อาจารย์นิติฯ ราชภัฏสุราษฎร์ฯ โพสต์ ไทยประเทศเดียวในโลกที่ข้อบังคับสูงกว่ารัฐธรรมนูญ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4093057
อาจารย์นิติศาสตร์ ม.ราชภัฏสุราษฎร์ฯ โพสต์ ไทยประเทศเดียวในโลกที่ข้อบังคับสูงกว่ารัฐธรรมนูญ
รศ.ดร.
อัคคกร ไชยพงษ์ ประธานบริหารหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการพัฒนากระบวนการยุติธรรม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ได้โพสต์เฟซบุ้ก ระบุดังนี้
ขอเรียนถามครับ
ข้อ 1.ท่านรู้หรือไม่ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่ข้อบังคับมีลำดับศักดิ์สูงกว่ารัฐธรรมนูญ
ข้อ 2. เพราะเหตุใดคณาจารย์ในคณะนิติศาสตร์และคณะรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของไทยเราจึงไม่บอกกับนักศึกษาว่าลำดับศักดิ์ของรัฐธรรมนูญต่ำกว่าข้อบังคับ
ข้อ 3. ท่านรู้หรือไม่ว่าสมาชิกวุฒิสภาเป็นองค์กรสูงสุดของประเทศเหนือกว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งได้รับเลือกมาจากประชาชนให้เข้าไปทำหน้าที่แทนในการตรากฎหมาย ซึ่งถือว่าเป็นอำนาจนิติบัญญัติและเป็นผู้คุมเสียงข้างมากในรัฐสภา
ซึ่งกระผมเป็นอาจารย์สอนกฎหมายในมหาวิทยาลัย 30 กว่าปีแล้วประเด็นคำถามทั้ง 3 ข้อกระผมยังค้นหาในตำราไม่เจอไม่ว่าตำราไทยหรือตำราฝรั่ง จึงขอเรียนถามท่านผู้รู้ ช่วยไขกุญแจความรู้เปิดบานประตูให้กระผมด้วย
#ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
ถัดมา รศ.ดร.
อัคคกร ได้โพสต์อีก ระบุว่า
ขอตั้งรังเกียจต่อสมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางคนที่ไม่ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขตีความบิดเบือนหลักการแห่งกฎหมายทรยศต่อประชาชนก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในบ้านเมืองเกิดการหักดิบกฎหมายทำให้เกิดความล้มเหลวในการปกครองระบอบประชาธิปไตย และไม่เสริมสร้างหลักการแห่งกฎหมายให้เป็นไปตามหลักนิติธรรมสร้างเงื่อนไข
ในนามอาจารย์ที่สอนกฎหมายในคณะะนิติศาสตร์ ขอเรียกร้องให้คณาจารย์คณะนิติศาสตร์และคณะรัฐศาสตร์ทั่วประเทศ ลงชื่อแสดงเจตจำนงให้ผู้ที่บิดเบือนหลักการแห่งรัฐธรรมนูญได้ตระหนักถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นและให้สงสารประเทศไทย ตลอดจนสงสารอนุชนคนรุ่นหลังกัน ไม่อยากให้สร้างอนุสาวรีย์เพื่อรำลึกถึงการบิดเบือนกฎหมายกันเลยนะครับ
#ด้วยจิตคารวะ
รศ.ดร.อัคคกร ไชยพงษ์
ประธานกรรมการหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการพัฒนากระบวนการยุติธรรม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
บก.ลายจุด เล็ง ‘แปรอักษร’ เบิ้มแยกอโศก ฟ้องโลก ลั่น ไฟพร้อม เวทีพร้อม เครื่องเสียงอลัง!
https://www.matichon.co.th/politics/news_4093098
บก.ลายจุด เล็ง ‘แปรอักษร’ เบิ้มแยกอโศก ฟ้องโลก ลั่น ไฟพร้อม เวทีพร้อม เครื่องเสียงอลัง!
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย
สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ซึ่งนัดหมายจัดชุมนุม ‘พร้อม’ ที่แยกอโศกในวันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคมนี้ เปิดเผยว่าในเวลา 13.00 น. ของวันนี้ จะเดินทางไปแจ้งการชุมนุมในที่สาธารณะ ที่ สน.ทองหล่อ
นาย
สมบัติ ระบุด้วยว่า ล่าสุดได้จัดเตรียม เครื่องเสียง 10,000 Watt พร้อมเวที ไฟแสงสว่าง เครื่องปั่นไฟ ป้ายเขียนมือ ป้ายเปล่ารอให้ประชาชนมาเขียนข้อความ ปากกาเขียนป้าย สีช๊อคเขียนพื้น ทีมงานเก็บขยะ ไม้คีบขยะ ถุงดำ ซึ่งเป็นกิจกรรมปิดท้าย
นาย
สมบัติ ยังระบุถึงรูปแบบกิจกรรม ซึ่งวางแผนแปรอักษร
“
พื้นที่ถนนบริเวณอโศกกว้างมาก น่าจะ 50-70 เมตร เหมาะสำหรับการออกแบบกิจกรรมหลายอย่าง
อีกทั้งยังมี Skywalk ที่มองลงมาด้านล่างได้ชัดเจน สามารถถ่ายรูปบรรยากาศ หากมีการใช้คนแปรอักษร หรือ ใช้วัสดุต่างๆ เพื่อทำเป็นตัวหนังสือแล้วมองจากที่สูงลงมา จริงๆ อยากให้เป็นคนมากกว่า
ผมอยากให้มีข้อความจากผู้รักประชาธิปไตยเพื่อส่งสัญญาณไปยังทั่วโลกว่าขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้าอะไรทางการเมือง
ผมจะเอาขวดน้ำดื่มที่ใช้แล้วจำนวนหนึ่ง ลองมาประกอบเป็นตัวหนังสือ ใครมีโดรนลองติดมาหน่อย หรือจะถ่ายจาก Skywalk ก็ได้
ส่วนข้อความสามารถเสนอมาได้เลย แต่ต้องไม่ยาวแล้วทำยากจนเกินไป
เพื่อนๆคนไหนที่มาอยุ่ในเหตุการณ์ สามารถช่วยกันทำให้มันเป็นตัวหนังสือขึ้นมา” นาย
สมบัติ ระบุ
นายสมบัติ ยังเชิญชวนให้ประชาชน ถ่ายรูปรองเท้าผ้าใบ และพิมพ์คำว่า #พร้อม ใน Social Media
“
มีคนถามผมว่า ม๊อบ #พร้อม มีข้อเรียกร้องอะไร ?
มันไม่ใช่ม๊อบที่เรียกร้อง แต่มันเป็นการนำตัวเองออกมาประกาศว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ไม่ใช่ ส.ว. หรือบรรดาลูกติด คสช. ที่กระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อกระบวนการประชาธิไตย
นาทีที่คุณโดนเขาตบหน้า วินาทีที่คุณตอบโต้กลับไม่ใช่การเรียกร้อง
แต่คือการให้….แล้วเอาคืน” นาย
สมบัติ ระบุ
ส.ภัตตาคารหวั่นพลิกขั้วตั้งรบ. ชุมนุมยืดเยื้อ ทำเจ๊งยันหาบเร่ พิษศก.ทรุดคนไม่กล้าควักจ่าย
https://www.matichon.co.th/economy/news_4092859
ส.ภัตตาคารหวั่นพลิกขั้วตั้ง รบ. ชุมนุมยืดเยื้อ ทำเจ๊งยันหาบเร่ พิษ ศก.ทรุดคนไม่กล้าควักจ่าย เอกชนจี้ 2 พรรค ถอยคนละก้าว
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม จากกรณีความไม่ชัดเจนในสถานการณ์การเมือง ทั้งการโหวตลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีและการจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลให้ผู้ประกอบการสาขาต่างๆ แสดงความวิตกกังวล ไม่สามารถวางแผนธุรกิจได้ โดยเฉพาะหวั่นเกรงการชุมนุมจะขยายตัวบานปลายนั้น
นาง
ฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า ภาคธุรกิจมีความกังวลต่อสถานการณ์การเมือง โดยเฉพาะการชุมนุมทางการเมืองหากมีการพลิกขั้วจัดตั้งรัฐบาล หรือข้อตกลงลับทั้งหมดเกิดเป็นขึ้นจริง ก็จะมีคนลงถนนมีผู้ออกมาชุมนุม หากยืดเยื้อจะมีผลกระทบต่อธุรกิจแน่นอน โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย หาบเร่ แผงลอย
“
ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดใหญ่ อาจยังพอรับมือกันได้ถ้าสถานการณ์ไม่ยืดเยื้อ แต่ผู้ประกอบการรายเล็กๆ รายย่อย ต้องเดือดร้อนแน่ๆ หากต้องปิดร้าน เนื่องจากมีการชุมนุม ขณะนี้ความไม่เชื่อมั่นทางการเมืองยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้คนไม่กล้าใช้เงิน ระมัดระวังการใช้จ่ายกันมากขึ้น มีผลกระทบต่อทุกคนในประเทศส่วนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในรอบถัดไป ในมุมมองของคนทำธุรกิจก็อยากเห็นบ้านเมืองสงบ อยากเห็นการเมืองไปสู้กันในสภาตามระบอบประชาธิปไตย อย่าให้ประชาชนต้องมาลงถนน” นาง
ฐนิวรรณกล่าว
ขณะที่ นาย
สวัสดิ์ มังกรวัฒน์ นายกสมาคมโรงแรม จ.นครราชสีมา กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้าและไม่มีความชัดเจนทำให้การลงทุนชะงัก เช่นเดียวกันกับธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมต่างๆ ขณะนี้ซบเซามาก ผู้ประกอบการเลือกเก็บเงินไม่กล้าลงทุนใดๆ ทั้งสิ้น แม้แต่การจ้างงานเพิ่ม เพราะไม่สามารถคาดการณ์อนาคตได้
“
จะมีรัฐบาลเมื่อใดก็ไม่รู้ นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวต่างๆ ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปในทิศทางใด ยิ่งการจัดตั้งรัฐบาลยืดเยื้อนานไปเรื่อยๆ เศรษฐกิจทุกอย่างหยุดชะงักไปหมด ในฐานะเป็นผู้ประกอบการและนายกสมาคมโรงแรม จ.นครราชสีมา ขอวอนให้พรรคการเมืองต่างๆ พูดคุยกันให้ลงตัว และเร่งจัดตั้งรัฐบาลให้ได้โดยเร็ว ถ้าจัดตั้งรัฐบาลโดยการนำของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ไม่ได้ก็ควรถอยคนละก้าว เพื่อให้ประเทศไทยมีรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศได้ และขอวอนถึงผู้สนับสนุนพรรค ก.ก.ว่า ถ้าไม่ได้ดั่งใจก็อย่าพากันลงถนน เพราะจะเป็นข้ออ้างให้ทหารออกมาทำการปฏิวัติอีก ก็จะวนลูปไปที่เดิมอีก” นาย
สวัสดิ์กล่าว
JJNY : ไทยประเทศเดียวที่ข้อบังคับสูงกว่ารัฐธรรมนูญ│บก.ลายจุดเล็ง‘แปรอักษร’│ส.ภัตตาคารหวั่นพลิกขั้วตั้งรบ.│ปลอดประสพเตือน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4093057
อาจารย์นิติศาสตร์ ม.ราชภัฏสุราษฎร์ฯ โพสต์ ไทยประเทศเดียวในโลกที่ข้อบังคับสูงกว่ารัฐธรรมนูญ
รศ.ดร.อัคคกร ไชยพงษ์ ประธานบริหารหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการพัฒนากระบวนการยุติธรรม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ได้โพสต์เฟซบุ้ก ระบุดังนี้
ขอเรียนถามครับ
ข้อ 1.ท่านรู้หรือไม่ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่ข้อบังคับมีลำดับศักดิ์สูงกว่ารัฐธรรมนูญ
ข้อ 2. เพราะเหตุใดคณาจารย์ในคณะนิติศาสตร์และคณะรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของไทยเราจึงไม่บอกกับนักศึกษาว่าลำดับศักดิ์ของรัฐธรรมนูญต่ำกว่าข้อบังคับ
ข้อ 3. ท่านรู้หรือไม่ว่าสมาชิกวุฒิสภาเป็นองค์กรสูงสุดของประเทศเหนือกว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งได้รับเลือกมาจากประชาชนให้เข้าไปทำหน้าที่แทนในการตรากฎหมาย ซึ่งถือว่าเป็นอำนาจนิติบัญญัติและเป็นผู้คุมเสียงข้างมากในรัฐสภา
ซึ่งกระผมเป็นอาจารย์สอนกฎหมายในมหาวิทยาลัย 30 กว่าปีแล้วประเด็นคำถามทั้ง 3 ข้อกระผมยังค้นหาในตำราไม่เจอไม่ว่าตำราไทยหรือตำราฝรั่ง จึงขอเรียนถามท่านผู้รู้ ช่วยไขกุญแจความรู้เปิดบานประตูให้กระผมด้วย
#ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
ถัดมา รศ.ดร.อัคคกร ได้โพสต์อีก ระบุว่า
ขอตั้งรังเกียจต่อสมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางคนที่ไม่ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขตีความบิดเบือนหลักการแห่งกฎหมายทรยศต่อประชาชนก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในบ้านเมืองเกิดการหักดิบกฎหมายทำให้เกิดความล้มเหลวในการปกครองระบอบประชาธิปไตย และไม่เสริมสร้างหลักการแห่งกฎหมายให้เป็นไปตามหลักนิติธรรมสร้างเงื่อนไข
ในนามอาจารย์ที่สอนกฎหมายในคณะะนิติศาสตร์ ขอเรียกร้องให้คณาจารย์คณะนิติศาสตร์และคณะรัฐศาสตร์ทั่วประเทศ ลงชื่อแสดงเจตจำนงให้ผู้ที่บิดเบือนหลักการแห่งรัฐธรรมนูญได้ตระหนักถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นและให้สงสารประเทศไทย ตลอดจนสงสารอนุชนคนรุ่นหลังกัน ไม่อยากให้สร้างอนุสาวรีย์เพื่อรำลึกถึงการบิดเบือนกฎหมายกันเลยนะครับ
#ด้วยจิตคารวะ
รศ.ดร.อัคคกร ไชยพงษ์
ประธานกรรมการหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการพัฒนากระบวนการยุติธรรม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
บก.ลายจุด เล็ง ‘แปรอักษร’ เบิ้มแยกอโศก ฟ้องโลก ลั่น ไฟพร้อม เวทีพร้อม เครื่องเสียงอลัง!
https://www.matichon.co.th/politics/news_4093098
บก.ลายจุด เล็ง ‘แปรอักษร’ เบิ้มแยกอโศก ฟ้องโลก ลั่น ไฟพร้อม เวทีพร้อม เครื่องเสียงอลัง!
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ซึ่งนัดหมายจัดชุมนุม ‘พร้อม’ ที่แยกอโศกในวันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคมนี้ เปิดเผยว่าในเวลา 13.00 น. ของวันนี้ จะเดินทางไปแจ้งการชุมนุมในที่สาธารณะ ที่ สน.ทองหล่อ
นายสมบัติ ระบุด้วยว่า ล่าสุดได้จัดเตรียม เครื่องเสียง 10,000 Watt พร้อมเวที ไฟแสงสว่าง เครื่องปั่นไฟ ป้ายเขียนมือ ป้ายเปล่ารอให้ประชาชนมาเขียนข้อความ ปากกาเขียนป้าย สีช๊อคเขียนพื้น ทีมงานเก็บขยะ ไม้คีบขยะ ถุงดำ ซึ่งเป็นกิจกรรมปิดท้าย
นายสมบัติ ยังระบุถึงรูปแบบกิจกรรม ซึ่งวางแผนแปรอักษร
“พื้นที่ถนนบริเวณอโศกกว้างมาก น่าจะ 50-70 เมตร เหมาะสำหรับการออกแบบกิจกรรมหลายอย่าง
อีกทั้งยังมี Skywalk ที่มองลงมาด้านล่างได้ชัดเจน สามารถถ่ายรูปบรรยากาศ หากมีการใช้คนแปรอักษร หรือ ใช้วัสดุต่างๆ เพื่อทำเป็นตัวหนังสือแล้วมองจากที่สูงลงมา จริงๆ อยากให้เป็นคนมากกว่า
ผมอยากให้มีข้อความจากผู้รักประชาธิปไตยเพื่อส่งสัญญาณไปยังทั่วโลกว่าขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้าอะไรทางการเมือง
ผมจะเอาขวดน้ำดื่มที่ใช้แล้วจำนวนหนึ่ง ลองมาประกอบเป็นตัวหนังสือ ใครมีโดรนลองติดมาหน่อย หรือจะถ่ายจาก Skywalk ก็ได้
ส่วนข้อความสามารถเสนอมาได้เลย แต่ต้องไม่ยาวแล้วทำยากจนเกินไป
เพื่อนๆคนไหนที่มาอยุ่ในเหตุการณ์ สามารถช่วยกันทำให้มันเป็นตัวหนังสือขึ้นมา” นายสมบัติ ระบุ
นายสมบัติ ยังเชิญชวนให้ประชาชน ถ่ายรูปรองเท้าผ้าใบ และพิมพ์คำว่า #พร้อม ใน Social Media
“มีคนถามผมว่า ม๊อบ #พร้อม มีข้อเรียกร้องอะไร ?
มันไม่ใช่ม๊อบที่เรียกร้อง แต่มันเป็นการนำตัวเองออกมาประกาศว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ไม่ใช่ ส.ว. หรือบรรดาลูกติด คสช. ที่กระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อกระบวนการประชาธิไตย
นาทีที่คุณโดนเขาตบหน้า วินาทีที่คุณตอบโต้กลับไม่ใช่การเรียกร้อง
แต่คือการให้….แล้วเอาคืน” นายสมบัติ ระบุ
ส.ภัตตาคารหวั่นพลิกขั้วตั้งรบ. ชุมนุมยืดเยื้อ ทำเจ๊งยันหาบเร่ พิษศก.ทรุดคนไม่กล้าควักจ่าย
https://www.matichon.co.th/economy/news_4092859
ส.ภัตตาคารหวั่นพลิกขั้วตั้ง รบ. ชุมนุมยืดเยื้อ ทำเจ๊งยันหาบเร่ พิษ ศก.ทรุดคนไม่กล้าควักจ่าย เอกชนจี้ 2 พรรค ถอยคนละก้าว
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม จากกรณีความไม่ชัดเจนในสถานการณ์การเมือง ทั้งการโหวตลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีและการจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลให้ผู้ประกอบการสาขาต่างๆ แสดงความวิตกกังวล ไม่สามารถวางแผนธุรกิจได้ โดยเฉพาะหวั่นเกรงการชุมนุมจะขยายตัวบานปลายนั้น
นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า ภาคธุรกิจมีความกังวลต่อสถานการณ์การเมือง โดยเฉพาะการชุมนุมทางการเมืองหากมีการพลิกขั้วจัดตั้งรัฐบาล หรือข้อตกลงลับทั้งหมดเกิดเป็นขึ้นจริง ก็จะมีคนลงถนนมีผู้ออกมาชุมนุม หากยืดเยื้อจะมีผลกระทบต่อธุรกิจแน่นอน โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย หาบเร่ แผงลอย
“ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดใหญ่ อาจยังพอรับมือกันได้ถ้าสถานการณ์ไม่ยืดเยื้อ แต่ผู้ประกอบการรายเล็กๆ รายย่อย ต้องเดือดร้อนแน่ๆ หากต้องปิดร้าน เนื่องจากมีการชุมนุม ขณะนี้ความไม่เชื่อมั่นทางการเมืองยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้คนไม่กล้าใช้เงิน ระมัดระวังการใช้จ่ายกันมากขึ้น มีผลกระทบต่อทุกคนในประเทศส่วนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในรอบถัดไป ในมุมมองของคนทำธุรกิจก็อยากเห็นบ้านเมืองสงบ อยากเห็นการเมืองไปสู้กันในสภาตามระบอบประชาธิปไตย อย่าให้ประชาชนต้องมาลงถนน” นางฐนิวรรณกล่าว
ขณะที่ นายสวัสดิ์ มังกรวัฒน์ นายกสมาคมโรงแรม จ.นครราชสีมา กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้าและไม่มีความชัดเจนทำให้การลงทุนชะงัก เช่นเดียวกันกับธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมต่างๆ ขณะนี้ซบเซามาก ผู้ประกอบการเลือกเก็บเงินไม่กล้าลงทุนใดๆ ทั้งสิ้น แม้แต่การจ้างงานเพิ่ม เพราะไม่สามารถคาดการณ์อนาคตได้
“จะมีรัฐบาลเมื่อใดก็ไม่รู้ นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวต่างๆ ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปในทิศทางใด ยิ่งการจัดตั้งรัฐบาลยืดเยื้อนานไปเรื่อยๆ เศรษฐกิจทุกอย่างหยุดชะงักไปหมด ในฐานะเป็นผู้ประกอบการและนายกสมาคมโรงแรม จ.นครราชสีมา ขอวอนให้พรรคการเมืองต่างๆ พูดคุยกันให้ลงตัว และเร่งจัดตั้งรัฐบาลให้ได้โดยเร็ว ถ้าจัดตั้งรัฐบาลโดยการนำของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ไม่ได้ก็ควรถอยคนละก้าว เพื่อให้ประเทศไทยมีรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศได้ และขอวอนถึงผู้สนับสนุนพรรค ก.ก.ว่า ถ้าไม่ได้ดั่งใจก็อย่าพากันลงถนน เพราะจะเป็นข้ออ้างให้ทหารออกมาทำการปฏิวัติอีก ก็จะวนลูปไปที่เดิมอีก” นายสวัสดิ์กล่าว