สว. ยังมีหน้ามาอ้างว่าคุกคามธุรกิจอีกหรือครับ เพราะ ใน รธน. ระบุว่า สว. สส. เป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทย แต่ สว. กลับไม่ปฏิบัติตามครรลองทางระบอบประชาธิปไตย ตามเสียงข้างมากของ สส. ที่ได้รวบรวมมา โดยเฉพาะคำพูดขัดแย้งกันกับเมื่อ ปี 62 ที่อ้างว่า โหวตลุงตู่ เพราะรวมรวบเสียง สส. ได้มากที่สุด ทั้งๆที่ไม่ควรโหวตลุงตู่ เพราะลุงทำการรัฐประหาร ฉีก รธน. ใช้ ม44 โดยมิชอบ ทำให้ประเทศกลายเปนรัฐถาธิปัตย์ ซึ่งกระทบต่อความมั่นคงของประเทศอย่างจังและร้ายแรงกว่าที่พิธาจะแก้ ม112 อีกนะครับ
แต่ทำไม สว. จึงไม่มีใครเลยอ้างถึงข้อนี้ แถมยังโหวตโดยไม่แตกแถวกันอีก
ดังนั้น การที่ สว. ถูกประชาชน บลูลี่ จึงถือเปนเรื่องที่สมควรแล้ว และเปนไปตามบรรทัดฐานของสังคม เพราะในเมื่อเปนผู้แทนปวงชน แต่ไม่ปฏิบัติตามเจตนารมภ์ของประชาชน(จริงๆเพราะไม่ได้ผ่านการเลือกตั้งไง) แต่ได้รับเงินเดือนภาษีของประชาชน ดังนั้น ประชาชนจึงมีสิทธิ์และความชอบธรรมที่จะด่าอยุ่แล้วครับ เพราะประชาชนให้อำนาจคุณมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเปนสำคัญ แต่คุณกลับใช้อำนาจไปเอื้อให้กับคนบางกลุ่มที่ให้กล้วยคุณ ทั้งๆที่กินเงินเดือนของประชาชนอยู่
เหมือนคุณกินเงินเดือนบริษัท แต่ไม่ปฏิบัติตามสิ่งที่เจ้าของบริษัทต้องการ คุณก้อต้องถูกโดนตำหนิ ด่า
หรือสมมติคุณรับกล้วย แต่ไม่ปฏิบัติตามคนที่สั่ง คุณต้องถูกด่าอยุ่แล้ว เพราะรับกล้วยมาแล้วนี่
ดังนั้น สว. อย่าหน้าด้านไปฟ้องร้องกลับเลยครับ เพราะสิ่งที่คนอื่นกระทำกับเรา คือสิ่งที่สะท้อนตัวตนของเราดีที่สุด
เช่น คุณแต่งตัวดี คนอื่นๆก้อให้เกียรติคุณ เคารพคุณ หากคุณแต่งตัวซอมซ่อ เก่า ขาด คนอื่นเขาก็มองว่าคุณไม่น่าเคารพ เดินเข้าห้างยามเขาก็เพ่งเล็งหรือมาปรามคุณ เป็นต้น
ดังสำนวนที่ว่า อยากให้คนอื่นปฏิบัติยังไงกับเรา เราก็ปฏิบัติกับเขาแบบนั้น
ดังนั้น ยอมรับเถอะครับ เพราะสิ่งที่คุณทำมันไม่ถูกทางหลักการ เพราะประชาชนเขาไม่เห้นด้วยทั้งนั้น หาก สว. ยังพอมีสามัญสำนึกเหลืออยุ่ในตัวตนของคุณบ้าง กลับตัวเถอะครับ ก่อนที่คุณจะทำให้ภาพรวมของหลักการทางประชาธิปไตยในสภาและของชาติบิดเบือนมากไปกว่านี้
ทนายเดชา ฟ้องกลับ สว. การที่ประชาชนบลูลี่ธุรกิจของ สว. ไม่ผิด เพราะถือเปนการ แบน หรือ บอยคอต เปนวิธีที่ต่างประเทศทั่วโลกสากลก็ใช้กัน
บอยคอต
คำกริยา
คว่ำบาตร, ไม่เข้าร่วม, ต่อต้าน, ไม่ซื้อ, ไม่สนับสนุน.
สว. ถูกประชาชนแบนหนักมาก ไม่อนญาตให้ใช้บริการต่างๆ เพราะไม่ปฏิบัติตามหลักการและครรลองทางประชาธิปไตย
แต่ทำไม สว. จึงไม่มีใครเลยอ้างถึงข้อนี้ แถมยังโหวตโดยไม่แตกแถวกันอีก
ดังนั้น การที่ สว. ถูกประชาชน บลูลี่ จึงถือเปนเรื่องที่สมควรแล้ว และเปนไปตามบรรทัดฐานของสังคม เพราะในเมื่อเปนผู้แทนปวงชน แต่ไม่ปฏิบัติตามเจตนารมภ์ของประชาชน(จริงๆเพราะไม่ได้ผ่านการเลือกตั้งไง) แต่ได้รับเงินเดือนภาษีของประชาชน ดังนั้น ประชาชนจึงมีสิทธิ์และความชอบธรรมที่จะด่าอยุ่แล้วครับ เพราะประชาชนให้อำนาจคุณมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเปนสำคัญ แต่คุณกลับใช้อำนาจไปเอื้อให้กับคนบางกลุ่มที่ให้กล้วยคุณ ทั้งๆที่กินเงินเดือนของประชาชนอยู่
เหมือนคุณกินเงินเดือนบริษัท แต่ไม่ปฏิบัติตามสิ่งที่เจ้าของบริษัทต้องการ คุณก้อต้องถูกโดนตำหนิ ด่า
หรือสมมติคุณรับกล้วย แต่ไม่ปฏิบัติตามคนที่สั่ง คุณต้องถูกด่าอยุ่แล้ว เพราะรับกล้วยมาแล้วนี่
ดังนั้น สว. อย่าหน้าด้านไปฟ้องร้องกลับเลยครับ เพราะสิ่งที่คนอื่นกระทำกับเรา คือสิ่งที่สะท้อนตัวตนของเราดีที่สุด
เช่น คุณแต่งตัวดี คนอื่นๆก้อให้เกียรติคุณ เคารพคุณ หากคุณแต่งตัวซอมซ่อ เก่า ขาด คนอื่นเขาก็มองว่าคุณไม่น่าเคารพ เดินเข้าห้างยามเขาก็เพ่งเล็งหรือมาปรามคุณ เป็นต้น
ดังสำนวนที่ว่า อยากให้คนอื่นปฏิบัติยังไงกับเรา เราก็ปฏิบัติกับเขาแบบนั้น
ดังนั้น ยอมรับเถอะครับ เพราะสิ่งที่คุณทำมันไม่ถูกทางหลักการ เพราะประชาชนเขาไม่เห้นด้วยทั้งนั้น หาก สว. ยังพอมีสามัญสำนึกเหลืออยุ่ในตัวตนของคุณบ้าง กลับตัวเถอะครับ ก่อนที่คุณจะทำให้ภาพรวมของหลักการทางประชาธิปไตยในสภาและของชาติบิดเบือนมากไปกว่านี้
ทนายเดชา ฟ้องกลับ สว. การที่ประชาชนบลูลี่ธุรกิจของ สว. ไม่ผิด เพราะถือเปนการ แบน หรือ บอยคอต เปนวิธีที่ต่างประเทศทั่วโลกสากลก็ใช้กัน
บอยคอต
คำกริยา
คว่ำบาตร, ไม่เข้าร่วม, ต่อต้าน, ไม่ซื้อ, ไม่สนับสนุน.