เรื่องของเรามี 4 ช่วงนะคะ ขออนุญาตเล่าเพื่อให้ทุกๆคนที่เข้ามาอ่านได้รับรู้ถึงสถานการณ์ที่เราเจอและจะได้ออกความเห็นอย่างถูกต้องค่ะ TT
ช่วงแรก
เราเลิกกับแฟนที่คบกันมานาน 4 ปี เพราะเขานอกใจ เลิกมาได้เดือนนิดๆก็มีผู้ชายหลายคนเข้ามาคุยด้วย ส่วนมากจะเป็นเพื่อนสมัยมัธยมปลาย เพราะช่วงนั้นเราค่อนข้างฮอตที่สุดในห้อง555555 แต่เราก็ไม่ได้อยากคุยกับใครแบบผูกมัดเป็นพิเศษ เพราะแผลยังใหม่มากๆ+ไม่อยากดึงใครเข้ามาตอนนี้ จนมีเพื่อนของเพื่อนคนนึง (ขอใช้แทนว่า เอ นะคะ) เอเป็นเพื่อนของเพื่อนสนิทเรา เอเรียนห้องเดียวกันกับเพื่อนสนิทของเรา ซึ่งจะได้เจอกันบ่อยๆอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นเอไม่ได้มาคุยหรืออยู่ในสายตาของเราเลย จนมาถึงวันนี้ที่เอทักมาคุยด้วย เอบอกกับเราว่า มองเรามาตั้งแต่ม.ปลายแล้ว แต่ตอนนั้นเราคุยกับเพื่อนในกลุ่มเออยู่ เอเลยไม่อยากทำให้คสพ.ของเราตอนนั้นมันแย่ลง เลยรอให้เราโสดอีกครั้งถึงจะทักมา ซึ่งเอก็บอกว่า รอมาตั้ง 4 ปีเลยแหละ พอรู้ว่าเราโสดเขาก็เลิกกับแฟนพอดี (เอบอกว่ามีปัญหากับแฟนเลยเลิกกันช่วงเราโสดพอดี ไม่ได้มีเจตนาที่จะเลิกเพื่อมาหาเรา) เอเลยมาคุยกับเรา ออกทรงจีบแบบรุกหนักเลยค่ะ จนเรากลัวมากๆ เพราะเราไม่ชอบแบบนี้ เราเลยบอกเอว่า เราไม่ชอบที่รุกหนักแบบนี้เลย เพราะเราชอบฟิลเพื่อนมากกว่า ขอคุยเป็นเพื่อนแก้เหงาได้ไหม เอบอกว่าได้ทั้งหมดเพราะเขาอยากคุยกับเรามากๆ เราคุยกับเอไปได้ 5 วันเราก็เริ่มเบื่อค่ะ เพราะเอเป็นคนที่ชอบตื้อชอบจิกมากๆ และตอนนั้นเราฝึกงานอยู่ เลยไม่ค่อยมีเวลาและเหนื่อยหลังเลิกงาน เราเลยบอกเอว่า อย่ามาเสียเวลากับเราเลย เราแผลยังใหม่อยู่+ไม่อยากให้ความหวังเอไปมากกว่านี้ ซึ่งเอก็โอเค บอกว่ายอมรับในการตัดสินใจของเรา และเราก็หายออกจากชีวิตของเอไปประมาณ 2 อาทิตย์ แต่หลังจากที่เราบอกเอไป เอก็ยังมากด
ในสตอรี่เราอยู่เรื่อยๆค่ะ
ช่วงที่สอง
จนวันนึงเราลงสตอรี่เพลง คืนให้ (ลงให้แฟนเก่าเห็น) และพื้นหลังของสตอรี่นั้นก็เป็นรูปตอนเราปัจฉิม (แต่มันมีเอติดอยู่ในภาพนั้นด้วย ซึ่งเราไม่ทราบมาก่อน จนเอทักมา) และเอก็ตอบกลับสตอรี่มา โดยการส่งอิโมจิหน้าว้าว เราเลยตอบกลับไปว่า สวยใช่ไหมหละ555 (ติดตลก) เอเลยตอบว่า สวยมาก รูปคู่รูปแรกของเรา เราก็งงว่ารูปคู่อะไร เลยมองที่รูปดีๆ อ่อมีเอติดอยู่ด้วย หลังจากนั้นเรากับเอก็คุยกันฟิลเพื่อนมาตลอดค่ะ เรื่องตอนเรียนบ้าง เรื่องอจ.สอนเคมีบ้าง คือเราเรียนสายวิทย์-คณิตเหมือนกัน แต่คนละห้อง เลยมีอะไรคุยกันถูกคอหลายๆเรื่อง
มีวันนึงเราลงสตอรี่ว่า อยากไปกินตี๋น้อย ซึ่งเอก็ตอบกลับมาทันทีว่าไปไหมเดี๋ยวมารับ ซึ่งเราก็โอเคค่ะ เพราะคิดกับเอแค่เพื่อน ซึ่งเอก็มารับเราไปกิน ก็คุยกันปกติหลังจากส่งเรากลับบ้าน เอทักมาบอกว่า เราน่ารักกว่าที่คิดเยอะเลย วันหลังไปเที่ยวกันนะ เราเลยแบบคิดในใจว่า หรือเราจะกั๊กเอไว้เป็นคนคุยเล่นๆแก้ขัดไปก่อน ซึ่งเราก็ทำจริงๆค่ะ เอชวนไปไหนเราก็ไป แถมยังออกค่าน้ำมันรถให้อีกด้วย55555 เราไปทั้งคาเฟ่ อควาเรียม ทะเล ไปหลายที่มากใน 1 อาทิตย์ บ้ามากๆเลยค่ะ ซึ่งวันสุดท้ายที่เราไปเที่ยวกัน คือไปบางแสน ไปนั่งคาเฟ่ นั่งทานข้าวริมทะเล เดินตลาดนัดคนเดิน และเอมาโอบไหล่เราตลอดเลยค่ะตอนเดิน เราก็มองหน้าตลอด เอบอกว่าเพื่อนโอบกันไม่ได้หรอ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร ถึงเวลากลับบ้านซึ่งก่อนที่จะถึงบ้านเราจะต้องผ่านจุดที่รถติดมากๆ เราติดตรงนั้นเกือบชั่วโมง ซึ่งระหว่างนั้นเอก็จับมือเรา แล้วบอกว่า อยู่กับเอตลอดได้ไหม ให้เอได้ดูแลไปตลอดในฐานะอะไรก็ได้ตลอดไปได้ไหม อย่าหายจากเอเลย บลาๆ เรายอมรับว่าใจเต้นมากๆค่ะ เลยบอกกับเอว่า ก็ที่มาด้วยคือดูตัวอยู่นี่แหละ ยังไม่รับปากอะไรทั้งนั้น ดูๆไปก่อน ถ้าโอเคแล้วจะบอกนะจ๊ะ พร้อมกับตบหน้าเอเบาๆ เอก็ยิ้มแล้วบอกว่าจะรอนะ หลังจากนั้นเราก็รู้สึกว่าเราแอบมีใจให้เอเล็กๆ แอบคิดถึง แอบรอแชท แอบฝันถึงบ่อยๆ ซึ่งเราไม่คิดว่าการที่เราจะเอาเอไว้แค่คุยเล่นๆแก้เหงาจะมาถึงขั้นตกหลุมสะเอง
ช่วงที่สาม
หลังจากที่เที่ยวกันแบบมาราธอน เรากับเอก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย 3-4 วัน แต่แชทคุยกันตลอด จนมาวันนึงเอบอกว่า แมวที่เอเลี้ยงไว้หาย+ไม่มีใครอยู่ช่ยหา ให้เรามาช่วยหาแมวหน่อย ซึ่งเราเห็นแมวเอจากที่เอส่งมาในแชทบ่อยๆและมันน่ารักมากๆ ด้วยความที่เรารักแมวเราเลยแง้นมอไซส์ไปตามที่เอบอก (ซึ่งก็คือห้องของเอ) เราช่วยหาแมวอยู่นานมาก ไปตึกนู้นตึกนี่ ราวๆ 2 ชั่วโมงก็เจอน้องนั่งหลบอยู่ในโพรงหญ้า เราเลยบอกให้เอไปจับน้อง พอจับน้องเสร็จก็ขึ้นมาพักเหนื่อยบนห้องเอ เปิดแอร์เย็นฉ่ำ + ดูหนังไปด้วย ระหว่างดูหนังเอก็มาโอบเราเหมือนเดิมแล้วบอกว่า ไม่คิดว่าจะได้คุยกับเราถึงขั้นนี้ เพราะเราเป็นคนที่ฮอตมาก ส่วนเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยมีตัวตน ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ พร้อมกับลูบหัวเราไปด้วย เราเลยบอกว่า อย่าเวอร์หนะ เราก็คุยได้หมดแหละอยู่ที่ว่าจะมองเรายังไง แล้วเราก็ชวนคุยกันไปเรื่อยๆ จนถึงเวลากลับบ้าน เราก็กลับปกติค่ะ วันนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนเอทักมาบอกว่า พรุ่งนี้เอต้องไปมหาลัย ไปเอาใบจบเพื่อไปสมัครงาน เราก็บอกว่าโอเคเดี๋ยวโทรปลุกบลาๆ คุยเสร็จก็นอนตามปกติ
วันต่อมาเราก็โทรปลุกเอ เอก็รายงานตลอดว่า ถึงแล้วนะ แต่งตัวยังไง คือน่ารักมากๆค่ะ เราก็สบายใจและไปทำธุระของเรา พอเรากลับถึงบ้านเอก็โทรมาพอดีค่ะ บอกว่ามารับหน่อยที่มหาลัยเอ เพราะเอลืมกุญแจรถไว้ท้ายรถ และไม่สามารถเปิดรถได้ ซึ่งต้องกลับบ้านมาเอากุญแจสำรอง เราก็ว่างพอดีเลยไปรับเอมาที่ห้อง แต่!!ห้องเอดันล็อคกุญแจไว้ และลูกกุญแจอยู่ที่น้องเอ ซึ่งน้องเอไปนอนบ้านแฟนที่รังสิต วันนั้นเราเลยรับหน้าที่คนขับรถให้เอไปตามที่ต่างๆ เช่น ไปเอากุญแจบ้านที่บ้านแฟนน้องเอ และวิ่งกลับบ้านห้องเอ และวิ่งกลับมหาลัยเอเพื่อไปเอารถเอกลับบ้าน อุปสรรคเยอะมากๆ555555
ระหว่างที่เอได้กุญแจห้องแล้ว เลยไขเข้าไปเปิดแอร์นั่งกันสักพัก เพราะตอนนั้นบ่าย 2 กว่าๆ เอเลยบอกว่าจะออกจากห้องประมาณบ่าย 3 ครึ่ง เพื่อที่จะรับแวะน้องชายที่รรพอดี ก็เลยนั่งเล่นในห้อง+สั่งอะไรกิน+ดูหนัง ระหว่างนั้นเรากับเอก็ปกติค่ะ จนเราบอกว่าอิ่มอะของีบหน่อยนะ เพราะเราตื่นเช้ามากๆ+ขับรถทั้งวันเลยเพลีย เอเลยให้เราไปนอนในห้อง และปิดประตูให้ พอเรารู้สึกตัวอีกที เอก็มานอนกอดเราอยู่ข้างๆแล้วบอกว่า เมื่อไหร่จะเป็นแฟนกันสักทีอะ เราเลยบอกว่า บอกแล้วไงว่าดูๆไปก่อน แล้วเอก็มาจูบเราบอกว่า จูบจองไว้ก่อนนะ ห้ามหายห้ามหนีไปไหน เราก็ได้แต่อมยิ้มแล้วบอกว่า ก็คุยอยู่คนเดียวจะไปไหนหละ หลังจากคำพูดนั้นจบเราสองคนก็ล่วงเกินกันไปแล้วค่ะ ซึ่งมันเป็นอารมณ์ชั่ววูบจริงๆ และตอนที่เราจะกลับ เอก็ขอโทษเราแล้วบอกว่า ไม่ต้องกลัวว่าจะหายไปไหนนะ อยู่นี้แหละ อยู่กับเธอนี่แหละ สบายใจได้ รักนะครับ เราเลยรู้สึกดีมากๆ คิดแล้วว่าโอเคคนนี้แหละที่จะเปิดใจลองมีแฟนอีกครั้ง แต่...
ช่วงที่สี่
หลังจากวันนั้นเราก็ไปเจอเอแค่หน้าตึก เพราะน้องชายเอเป็นโควิด เอก็เป็นกลุ่มเสี่ยง เราเลยต้องเจอกันแบบห่างๆ และก็ไม่ได้เจอกันเลยเพราะเอติดจากน้องชาย ซึ่งระหว่างที่เอไม่สบายเอก็ไม่ทักมาคุย ไม่โทรไม่อะไรเลย มีแต่เราที่ทักไปตลอด เป็นแบบนี้มาเกือบอาทิตย์ นับคำได้เลยว่าคุยกี่คำ จนวันนึงเรารู้ว่าเอซ่อนสตอรี่ไอจีเรา ไม่ให้เราเห็น เราเลยเอาแอคหลุมไปส่อง ก็เห็นปกติ เราเลยโมโหเอมากๆ เลยถามว่าซ่อนทำไมและลงระเบิดไปชุดใหญ่ พร้อมกับทิ้งท้ายว่า นี่หรอคือคนที่บอกว่าจะอยู่กับเราตลอดไปหายไปไหน แต่ที่เธอทำมันไม่ใช่เลย ตอนแรกเหมือนเอยังไม่ได้อ่านทั้งหมดเลยพิมมาว่า "พิมอะไรมากเยอะขนาดน้านนน" แต่พอเออ่านแล้ว เอก็เปลี่ยนไป บอกว่า ถ้ามันทำให้เราไม่สบายใจขนาดนั้นเลยคุยไปเลยไหมหละ คนไม่สบายอยู่มาพิมอะไรแบบนี้มันปั่นทอนนะ บลาๆ จนทิ้งท้ายว่า จะไปก็ไปเถอะถ้ามันเสียเวลา เราจะไม่ยื้อเธอเลย ปวดหัว
หลังจากนั้นเอก็ไม่คุยกับเราอีกเลย จนเราทักไปถามว่าเงียบไปคือยังไง โกรธ งอน หรือจะเลิกคุย (เพราะปกติเอไม่ทำตัวแบบนี้ค่ะ มีอะไรเขาจะบอกตรงๆ ซึ่งเราก็เป็นคนอารมณ์ร้อนอยู่แล้ว เคยคุยกับเอเรื่องนี้แล้วด้วย) เอเลยตอบว่า มันเสียความรู้สึกไปแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าซ่อนสตอรี่เราตอนไหน เราตัดสินเขาแบบนั้นไปแล้ว เขาไม่อยากไปต่อกับเราแล้ว เพราะเราทำร้ายจิตใจเขา เราเลยบอกว่า ที่โมโหใส่วันนั้นคือเอไม่ตอบคำถามเราสักอย่าง และทำตามที่พูดไว้ไม่ได้เลยสักเรื่อง เอเลยบอกว่า พอเถอะ พอแค่นี้ ไม่อยากรู้สึกไม่ดีกับเราไปมากกว่านี้แล้ว เราก็ยื้อเออยู่สักพัก จนเราคิดว่ามันพอแล้ว เลยเงียบไป และหลังจากนั้นเรากับเอก็กลายเป็นคนแปลกหน้ากันไปเลยค่ะ
ปล. เอพาเราไปเจอน้องๆเอและคุณแม่ของเอแล้ว เราก็พาเอมาเจอที่บ้านเราแล้วเช่นกัน แต่การพามาเจอนั้นเป็นความบังเอิญทั้งสองฝ่าย เลยได้เจอครอบครัวของแต่ละฝ่ายแบบบังเอิญและไม่ทันตั้งตัว
ปล. ลึกๆเราอยากไปต่อกับเอ อยากลองใช้ชีวิตการเป็นแฟนด้วยกันก่อน เราเสียดายที่ยังไม่ได้เรียนรู้กันมากกว่านี้ ยอมรับว่าเสียเอไปเพราะปากและคำพูดของคนใจร้อนอย่างเรา
สามารถแสดงความเห็นได้ตามสมควรเลยค่ะ
แต่ตอนนี้เราดาวมากๆ อยากกลับไปปรับความเข้าใจและคุยกันอีกครั้ง เพราะที่ผ่านมามันดีมากๆเลยจริงๆ เอดูแลเราดูมากๆมีแต่เราที่ทำร้ายเอทางคำพูดแบบนั้น
คนเรามันเปลี่ยนไปได้เร็วขนาดนี้เลยหรอ
ช่วงแรก
เราเลิกกับแฟนที่คบกันมานาน 4 ปี เพราะเขานอกใจ เลิกมาได้เดือนนิดๆก็มีผู้ชายหลายคนเข้ามาคุยด้วย ส่วนมากจะเป็นเพื่อนสมัยมัธยมปลาย เพราะช่วงนั้นเราค่อนข้างฮอตที่สุดในห้อง555555 แต่เราก็ไม่ได้อยากคุยกับใครแบบผูกมัดเป็นพิเศษ เพราะแผลยังใหม่มากๆ+ไม่อยากดึงใครเข้ามาตอนนี้ จนมีเพื่อนของเพื่อนคนนึง (ขอใช้แทนว่า เอ นะคะ) เอเป็นเพื่อนของเพื่อนสนิทเรา เอเรียนห้องเดียวกันกับเพื่อนสนิทของเรา ซึ่งจะได้เจอกันบ่อยๆอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นเอไม่ได้มาคุยหรืออยู่ในสายตาของเราเลย จนมาถึงวันนี้ที่เอทักมาคุยด้วย เอบอกกับเราว่า มองเรามาตั้งแต่ม.ปลายแล้ว แต่ตอนนั้นเราคุยกับเพื่อนในกลุ่มเออยู่ เอเลยไม่อยากทำให้คสพ.ของเราตอนนั้นมันแย่ลง เลยรอให้เราโสดอีกครั้งถึงจะทักมา ซึ่งเอก็บอกว่า รอมาตั้ง 4 ปีเลยแหละ พอรู้ว่าเราโสดเขาก็เลิกกับแฟนพอดี (เอบอกว่ามีปัญหากับแฟนเลยเลิกกันช่วงเราโสดพอดี ไม่ได้มีเจตนาที่จะเลิกเพื่อมาหาเรา) เอเลยมาคุยกับเรา ออกทรงจีบแบบรุกหนักเลยค่ะ จนเรากลัวมากๆ เพราะเราไม่ชอบแบบนี้ เราเลยบอกเอว่า เราไม่ชอบที่รุกหนักแบบนี้เลย เพราะเราชอบฟิลเพื่อนมากกว่า ขอคุยเป็นเพื่อนแก้เหงาได้ไหม เอบอกว่าได้ทั้งหมดเพราะเขาอยากคุยกับเรามากๆ เราคุยกับเอไปได้ 5 วันเราก็เริ่มเบื่อค่ะ เพราะเอเป็นคนที่ชอบตื้อชอบจิกมากๆ และตอนนั้นเราฝึกงานอยู่ เลยไม่ค่อยมีเวลาและเหนื่อยหลังเลิกงาน เราเลยบอกเอว่า อย่ามาเสียเวลากับเราเลย เราแผลยังใหม่อยู่+ไม่อยากให้ความหวังเอไปมากกว่านี้ ซึ่งเอก็โอเค บอกว่ายอมรับในการตัดสินใจของเรา และเราก็หายออกจากชีวิตของเอไปประมาณ 2 อาทิตย์ แต่หลังจากที่เราบอกเอไป เอก็ยังมากดในสตอรี่เราอยู่เรื่อยๆค่ะ
ช่วงที่สอง
จนวันนึงเราลงสตอรี่เพลง คืนให้ (ลงให้แฟนเก่าเห็น) และพื้นหลังของสตอรี่นั้นก็เป็นรูปตอนเราปัจฉิม (แต่มันมีเอติดอยู่ในภาพนั้นด้วย ซึ่งเราไม่ทราบมาก่อน จนเอทักมา) และเอก็ตอบกลับสตอรี่มา โดยการส่งอิโมจิหน้าว้าว เราเลยตอบกลับไปว่า สวยใช่ไหมหละ555 (ติดตลก) เอเลยตอบว่า สวยมาก รูปคู่รูปแรกของเรา เราก็งงว่ารูปคู่อะไร เลยมองที่รูปดีๆ อ่อมีเอติดอยู่ด้วย หลังจากนั้นเรากับเอก็คุยกันฟิลเพื่อนมาตลอดค่ะ เรื่องตอนเรียนบ้าง เรื่องอจ.สอนเคมีบ้าง คือเราเรียนสายวิทย์-คณิตเหมือนกัน แต่คนละห้อง เลยมีอะไรคุยกันถูกคอหลายๆเรื่อง
มีวันนึงเราลงสตอรี่ว่า อยากไปกินตี๋น้อย ซึ่งเอก็ตอบกลับมาทันทีว่าไปไหมเดี๋ยวมารับ ซึ่งเราก็โอเคค่ะ เพราะคิดกับเอแค่เพื่อน ซึ่งเอก็มารับเราไปกิน ก็คุยกันปกติหลังจากส่งเรากลับบ้าน เอทักมาบอกว่า เราน่ารักกว่าที่คิดเยอะเลย วันหลังไปเที่ยวกันนะ เราเลยแบบคิดในใจว่า หรือเราจะกั๊กเอไว้เป็นคนคุยเล่นๆแก้ขัดไปก่อน ซึ่งเราก็ทำจริงๆค่ะ เอชวนไปไหนเราก็ไป แถมยังออกค่าน้ำมันรถให้อีกด้วย55555 เราไปทั้งคาเฟ่ อควาเรียม ทะเล ไปหลายที่มากใน 1 อาทิตย์ บ้ามากๆเลยค่ะ ซึ่งวันสุดท้ายที่เราไปเที่ยวกัน คือไปบางแสน ไปนั่งคาเฟ่ นั่งทานข้าวริมทะเล เดินตลาดนัดคนเดิน และเอมาโอบไหล่เราตลอดเลยค่ะตอนเดิน เราก็มองหน้าตลอด เอบอกว่าเพื่อนโอบกันไม่ได้หรอ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร ถึงเวลากลับบ้านซึ่งก่อนที่จะถึงบ้านเราจะต้องผ่านจุดที่รถติดมากๆ เราติดตรงนั้นเกือบชั่วโมง ซึ่งระหว่างนั้นเอก็จับมือเรา แล้วบอกว่า อยู่กับเอตลอดได้ไหม ให้เอได้ดูแลไปตลอดในฐานะอะไรก็ได้ตลอดไปได้ไหม อย่าหายจากเอเลย บลาๆ เรายอมรับว่าใจเต้นมากๆค่ะ เลยบอกกับเอว่า ก็ที่มาด้วยคือดูตัวอยู่นี่แหละ ยังไม่รับปากอะไรทั้งนั้น ดูๆไปก่อน ถ้าโอเคแล้วจะบอกนะจ๊ะ พร้อมกับตบหน้าเอเบาๆ เอก็ยิ้มแล้วบอกว่าจะรอนะ หลังจากนั้นเราก็รู้สึกว่าเราแอบมีใจให้เอเล็กๆ แอบคิดถึง แอบรอแชท แอบฝันถึงบ่อยๆ ซึ่งเราไม่คิดว่าการที่เราจะเอาเอไว้แค่คุยเล่นๆแก้เหงาจะมาถึงขั้นตกหลุมสะเอง
ช่วงที่สาม
หลังจากที่เที่ยวกันแบบมาราธอน เรากับเอก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย 3-4 วัน แต่แชทคุยกันตลอด จนมาวันนึงเอบอกว่า แมวที่เอเลี้ยงไว้หาย+ไม่มีใครอยู่ช่ยหา ให้เรามาช่วยหาแมวหน่อย ซึ่งเราเห็นแมวเอจากที่เอส่งมาในแชทบ่อยๆและมันน่ารักมากๆ ด้วยความที่เรารักแมวเราเลยแง้นมอไซส์ไปตามที่เอบอก (ซึ่งก็คือห้องของเอ) เราช่วยหาแมวอยู่นานมาก ไปตึกนู้นตึกนี่ ราวๆ 2 ชั่วโมงก็เจอน้องนั่งหลบอยู่ในโพรงหญ้า เราเลยบอกให้เอไปจับน้อง พอจับน้องเสร็จก็ขึ้นมาพักเหนื่อยบนห้องเอ เปิดแอร์เย็นฉ่ำ + ดูหนังไปด้วย ระหว่างดูหนังเอก็มาโอบเราเหมือนเดิมแล้วบอกว่า ไม่คิดว่าจะได้คุยกับเราถึงขั้นนี้ เพราะเราเป็นคนที่ฮอตมาก ส่วนเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยมีตัวตน ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ พร้อมกับลูบหัวเราไปด้วย เราเลยบอกว่า อย่าเวอร์หนะ เราก็คุยได้หมดแหละอยู่ที่ว่าจะมองเรายังไง แล้วเราก็ชวนคุยกันไปเรื่อยๆ จนถึงเวลากลับบ้าน เราก็กลับปกติค่ะ วันนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนเอทักมาบอกว่า พรุ่งนี้เอต้องไปมหาลัย ไปเอาใบจบเพื่อไปสมัครงาน เราก็บอกว่าโอเคเดี๋ยวโทรปลุกบลาๆ คุยเสร็จก็นอนตามปกติ
วันต่อมาเราก็โทรปลุกเอ เอก็รายงานตลอดว่า ถึงแล้วนะ แต่งตัวยังไง คือน่ารักมากๆค่ะ เราก็สบายใจและไปทำธุระของเรา พอเรากลับถึงบ้านเอก็โทรมาพอดีค่ะ บอกว่ามารับหน่อยที่มหาลัยเอ เพราะเอลืมกุญแจรถไว้ท้ายรถ และไม่สามารถเปิดรถได้ ซึ่งต้องกลับบ้านมาเอากุญแจสำรอง เราก็ว่างพอดีเลยไปรับเอมาที่ห้อง แต่!!ห้องเอดันล็อคกุญแจไว้ และลูกกุญแจอยู่ที่น้องเอ ซึ่งน้องเอไปนอนบ้านแฟนที่รังสิต วันนั้นเราเลยรับหน้าที่คนขับรถให้เอไปตามที่ต่างๆ เช่น ไปเอากุญแจบ้านที่บ้านแฟนน้องเอ และวิ่งกลับบ้านห้องเอ และวิ่งกลับมหาลัยเอเพื่อไปเอารถเอกลับบ้าน อุปสรรคเยอะมากๆ555555
ระหว่างที่เอได้กุญแจห้องแล้ว เลยไขเข้าไปเปิดแอร์นั่งกันสักพัก เพราะตอนนั้นบ่าย 2 กว่าๆ เอเลยบอกว่าจะออกจากห้องประมาณบ่าย 3 ครึ่ง เพื่อที่จะรับแวะน้องชายที่รรพอดี ก็เลยนั่งเล่นในห้อง+สั่งอะไรกิน+ดูหนัง ระหว่างนั้นเรากับเอก็ปกติค่ะ จนเราบอกว่าอิ่มอะของีบหน่อยนะ เพราะเราตื่นเช้ามากๆ+ขับรถทั้งวันเลยเพลีย เอเลยให้เราไปนอนในห้อง และปิดประตูให้ พอเรารู้สึกตัวอีกที เอก็มานอนกอดเราอยู่ข้างๆแล้วบอกว่า เมื่อไหร่จะเป็นแฟนกันสักทีอะ เราเลยบอกว่า บอกแล้วไงว่าดูๆไปก่อน แล้วเอก็มาจูบเราบอกว่า จูบจองไว้ก่อนนะ ห้ามหายห้ามหนีไปไหน เราก็ได้แต่อมยิ้มแล้วบอกว่า ก็คุยอยู่คนเดียวจะไปไหนหละ หลังจากคำพูดนั้นจบเราสองคนก็ล่วงเกินกันไปแล้วค่ะ ซึ่งมันเป็นอารมณ์ชั่ววูบจริงๆ และตอนที่เราจะกลับ เอก็ขอโทษเราแล้วบอกว่า ไม่ต้องกลัวว่าจะหายไปไหนนะ อยู่นี้แหละ อยู่กับเธอนี่แหละ สบายใจได้ รักนะครับ เราเลยรู้สึกดีมากๆ คิดแล้วว่าโอเคคนนี้แหละที่จะเปิดใจลองมีแฟนอีกครั้ง แต่...
ช่วงที่สี่
หลังจากวันนั้นเราก็ไปเจอเอแค่หน้าตึก เพราะน้องชายเอเป็นโควิด เอก็เป็นกลุ่มเสี่ยง เราเลยต้องเจอกันแบบห่างๆ และก็ไม่ได้เจอกันเลยเพราะเอติดจากน้องชาย ซึ่งระหว่างที่เอไม่สบายเอก็ไม่ทักมาคุย ไม่โทรไม่อะไรเลย มีแต่เราที่ทักไปตลอด เป็นแบบนี้มาเกือบอาทิตย์ นับคำได้เลยว่าคุยกี่คำ จนวันนึงเรารู้ว่าเอซ่อนสตอรี่ไอจีเรา ไม่ให้เราเห็น เราเลยเอาแอคหลุมไปส่อง ก็เห็นปกติ เราเลยโมโหเอมากๆ เลยถามว่าซ่อนทำไมและลงระเบิดไปชุดใหญ่ พร้อมกับทิ้งท้ายว่า นี่หรอคือคนที่บอกว่าจะอยู่กับเราตลอดไปหายไปไหน แต่ที่เธอทำมันไม่ใช่เลย ตอนแรกเหมือนเอยังไม่ได้อ่านทั้งหมดเลยพิมมาว่า "พิมอะไรมากเยอะขนาดน้านนน" แต่พอเออ่านแล้ว เอก็เปลี่ยนไป บอกว่า ถ้ามันทำให้เราไม่สบายใจขนาดนั้นเลยคุยไปเลยไหมหละ คนไม่สบายอยู่มาพิมอะไรแบบนี้มันปั่นทอนนะ บลาๆ จนทิ้งท้ายว่า จะไปก็ไปเถอะถ้ามันเสียเวลา เราจะไม่ยื้อเธอเลย ปวดหัว
หลังจากนั้นเอก็ไม่คุยกับเราอีกเลย จนเราทักไปถามว่าเงียบไปคือยังไง โกรธ งอน หรือจะเลิกคุย (เพราะปกติเอไม่ทำตัวแบบนี้ค่ะ มีอะไรเขาจะบอกตรงๆ ซึ่งเราก็เป็นคนอารมณ์ร้อนอยู่แล้ว เคยคุยกับเอเรื่องนี้แล้วด้วย) เอเลยตอบว่า มันเสียความรู้สึกไปแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าซ่อนสตอรี่เราตอนไหน เราตัดสินเขาแบบนั้นไปแล้ว เขาไม่อยากไปต่อกับเราแล้ว เพราะเราทำร้ายจิตใจเขา เราเลยบอกว่า ที่โมโหใส่วันนั้นคือเอไม่ตอบคำถามเราสักอย่าง และทำตามที่พูดไว้ไม่ได้เลยสักเรื่อง เอเลยบอกว่า พอเถอะ พอแค่นี้ ไม่อยากรู้สึกไม่ดีกับเราไปมากกว่านี้แล้ว เราก็ยื้อเออยู่สักพัก จนเราคิดว่ามันพอแล้ว เลยเงียบไป และหลังจากนั้นเรากับเอก็กลายเป็นคนแปลกหน้ากันไปเลยค่ะ
ปล. เอพาเราไปเจอน้องๆเอและคุณแม่ของเอแล้ว เราก็พาเอมาเจอที่บ้านเราแล้วเช่นกัน แต่การพามาเจอนั้นเป็นความบังเอิญทั้งสองฝ่าย เลยได้เจอครอบครัวของแต่ละฝ่ายแบบบังเอิญและไม่ทันตั้งตัว
ปล. ลึกๆเราอยากไปต่อกับเอ อยากลองใช้ชีวิตการเป็นแฟนด้วยกันก่อน เราเสียดายที่ยังไม่ได้เรียนรู้กันมากกว่านี้ ยอมรับว่าเสียเอไปเพราะปากและคำพูดของคนใจร้อนอย่างเรา
สามารถแสดงความเห็นได้ตามสมควรเลยค่ะ แต่ตอนนี้เราดาวมากๆ อยากกลับไปปรับความเข้าใจและคุยกันอีกครั้ง เพราะที่ผ่านมามันดีมากๆเลยจริงๆ เอดูแลเราดูมากๆมีแต่เราที่ทำร้ายเอทางคำพูดแบบนั้น