ประสบการโดนหลอกขายอาหารเสริม
เนื่องจากเราอ้วนขึ้นมากๆภายในปีสองปีนี้ที่โควิดลง เราจ่ายเงินค่าเทรนเนอร์ไม่ใช่น้อย ประมาณห้าหมื่นกว่าบาทสำหรับการเทรนด์ 6 เดือน ซึ่งเราก็ทำตามเขาทุกอย่าง เลือกกินอาหารที่แคลต่ำ แต่สุดท้ายน้ำหนักก็ไม่ลงเลย ดีดขึ้น 1-2 กิโลด้วยซ้ำ เราจึงเลิกไปฟิตเนส แล้วก็มาทานไฟเบอร์ยี่ห้อหนึ่งที่เราเคยขายเมื่อนานมาแล้ว ผ่านไป 3 เดือนน้ำหนักลงจาก 80 เหลือ 74 เราก็ว่าดีนะ ราคากินตัวนี้อยู่ที่เดือนละ 3000 บาท ซึ่งก็โอเคเป็นงบประมาณที่เราเอาไว้ซื้ออาหารเสริมอยู่แล้ว แต่เรารู้สึกว่าเรายังตัวใหญ่อยู่ อึดอัด อยากจะลดแบบเร็วๆ จึงไปสรรหาข้อมูลในเน็ต เห็นยาลดน้ำหนักของโรงพยาบาลหนึ่ง เกือบที่จะสั่งไปแล้วด้วยแต่แพ็คเกจยาดูน่ากลัวมากเพราะไม่ระบุชื่อยา ถ้าเกิดเราแพ้หรือมีอาการไม่พึงประสงค์ขึ้นมาเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเกิดจากยาตัวไหน เราไปเห็นเพจๆหนึ่งในเฟส ดูน่าเชื่อถือดูมีคนลดได้เยอะและเราก็บอกกับเขาตรงๆตั้งแต่แรกแล้วว่าเรามีงบแค่เดือนละ 3000 บาท เขาก็รับทราบนะเขาบอกด้วยจัดตามงบได้เลย มีการส่งรูปโปรโมชั่นมาให้ดูมีเป็นเซตๆ ตามราคาตั้งแต่สามพันไปจนถึงหมื่น เราก็บอกพี่เขาว่าเรามีงบแค่เดือนละสามพัน เอาเซตเล็กมาก่อนละกัน เขาบอกเราว่าโปรตีนกระปุกหนึ่งจะทานได้ 22 แก้ว แต่เขาไม่บอกเราว่าต้องทานวันละกี่แก้ว ลักษณะการสื่อสารจะออกไปทางอุบอิบคือไม่ค่อยบอกรายละเอียดอะไรมากให้เรารู้ว่าหลังจากสามวันแรกของมันจะหมดแล้วเราต้องซื้อเพิ่ม ย้ำว่าเราเพิ่งจะมารู้ตอนจ่ายตังค์ไปแล้วสามพันกว่าบาทว่าเซตนี้มันจะกินได้แค่สามวันนะ เราก็เลยแจ้งเขาไปว่าคงต้องสั่งเพิ่ม แล้วเรามีงบแค่สองพัน จะกินได้กี่วันคะ เขาบอกว่าวันละ 4 แก้ว เอาแล้ว หมายความว่ามันจะหมดภายใน 5 วัน !!!! แล้วยังไงอะเราต้องจ่าย 2000 ทุกๆ 5 วันเลยหรอ เดือนนึงตก 6 กระปุก เป็นเงิน 11598 บาท เอาแล้วไง รู้ตัวว่าโดนหลอกเข้าแล้ว เราบล็อคเลยค่ะ คิดซะว่าเสียค่าโง่ไปสามพัน เรากลับไปกินของเดิมๆที่เราคุ้นเคยดีกว่า ช้าหน่อยแต่มันก็ได้ผล
หลอกขายอาหารเสริม
เนื่องจากเราอ้วนขึ้นมากๆภายในปีสองปีนี้ที่โควิดลง เราจ่ายเงินค่าเทรนเนอร์ไม่ใช่น้อย ประมาณห้าหมื่นกว่าบาทสำหรับการเทรนด์ 6 เดือน ซึ่งเราก็ทำตามเขาทุกอย่าง เลือกกินอาหารที่แคลต่ำ แต่สุดท้ายน้ำหนักก็ไม่ลงเลย ดีดขึ้น 1-2 กิโลด้วยซ้ำ เราจึงเลิกไปฟิตเนส แล้วก็มาทานไฟเบอร์ยี่ห้อหนึ่งที่เราเคยขายเมื่อนานมาแล้ว ผ่านไป 3 เดือนน้ำหนักลงจาก 80 เหลือ 74 เราก็ว่าดีนะ ราคากินตัวนี้อยู่ที่เดือนละ 3000 บาท ซึ่งก็โอเคเป็นงบประมาณที่เราเอาไว้ซื้ออาหารเสริมอยู่แล้ว แต่เรารู้สึกว่าเรายังตัวใหญ่อยู่ อึดอัด อยากจะลดแบบเร็วๆ จึงไปสรรหาข้อมูลในเน็ต เห็นยาลดน้ำหนักของโรงพยาบาลหนึ่ง เกือบที่จะสั่งไปแล้วด้วยแต่แพ็คเกจยาดูน่ากลัวมากเพราะไม่ระบุชื่อยา ถ้าเกิดเราแพ้หรือมีอาการไม่พึงประสงค์ขึ้นมาเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเกิดจากยาตัวไหน เราไปเห็นเพจๆหนึ่งในเฟส ดูน่าเชื่อถือดูมีคนลดได้เยอะและเราก็บอกกับเขาตรงๆตั้งแต่แรกแล้วว่าเรามีงบแค่เดือนละ 3000 บาท เขาก็รับทราบนะเขาบอกด้วยจัดตามงบได้เลย มีการส่งรูปโปรโมชั่นมาให้ดูมีเป็นเซตๆ ตามราคาตั้งแต่สามพันไปจนถึงหมื่น เราก็บอกพี่เขาว่าเรามีงบแค่เดือนละสามพัน เอาเซตเล็กมาก่อนละกัน เขาบอกเราว่าโปรตีนกระปุกหนึ่งจะทานได้ 22 แก้ว แต่เขาไม่บอกเราว่าต้องทานวันละกี่แก้ว ลักษณะการสื่อสารจะออกไปทางอุบอิบคือไม่ค่อยบอกรายละเอียดอะไรมากให้เรารู้ว่าหลังจากสามวันแรกของมันจะหมดแล้วเราต้องซื้อเพิ่ม ย้ำว่าเราเพิ่งจะมารู้ตอนจ่ายตังค์ไปแล้วสามพันกว่าบาทว่าเซตนี้มันจะกินได้แค่สามวันนะ เราก็เลยแจ้งเขาไปว่าคงต้องสั่งเพิ่ม แล้วเรามีงบแค่สองพัน จะกินได้กี่วันคะ เขาบอกว่าวันละ 4 แก้ว เอาแล้ว หมายความว่ามันจะหมดภายใน 5 วัน !!!! แล้วยังไงอะเราต้องจ่าย 2000 ทุกๆ 5 วันเลยหรอ เดือนนึงตก 6 กระปุก เป็นเงิน 11598 บาท เอาแล้วไง รู้ตัวว่าโดนหลอกเข้าแล้ว เราบล็อคเลยค่ะ คิดซะว่าเสียค่าโง่ไปสามพัน เรากลับไปกินของเดิมๆที่เราคุ้นเคยดีกว่า ช้าหน่อยแต่มันก็ได้ผล