การเดินเกมส์ของขั้วรัฐบาลเดิม/สว.แบบนี้ จะทำให้คนรุ่นใหม่หันกลับมาสนับสนุนแนวคิดพรรคอนุรักษ์นิยมได้เหรอครับ?

เอาจริงๆ พอมองตอนนี้ผมรู้สึกว่า มันกลายเป้นสงครามระหว่างคน2กลุ่ม และคน2Gen กลายๆ ไปแล้ว เด็กๆรุ่นใหม่ที่ตอนนี้อยู่อีกขั้ว เค้ารู้สึกเหมือนกับว่า เค้ากำลังถูกรังแก และ นักการเมืองอนุรักษ์นิยมใช้อำนาจกับเค้าในทางที่ไม่ถูกต้องอยู่  มันดูไม่สง่างามเลยครับ

วิธีการต่างๆที่ขั้วอนุรักษ์นิยมใช้ในการจัดการคนเห็นต่าง ตั้งแต่การใช้ สว. มาค้าน / การบีบพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง และฮั้วกับบางพรรคใน 8 พรรคร่วม เพื่อให้กลายเป็นรัฐบาลข้ามขั้ว การใช้อำนาจในการสกัดไม้ให้โหวตนายก รอบ 2 ในรูปแบบที่ไม่เคยเกิดมาก่อน และมีนักกฏหมายคัดค้านมากมาย
การใช้วาทะในการพูดจาในเชิงลบกับประชาชนผู้สนับสนุนอีกขั้ว ที่ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่กับเยาวชน แทนที่จะทำความเข้าใจให้เด็กๆ เข้าใจ หรือเห็นภาพแนวคิดของทางฝ่ายอนุรักษ์นิยม  

ตอนนี้เหมือนขั้วอนุรักษ์นิยมดูจะเหนือกว่าก็จริงครับ เพราะมีอำนาจ การเมืองการปกครองหนุนหลังอยู่ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าอีกไม่กี่ปี คนเหล่านี้จะกลายเป้นกำลังสำคัญของประเทศ และจะกลายเป้นผู้แบกภาระในการเสียภาษีแทนคนรุ่นเก่าที่จะโรยราลงไป จะขึ้นมาทดแทนคนรุ่นเก่าทั้งในทางการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ

ซึ่งตอนนี้คนรุ่นใหม่ที่อยู่ขั้วเสรีนิยมเค้า รู้สึกเหมือนถูกบังคับให้จำยอม รักและเชื่อในส่งที่เค้าไม่ได้เต็มใจรักและเชื่อในแนวทางอนุรักษ์นิยม แต่ถามว่าเป้นความผิดของเขาหรือไม่ ผมกลับมองว่าไม่ใช่ความผิดของเค้าเลยครับ  เพราะจริงๆเด็กเหล่านี้ก็เป็นเหมือนลูกหลานเราทั้งนั้น การที่เราไม่สามารถทำให้เค้ามองและนับถือสิ่งที่ควรนับถือได้เหมือนเราผมว่าไม่น่าจะไปโทษเด็กๆนะครับ เพราะจริงๆแล้ว คนที่จะต้องดูแล เด็กๆเหล่านี้ก็คือพวกเรานี่แหละ ถ้าบกพร่อง ก็คือความรับผิดชอบของคนGenก่อนหน้า 

สมัยผมสิ่งที่ทำให้ผมรักและผูกพันกับสถาบัน เริ่มตั้งแต่แบบเรียนที่ได้เรียน พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ที่พร่ำสอน สื่อต่างๆ เช่นข่าวในพระราชสำนัก ที่แม้ตอนเด็กๆอาจจะเบื่อ ไม่อยากดูเพราะความเป็นเด็ก แต่ก็ต้องดู เพราะต้องรอดูละคร ช่วง 2 ทุ่มครึ่ง และเปลี่ยนช่องไปไหนไม่ได้ เพราะมีข่าวเหมือนกันทุกช่อง แต่ด้วยเหตุผลนี้ ก็ทำให้ผมเห้นพระราชกรณียกิจอยู่ทุกวัน ทำให้เรา รัก และศรัทธาในสถาบัน ซึมซับเข้าไปในจิตใจ โดยไม่ได้ถูกใครบังคับ 

แต่สมัยนี้ผมไม่แน่ใจว่ารูปแบบการสอนให้เยาวชน คนรุ่นใหม่ รักและศรัทธาในสถาบันเป็นอย่างไร แต่ก็เข้าใจว่า คงน้อยกว่าสมัยผม อย่างข่าวในพระราชสำนัก เด็กสมัยนี้ไม่ต้องรอดูแล้ว เพราะเค้าไม่ได้ดู TV ทั่วไป ดูผ่านอินเตอร์เน็ทก็ Skip และเลือกดู Content ได้ แต่าต่างๆ เหล่านี้ ผมคิดว่าผู้บริหารบ้านเมืองฝั่งอนุรักษ์นิยม เคยคิดหรือไม่ ว่าหากเกิดการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ของโลก และวันเวลาที่เปลี่ยนไปเราควรจะสอนและดูแลเด็กๆอย่างไร ให้เค้ารักและนับถือสถาบันจากใจเหมือน คน Gen เก่าๆ

แล้วเราก็ไปตำหนิเด็กรุ่นใหม่ ว่าเค้าไม่จงรักภักดี และใช้วิธีการต่างๆ โดยไม่สนใจความถูกต้องทั้งในแง่ของระบบและจริยธรรมในการสกัดเค้า ซึ่งผมมองว่าการเลือกทำแบบนี้เป็นผลเสียในระยะยาวครับ เพราะ ไม่มีใครหรอกครับที่ชอบการโดนบังคับ 

ผมมองจริงๆครับ ว่านี่จะเป้นเรื่องใหญ่มากและจะนำพาไปสู่ความรุนแรง สร้างความเสียหายกับทั้งเศรษฐกิจ และสังคม อยากให้นักการเมืองและผู้บริหารบ้านเมืองที่มีอำนาจอยู่ตอนนี้ มองเห็นปัญหานี้ครับการตอบโต้และสกัดคนรุ่นใหม่ด้วยวิธีการ รุนแรง หรือไม่เป็นธรรม มีแต่จะสร้างความโกรธแค้น และเกลียดชัง ปัจจัยเหล่านี้ผมรับรองครับว่าจะยิ่งเป็นตัวเร่งให้เกิดความเปลี่ยนแปลงตอนนี้คนเหล่านี้อาจจะยังทำตามแนวคิดของเค้าไม่สำเร็จ แต่ถ้ายังตอบโต้เค้าด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้องต่อไป เค้าจะสอนลูกสอนหลาน เล่าให้ลูกหลานฟัง ว่าผู้บริหารนักการเมือง Gen ก่อนหน้ารังแกเค้าอย่างไร สะสมๆ มากๆเข้า ถึงตอนนั้น ฝ่ายอนุรักษ์นิยม แพ้ย่อยยับแน่นอนครับ และจะทำให้เกิดช่องว่างระหว่าง Gen ที่ใหญ่มากๆ แน่นอน

ภาวนาให้เห็นและแก้ปัญหานี้จริงๆจังๆนะครับ แต่ถ้าเป้นแบบนี้ ดูแล้วความหวังที่จะไม่เกิดความขัดแย้งรุนแรง ริบหรี่มากๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่