แหล่งข่าวจากพรรค “พลังประชารัฐ” มั่นใจ "พล.อ.ประวิตร" ขึ้นแท่นนายกฯคนที่ 30 ของไทย
หากมีการเสนอชื่อจะได้เสียงจาก ส.ว.มาสนับสนุนเกิน 376 เสียงแน่นอน และไม่หวั่นหากประธานสภาฯจะมาจาก พรรคฝ่ายค้าน
https://ch3plus.com/news/social/morning/355447
ทำให้ยิ่งมีความมั่นใจสุดท้ายตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จะเป็นของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
แหล่งข่าว ไม่บอกชัด ๆ ว่าจะมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร ให้ที่ประชุมรัฐสภาโหวตในรอบแรกเลยหรือไม่ แต่บอกว่า การจะเป็นนายกฯ ได้จะต้องมีเสียงสมาชิกรัฐสภาสนับสนุน 376 เสียงขึ้นไป
ส่วนการจะเป็นรัฐบาลเพื่อบริหารประเทศ จะต้องมีเสียง ส.ส.เกินครึ่ง คือ 251 เสียง
ทั้งนี้ถ้าเราดูจากเสียงที่มีการแบ่งขั้วปัจจุบัน ฝั่ง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรับบาลขณะนี้มี 312 เสียง ถ้าฝั่งนี้จะเป็นนายกฯได้ ก็ต้องมีเสียงเพิ่มอีก 64 เสียง ขณะที่อีกฝั่งมี 188 เสียง หากได้เสียงมาเติมอีก 188 เสียง ก็สามารถเป็นนายกฯได้เช่นกัน
ซึ่งทางพรรคพลังประชารัฐ เชื่อว่าหากมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร เข้ามาชิงตำแหน่งนายกฯ ก็จะมีเสียงจาก ส.ว.มาสนับสนุนได้เกิน 376 เสียงแน่นอน
ทั้งนี้แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า ไม่กังวลเรื่องผู้ที่จะมาเป็นประธานสภา
โดยบอกว่า ต่อให้ประธานสภาเป็นคนของพรรคก้าวไกล ก็ไม่กังวล เพราะการดำเนินการทุกอย่างในสภา เป็นไปตามข้อบังคับและมติที่ประชุมสภา
ซึ่งในอดีตในช่วงรัฐบาลของนายชวน มีนายวันมูะมัดนอร์ มะทา จากพรรคความหวังใหม่ ซึ่งตอนนั้นเป็นฝ่ายค้าน เป็นประธานสภาฯ ก็ไม่มีปัญหา และช่วงแรกพรรคความหวังใหม่เป็นรัฐบาล ตอนหลัง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจากนายกฯ พรรคความหวังใหม่ไปเป็นฝ่ายค้าน แต่ วันนอร์ยังเป็นประธาน จนกระทั่ง “ชวน” ยุบสภา ตอนใกล้ครบวาระ 4 ปี)
ส่วนจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือไม่ แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชารัฐแสดงความมั่นใจว่า รัฐบาล พล.อ.ประวิตร จะไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะถ้าเป็นแบบนั้นก็จะไม่สามารถบริหารราชการได้
แต่มั่นใจว่า หลังที่ประชุมรัฐสภาโหวตให้เป็นนายกฯ แล้ว พล.อ.ประวิตร จะสามารถรวบรวมเสียง ส.ส.มาเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากได้
ซึ่งสูตรรัฐบาล พล.อ.ประวิตร ที่มีความเป็นไปได้ก็คือ
ดึงพรรคเพื่อไทยมาร่วมรัฐบาลด้วย ซึ่งเชื่อว่าถึงที่สุดพรรคเพื่อไทยจะยอมมาร่วมด้วย โดยแหล่งข่าวบอกว่า "มันมีเหตุผลหลายอย่าง" ที่ทำให้มั่นใจ
และน่าจะเป็น
สูตรรัฐบาล 6 พรรค คือ พรรคเพื่อไทย ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา และชาติพัฒนากล้า รวม 289 เสียง
ส่วนฝ่ายค้าน พรรคหลัก ก็จะเป็นพรรคก้าวไกล และพรรครวมไทยสร้างชาติ (เนื่องจากพรรคเพื่อไทยจะไม่ร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ ผู้ทำรัฐประหาร ส่วน พล.อ.ประวิตร ถือว่าไม่ได้เป็นคนทำรัฐประหารโดยตรง)
แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ เชื่อว่า สถานการณ์ภายหลังการเลือกนายกฯจะไม่มีเหตุการณ์บานปลาย แม้ว่าอาจจะมีการชุมนุมแสดงความไม่เห็นด้วยบ้าง แต่ก็ไม่น่าจะเกิดความรุนแรง และเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร "เอาอยู่"
แหล่งข่าวพปชร มั่นใจเสียงเกิน 376 ลุงป้อมขึ้นเป็นนายกคนที่ 30 ของไทย ไม่หวั่นประธานสภาฯ มาจากฝ่ายค้าน!
หากมีการเสนอชื่อจะได้เสียงจาก ส.ว.มาสนับสนุนเกิน 376 เสียงแน่นอน และไม่หวั่นหากประธานสภาฯจะมาจาก พรรคฝ่ายค้าน
https://ch3plus.com/news/social/morning/355447
ทำให้ยิ่งมีความมั่นใจสุดท้ายตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จะเป็นของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
แหล่งข่าว ไม่บอกชัด ๆ ว่าจะมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร ให้ที่ประชุมรัฐสภาโหวตในรอบแรกเลยหรือไม่ แต่บอกว่า การจะเป็นนายกฯ ได้จะต้องมีเสียงสมาชิกรัฐสภาสนับสนุน 376 เสียงขึ้นไป
ส่วนการจะเป็นรัฐบาลเพื่อบริหารประเทศ จะต้องมีเสียง ส.ส.เกินครึ่ง คือ 251 เสียง
ทั้งนี้ถ้าเราดูจากเสียงที่มีการแบ่งขั้วปัจจุบัน ฝั่ง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรับบาลขณะนี้มี 312 เสียง ถ้าฝั่งนี้จะเป็นนายกฯได้ ก็ต้องมีเสียงเพิ่มอีก 64 เสียง ขณะที่อีกฝั่งมี 188 เสียง หากได้เสียงมาเติมอีก 188 เสียง ก็สามารถเป็นนายกฯได้เช่นกัน
ซึ่งทางพรรคพลังประชารัฐ เชื่อว่าหากมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร เข้ามาชิงตำแหน่งนายกฯ ก็จะมีเสียงจาก ส.ว.มาสนับสนุนได้เกิน 376 เสียงแน่นอน
ทั้งนี้แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า ไม่กังวลเรื่องผู้ที่จะมาเป็นประธานสภา
โดยบอกว่า ต่อให้ประธานสภาเป็นคนของพรรคก้าวไกล ก็ไม่กังวล เพราะการดำเนินการทุกอย่างในสภา เป็นไปตามข้อบังคับและมติที่ประชุมสภา
ซึ่งในอดีตในช่วงรัฐบาลของนายชวน มีนายวันมูะมัดนอร์ มะทา จากพรรคความหวังใหม่ ซึ่งตอนนั้นเป็นฝ่ายค้าน เป็นประธานสภาฯ ก็ไม่มีปัญหา และช่วงแรกพรรคความหวังใหม่เป็นรัฐบาล ตอนหลัง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจากนายกฯ พรรคความหวังใหม่ไปเป็นฝ่ายค้าน แต่ วันนอร์ยังเป็นประธาน จนกระทั่ง “ชวน” ยุบสภา ตอนใกล้ครบวาระ 4 ปี)
ส่วนจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือไม่ แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชารัฐแสดงความมั่นใจว่า รัฐบาล พล.อ.ประวิตร จะไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะถ้าเป็นแบบนั้นก็จะไม่สามารถบริหารราชการได้
แต่มั่นใจว่า หลังที่ประชุมรัฐสภาโหวตให้เป็นนายกฯ แล้ว พล.อ.ประวิตร จะสามารถรวบรวมเสียง ส.ส.มาเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากได้
ซึ่งสูตรรัฐบาล พล.อ.ประวิตร ที่มีความเป็นไปได้ก็คือ ดึงพรรคเพื่อไทยมาร่วมรัฐบาลด้วย ซึ่งเชื่อว่าถึงที่สุดพรรคเพื่อไทยจะยอมมาร่วมด้วย โดยแหล่งข่าวบอกว่า "มันมีเหตุผลหลายอย่าง" ที่ทำให้มั่นใจ
และน่าจะเป็นสูตรรัฐบาล 6 พรรค คือ พรรคเพื่อไทย ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา และชาติพัฒนากล้า รวม 289 เสียง
ส่วนฝ่ายค้าน พรรคหลัก ก็จะเป็นพรรคก้าวไกล และพรรครวมไทยสร้างชาติ (เนื่องจากพรรคเพื่อไทยจะไม่ร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ ผู้ทำรัฐประหาร ส่วน พล.อ.ประวิตร ถือว่าไม่ได้เป็นคนทำรัฐประหารโดยตรง)
แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ เชื่อว่า สถานการณ์ภายหลังการเลือกนายกฯจะไม่มีเหตุการณ์บานปลาย แม้ว่าอาจจะมีการชุมนุมแสดงความไม่เห็นด้วยบ้าง แต่ก็ไม่น่าจะเกิดความรุนแรง และเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร "เอาอยู่"