อย่างของผมนี่เคยเจอแก๊งผู้หญิงมาบูลลี่หน้าตาแบบอยู่ดี ๆ ก็บอกว่าดาราคนนี้หล่อมากเลย แต่ผู้ชายในแผนกหน้าตาตรงกันข้าม (ทั้งแผนกผม ผช คนเดียว)
ผมแบบอีหยังวะ แต่แรก ๆ ผมยังไม่พูดอะไรนะครับ เพราะเราก็ไม่อยากมีปัญหากับคนในแผนก
ต้องบอกก่อนว่าผมไม่เคยทำอะไรให้นะครับ คือชอบคุยกับคนในแผนกออกแนวอัธยาศัยดี คนเลยชอบมองว่าเล่นอะไรก็ได้ผมไม่โกรธ จะพูดอะไรก็ได้ผมไม่เป็นไร
จนวันหนึ่งทะเลาะกับแฟนพอดีมันก็พูดแซะ ๆ ผมอีก ผมเลยสวนไปว่า พวกพี่มีปัญหาอะไรกับผมครับ ผมว่าพวกพี่เอาเวลาด่าผมไปลดน้ำหนักเถอะ แล้วผมก็พูดอะไรอีกนี่แหละตอนนั้นหัวร้อนจัดจำอะไรไม่ค่อยได้ แล้วพวกมันก็บอกประมาณว่าพวกมันพูดเล่นเองจะจริงจังทำไม เห็นเป็นน้องในแผนกเลยอยากเล่นด้วย บลา ๆ พอเถียงกันเสร็จผมเดินไปหาหัวหน้าแล้วทำเรื่องแจ้งลาออก อยู่กับพวกมันไปอีก 30 วัน แต่ก็ไม่ได้โดนบูลลี่ละนะครับหลังจากวันนั้น
ส่วนตัวไม่ชอบบูลลี่หน้าตาใครเท่าไหร่ครับ ขนาดเวลาเพื่อนอ้วนขึ้นผมยังทักว่า ดูดีขึ้นนะเนี่ย อะไรแบบนี้แทน ทำงานที่นั้นไปประมา 8 เดือน จนวันสุดท้ายรู้สึกโล่งมากถ้าไม่นับว่าลืมของที่ออฟฟิศแล้วต้องกลับไปเจอพวกมันอีก มีทำมาพูดดีด้วยนะว่าเป็นไงบ้าง แต่ผมไม่ได้ตอบไปคือใส่หูฟังทำเป็นไม่ได้ยิน
สังคมการทำงานแบบไหนที่เจอแล้วทำให้จำไปตลอดชีวิต
ผมแบบอีหยังวะ แต่แรก ๆ ผมยังไม่พูดอะไรนะครับ เพราะเราก็ไม่อยากมีปัญหากับคนในแผนก
ต้องบอกก่อนว่าผมไม่เคยทำอะไรให้นะครับ คือชอบคุยกับคนในแผนกออกแนวอัธยาศัยดี คนเลยชอบมองว่าเล่นอะไรก็ได้ผมไม่โกรธ จะพูดอะไรก็ได้ผมไม่เป็นไร
จนวันหนึ่งทะเลาะกับแฟนพอดีมันก็พูดแซะ ๆ ผมอีก ผมเลยสวนไปว่า พวกพี่มีปัญหาอะไรกับผมครับ ผมว่าพวกพี่เอาเวลาด่าผมไปลดน้ำหนักเถอะ แล้วผมก็พูดอะไรอีกนี่แหละตอนนั้นหัวร้อนจัดจำอะไรไม่ค่อยได้ แล้วพวกมันก็บอกประมาณว่าพวกมันพูดเล่นเองจะจริงจังทำไม เห็นเป็นน้องในแผนกเลยอยากเล่นด้วย บลา ๆ พอเถียงกันเสร็จผมเดินไปหาหัวหน้าแล้วทำเรื่องแจ้งลาออก อยู่กับพวกมันไปอีก 30 วัน แต่ก็ไม่ได้โดนบูลลี่ละนะครับหลังจากวันนั้น
ส่วนตัวไม่ชอบบูลลี่หน้าตาใครเท่าไหร่ครับ ขนาดเวลาเพื่อนอ้วนขึ้นผมยังทักว่า ดูดีขึ้นนะเนี่ย อะไรแบบนี้แทน ทำงานที่นั้นไปประมา 8 เดือน จนวันสุดท้ายรู้สึกโล่งมากถ้าไม่นับว่าลืมของที่ออฟฟิศแล้วต้องกลับไปเจอพวกมันอีก มีทำมาพูดดีด้วยนะว่าเป็นไงบ้าง แต่ผมไม่ได้ตอบไปคือใส่หูฟังทำเป็นไม่ได้ยิน