากปชช.ผู้ที่ได้ทำโพลกว่า 21,666 คนทั้ง 3 Platforms มี 1645 เสียง ที่ “ไม่เห็นด้วย” ซึ่งคิดเป็น 7.59% และมี 20,021 เสียง “เห็นด้วย” ซึ่งคิดเป็น 92.41 % ที่ส่งเสียงออกมาอย่างชัดเจนว่า “จำเป็นต้องรอ 10 เดือนให้สว.ไม่สามารถโหวตนายกเพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจจากฝั่งเผด็จการให้จงได้”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่