เราเกิดมาก็พบเจอแต่การที่พ่อใช้กำลังทุบตีแม่บางครั้ง อาละวาดทำลายข้าวของ ตีเรากระทืบเรา นอกใจแม่เรา เคยหลอกเราให้เอาเงินก้อนที่ได้จาก กยศ สะสม ไปดาวน์รถ บอกว่าจะให้เราขับไปโรงเรียน และตอนนั้นอายุไม่ถึงจึงต้องเป็นชื่อพ่อ แต่สุดท้ายโมโหว่าเรากับแม่ไม่มีเงินให้ เอารถไปซ่อน ทำให้เรากับแม่ต้องเดินไปรับจ้างที่โรงเรียนเก่า จนสุดท้ายเก็บเงินดาวน์รถใหม่ได้ และรถคันนั้นก็โดนยึดไป และดูถูกเราว่าเราจะเรียนไม่จบ เคยเอาเสื้อผ้าเราโยนออกหน้าต่าง เคยไล่เรากับแม่ลงมานอนในครัวใต้ถุนบ้าน เรากับแม่ก็ได้ลงมานอน อาละวาดทีไรก็ไล่แม่ไล่เราหนี แม่เราก็หนีไม่ได้เพราะไม่มีที่ไป เราเคยชวนแม่ไปโดดน้ำตายแต่แม่ก็ไม่ยอมตายแม่บอกจะสู้ และแม่ก็สู้จนส่งเราเรียนจบด้วยตัวคนเดียว พ่อไม่ช่วยอะไรเลย ตอนพ่อได้เงินแสนมาขอพ่อซื้อโทรศัพท์ 5000 พ่อก็ไม่ให้บอกไร้ประโยชน์ เราก็เลยเก็บเงินออกกันคนละครึ่งกับแม่ ต่อมาพ่อก็ติดเพื่อนเล่นยาอาละวาดบ่อย และทำสิ่งผิดกฎหมาย เล่นการพนัน (ขายนาเพราะเล่นการพนันหมด โดยแม่กับเรารู้ทีหลัง) แต่แล้ววันนึงแกก็โดนจับ จนต้องเอาใบบ้านไปจำนอง
จนวันที่พ้นโทษออกจากคุก แกดูเป็นคนดีขึ้น เราก็เรียนจบมีงานทำ แกอยากได้โทรศัพท์เสื้อผ้าเราก็ซื้อให้ ขอเงินบ้าง เราก็ให้บ้าง เราดีใจมากคิดว่าแกกลับตัวกลับใจได้
แต่แล้วตุลาคมปีก่อนพ่อตรวจพบว่าเป็นเนื้องอกในสมอง เราร้องไห้เสียใจหนักมาก ขึ้นเครื่องบินลางานฉุกเฉินไปเฝ้าที่โรงบาล ทราบว่าพ่อเอาทองไปจำนำเล่นการพนันเราก็ไปไถ่มาให้เพื่อให้พ่อสบายใจ ซื้อชุดใหม่ให้ อยากกินอะไรเราหาให้หมด จนพ่อออกจากโรงพยาบาล เรากลับมาทำงานต่อก็ตรวจเจอว่าท้อง เรากับแฟนก็เลยแต่งงานกันในเดือนธันวาคม(ก่อนหน้านั้นเราหมั้นกันได้ 2 ปี) และเงินเก็บส่วนนึงดาวน์รถยนต์มาไว้เวลาต้องไปฝากครรภ์ เราคิดว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องเงินเลย เพราะคิดว่าถ้าไม่พออะไรจะขอหยิบยืมจากแม่ก่อน (ค่าสินสอดแม่แบ่งกับพ่อ ) แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าพ่อเอาไปเล่นพนันหมด แถมเอาส่วนของแม่ไปเล่นด้วย แถวบ้านบอกเวลาพ่อขอเงินถ้าแม่ไม่ให้แกจะอาละวาด จนแม่ต้องยอมให้ (เราข่มใจไม่ต่อว่าแกเพราะเห็นว่าแกป่วย)จนมาถึงเดือนที่เราท้องแก่ใกล้คลอด เป็นครั้งที่ฟางเส้นสุดท้ายของเราขาดลง เรารีบลาคลอดมาเพียงเพราะจะได้พาพ่อไปหาหมอตามนัดด้วย แต่พอมาถึงบ้านกลับมาขอเงินเราให้ลูกน้อง 1,000 บาท แต่เราไม่ให้เพราะเราไม่โอเคที่ต้องมาเอาเงินให้ลูกน้องเขา แถมตอนนั้นมีแค่ 10,000ยังไม่พอค่าคลอดด้วยซ้ำ และตอนนั้นเงินอยู่กับแฟนด้วยเพราะก่อนหน้าที่เราจะกลับไม่กี่วันนั้นเราโอนเงินเราให้แม่ 8,500 แล้วและแม่ก็ให้พ่อด้วย โอนทั้งหมด 4 ครั้ง แต่แม่เราแทบไม่ได้ใช้เลย เช่นรอบแรกโอน 2,000 แม่ได้ใช้จ่ายค่านู่นนี่นั่น 400 ส่วน 1,600 พ่อเอาไปเล่นการพนันหมด และเงิน 10,000 นี้ต้องใช้จ่ายเติมน้ำมันพาพ่อไปหาหมอตามนัดในเมืองด้วย แล้วพ่อก็ไม่พอใจ อาละวาดปัดขวดแตกต่อหน้าสามีเรา เตะถาดข้าวกระจัดกระจายใส่เราทั้งที่เรายังนั่งกินข้าวอยู่ ว่าเราหักหน้าเขาต่อหน้าลูกน้องเขา ลูกน้องเขาดีเขาทำงานให้ แต่ก็งานผิดกฎหมาย มาบ้านกะว่าจะมาคลอดมาพักผ่อนหย่อนใจที่บ้านแท้ๆ แต่กลับบ้านคืนแรกพ่อก็อาละวาด จนสามีเราได้พาเรากับแม่ไปนอนบ้านเค้า เพราะเค้าขู่จะเอามีดปาดคอแม่เราด้วย พอเช้าวันต่อมาคิดว่าสงบลงจะดีขึ้น แต่ก็อาละวาดไล่เรากับแม่ให้ออกจากบ้าน ทั้งที่บ้านนั้นเป็นชื่อเรา เรียกลูกน้องมากินข้าวคุยกันเสียงดัง เรากับแม่ก็พยายามเงียบ ไม่โต้ตอบ จนถึงวันที่สามีเรากลับรถตู้เพื่อที่จะกลับไปทำงาน แต่จอดรถไว้ที่จอดรถที่เค้าทำไว้ (ทำแต่เงินเราส่งมาเอาไปเล่นพนันหมด สินสอดเราเอาไปเล่นพนัน ไถ่ทอง 3 รอบให้ก็เอาไปเล่นพนัน #แล้วบอกว่าทำเพื่อเรา เราทำให้เค้าแค่นี้ไม่ได้ ทั้งที่เค้าไม่ได้ส่งเราเรียนมีแค่แม่ที่ส่งเสียคนเดียว ทั้งที่แม่เงินเดือนแค่ 6,900 ในตอนนั้น เราก็สู้กับแม่มา 2 คน ตอนเขาติดคุกเราก็ไปเยี่ยมเเบ่งเงินให้รอบละ 500 เพราะตอนนั้นเรายังเรียน แม่ให้ 1,500-2000 ต่อเดือน + กับ กยศ แม่ต้องซื้อข้าวกิน จ่ายค่างวดรถ2000 ค่าน้ำค่าไฟ เวลามีงานมีค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้ขอแม่เพิ่มเลย เขาซื้อตู้เย็นอะไรมา ก็มาเอาเงินกับเราทีหลัง ให้เงินแม่ก็ขูดรีดไถเงินคืนทุกบาททุกสตางค์ )
ต่อ... หลังจากสามีเรากลับไปสามีเราเอากุญแจหลักกลับไปด้วย เขาเห็นเลยน่าจะโมโหอีก เพราะน่าจะไปอวดว่าลูกออกรถมาใหม่ จะเอาไปขนไม้พยุง แต่เรากลับให้สามีเอากุญแจกลับไปด้วย ขณะที่พ่อกินข้าวก็บอกให้เราเอารถออก จะพังที่จอดรถเอาไม้เอาหลังคาไปขายเพื่อเอาเงินมาให้ลูกน้อง ว่าลูกน้องดีทำงานให้เขา แต่เวลาทุกข์เห็นแต่เรียกหาลูกเมีย เราก็โต้ว่าจะเอาออกได้ยังไงไม่มีกุญแจ (แต่ความจริงมีสำรองอยู่ที่เรา) เเต่เพราะกลัวเขาเอาไปทำเรื่องผิดกฎหมายจึงทำให้เขาคิดว่าไม่มีกุญแจรถและกันไว้กลัวว่าเขาจะไล่เรากับแม่หนีอีกจะหนีไม่ได้ และก็เป็นจริงด้วย เตะถาดข้าวถ้วยชามแตกกระจัดกระจายเป็นรอบที่ 2 ทำร้ายร่างกายแม่เรา เราจึงตัดสินใจแจ้งตำรวจ แต่ตำรวจไม่รับบอกให้เรากับแม่ไปแจ้งที่โรงพักทั้งที่ดึกมากแล้ว แม่ขับรถไม่เป็น เราท้องแก่ขับรถไม่ค่อยแข็งด้วย แต่เราจะให้เขารู้ไม่ได้ว่าตำรวจไม่รับเราเลยทำทีว่าตำรวจกำลังมา เพราะเขาจะเข้ามาทำร้ายแม่เราอีก แต่เราเอาตัวเราขวาง ลูกน้องเขาเลยมารับหนีไป เราเลยเก็บของทุกอย่างที่เป็นของเราของแม่ขึ้นรถ เสี่ยงดวงขับหนีออกมา เบรคทีเกือบหัวทิ่ม อีกอย่างท้องเราก็โตมากแล้วเลือนเบาะไปข้างหน้าก็ติดท้อง เลื่อนเบาะออกก็ไม่ถนัด เท้าเกือบไม่ถึง ทุกลักทุเลขับออกมาทั้งที่ขับไม่แข็งเำราะเคยเรียนแต่ขับเก๋งไม่เคยขับกระบะ เราเลยบอกให้เเฟนตีรถกลับมารับ โดยเราไม่อาศัยนอนที่บ้านญาติ 2 คืนรอแฟน #สุดท้ายนี้เราอยากสอบถามว่าที่เราตัดสินใจพาแม่หนีออกจากเขามา ปล่อยให้เขาอยู่อย่างโดดเดี่ยวเราจะบาปหนักมากไหม เราไม่ได้อยากทำแบบนี้แต่เขาบีบเรากับแม่😭😭😭 แล้วหลังจากนั้น 1 เดือนกว่าๆ เค้าโทรมาขอเงินเรา 2000 แต่เราไม่มี ทั้งบ้านเหลืออยู่แค่ 300 แถมติดหนี้พี่สาวแฟนที่ยืมมาจ่ายค่าคลอด ค่าอยู่ค่ากินด้วย อีก 3 วันตังค์ถึงจะออก ตังค์ออกของแฟนก็จ่ายงวดรถจ่ายค่าห้องก็หมด(เพราะช่วงนี้ไม่มีโอทีเลย) ตังค์เราก็ต้องซื้อของใช้ลูก ผ่อนบัตร ผ่อนค่าเครื่องซักผ้า (หนีมาคลอดที่นี่เลยต้องซื้อเพื่อซักผ้าลูก) ผ่อนหนี้พี่สาวแฟน คือเรารับผิดชอบค่าอยู่ค่ากิน 4 คน ก็แทบจะไม่พอแล้ว เดือนก่อนเราก็จ่ายค่าไฟค่าเน็ตให้แก ส่งภาพหลานให้แกดู หวังว่าแกจะได้เห็นหน้าหลาน ตอนแรกเราบอกแกว่าจะขอกลับไปเลี้ยงบ้าน แต่แกก็บอกว่ากูไม่ตายพวกไม่ต้องกลับมา ไม่ใช่ลูกใช่หลานกู ลูกกูมันไม่แจ้งจับกูหรอก คือเราแจ้งเพราะกลัวเขาทำร้ายแม่เราอีกกลัวเขาฆ่าแม่เราด้วยเพราะเค้าอาละวาดหนัก และจริงอยู่ที่ตำรวจไม่รับเรื่องคืนนั้น แต่ถ้าเราจะเอาเข้าคุกเลยจริงๆเราเอารอยบาดแผลของแม่ไปแจ้งความได้ แต่เราไม่ทำ เลือกที่จะหนีออกมาให้จบปัญหา สุดท้าย เราเลยบอกไปตามตรงว่าไม่ได้ส่งให้นะ ค่าใช้จ่ายเยอะ ติดหนี้พี่สาวแฟนด้วย เขาเลยว่ากุต้องการเงินกูไม่สบาย(แต่ตอนนั้นที่เราลากลับจะพาไปหาหมอก็ไม่ยอมไปและก่อนหน้านั้นได้ข่าวว่าเค้าก็ได้เงินมาน่าจะ30,000บาทได้ แต่น่าจะหมดเพราะการพนันอีกตามเคย) เค้าบอกเราว่าลงมาโอนบ้านให้กู กูจะขาย (บ้านที่ได้มาเป็นชื่อเรา เราต้องไปไถ่ใบบ้านกับอา รับใช้หนี้ให้เค้า จ้างทนายฟ้องผี เดินเรื่องให้ญาติเซ็นยินยอมให้(เพราะปู่ย่าเสียแล้ว บ้านเลยตกเป็นสิทธิ์ของลูกทุกคน) จ้างเค้าไปโอนให้ เสียค่าโอนดำเนินการเอง และมีลูกพี่ลูกน้องช่วยค่าทนายกับค่าโอนที่ครึ่งนึง เพราะต้องแบ่งที่ให้เค้าด้วย นอกนั้นเราจ่ายหมดเลย) #ต่อ ตัวเราก็โมโหเลยพูดไปว่าถ้าจะเอาบ้านคืนก็โอนค่าดำเนินการต่างๆคืนมาให้ แล้วจะไปโอนให้ เค้าเลยว่าจะฟ้องร้องเอา จะสาปจะแช่งเรา จะไม่ให้อภัยเรา ##**คำสาปแช่งของเค้าจะเป็นจริงมั้ยคะ เรากลัว เราเครียดมากตอนนี้ และไม่อยากจองเวรกัน เราไม่อยากเกิดไปพบเจอกันอีกด้วย เครียดหนักมากเลยค่ะ สงสารแม่ด้วย นอนไม่หลับเลย แถมห่วงลูกก็ยังเล็กอีก**##
โดนพ่อสาปแช่งจะเป็นจริงไหม?
จนวันที่พ้นโทษออกจากคุก แกดูเป็นคนดีขึ้น เราก็เรียนจบมีงานทำ แกอยากได้โทรศัพท์เสื้อผ้าเราก็ซื้อให้ ขอเงินบ้าง เราก็ให้บ้าง เราดีใจมากคิดว่าแกกลับตัวกลับใจได้
แต่แล้วตุลาคมปีก่อนพ่อตรวจพบว่าเป็นเนื้องอกในสมอง เราร้องไห้เสียใจหนักมาก ขึ้นเครื่องบินลางานฉุกเฉินไปเฝ้าที่โรงบาล ทราบว่าพ่อเอาทองไปจำนำเล่นการพนันเราก็ไปไถ่มาให้เพื่อให้พ่อสบายใจ ซื้อชุดใหม่ให้ อยากกินอะไรเราหาให้หมด จนพ่อออกจากโรงพยาบาล เรากลับมาทำงานต่อก็ตรวจเจอว่าท้อง เรากับแฟนก็เลยแต่งงานกันในเดือนธันวาคม(ก่อนหน้านั้นเราหมั้นกันได้ 2 ปี) และเงินเก็บส่วนนึงดาวน์รถยนต์มาไว้เวลาต้องไปฝากครรภ์ เราคิดว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องเงินเลย เพราะคิดว่าถ้าไม่พออะไรจะขอหยิบยืมจากแม่ก่อน (ค่าสินสอดแม่แบ่งกับพ่อ ) แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าพ่อเอาไปเล่นพนันหมด แถมเอาส่วนของแม่ไปเล่นด้วย แถวบ้านบอกเวลาพ่อขอเงินถ้าแม่ไม่ให้แกจะอาละวาด จนแม่ต้องยอมให้ (เราข่มใจไม่ต่อว่าแกเพราะเห็นว่าแกป่วย)จนมาถึงเดือนที่เราท้องแก่ใกล้คลอด เป็นครั้งที่ฟางเส้นสุดท้ายของเราขาดลง เรารีบลาคลอดมาเพียงเพราะจะได้พาพ่อไปหาหมอตามนัดด้วย แต่พอมาถึงบ้านกลับมาขอเงินเราให้ลูกน้อง 1,000 บาท แต่เราไม่ให้เพราะเราไม่โอเคที่ต้องมาเอาเงินให้ลูกน้องเขา แถมตอนนั้นมีแค่ 10,000ยังไม่พอค่าคลอดด้วยซ้ำ และตอนนั้นเงินอยู่กับแฟนด้วยเพราะก่อนหน้าที่เราจะกลับไม่กี่วันนั้นเราโอนเงินเราให้แม่ 8,500 แล้วและแม่ก็ให้พ่อด้วย โอนทั้งหมด 4 ครั้ง แต่แม่เราแทบไม่ได้ใช้เลย เช่นรอบแรกโอน 2,000 แม่ได้ใช้จ่ายค่านู่นนี่นั่น 400 ส่วน 1,600 พ่อเอาไปเล่นการพนันหมด และเงิน 10,000 นี้ต้องใช้จ่ายเติมน้ำมันพาพ่อไปหาหมอตามนัดในเมืองด้วย แล้วพ่อก็ไม่พอใจ อาละวาดปัดขวดแตกต่อหน้าสามีเรา เตะถาดข้าวกระจัดกระจายใส่เราทั้งที่เรายังนั่งกินข้าวอยู่ ว่าเราหักหน้าเขาต่อหน้าลูกน้องเขา ลูกน้องเขาดีเขาทำงานให้ แต่ก็งานผิดกฎหมาย มาบ้านกะว่าจะมาคลอดมาพักผ่อนหย่อนใจที่บ้านแท้ๆ แต่กลับบ้านคืนแรกพ่อก็อาละวาด จนสามีเราได้พาเรากับแม่ไปนอนบ้านเค้า เพราะเค้าขู่จะเอามีดปาดคอแม่เราด้วย พอเช้าวันต่อมาคิดว่าสงบลงจะดีขึ้น แต่ก็อาละวาดไล่เรากับแม่ให้ออกจากบ้าน ทั้งที่บ้านนั้นเป็นชื่อเรา เรียกลูกน้องมากินข้าวคุยกันเสียงดัง เรากับแม่ก็พยายามเงียบ ไม่โต้ตอบ จนถึงวันที่สามีเรากลับรถตู้เพื่อที่จะกลับไปทำงาน แต่จอดรถไว้ที่จอดรถที่เค้าทำไว้ (ทำแต่เงินเราส่งมาเอาไปเล่นพนันหมด สินสอดเราเอาไปเล่นพนัน ไถ่ทอง 3 รอบให้ก็เอาไปเล่นพนัน #แล้วบอกว่าทำเพื่อเรา เราทำให้เค้าแค่นี้ไม่ได้ ทั้งที่เค้าไม่ได้ส่งเราเรียนมีแค่แม่ที่ส่งเสียคนเดียว ทั้งที่แม่เงินเดือนแค่ 6,900 ในตอนนั้น เราก็สู้กับแม่มา 2 คน ตอนเขาติดคุกเราก็ไปเยี่ยมเเบ่งเงินให้รอบละ 500 เพราะตอนนั้นเรายังเรียน แม่ให้ 1,500-2000 ต่อเดือน + กับ กยศ แม่ต้องซื้อข้าวกิน จ่ายค่างวดรถ2000 ค่าน้ำค่าไฟ เวลามีงานมีค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้ขอแม่เพิ่มเลย เขาซื้อตู้เย็นอะไรมา ก็มาเอาเงินกับเราทีหลัง ให้เงินแม่ก็ขูดรีดไถเงินคืนทุกบาททุกสตางค์ )
ต่อ... หลังจากสามีเรากลับไปสามีเราเอากุญแจหลักกลับไปด้วย เขาเห็นเลยน่าจะโมโหอีก เพราะน่าจะไปอวดว่าลูกออกรถมาใหม่ จะเอาไปขนไม้พยุง แต่เรากลับให้สามีเอากุญแจกลับไปด้วย ขณะที่พ่อกินข้าวก็บอกให้เราเอารถออก จะพังที่จอดรถเอาไม้เอาหลังคาไปขายเพื่อเอาเงินมาให้ลูกน้อง ว่าลูกน้องดีทำงานให้เขา แต่เวลาทุกข์เห็นแต่เรียกหาลูกเมีย เราก็โต้ว่าจะเอาออกได้ยังไงไม่มีกุญแจ (แต่ความจริงมีสำรองอยู่ที่เรา) เเต่เพราะกลัวเขาเอาไปทำเรื่องผิดกฎหมายจึงทำให้เขาคิดว่าไม่มีกุญแจรถและกันไว้กลัวว่าเขาจะไล่เรากับแม่หนีอีกจะหนีไม่ได้ และก็เป็นจริงด้วย เตะถาดข้าวถ้วยชามแตกกระจัดกระจายเป็นรอบที่ 2 ทำร้ายร่างกายแม่เรา เราจึงตัดสินใจแจ้งตำรวจ แต่ตำรวจไม่รับบอกให้เรากับแม่ไปแจ้งที่โรงพักทั้งที่ดึกมากแล้ว แม่ขับรถไม่เป็น เราท้องแก่ขับรถไม่ค่อยแข็งด้วย แต่เราจะให้เขารู้ไม่ได้ว่าตำรวจไม่รับเราเลยทำทีว่าตำรวจกำลังมา เพราะเขาจะเข้ามาทำร้ายแม่เราอีก แต่เราเอาตัวเราขวาง ลูกน้องเขาเลยมารับหนีไป เราเลยเก็บของทุกอย่างที่เป็นของเราของแม่ขึ้นรถ เสี่ยงดวงขับหนีออกมา เบรคทีเกือบหัวทิ่ม อีกอย่างท้องเราก็โตมากแล้วเลือนเบาะไปข้างหน้าก็ติดท้อง เลื่อนเบาะออกก็ไม่ถนัด เท้าเกือบไม่ถึง ทุกลักทุเลขับออกมาทั้งที่ขับไม่แข็งเำราะเคยเรียนแต่ขับเก๋งไม่เคยขับกระบะ เราเลยบอกให้เเฟนตีรถกลับมารับ โดยเราไม่อาศัยนอนที่บ้านญาติ 2 คืนรอแฟน #สุดท้ายนี้เราอยากสอบถามว่าที่เราตัดสินใจพาแม่หนีออกจากเขามา ปล่อยให้เขาอยู่อย่างโดดเดี่ยวเราจะบาปหนักมากไหม เราไม่ได้อยากทำแบบนี้แต่เขาบีบเรากับแม่😭😭😭 แล้วหลังจากนั้น 1 เดือนกว่าๆ เค้าโทรมาขอเงินเรา 2000 แต่เราไม่มี ทั้งบ้านเหลืออยู่แค่ 300 แถมติดหนี้พี่สาวแฟนที่ยืมมาจ่ายค่าคลอด ค่าอยู่ค่ากินด้วย อีก 3 วันตังค์ถึงจะออก ตังค์ออกของแฟนก็จ่ายงวดรถจ่ายค่าห้องก็หมด(เพราะช่วงนี้ไม่มีโอทีเลย) ตังค์เราก็ต้องซื้อของใช้ลูก ผ่อนบัตร ผ่อนค่าเครื่องซักผ้า (หนีมาคลอดที่นี่เลยต้องซื้อเพื่อซักผ้าลูก) ผ่อนหนี้พี่สาวแฟน คือเรารับผิดชอบค่าอยู่ค่ากิน 4 คน ก็แทบจะไม่พอแล้ว เดือนก่อนเราก็จ่ายค่าไฟค่าเน็ตให้แก ส่งภาพหลานให้แกดู หวังว่าแกจะได้เห็นหน้าหลาน ตอนแรกเราบอกแกว่าจะขอกลับไปเลี้ยงบ้าน แต่แกก็บอกว่ากูไม่ตายพวกไม่ต้องกลับมา ไม่ใช่ลูกใช่หลานกู ลูกกูมันไม่แจ้งจับกูหรอก คือเราแจ้งเพราะกลัวเขาทำร้ายแม่เราอีกกลัวเขาฆ่าแม่เราด้วยเพราะเค้าอาละวาดหนัก และจริงอยู่ที่ตำรวจไม่รับเรื่องคืนนั้น แต่ถ้าเราจะเอาเข้าคุกเลยจริงๆเราเอารอยบาดแผลของแม่ไปแจ้งความได้ แต่เราไม่ทำ เลือกที่จะหนีออกมาให้จบปัญหา สุดท้าย เราเลยบอกไปตามตรงว่าไม่ได้ส่งให้นะ ค่าใช้จ่ายเยอะ ติดหนี้พี่สาวแฟนด้วย เขาเลยว่ากุต้องการเงินกูไม่สบาย(แต่ตอนนั้นที่เราลากลับจะพาไปหาหมอก็ไม่ยอมไปและก่อนหน้านั้นได้ข่าวว่าเค้าก็ได้เงินมาน่าจะ30,000บาทได้ แต่น่าจะหมดเพราะการพนันอีกตามเคย) เค้าบอกเราว่าลงมาโอนบ้านให้กู กูจะขาย (บ้านที่ได้มาเป็นชื่อเรา เราต้องไปไถ่ใบบ้านกับอา รับใช้หนี้ให้เค้า จ้างทนายฟ้องผี เดินเรื่องให้ญาติเซ็นยินยอมให้(เพราะปู่ย่าเสียแล้ว บ้านเลยตกเป็นสิทธิ์ของลูกทุกคน) จ้างเค้าไปโอนให้ เสียค่าโอนดำเนินการเอง และมีลูกพี่ลูกน้องช่วยค่าทนายกับค่าโอนที่ครึ่งนึง เพราะต้องแบ่งที่ให้เค้าด้วย นอกนั้นเราจ่ายหมดเลย) #ต่อ ตัวเราก็โมโหเลยพูดไปว่าถ้าจะเอาบ้านคืนก็โอนค่าดำเนินการต่างๆคืนมาให้ แล้วจะไปโอนให้ เค้าเลยว่าจะฟ้องร้องเอา จะสาปจะแช่งเรา จะไม่ให้อภัยเรา ##**คำสาปแช่งของเค้าจะเป็นจริงมั้ยคะ เรากลัว เราเครียดมากตอนนี้ และไม่อยากจองเวรกัน เราไม่อยากเกิดไปพบเจอกันอีกด้วย เครียดหนักมากเลยค่ะ สงสารแม่ด้วย นอนไม่หลับเลย แถมห่วงลูกก็ยังเล็กอีก**##