ขอแชร์ประสบการณ์...ความรักเก้าปี และแค้นต้องชำระ

อยากมาเล่าประสบการณ์ครอบครัวของเราและประสบการณ์ชีวิต ทั้งในวัยที่เป็นเด็ก และในวัยที่เป็นแม่คน 
สวัสดีค่ะ เราชื่อ ส้ม อายุ ยี่สิบเก้าปี 
ครอบครัวของเราเอง ไม่ได้มีความรักที่สมบูรณ์ พ่อแม่ได้สั่งสอนให้ตั้งใจเรียน ง่ายๆคือแล้วแต่เวรแต่กรรม 
แม่ของเราจะเป็นเสาหลักของครอบครัวเรา พ่อเราค่อนข้างเจ้าชู้มากๆ ตั้งแต่เราเกิดมา เราก็เห็นพ่อแม่ทะเลาะกันมาตลอด
เรามีพี่น้อง สองคน คือเรากับน้องชาย 
ภาพตอนเด็กของเรา พ่อมีเมียน้อย ส่วนแม่ก็มักจะกอด จะหอมน้องชาย อ่อนโยนกับน้องชาย แต่กับเราไม่เคยมี
ไม่ใช่ว่าแม่ไม่รักเรานะคะ เขาก็รักในแบบของเขา แค่ไม่แสดงออกเฉยๆ ตอนนั้นก็รู้สึกน้อยใจมากๆ แต่ก็นั้นละคะ 
หลายคนสงสัยว่าทำไมถึงต้องเล่าแบบนี้ก่อน คือมันเป็นจุดเริ่มต้นของความรู้าสึกที่ว่า ไม่ได้ความรักความอบอุ่นของครอบครัวเท่าไร 
มันเลยทำให้ อยากมีความรัก และมีคนที่รักเราสักคน

ฐานะบ้านของเรา ปานกลาง ไม่ได้รวย แต่ก็เป็นหนี้มากมาย แม่แบกรับภาระหนี้สิ้นไว้ โดยที่พ่อก็สบายใจกับการมีเมียน้อย
 
เราเรียนจบแค่ ม.6  เท่านั่น เพราะที่บ้านไม่มีตังส่งให้เรียนต่อค่ะ ออกมาหางานทำ 

เราคบกับแฟนคนแรกมา ตั้งแต่อายุ 17 ปี ตอนนั้นเขาคือทุกอย่างในชีวิต รักเขามาก แล้วเขาก็ดีกับเรามากจริงๆ 
จนเราคบกันเข้าปีที่ 4 เราได้ไปอยู่บ้านเขา  เนื่องจากเราไปหางานทำแถวๆจังหวัดเขา ตอนนั้นอายุ 21 มั่งค่ะ ราวๆนี้ 

เราทำงานเป็นเซลล์ของบริษัทหนึ่ง เจอลูกค้าต่างชาติ จุดนี้ทำให่ชีวิตเปลี่ยนค่ะ จากที่ไม่มีอะไร เราได้เงินเดือนหลักแสน ถึงสามแสน 
ตอนนั้นชีวิตดีมากๆ เราเอาเงินให้แม่ไปใช้หนี้ได้ทั้งหมด และส่งแฟนเรียน ข้าราชการ ให้เขาเดือนละ 9000 ณ ตอนนั้นคือเยอะมาก แต่ก็รักเขา
ไม่อยากให้เขาลำบาก  ซึ่งตอนนั้นคบกันก็เข้าปีที่ 6-7 เรามีเงินเก็บหลักล้าน ตอนนั้นชีวิตดีมาก แฟนไม่เคยเจ้าชู้หรือมีคนอื่น 
เราเข้ากับที่บ้านแฟนได้ดีมาก นิสัยของเราเป็นคนไม่ตามจิกแฟน แต่ก็จะมีถามบ้าง ไม่เช็คมือถือแฟน 

แล้วเราก็ท้อง ขอบอกก่อนว่าไม่ได้ตั้งใจปล่อย คือน้องเขามาเอง 

แฟนเราเริ่มไปฝึกงาน

จนเราท้องได้ 7 เดือน เราไม่เคยสังเกตุอาการของแฟนว่าเปลี่ยนไปไหมหรือยังไงเพราะมันดูปกติทุกอย่าง
วันหนึ่งมีผู้หญิงโทรมา เขาดูรนๆ ผิดปกติ แต่เราเป็นคนให้เกียรติแฟน ก็รอให้เขาคุยจบ เลยขอดูมือถือ สิ่งที่เจอคือ
เพื่อนร่วมงาน ในไลน์ ส่งข้อความทำนองว่า ที่รัก คิดถึง เตง เค้า ตอนนั้นก็อึ้งและช๊อค ถามเขาตรงๆ 
เขาบอกว่า ไม่มีอะไร เจ้แกเหงา พิมพ์ไปแบบนั้นแหละ ถ้าไม่เชื่อ พรุ่งนี้จะพาไปหา 
เราถึงดูประวัติการสนทนาทั้งหมด มีโทรหากัน เป็นชั่วโมง ถามตลอด ดูยังไงก็ไม่ใช่ลูกพี่กับลูกน้อง
เรารู้สึกตอนนั้นว่า ลูกเราไม่น่าเกิดมาตอนนี้เลย。。。。。。ทุกอย่างดูสายไปและแก้ไขไม่ได้แล้ว 

วันรุ่งขึ้นเลยให้แฟนพาไป สถานทีทำงาน  เราได้ไปเจอผู้หญิงคนนั้น เขาดูอึ้งๆ กับการที่เจอเรา แต่ตอนนั้นเขาก็เล่นกับท้องของเรา
ถามเราว่ากี่เดือนแล้ว ใกล้คลอดเมื่อไร ยังไง อะไรแบบไหน ก็เหมือนคนปกติ แต่เราก็รู้สึกถึงอะไรที่มันผิดปกติก็อยู่ 

เราจึงขอแฟนว่า ขอร้องได้ไหม อย่าคุยกันแบบนี้ เรารับไม่ได้และไม่อยากให้มันกระทบถึงจิตใจเรา 
เขาก็ รับปาก แต่ก็นั้นแหละ เหมือนเดิมมมมมม 

และการคุยของพวกเขาสองคนเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จนเราคลอดลูก 
ผู้หญิงคนนี้ก็มาเยี่ยม ก็ดูปกติ เราก็คิดว่า เออหรือว่าฉันคิดมากไปนะ 

แต่สามีก็เริ่มเปลี่ยนไปมากขึ้น 

ขอบอกก่อนนะคะ ว่าทุกค่าใช้จ่ายในบ้าน และคลอดลูก ฝากท้อง สามีไม่เคยออก เราเป็นคนรับผิดชอบเองทั้งหมด จะด่าว่าเราโง่ก็ได้ ขนาดเรามองย้อนกลับไป ยังคิดว่าทำไมควายจัง 

เริ่มห่างเหิน ไม่มีความเป็นพ่อคน ไม่ได้ช่วยดูแล อะไรหลายๆอย่าง รวมกับที่เราเป็นซึมเศร้าหลังคลอด 

ตอนนั้นเราเริ่มประสาท- เราทะเลาะกันเรื่องพวกเขาสองคนบ่อย จนรู้สึกว่ามันคงไม่ใช่แค่ร่วมงานแล้ว คงจะร่วมเตียงด้วย 

สามีเริ่มพูดถึง เรื่องของเราว่าห่างกันไหม เทอดูระแวงเกินไป เขาไม่สามารถทำงานได้ปกติ 

ตอนนั้นเราไม่มีหลักฐานอะไรค่ะ ที่จะเอาผิดพวกเขา มีแค่แชท 

เราเลยถอยออกมาเพื่อให้สุขภาพจิตของเราดีขึ้น ไม่ต้องคอยระแวง 

อยู่ๆ มีเมล์แจ้งเตือน  ของแอพหนึ่ง สามีเราได้จองที่พัก สามคืน ของจังหวัดภาคใต้ไว้ 

เราเลยจ้างนักสือตาม 

ก็นั้นแหละคะ สิ่งที่ได้คือ เป็นไปตามที่คิดทั้งหมด รู้สึกว่าโลกพังลงมาเลย 

แต่เราก็ไม่ได้ไปตามโวยวายหรือไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้นะคะ เราเก็บไว้เงียบคนเดียว

ตอนนั้นจากน้ำหนัก49 เหลือแค่ 38 มันกินไม่ได้นอนไม่หลับเลยค่ะ 

เราเคยคิดสั้น อยากตายมากๆ ไปยืนอยู่หน้าสะพานแม่น้ำ เราไปยืนตรงนั้นนานมาก 
อยากตายให้มันจบๆ มันทรมานมากๆ  ไม่รู้ว่าทำไมต้องมาเจอแบบนี้ และรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่。。。。。ฉันแค้นพวกมันสองคนมาก เราคิดว่าถ้าเราตายไป พวกมันก็สบาย เราสิต้องทรมาน แล้วลูกเราละ เขาจะอยู่กับใคร

เราเลยคิดได้ 

ตอนนั้นเราเรียกพวกเขามาคุยว่าเรารู้เรื่องที่ไปเที่ยวกันนะ และขอให้จบแค่นั้น เราจะไม่รื้อเรื่องราวนี้
ขึ้นมาพูดอีก เพราะเราอยากรักษาครอบครัว พ่อแม่ลูกไว้ พวกเขารับปาก เรื่องนี้ถึงผู้ใหญ่ ณ ที่ทำงานด้วยนะคะ

หลังจากวันนั้น สองสามวันก็เหมือนจะดีขึ้น แต่ก็ 

ผู้หญิงได้ไปรอสามีเราที่โรงแรม สามวันสามคืน  สามีเราไปไม่ได้เพราะติดตรงอยู่กับเรา 
และเขาได้ขอว่ามีงานเช้าต้องกลับไปนอนที่บ้านพัก เรารู้อยู่ว่ามันจะเป็นยังไงต่อ เราก็เหนื่อยมากแล้วกับเรื่องพวกนี้
ก็เลยปล่อยให้พวกเขาสมสู่กันไป แบบว่าไม่รู้ว่าใครรู้บ้าง 

แต่ก็นั้นละ เชี้ยก็คือเชี้ย เหมือนเดิม
 
เราเลยยอมแพ้ค่ะ ในการเอาสามีกับมาเป็นสามีของเรา 

เราไม่เคยบอกพวกเขา ว่าเราทำอะไร มีหลักฐานอะไร หรือยังไง เราเงียบถึงเงียบมากที่สุด 

เราก็สั่งให้นักสืบไปขอกล้องวงจร และอะไรต่างๆมา 

และรูปภาพที่เขาถ่ายกันตอนไปเที่ยวทะเล มันลิงค์กับเครื่องของเรา 
มีทั้งรูป 18+ และหลายอย่างมาก  มันคือหลักฐานชั้นดีเลยทีเดียว 

เราเลยจุดเจ็บปวดมาแล้วค่ะ รู้สึกเฉยๆแล้ว 
เราเหนื่อย เราเบื่อ เราสงสารตัวเอง  และสมเพชตัวเองมาก 

เราเลยฟ้องชู้และวินัยข้าราชการ เราฟ้องมารวมๆแล้ว 4ล้านบาท 
เราคิดว่า มีเงินดีกว่า ไม่มีสามีชีวิตก็อยู่ได้ 
และเขาได้รับบทเรียน ใช้หนี้กันไป 4ล้านบาท 
ขอบคุณฉันได้ชีวิตใหม่ พร้อมเงิน ตั้งต้นชีวิต 
เสียผู้ชายเลวไปชีวิตดีขึ้นแน่นอน 

ณ ตอนนั้นจบบทชีวิตคู่ เก้าปี 

และเขาต้องเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเรียนของลูก เพียงผู้เดียว
และต้องส่งลูกจนกว่าจะจบ ป。โท 

เราก็เดินออกมาใช้ชีวิตกับลูกสองคน 

ลองมองย้อนกลับไป ชีวิตเราหลังจากที่เลิกกับเขา ตอนนั้นรู้สึกโลกพังมาก แต่มีลูกเป็นกำลังใจขั้นดี
มันให้ข้อคิดอะไรหลายๆอย่าง 

ถ้าเราได้ความรักความอบอุ่นจากครอบครัวของเรามันน่าจะดีกว่านี้ 
พื้นฐานความเข้าใจและความรักจากครอบครัวสำคัญมากจริงๆ 
ใครที่เป็นพ่อแม่เหมือนเรา อยากให้คุณให้เวลาพวกเขาจริงๆ
ช่วงอายุหนึ่ง เขาต้องการคุณ  พ่อแม่คือสิ่งสำคัญในชีวิตลูก
เขารักคุณมาก และหวังว่าคุณจะรักเขามากเช่นกัน
แต่เมื่อเขาโตขึ้น เขาจะไม่ต้องการคุณ เขาต้องการเพื่อนแทน 
จากประสบการณ์ที่เคยเจอตอนเด็ก 

และแล้ววันหนึ่ง สามีเริ่มมาง้อ แต่เราไม่ได้กลับไป
เขาก็บอกว่าขอโทษ เขาทำทุกอย่างพัง เขาทำครอบครัวเขาพังเอง 
เราดีมาก เราไม่ผิดเลย 
เราเป็นคนใหม่ค่ะ ไม่รักใครง่ายๆ  แล้วเราก็อยู่คนเดียวมา สองสามปี 

จนมาเจอสามีใหม่ คือ เราพึ่งเจอความรักที่ให้เต็มร้อย 
ความรักที่ไม่ต้องร้องขอ สามีใหม่เราเป็นชาวต่างชาติ 
ความรักที่ผู้ชายเป็นผู้นำ ความรักที่ดีมันเป็นแบบนี้เอง
สามีเราเป็นคนมีฐานะ เขารักลูกเรามาก 
ซื้อบ้านให้เรา  เลี้ยงดูเราดีมาก

เรื่องเราก็มีประมาณนี้ จริงๆมันเลวร้ายกว่านี้เรื่องมือที่สาม แต่เราไม่อยากจะรื้อสักเท่าไร เราแบบคร่าวๆ
แทนแล้วกัน 

ส่วนใครที่เจอแบบเรา ณ ตอนนั้น
อยากให้คุณคิดว่า โลกไม่ได้มีเพียงผู้ชายคนเดียว
มีอะไรมากมายที่เรายังไม่เคยเจอ 
ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ 
ทุกอย่างไม่ได้เกิดจากกรรม เกิดจากการกระทำล้วนๆ 
และอย่ากลัว ถ้าต้องเดินแล้วมีเข็มทิ่มเท้า จงกล้าที่ก้าวออกมา
ไม่มีใครรักคุณเท่ากับครอบครัว และตัวคุณเองจริงๆ 

ขอบคุณที่อ่านจนจบ เราเขียนไม่เก่ง ขออภัยด้วยนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่