พฤติกรรม "ล้นเกิน" 
ไม่ว่าทางสังคม  ทางกฎหมาย  เกิดขึ้นในสังคมไทยโดยกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม  โดยวิถึปฏิบัติของกระบวนการยุติธรรม
หลายเรื่อง หลายกรณี   สร้างความขัดแย้งในสังคม   ทำลายความน่าเชื่อถือเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม  ซ้ำ ๆ หลายครั้งแล้ว

สร้างบรรยากาศ และความรู้สึก  จาก ล้นเกิน  จนสู่  เกินไป   
เพราะประชาชนผู้รักความเป็นธรรม  มองเห็นว่า  เอะอะก็ใช้นักร้อง  ใช้กฎหมายเล่นงานกันแบบไร้เหตุผลเกินไปแล้ว

เริ่มตั้งแต่ยุบไทยรักไทย  จนมาถึงยุบอนาคตใหม่      จากยุบพลังประชาชน  จนมาถึงจะยุบก้าวไกล
การชี้ผิดกลุ่มม็อบราษฎรแบบหว่านแหเอาเรื่องไปหมด     และ จากเล่นงานทักษิณ  ยิ่งลักษณ์   ธนาธร   จนมาถึงจะเล่นงานพิธา    

เล่นง่าย ๆ    ร้อง  ตัดสิน   ด้วยวิธีการเดิม ๆ  รูปแบบเดิม ๆ
อ้างผลทางกฎหมาย  โดยไม่คำนึงถึงหลักนิติรัฐนิติธรรม  ไม่แคร์ต่อความชอบธรรม

ตอนนี้  จะมาเล่นง่าย ๆ   ในเรื่องการแก้ไขมาตรา 112
จะชงหาเรื่องยุบพรรคก้าวไกลเอาง่าย ๆ    ไม่เข้าท่า  ฝืนความถูกต้องเกินไป

ล้นเกิน  จน  เกินไป

ประชาชนคงไม่ตาปริบ ๆ นิ่งเฉยอย่างที่เคยเป็นมาแน่    อาจระเนระนาดไปกันหมด
ลองดูสิครับ    ล้นเกินในเรื่องนี้สิครับ    หายนะรออยู่

ที่สำคัญ  ในความล้นเกินนี้   จะมีสักกี่หน้า กี่คน กี่กลุ่ม  ที่ "จริงใจ" จริง ๆ
เห็นแต่มุ่งผลทางการเมือง  มุ่งผลประโยชน์ใส่ตน  ฉกฉวยโอกาสหาผลประโยชน์  และมุ่งเพื่อใช้เป็นเครื่องมือทำลายล้างทั้งนั้น

พรรคเพื่อไทยก็เอาซะทีเหอะ   มีอิทธิพลต่อสถานการณ์สูงอยู่แล้ว
วางทักษิณไว้ก่อน  เลิกสู้ไปกราบไปซะที  ตาย ติดคุกเท่าไร  ลืมลงหรือไง

โดนไอ้ห้อยกระทืบเพื่อหันไปรับผลประโยชน์ใส่ตน  จนมีอิทธิพล มีความร่ำรวยมหาศาล  กฎหมายทำอะรไม่ได้
ยังจะยอมไปจับมือร่วมรัฐบาล  ทำได้ไง   ไม่แคร์ความเจ็บช้ำของกองเชียร์สักนิดเหรอ

หากไม่ทำ ไม่สู้  เพื่อเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้ดีขึ้น  จะมีหน้ากล้าสบตากับคนรุ่นใหม่เหรอ
หรือไม่ก็  กราบอย่างเดียวให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย เพื่อให้นายได้กลับบ้าน     มาทำเหมือนหลอกประชาขนอยู่แบบนี้   รำคาญโว้ย

มีความถูกต้องให้เอ่ยอ้าง   มีประชาชนสนับสนุน   มีเวลาให้โอกาส
แล้วจะหงอยึก ๆ ยัก ๆ อยู่ทำไม   ถึงเวลาต้องเปิดหน้าสู้แล้ว  ควรเปลี่ยนวิธีการได้แล้ว   กลับไม่ได้ก็ไม่ต้องกลับสิวะ  จะชักหรือไง

รำคาญนายแบกนางแบก  จนเลิกดูว้อยซ์ทีวีไปนานแล้ว