น้องดิน ลูกชายวัยหกขวบของพี่อ้อ เป็นเด็กที่ชอบตุ๊กตามากๆ ทุกๆปีพี่อ้อจะซื้อตุ๊กตาให้น้องดินเป็นของขวัญเสมอ และรวมไปถึงเพื่อนของพี่อ้อด้วย น้องดินเป็นเด็กดี ขี้อ้อน น่ารัก แต่ก็มีซุกซนบ้างตามประสาเด็กเล็ก
บ่ายแก่ๆวันหนึ่ง ขณะที่พี่อ้อกำลังทำขนมอยู่ในครัว น้องดินได้ขออนุญาตพี่อ้อไปเล่นกับน้องแพน ลูกชายของบ้านข้างๆ ไปเล่นในสวนของที่บ้าน พี่อ้อก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่กำชับทั้งคู่ว่าให้เล่นได้แต่บริเวณไหน(บริเวณ ที่ทั้งคู่ไปเล่นก็อยู่ในสายตาพี้อ้อตลอด)และห้ามลงไปเล่นน้ำที่สายน้ำเล็กๆเด็ดขาด เด็กทั้งสองพยักหน้ารับ ก่อนจะจูงมือกันไป
จะขออธิบายลักษณะบ้านของพี่อ้อให้ฟังก่อนว่า บ้านพี่อ้อเป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนสูง อายุกว่า60ปี ปลูกอยู่ในสวนผลไม้ รอบๆบ้านจึงเต็มไปด้วยพวกต้นไม้นานาชนิด ที่บ้านสร้างครัวปูนเล็กๆแยกออกมาจากบ้านหลังใหญ่และบริเวณที่น้องดินและน้องแพนไปเล่นกันก็อยู่ใกล้ สามารถมองเห็นได้
พี่อ้อที่ทำขนมอยู่ในครัวจึงคอยออกมามองเด็กทั้งคู่อยู่เรื่อยๆ เห็นว่าเด็กๆนั่งเล่นกันอยู่ จนกระทั่งแม่ของน้องแพนได้มาตามกลับบ้าน เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ๆ พี่อ้อก็ได้ยินเสียง น้องดินที่นั่งเล่นอยู่คนเดียวหัวเราะและกำลังคุยอยู่กับใครสักคนหนึ่ง พี่อ้อออกมาดูและเห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่ง ใส่เสื้อยืดสีเทาขาดๆกำลังนั่งคุยกับน้องดิน พี่อ้อคิดว่าต้องเป็นคนสติไม่ดีเลยรีบวิ่งออกไปหาลูก แต่เมื่อไปถึงปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้นหายไปเสียแล้ว มีเพียงแค่ตุ๊กตาตัวหนึ่งที่วางอยู่ตรงตำแหน่งที่ผญคนนั้นนั่งก็เท่านั้น พี่อ้อถามน้องดินว่าก่อนหน้านี้นั่งคุยอยู่กับใคร น้องดินส่ายหน้าบอกว่าไม่ได้คุยกับใครเลย เธอไม่เชื่อเลยถามลูกชายซ้ำแต่เขาก็ตอบเหมือนเดิม พี่อ้อรู้สึกไม่ดีจึงชวนน้องดินเข้าบ้าน ให้ไปล้างมือล้างหน้า เดี๋ยวจะไปตลาดกัน น้องดินได้ยินแบบนั้นก็ดีใจ รีบวิ่งไปล้างหน้า แต่ยังวิ่งไปไม่ถึงไหนก็วิ่งกลับมาที่เดิมอีก หยิบตุ๊กตาตัวนั้นแล้วขออนุญาตพี่อ้อว่าขอเอาไปบนบ้านได้ไหม พี่อ้อที่ไม่อยากขัดใจลูกเลยอนุญาตไป
หลังจากจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จแล้ว พี่อ้อจึงพาน้องดินไปตลาดที่อยู่ใกล้บ้าน ระหว่างที่กำลังเดินเลือกของอยู่ น้องดินบ่นว่าอยากทานซูชิกับน้ำส้ม พี่อ้อเลยให้เงินไปซื้อแม่ค้าในตลาดที่พี่อ้ออุดหนุนเป็นประจำก็ทักขึ้นว่า
"แหม เดี๋ยวนี้เป็นคุณนายแล้วนะ"
"คุณนายอะไรพี่"
"เอ้า ก็มีแม่บ้านมาช่วยถือกับข้าวด้วยน่ะสิจ้ะ แต่แหม เปลี่ยนเสื้อผ้าให้หน่อยเถอะ ดูสิเก่าหมดแล้วนั่นน่ะ" แม่ค้าชี้ไปข้างหลังพี้อ้อ เธอมองตามไปแต่ก็ไม่มีอะไร
"อะไรพี่พร อย่ามาแกล้งกันนา คนใช้ที่ไหนกันพี่ ฉันไม่ได้จ้างใครมา ฉันมาตลาดกับลูกแค่สองคน"
ถึงบ้านพี่อ้อจะมีฐานะแต่ก็ไม่คิดอยากจะจ้างคนใช้หรือแม่บ้านมาสักเท่าไหร่ เพราะกลัวว่าจะเข้ากับลูกไม่ได้และยังห่วงเรื่องเงินๆทองๆด้วย
แม่ค้าขมวดคิ้วก่อนจะพูดต่อว่า
"หรือว่าจะเป็รเด็กพม่า? จ้างให้มาช่วยที่สวนเหรอ?" ประโยคนั้นยิ่งทำให้พี่อ้องงเข้าไปอีก เธอไม่พูดอะไร หากแต่รีบเดินไปหาน้องดินที่กำลังยืนเลือกขนมอยู่
"แม่ค้าบน้องดินขอซื้อซูชิไปฝากพี่ตุ๊กตาได้ไหมค้าบ" ประโยคที่ฟังดูไร้เดียงสาแต่ทว่ามันกลับทำให้อ้อรู้สึกพองขนแปลกๆ เธอไม่พูดอะไร ชวนน้องดินพูดเรื่องอื่นแทน
หลังจากกลับมาจากตลาด พี่อ้อก็ต้องเอาขนมที่ลูกค้าสั่งไว้ไปส่ง โดยที่ให้น้องดินอยู่บ้านคนเดียว เธอบอกให้ลูกชายอยู่แต่บนบ้าน หากมีใครมาเรียกหาก็ไม่ต้องออกไป เด็กน้อยทำตามคำสั่งอย่างดี เพราะพี่อ้อหลอกล้อให้เขาดูการ์ตูนที่ชอบและทานขนมรอไปด้วย พี่อ้อใช้เวลาขับรถไปกลับจากส่งของก็ราวๆ 15นาทีเห็นจะได้ อยู่ดีๆเธอก็รู้สึกร้อนใจแปลกๆ รีบขับรถกลับมาหาน้องดินที่บ้าน และแล้วสิ่งที่เธอคิดก็เป็นจริง เมื่อได้ยินเสียงน้องดินร้องไห้มาจากบนบ้าน พี่อ้อรีบไขกุญแจแล้ววิ่งมาดู ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็คือ ข้าวของในบ้านกระจัดกระจาย กรอบรูปที่แขวนอยู่ที่พนังบ้านก็ล้มระเนระนาด สมุดการบ้านของน้องดินถูกฉีก พี่อ้อเห็นลูกชายนั่งกอดเข่าร้องไห้ด้วยความสั่นเครืออยู่ที่เสา เธอรีบเข้าไปกอดน้องดิน ถามว่าเกิดอะไรขึ้น น้องดินก็เอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมพูด พี่อ้อจึงอุ้มลูกชายลงมาข้างล่าง แล้วรอให้น้องดินหยุดร้องก่อน เมื่อเห็นว่าดีขึ้นแล้ว น้องดินก็เล่าให้พี่อ้อฟังเองว่า
พี่ตุ๊กตาไม่พอใจที่น้องดินไม่ยอมแบ่งซูชิให้เท่ากัน
"พี่ตุ๊กตาเขาอยากกินเยอะๆ แต่น้องดินไม่ให้ เพราะจะแบ่งให้แม่อ้อด้วย แม่อ้อเคยสอนเอาไว้ว่าเราต้องแบ่งของให้เท่ากัน พี่ตุ๊กตาเขาบอกว่าถ้าน้องดินไม่ให้กิน พี่เขาจะกินใส้น้องดินแทน แล้วเขาก็พังบ้านเละเลย" ประโยคที่ว่าจะกินใส้น้องดินทำเอาพี่อ้อรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว แต่ด้วยความเป็นแม่และเราอยู่กันแค่สองคน เธอจะแสดงความกลัวให้ลูกเห็นไม่ได้
พี่อ้อสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อเรียกความกล้ากลับมา ก่อนจะขับรถเอาน้องดินไปฝากไว้ที่บ้านแม่ชั่วคราว เพราะไม่อยากให้น้องดินตกใจกลัวหากขึ้นไปข้างบนโดยที่ข้าวของยังกระจัดกระจายอยู่ จากนั้นตนจึงกลับมาเก็บของให้เข้าที่เข้าทาง กวาดเศษแก้วที่แตก หาผ้ามาถูน้ำส้มที่หกไว้ เมื่อเก็บกวาดเสร็จแล้วจึงลงไปอาบน้ำข้างล่าง
(1)
อาถรรพณ์ตุ๊กตาอาฆาตที่บ้านสวนท้ายซอย
บ่ายแก่ๆวันหนึ่ง ขณะที่พี่อ้อกำลังทำขนมอยู่ในครัว น้องดินได้ขออนุญาตพี่อ้อไปเล่นกับน้องแพน ลูกชายของบ้านข้างๆ ไปเล่นในสวนของที่บ้าน พี่อ้อก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่กำชับทั้งคู่ว่าให้เล่นได้แต่บริเวณไหน(บริเวณ ที่ทั้งคู่ไปเล่นก็อยู่ในสายตาพี้อ้อตลอด)และห้ามลงไปเล่นน้ำที่สายน้ำเล็กๆเด็ดขาด เด็กทั้งสองพยักหน้ารับ ก่อนจะจูงมือกันไป
จะขออธิบายลักษณะบ้านของพี่อ้อให้ฟังก่อนว่า บ้านพี่อ้อเป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนสูง อายุกว่า60ปี ปลูกอยู่ในสวนผลไม้ รอบๆบ้านจึงเต็มไปด้วยพวกต้นไม้นานาชนิด ที่บ้านสร้างครัวปูนเล็กๆแยกออกมาจากบ้านหลังใหญ่และบริเวณที่น้องดินและน้องแพนไปเล่นกันก็อยู่ใกล้ สามารถมองเห็นได้
พี่อ้อที่ทำขนมอยู่ในครัวจึงคอยออกมามองเด็กทั้งคู่อยู่เรื่อยๆ เห็นว่าเด็กๆนั่งเล่นกันอยู่ จนกระทั่งแม่ของน้องแพนได้มาตามกลับบ้าน เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ๆ พี่อ้อก็ได้ยินเสียง น้องดินที่นั่งเล่นอยู่คนเดียวหัวเราะและกำลังคุยอยู่กับใครสักคนหนึ่ง พี่อ้อออกมาดูและเห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่ง ใส่เสื้อยืดสีเทาขาดๆกำลังนั่งคุยกับน้องดิน พี่อ้อคิดว่าต้องเป็นคนสติไม่ดีเลยรีบวิ่งออกไปหาลูก แต่เมื่อไปถึงปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้นหายไปเสียแล้ว มีเพียงแค่ตุ๊กตาตัวหนึ่งที่วางอยู่ตรงตำแหน่งที่ผญคนนั้นนั่งก็เท่านั้น พี่อ้อถามน้องดินว่าก่อนหน้านี้นั่งคุยอยู่กับใคร น้องดินส่ายหน้าบอกว่าไม่ได้คุยกับใครเลย เธอไม่เชื่อเลยถามลูกชายซ้ำแต่เขาก็ตอบเหมือนเดิม พี่อ้อรู้สึกไม่ดีจึงชวนน้องดินเข้าบ้าน ให้ไปล้างมือล้างหน้า เดี๋ยวจะไปตลาดกัน น้องดินได้ยินแบบนั้นก็ดีใจ รีบวิ่งไปล้างหน้า แต่ยังวิ่งไปไม่ถึงไหนก็วิ่งกลับมาที่เดิมอีก หยิบตุ๊กตาตัวนั้นแล้วขออนุญาตพี่อ้อว่าขอเอาไปบนบ้านได้ไหม พี่อ้อที่ไม่อยากขัดใจลูกเลยอนุญาตไป
หลังจากจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จแล้ว พี่อ้อจึงพาน้องดินไปตลาดที่อยู่ใกล้บ้าน ระหว่างที่กำลังเดินเลือกของอยู่ น้องดินบ่นว่าอยากทานซูชิกับน้ำส้ม พี่อ้อเลยให้เงินไปซื้อแม่ค้าในตลาดที่พี่อ้ออุดหนุนเป็นประจำก็ทักขึ้นว่า
"แหม เดี๋ยวนี้เป็นคุณนายแล้วนะ"
"คุณนายอะไรพี่"
"เอ้า ก็มีแม่บ้านมาช่วยถือกับข้าวด้วยน่ะสิจ้ะ แต่แหม เปลี่ยนเสื้อผ้าให้หน่อยเถอะ ดูสิเก่าหมดแล้วนั่นน่ะ" แม่ค้าชี้ไปข้างหลังพี้อ้อ เธอมองตามไปแต่ก็ไม่มีอะไร
"อะไรพี่พร อย่ามาแกล้งกันนา คนใช้ที่ไหนกันพี่ ฉันไม่ได้จ้างใครมา ฉันมาตลาดกับลูกแค่สองคน"
ถึงบ้านพี่อ้อจะมีฐานะแต่ก็ไม่คิดอยากจะจ้างคนใช้หรือแม่บ้านมาสักเท่าไหร่ เพราะกลัวว่าจะเข้ากับลูกไม่ได้และยังห่วงเรื่องเงินๆทองๆด้วย
แม่ค้าขมวดคิ้วก่อนจะพูดต่อว่า
"หรือว่าจะเป็รเด็กพม่า? จ้างให้มาช่วยที่สวนเหรอ?" ประโยคนั้นยิ่งทำให้พี่อ้องงเข้าไปอีก เธอไม่พูดอะไร หากแต่รีบเดินไปหาน้องดินที่กำลังยืนเลือกขนมอยู่
"แม่ค้าบน้องดินขอซื้อซูชิไปฝากพี่ตุ๊กตาได้ไหมค้าบ" ประโยคที่ฟังดูไร้เดียงสาแต่ทว่ามันกลับทำให้อ้อรู้สึกพองขนแปลกๆ เธอไม่พูดอะไร ชวนน้องดินพูดเรื่องอื่นแทน
หลังจากกลับมาจากตลาด พี่อ้อก็ต้องเอาขนมที่ลูกค้าสั่งไว้ไปส่ง โดยที่ให้น้องดินอยู่บ้านคนเดียว เธอบอกให้ลูกชายอยู่แต่บนบ้าน หากมีใครมาเรียกหาก็ไม่ต้องออกไป เด็กน้อยทำตามคำสั่งอย่างดี เพราะพี่อ้อหลอกล้อให้เขาดูการ์ตูนที่ชอบและทานขนมรอไปด้วย พี่อ้อใช้เวลาขับรถไปกลับจากส่งของก็ราวๆ 15นาทีเห็นจะได้ อยู่ดีๆเธอก็รู้สึกร้อนใจแปลกๆ รีบขับรถกลับมาหาน้องดินที่บ้าน และแล้วสิ่งที่เธอคิดก็เป็นจริง เมื่อได้ยินเสียงน้องดินร้องไห้มาจากบนบ้าน พี่อ้อรีบไขกุญแจแล้ววิ่งมาดู ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็คือ ข้าวของในบ้านกระจัดกระจาย กรอบรูปที่แขวนอยู่ที่พนังบ้านก็ล้มระเนระนาด สมุดการบ้านของน้องดินถูกฉีก พี่อ้อเห็นลูกชายนั่งกอดเข่าร้องไห้ด้วยความสั่นเครืออยู่ที่เสา เธอรีบเข้าไปกอดน้องดิน ถามว่าเกิดอะไรขึ้น น้องดินก็เอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมพูด พี่อ้อจึงอุ้มลูกชายลงมาข้างล่าง แล้วรอให้น้องดินหยุดร้องก่อน เมื่อเห็นว่าดีขึ้นแล้ว น้องดินก็เล่าให้พี่อ้อฟังเองว่า
พี่ตุ๊กตาไม่พอใจที่น้องดินไม่ยอมแบ่งซูชิให้เท่ากัน
"พี่ตุ๊กตาเขาอยากกินเยอะๆ แต่น้องดินไม่ให้ เพราะจะแบ่งให้แม่อ้อด้วย แม่อ้อเคยสอนเอาไว้ว่าเราต้องแบ่งของให้เท่ากัน พี่ตุ๊กตาเขาบอกว่าถ้าน้องดินไม่ให้กิน พี่เขาจะกินใส้น้องดินแทน แล้วเขาก็พังบ้านเละเลย" ประโยคที่ว่าจะกินใส้น้องดินทำเอาพี่อ้อรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว แต่ด้วยความเป็นแม่และเราอยู่กันแค่สองคน เธอจะแสดงความกลัวให้ลูกเห็นไม่ได้
พี่อ้อสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อเรียกความกล้ากลับมา ก่อนจะขับรถเอาน้องดินไปฝากไว้ที่บ้านแม่ชั่วคราว เพราะไม่อยากให้น้องดินตกใจกลัวหากขึ้นไปข้างบนโดยที่ข้าวของยังกระจัดกระจายอยู่ จากนั้นตนจึงกลับมาเก็บของให้เข้าที่เข้าทาง กวาดเศษแก้วที่แตก หาผ้ามาถูน้ำส้มที่หกไว้ เมื่อเก็บกวาดเสร็จแล้วจึงลงไปอาบน้ำข้างล่าง
(1)