ความเคลื่อนไหววันที่ 6
20.08 น.
นายพลชวนรู้สึกว่าสิ่งที่วางแผนไว้มาหลายปี มันดูคลาดเคลื่อนไปหมด
ตอนนี้ประชาชนหันมาสนใจเหล่าเชื้อพระวงศ์มากขึ้น
ซึ่งผิดจากที่เขาคาดไว้ เขาวางแผนลดเครดิตเชื้อพระวงศ์ของโสฬสมาโดยตลอด
แต่ดูเหมือนสิ่งที่ทุ่มเทไป มันไม่ค่อยมีอะไรงอกเงย
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาปล่อยให้นายพลเฉินเป็นนายกรัฐมนตรีของโสฬส
และอยู่ครองตำแหน่งมา 14 ปี ตลอด 14 ปี นายพลชวนก็ทำโฆษณาชวนเชื่อ
ให้ประชาชนอยู่ข้างฝ่ายทหาร แล้วเขาก็ปล่อยข่าวดิสเครดิตพวกอยู่ในวังไปพร้อม ๆ กัน
เรื่องเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงตอนที่นายพลชวนมีส่วนทำให้กวินได้เป็นนายก
ตอนนั้น นายพลเฉินก็อยากเป็นนายกต่อ แต่นายพลชวนอยากจะสั่งสอนเขา
นายพลชวนส่งเงินให้พวก ส.ส. และ ส.ว. แล้วสั่งให้โหวตกวินเป็นนายก
นายพลเฉินโกรธมาก นายพลชวนคิดว่านายพลเฉินคงจะเข้ามาคุย
ถ้าเข้ามา เขาจะได้หว่านล้อมให้กลายเป็นพวกเดียวกัน แต่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นอย่างนั้น
นายพลเฉินดันห่างออกไปอีก ไม่ติดต่อไม่คุย แถมนายพลเฉินกับนายพลแม็ก
ยังเอากองกำลังทหารร่วมกันไปอีก 50% ซึ่งทำให้นายพลชวนถึงกับต้องกุมขมับ
อีกฝั่งนึง นายพลชวนเคยญาติดีกับอรชุน แต่ดันมาผิดใจกันอีก
อรชุนยืนยันแต่จะลอบปลงพระชนม์กษัตริย์หลุยส์ นายพลชวนคิดว่าเขาคิดง่ายไป
คดีลอบปลงพระชนม์ถือเป็นคดีใหญ่ ถึงแม้คุณจะทำได้ แต่หลังจากนั้นคุณจะคุมทุกอย่างอยู่หรือไม่
นายพลชวนคิดว่าอรชุนกำลังจะทำอะไรที่มันใหญ่เกินตัว
แต่ตัวเขาเองมองไม่เห็นอุปสรรคข้างหน้า และแทบจะมองไม่เห็นอนาคต
การคิดต่างกันสุดขั้ว เป็นผลให้ต้องแตกคอกันจากวันนั้นเป็นต้นมา
นายพลชวนกำลังวิเคราะห์สถานการณ์ ณ เวลานี้ว่า ทางฝั่งเขามักจะแตกคอกันไปเรื่อย ๆ
รวมกลุ่มกันไม่ค่อยได้ ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง ดันรวมกลุ่มกันได้
แถมยังเป็นกลุ่มที่เหลือเชื่อคือมีทั้งกษัตริย์ เชื้อพระวงศ์ นักธุรกิจ ตำรวจ นายก ผู้นำนักศึกษาฯ
เขาเองอาจเป็นสาเหตุที่ไมไ่ด้ตั้งใจ แต่ดันทำให้พวกนี้รวมกลุ่มกันได้
การรวมกลุ่มกันครั้งนี้ทำให้กษัตริย์และเชื้อพระวงศ์กำลังเป็นที่สนใจมากยิ่งขึ้น
และยังทำให้วังทั้ง 7 วังดารและวังวริศราที่ดูเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ กลับมาญาติดีกัน
แถมยังทำให้กษัตริย์หลุยส์กับเจ้าชายจามรได้มีโอกาสในการสานสัมพันธ์ที่ดูจืดจางมาหลายปี
บรรยากาศเช่นนี้ แทบจะไม่เป็นผลดีต่อทางฝั่งของนายพลชวนเลยแม้แต่น้อย
ขณะที่กำลังคิดอย่างเคร่งเครียด นาถรพีก็นำบรั่นดีและกับแกล้มมาเสริฟ
"ดื่มหน่อยนะคะ จะได้หายเครียด"
"ตอนนี้ถ้าฉันไม่มีเธอ ฉันคงล้ากว่านี้มาก"
"แต่ละเรื่องต้องค่อย ๆ คิดค่ะ ท่านเองยังมีโอกาสที่จะทำอะไรอีกเยอะ"
"แต่ตอนนี้หลายช่องทางมันก็ตีบตันมากเลยนะ"
"ก็ค่อย ๆ แก้เป็นจุด ๆ ไปค่ะท่าน แล้วทุกอย่างมันจะดีขึ้นมาเอง"
นายพลชวนมองนาถรพีอย่างซาบซึ้ง
"ฉันเลือกคนไม่ผิดเลยจริง ๆ"
"สายตาของท่านแหลมคมเสมอค่ะ"
นายพลชวนรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ทั้งสวยและมีสมอง หายากมากในสมัยนี้
"ช่วงเย็นมีข่าวว่าคุณวรรณาไปออกงานค่ะ เธอสวยมากเลยนะคะ"
นายพลชวนยิ้มอย่างมีความสุข
"เป็นงานแรกเลยนะ ตั้งแต่ไปเป็นสะใภ้รองที่วิลล่าพาเลซ"
นาถรพีนิ่งไปนิดนึงก่อนที่จะพูดต่อ
"สะใภ้ใหญ่เขาเพิ่งเปิดโอกาสให้เหรอคะ"
"ไม่น่าจะใช่นะ ตัววรรณาเองต่างหากที่เพิ่งพร้อม"
นาถรพีรู้สึกว่านายพลชวนรู้สึกดีต่อศรีจิตรา
เธอยังไม่จำเป็นต้องกวนน้ำให้ขุ่นในตอนนี้
"ได้ข่าวว่าคุณจักรพรรดิไปพักฟื้นที่มหาเวหนเหรอคะ"
"ใช่ ตั้งแต่ออกจากป่าเดือนพันดาวนั่นแหละ คิดว่าคงต้องใช้เวลาอีกสักพักนะ
ถึงจะกลับไปพักฟื้นที่วิลล่าพาเลซ"
นาถรพีสงสัยว่าเรื่องนี้น่าจะมีเลศนัย
"คุณวรรณารู้สึกมีความสุขดีเหรอคะตอนที่อยู่ที่นั่น"
"ก็โอเคนะ ได้ข่าวว่าตอนที่จักรพรรดิไปพักฟื้นที่มหาเวหน
ศรีจิตราแต่งตั้งให้นายสิงหราชเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของวรรณาด้วย
จะได้ช่วยรักษาความปลอดภัยกันอีกแรง สะใภ้ใหญ่ของวิลล่าพาเลซนี่รอบคอบมากเลยนะ
มิน่าล่ะ ผู้ชายเจ้าชู้อย่างจักรพันธ์จึงต้องหยุดทุกอย่างไว้กับเธอคนนี้"
นาถรพีไม่ชอบข้อความเหล่านั้นเลย แต่เธอต้องซ่อนทุกอารมณ์เอาไว้
ไม่ให้นายพลชวนจับได้
ณ เวลานี้ นายพลชวนกลายเป็นที่พึ่งสุดท้ายของเธอ
เธอไม่สามารถจะหันหน้าไปพึ่งพาใครได้อีกแล้ว
เธอเห็นว่าเธอจะต้องยึดหลักนี้ไว้ให้มั่น และจะพลาดไม่ได้อีก
เธอเองอยากไปวิลล่าพาเลซใจจะขาด เธอกำลังคิดว่าจะหาหนทางอ้างกับนายพลชวนอย่างไรดี
แต่มันก็เหมือนกับฟ้าบันดาลเมื่อนายพลชวนเอ่ยขึ้นว่า
"พรุ่งนี้ คุณเอากระเช้าผลไม้ไปเยี่ยมเยียนยัยหม่อมป้าที่วิลล่าพาเลซหน่อยสิ
แล้วช่วยสืบความเคลื่อนไหวของที่นั่นมาให้ฉันหน่อย เอารถคันใหญ่ไปเลยนะ
เอาผู้ติดตามไปสัก 4 คน พวกมันจะได้เกรงบารมีเธอบ้าง
แนะนำตัวไปเลยว่าคือหวานใจคนใหม่ของฉัน พวกนั้นจะได้ให้เกียรติเธอบ้าง"
"ขอบคุณค่ะท่าน ดิฉันจะทำทุกอย่างเพื่อท่านค่ะ"
นายพลชวนดึงตัวนาถรพีเข้าไปกอดและหอม ทั้งสองมองตากันก่อนจะค่อย ๆ เดินไปที่ห้องนอน
20.37 น.
สหัสอยู่ในห้องบรรทมกับกษัตริย์หลุยส์
เมื่อกษัตริย์หลุยส์เห็นรูปสหัสว่อนเน็ต จึงทักขึ้น
"นายกำลังเนื้อหอมนะ หมายถึงในเน็ตตอนนี้"
"กระหม่อม"
"อืม นายผ่านงานมาเยอะนะ นายแบบ ทหาร สายลับ พลแม่นปีน บอดี้การ์ด
นายเชี่ยวชาญหลายอย่างมาก"
"ขอบพระทัยกระหม่อม"
"แล้วนายมาอยู่กับวิลล่าพาเลซนานหรือยัง"
"ประมาณสองปีได้แล้วกระหม่อม คุณธนัชเมตตาผมครับ
โดยมากผมก็จะทำงานที่ตึกรามายนะ เข้าวิลล่าพาเลซเป็นบางครั้ง"
"นายฉะฉานในการตอบคำถามมาก นายไม่ประหม่าเลยนะ"
"กระหม่อม"
"แสดงว่านายฝึกมาดีในทุกแนวทาง"
"กระหม่อม"
"นายตามฉันมา"
กษัตริย์หลุยส์นำสหัสเดินตามไปในทางลับส่วนตัว จนมาถึงประตูบานหนึ่ง
พอเปิดออกไป จะพบกับสนามมวยปล้ำมาตรฐาน
"ที่วังมีอะไรแบบนี้ด้วยเหรอกระหม่อม"
กษัตริย์หลุยส์ทรงยิ้ม "เราไปห้องแต่งตัวกัน"
ทั้งสองเปลี่ยนเป็นชุดมวยปล้ำในแบบที่คล้ายนุ่งกางเกงในตัวเดียว
และสวมบูทมวยปล้ำ "อย่าออมมือให้เราเด็ดขาดนะ" กษัตริย์หลุยส์ทรงย้ำ
ทั้งคู่ขึ้นเวที ปล้ำกันอย่างดุเดือด แต่ในท้ายที่สุด กษัตริย์หลุยส์กลับเป็นฝ่ายชนะ
กษัตริย์หลุยส์ชวนสหัสนั่งพักบนเวทีก่อน
"ท่านทรงปราดเปรื่องมากครับ"
กษัตริย์หลุยส์นิ่งนิดนึงก่อนที่จะหันไปสบตากับสหัส
"จริง ๆ แล้ว ฉันไม่ใช่กษัตริย์หลุยส์หรอก ฉันเป็นสายลับ"
"ว่าไงนะ" สหัสตกใจมาก
"บังเอิญฉัน รูปร่างหน้าตาคล้ายกษัตริย์หลุยส์ พอราชินีโซเฟียทรงติดต่อมา
ฉันก็ต้องฝึกทุกอย่างจนทำให้ตัวเองกลายเป็นกษัตริย์หลุยส์อย่างแนบเนียน"
"แล้วกษัตริย์หลุยส์ตัวจริงอยู่ที่ไหน เออ กระหม่อม"
"ราชินีโซเฟียทรงบอกฉันว่ากษัตริย์หลุยส์ทรงสวรรคตไปแล้ว แต่ฉันไม่เชื่อ
ฉันคิดว่ากษัตริย์หลุยส์น่าจะยังมีชีวิตอยู่ และตอนนี้ฉันก็สงสัยอยู่ 1 คนว่าคน ๆ นั้น
น่าจะเป็นกษัตริย์หลุยส์"
"แล้วท่านสงสัยใคร" สหัสถามด้วยอาการตื่นเต้น
กษัตริย์หลุยส์ทรงหันไปยิ้มให้เขา แล้วทรงกล่าวว่า
"นายไง"
วิมานมายา โดย ศักดา ตอนที่ 39 ความเคลื่อนไหววันที่ 6 เริ่ม 20.08 น.
20.08 น.
นายพลชวนรู้สึกว่าสิ่งที่วางแผนไว้มาหลายปี มันดูคลาดเคลื่อนไปหมด
ตอนนี้ประชาชนหันมาสนใจเหล่าเชื้อพระวงศ์มากขึ้น
ซึ่งผิดจากที่เขาคาดไว้ เขาวางแผนลดเครดิตเชื้อพระวงศ์ของโสฬสมาโดยตลอด
แต่ดูเหมือนสิ่งที่ทุ่มเทไป มันไม่ค่อยมีอะไรงอกเงย
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาปล่อยให้นายพลเฉินเป็นนายกรัฐมนตรีของโสฬส
และอยู่ครองตำแหน่งมา 14 ปี ตลอด 14 ปี นายพลชวนก็ทำโฆษณาชวนเชื่อ
ให้ประชาชนอยู่ข้างฝ่ายทหาร แล้วเขาก็ปล่อยข่าวดิสเครดิตพวกอยู่ในวังไปพร้อม ๆ กัน
เรื่องเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงตอนที่นายพลชวนมีส่วนทำให้กวินได้เป็นนายก
ตอนนั้น นายพลเฉินก็อยากเป็นนายกต่อ แต่นายพลชวนอยากจะสั่งสอนเขา
นายพลชวนส่งเงินให้พวก ส.ส. และ ส.ว. แล้วสั่งให้โหวตกวินเป็นนายก
นายพลเฉินโกรธมาก นายพลชวนคิดว่านายพลเฉินคงจะเข้ามาคุย
ถ้าเข้ามา เขาจะได้หว่านล้อมให้กลายเป็นพวกเดียวกัน แต่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นอย่างนั้น
นายพลเฉินดันห่างออกไปอีก ไม่ติดต่อไม่คุย แถมนายพลเฉินกับนายพลแม็ก
ยังเอากองกำลังทหารร่วมกันไปอีก 50% ซึ่งทำให้นายพลชวนถึงกับต้องกุมขมับ
อีกฝั่งนึง นายพลชวนเคยญาติดีกับอรชุน แต่ดันมาผิดใจกันอีก
อรชุนยืนยันแต่จะลอบปลงพระชนม์กษัตริย์หลุยส์ นายพลชวนคิดว่าเขาคิดง่ายไป
คดีลอบปลงพระชนม์ถือเป็นคดีใหญ่ ถึงแม้คุณจะทำได้ แต่หลังจากนั้นคุณจะคุมทุกอย่างอยู่หรือไม่
นายพลชวนคิดว่าอรชุนกำลังจะทำอะไรที่มันใหญ่เกินตัว
แต่ตัวเขาเองมองไม่เห็นอุปสรรคข้างหน้า และแทบจะมองไม่เห็นอนาคต
การคิดต่างกันสุดขั้ว เป็นผลให้ต้องแตกคอกันจากวันนั้นเป็นต้นมา
นายพลชวนกำลังวิเคราะห์สถานการณ์ ณ เวลานี้ว่า ทางฝั่งเขามักจะแตกคอกันไปเรื่อย ๆ
รวมกลุ่มกันไม่ค่อยได้ ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง ดันรวมกลุ่มกันได้
แถมยังเป็นกลุ่มที่เหลือเชื่อคือมีทั้งกษัตริย์ เชื้อพระวงศ์ นักธุรกิจ ตำรวจ นายก ผู้นำนักศึกษาฯ
เขาเองอาจเป็นสาเหตุที่ไมไ่ด้ตั้งใจ แต่ดันทำให้พวกนี้รวมกลุ่มกันได้
การรวมกลุ่มกันครั้งนี้ทำให้กษัตริย์และเชื้อพระวงศ์กำลังเป็นที่สนใจมากยิ่งขึ้น
และยังทำให้วังทั้ง 7 วังดารและวังวริศราที่ดูเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ กลับมาญาติดีกัน
แถมยังทำให้กษัตริย์หลุยส์กับเจ้าชายจามรได้มีโอกาสในการสานสัมพันธ์ที่ดูจืดจางมาหลายปี
บรรยากาศเช่นนี้ แทบจะไม่เป็นผลดีต่อทางฝั่งของนายพลชวนเลยแม้แต่น้อย
ขณะที่กำลังคิดอย่างเคร่งเครียด นาถรพีก็นำบรั่นดีและกับแกล้มมาเสริฟ
"ดื่มหน่อยนะคะ จะได้หายเครียด"
"ตอนนี้ถ้าฉันไม่มีเธอ ฉันคงล้ากว่านี้มาก"
"แต่ละเรื่องต้องค่อย ๆ คิดค่ะ ท่านเองยังมีโอกาสที่จะทำอะไรอีกเยอะ"
"แต่ตอนนี้หลายช่องทางมันก็ตีบตันมากเลยนะ"
"ก็ค่อย ๆ แก้เป็นจุด ๆ ไปค่ะท่าน แล้วทุกอย่างมันจะดีขึ้นมาเอง"
นายพลชวนมองนาถรพีอย่างซาบซึ้ง
"ฉันเลือกคนไม่ผิดเลยจริง ๆ"
"สายตาของท่านแหลมคมเสมอค่ะ"
นายพลชวนรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ทั้งสวยและมีสมอง หายากมากในสมัยนี้
"ช่วงเย็นมีข่าวว่าคุณวรรณาไปออกงานค่ะ เธอสวยมากเลยนะคะ"
นายพลชวนยิ้มอย่างมีความสุข
"เป็นงานแรกเลยนะ ตั้งแต่ไปเป็นสะใภ้รองที่วิลล่าพาเลซ"
นาถรพีนิ่งไปนิดนึงก่อนที่จะพูดต่อ
"สะใภ้ใหญ่เขาเพิ่งเปิดโอกาสให้เหรอคะ"
"ไม่น่าจะใช่นะ ตัววรรณาเองต่างหากที่เพิ่งพร้อม"
นาถรพีรู้สึกว่านายพลชวนรู้สึกดีต่อศรีจิตรา
เธอยังไม่จำเป็นต้องกวนน้ำให้ขุ่นในตอนนี้
"ได้ข่าวว่าคุณจักรพรรดิไปพักฟื้นที่มหาเวหนเหรอคะ"
"ใช่ ตั้งแต่ออกจากป่าเดือนพันดาวนั่นแหละ คิดว่าคงต้องใช้เวลาอีกสักพักนะ
ถึงจะกลับไปพักฟื้นที่วิลล่าพาเลซ"
นาถรพีสงสัยว่าเรื่องนี้น่าจะมีเลศนัย
"คุณวรรณารู้สึกมีความสุขดีเหรอคะตอนที่อยู่ที่นั่น"
"ก็โอเคนะ ได้ข่าวว่าตอนที่จักรพรรดิไปพักฟื้นที่มหาเวหน
ศรีจิตราแต่งตั้งให้นายสิงหราชเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของวรรณาด้วย
จะได้ช่วยรักษาความปลอดภัยกันอีกแรง สะใภ้ใหญ่ของวิลล่าพาเลซนี่รอบคอบมากเลยนะ
มิน่าล่ะ ผู้ชายเจ้าชู้อย่างจักรพันธ์จึงต้องหยุดทุกอย่างไว้กับเธอคนนี้"
นาถรพีไม่ชอบข้อความเหล่านั้นเลย แต่เธอต้องซ่อนทุกอารมณ์เอาไว้
ไม่ให้นายพลชวนจับได้
ณ เวลานี้ นายพลชวนกลายเป็นที่พึ่งสุดท้ายของเธอ
เธอไม่สามารถจะหันหน้าไปพึ่งพาใครได้อีกแล้ว
เธอเห็นว่าเธอจะต้องยึดหลักนี้ไว้ให้มั่น และจะพลาดไม่ได้อีก
เธอเองอยากไปวิลล่าพาเลซใจจะขาด เธอกำลังคิดว่าจะหาหนทางอ้างกับนายพลชวนอย่างไรดี
แต่มันก็เหมือนกับฟ้าบันดาลเมื่อนายพลชวนเอ่ยขึ้นว่า
"พรุ่งนี้ คุณเอากระเช้าผลไม้ไปเยี่ยมเยียนยัยหม่อมป้าที่วิลล่าพาเลซหน่อยสิ
แล้วช่วยสืบความเคลื่อนไหวของที่นั่นมาให้ฉันหน่อย เอารถคันใหญ่ไปเลยนะ
เอาผู้ติดตามไปสัก 4 คน พวกมันจะได้เกรงบารมีเธอบ้าง
แนะนำตัวไปเลยว่าคือหวานใจคนใหม่ของฉัน พวกนั้นจะได้ให้เกียรติเธอบ้าง"
"ขอบคุณค่ะท่าน ดิฉันจะทำทุกอย่างเพื่อท่านค่ะ"
นายพลชวนดึงตัวนาถรพีเข้าไปกอดและหอม ทั้งสองมองตากันก่อนจะค่อย ๆ เดินไปที่ห้องนอน
20.37 น.
สหัสอยู่ในห้องบรรทมกับกษัตริย์หลุยส์
เมื่อกษัตริย์หลุยส์เห็นรูปสหัสว่อนเน็ต จึงทักขึ้น
"นายกำลังเนื้อหอมนะ หมายถึงในเน็ตตอนนี้"
"กระหม่อม"
"อืม นายผ่านงานมาเยอะนะ นายแบบ ทหาร สายลับ พลแม่นปีน บอดี้การ์ด
นายเชี่ยวชาญหลายอย่างมาก"
"ขอบพระทัยกระหม่อม"
"แล้วนายมาอยู่กับวิลล่าพาเลซนานหรือยัง"
"ประมาณสองปีได้แล้วกระหม่อม คุณธนัชเมตตาผมครับ
โดยมากผมก็จะทำงานที่ตึกรามายนะ เข้าวิลล่าพาเลซเป็นบางครั้ง"
"นายฉะฉานในการตอบคำถามมาก นายไม่ประหม่าเลยนะ"
"กระหม่อม"
"แสดงว่านายฝึกมาดีในทุกแนวทาง"
"กระหม่อม"
"นายตามฉันมา"
กษัตริย์หลุยส์นำสหัสเดินตามไปในทางลับส่วนตัว จนมาถึงประตูบานหนึ่ง
พอเปิดออกไป จะพบกับสนามมวยปล้ำมาตรฐาน
"ที่วังมีอะไรแบบนี้ด้วยเหรอกระหม่อม"
กษัตริย์หลุยส์ทรงยิ้ม "เราไปห้องแต่งตัวกัน"
ทั้งสองเปลี่ยนเป็นชุดมวยปล้ำในแบบที่คล้ายนุ่งกางเกงในตัวเดียว
และสวมบูทมวยปล้ำ "อย่าออมมือให้เราเด็ดขาดนะ" กษัตริย์หลุยส์ทรงย้ำ
ทั้งคู่ขึ้นเวที ปล้ำกันอย่างดุเดือด แต่ในท้ายที่สุด กษัตริย์หลุยส์กลับเป็นฝ่ายชนะ
กษัตริย์หลุยส์ชวนสหัสนั่งพักบนเวทีก่อน
"ท่านทรงปราดเปรื่องมากครับ"
กษัตริย์หลุยส์นิ่งนิดนึงก่อนที่จะหันไปสบตากับสหัส
"จริง ๆ แล้ว ฉันไม่ใช่กษัตริย์หลุยส์หรอก ฉันเป็นสายลับ"
"ว่าไงนะ" สหัสตกใจมาก
"บังเอิญฉัน รูปร่างหน้าตาคล้ายกษัตริย์หลุยส์ พอราชินีโซเฟียทรงติดต่อมา
ฉันก็ต้องฝึกทุกอย่างจนทำให้ตัวเองกลายเป็นกษัตริย์หลุยส์อย่างแนบเนียน"
"แล้วกษัตริย์หลุยส์ตัวจริงอยู่ที่ไหน เออ กระหม่อม"
"ราชินีโซเฟียทรงบอกฉันว่ากษัตริย์หลุยส์ทรงสวรรคตไปแล้ว แต่ฉันไม่เชื่อ
ฉันคิดว่ากษัตริย์หลุยส์น่าจะยังมีชีวิตอยู่ และตอนนี้ฉันก็สงสัยอยู่ 1 คนว่าคน ๆ นั้น
น่าจะเป็นกษัตริย์หลุยส์"
"แล้วท่านสงสัยใคร" สหัสถามด้วยอาการตื่นเต้น
กษัตริย์หลุยส์ทรงหันไปยิ้มให้เขา แล้วทรงกล่าวว่า
"นายไง"