เข้าเรื่องเลยนะคะ เราอายุ 25 ปี เข้าทำงานพร้อมกับคนอายุ 35 ปี ในตำแหน่งเดียวกันคือ HR ของโรงเรียนเอกชน เรามีประสบการณ์ HR 3 ปี และอีกคนมีประสบการณ์สวัสดิการครูเอกชน 10 ปี ทางผู้บริหารแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจน คือเราดูงาน HRM , HRD อีกคนดูเรื่องสวัสดิการ ช่วงแรกๆเราทั้งคู่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันบ่อย แต่ทุกครั้งที่เข้าประชุม อีกคนจะจำคำพูดของเรา ไปนำเสนอผู้บริหาร ซึ่งงานที่นำเสนอเป็นงานในหน้าที่ของเรา และเป็นแบบนี้มาตลอด 3 เดือนที่ทดลองงาน เคยทักท้วงในห้องประชุมแต่ผู้บริหารเชื่อว่าอีกคนทำและแนะนำให้เราเอาแบบอย่างอีกคน (เพราะเขาโตกว่า) ออกจากห้องประชุม เขาพูดจาดี เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ขโมยงานคนอื่นไปนำเสนอ (งานทุกคนต้องแชร์ไฟล์ เพราะผู้บริหารต้องการเข้าถึงข้อมูลงาน) เคยลองเปิดใจถามตรงๆ ผลที่ได้คือ เราโดนคนรอบข้างดุ เพราะทุกคนมองว่าเรากำลังหาเรื่องผู้ใหญ่ (และโยงเข้าการเมือง ว่าเด็กสมัยนี้บลาๆ) ทุกครั้งที่มีการนำงานเราไปนำเสนอโดยไม่ให้เครดิต งานนั้นเราจะไม่ทำต่อ และการตัดสินใจครั้งนี้ส่งผลเสียกับเรามาก
1.เขาเอาเราไปพูดกับเพื่อนร่วมงานต่างแผนก ว่าเขาเหนื่อย ทำงานคนเดียว (ทั้งที่งานแบ่งกันชัดเจนตั้งแต่ต้น ถ้าขโมยงานเราไป ต้องทำต่อเอง แม้จะเป็นงานในหน้าที่เรา แต่ถ้าทำแล้วเขาได้หน้าโดยที่เขาไม่ได้ทำเองหรือไม่ให้เครดิตเราไม่ทำ)
2.คำพูดของเขาและนิสัยขโมยงานไปนำเสนอทำให้ผู้บริหารมองว่าเราว่างงาน มอบหมายงานกราฟิกให้เราทำ
3.จากข้อสอง เราได้งานเพิ่มมากขึ้น เวลาเขาขอช่วยให้เราทำ Presentation ทำกราฟสรุปผลในส่วนของหน้าที่เขาไปนำเสนอผู้บริหาร เราไม่สามารถช่วยได้ทันที เพราะทั้งงาน HRM และกราฟิกที่เป็นงานรูทีนที่ได้รับมา งานล้นมือ งานแต่ละชิ้นต้องใช้เวลา เลือกธีม อ่านข้อมูลสรุปเพื่อออกแบบกราฟิกก็ค่อนข้างใช้เวลาและต้องส่งออกให้ทันเวลาเดดไลน์ เขาไม่พอใจที่เราไม่ช่วย เขาทำเสียงดังโครมคราม เดินกระทืบเท้า ทำเสียงดัง เครียด จนเพื่อนร่วมงานต่างแผนก และผู้บริหารมองว่าเขาทำงานหนักและเครียด แต่เราสบายใจ งานน้อย (เขาวัดจากจำนวนชิ้นงานที่เขาถูกใจ) แต่เขาไม่ได้มองถึงความยากง่ายของงานที่รับผิดชอบเลย กลายเป็นว่าคนที่สามารถจัดการกับความเครียดในงานได้ คือคนที่ไม่กระตือรือร้นในการทำงาน คนที่จัดการความด่วนของงานเสร็จทันเวลา กลายเป็นคนสบาย ได้รับงานเพิ่ม
3.การจ้างงานพนักงานและต่างด้าวยังผิดกฎหมายอยู่ เราพยายามชี้แจงให้ผู้บริหารรับทราบและแก้ไข แต่เหมือนเสียงจะดังไม่พอ อีกคนให้ข้อมูลแบบผิดๆไม่ถูกต้องแต่ถูกใจผู้บริหาร กลายเป็นเราดูแย่เลย
เขาชอบป่าวประกาศว่าทำงานอยู่คนเดียว เหนื่อย ขโมยงานในหน้าที่เราไปนำเสนอตัดหน้า เราควรลาออกให้เขาทำงานคนเดียวสมใจเขาดีไหมค่ะ เพราะผู้บริหารเข้ามาอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ไม่เคยรับรู้กระบวนการทำงานของเราด้วยซ้ำ ท้อมากค่ะ
หรือใครพอจะมีวิธีแก้เผ็ดคนประเภทนี้ก่อนลาออกไหมค่ะ ตอนนี้ที่คิดไว้คือ ลาออกให้ทำงานคนเดียว ได้หน้าคนเดียวให้สมใจเขาไปเลย อยู่ต่อก็เหนื่อยค่ะ เพราะตอนนี้เริ่มได้รับงานสารบรรณบางส่วนมาครอบครองแล้วค่ะ เพราะทำงานเสร็จก่อนเดดไลน์ เขามองว่าเราว่าง😢😢
ทุกคนคิดยังไงกับประโยค คนขยัน คนเก่งมักพ่ายแพ้ให้กับคนเอาหน้าเก่ง?
1.เขาเอาเราไปพูดกับเพื่อนร่วมงานต่างแผนก ว่าเขาเหนื่อย ทำงานคนเดียว (ทั้งที่งานแบ่งกันชัดเจนตั้งแต่ต้น ถ้าขโมยงานเราไป ต้องทำต่อเอง แม้จะเป็นงานในหน้าที่เรา แต่ถ้าทำแล้วเขาได้หน้าโดยที่เขาไม่ได้ทำเองหรือไม่ให้เครดิตเราไม่ทำ)
2.คำพูดของเขาและนิสัยขโมยงานไปนำเสนอทำให้ผู้บริหารมองว่าเราว่างงาน มอบหมายงานกราฟิกให้เราทำ
3.จากข้อสอง เราได้งานเพิ่มมากขึ้น เวลาเขาขอช่วยให้เราทำ Presentation ทำกราฟสรุปผลในส่วนของหน้าที่เขาไปนำเสนอผู้บริหาร เราไม่สามารถช่วยได้ทันที เพราะทั้งงาน HRM และกราฟิกที่เป็นงานรูทีนที่ได้รับมา งานล้นมือ งานแต่ละชิ้นต้องใช้เวลา เลือกธีม อ่านข้อมูลสรุปเพื่อออกแบบกราฟิกก็ค่อนข้างใช้เวลาและต้องส่งออกให้ทันเวลาเดดไลน์ เขาไม่พอใจที่เราไม่ช่วย เขาทำเสียงดังโครมคราม เดินกระทืบเท้า ทำเสียงดัง เครียด จนเพื่อนร่วมงานต่างแผนก และผู้บริหารมองว่าเขาทำงานหนักและเครียด แต่เราสบายใจ งานน้อย (เขาวัดจากจำนวนชิ้นงานที่เขาถูกใจ) แต่เขาไม่ได้มองถึงความยากง่ายของงานที่รับผิดชอบเลย กลายเป็นว่าคนที่สามารถจัดการกับความเครียดในงานได้ คือคนที่ไม่กระตือรือร้นในการทำงาน คนที่จัดการความด่วนของงานเสร็จทันเวลา กลายเป็นคนสบาย ได้รับงานเพิ่ม
3.การจ้างงานพนักงานและต่างด้าวยังผิดกฎหมายอยู่ เราพยายามชี้แจงให้ผู้บริหารรับทราบและแก้ไข แต่เหมือนเสียงจะดังไม่พอ อีกคนให้ข้อมูลแบบผิดๆไม่ถูกต้องแต่ถูกใจผู้บริหาร กลายเป็นเราดูแย่เลย
เขาชอบป่าวประกาศว่าทำงานอยู่คนเดียว เหนื่อย ขโมยงานในหน้าที่เราไปนำเสนอตัดหน้า เราควรลาออกให้เขาทำงานคนเดียวสมใจเขาดีไหมค่ะ เพราะผู้บริหารเข้ามาอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ไม่เคยรับรู้กระบวนการทำงานของเราด้วยซ้ำ ท้อมากค่ะ
หรือใครพอจะมีวิธีแก้เผ็ดคนประเภทนี้ก่อนลาออกไหมค่ะ ตอนนี้ที่คิดไว้คือ ลาออกให้ทำงานคนเดียว ได้หน้าคนเดียวให้สมใจเขาไปเลย อยู่ต่อก็เหนื่อยค่ะ เพราะตอนนี้เริ่มได้รับงานสารบรรณบางส่วนมาครอบครองแล้วค่ะ เพราะทำงานเสร็จก่อนเดดไลน์ เขามองว่าเราว่าง😢😢