สืบเนื่องมาจากเราเป็นคนที่ถูกเลี้ยงดูแบบเฝ้าบ้านและอยู่คนเดียวในบ้านมาตลอด ปิดเทอมก็อยู่แต่ในบ้าน หางานก็อยู่แต่ในบ้าน พอเปิดเทอมชีวิตก็มีแต่เรียน เที่ยวคนเดียวบ้าง แต่ส่วนใหญ่ตรงดิ่งกลับบ้าน ไปดูเมะ ดูหนัง ฟังเพลง อยู่คนเดียวเงียบๆมุมห้อง ยิ่งโควิดยิ่งแล้วใหญ่ แทบปลีกวิเวกไม่คุยกับใครเลย เพื่อนข้างบ้านไม่มี เพื่อนในชีวิตจริงถ้าไม่ใช่สายเดียวกันและคุยสนุกเราจะไม่คุยเลย ซึ่งทั้งชีวิตนับได้ว่ามีแค่สองคนที่เรากล้าแสดงออกใส่แต่ก็ไม่ค่อยคุย คนส่วนใหญ่ที่เรารู้จักและรู้จักเราเราคุยผิวเผินเรื่องงานเรียนหมด
ซึ่งจากการที่เราเป็นแบบนี้มันทำให้เราไปเจอสังคมใหม่ๆเข้ากับคนส่วนใหญ่ได้ยากมาก คุยอะไรกับใครไม่ได้สักอย่าง จะทำอะไรเล่าอะไรก็กลัวจะแปลก(เพราะทำอะไรชอบอะไรไม่ค่อยเหมือนชาวบ้าน) แม้แต่หัวเราะยังหัวเราะแห้งๆเลย หลายครั้งก็เงียบทำให้บางคนคิดว่าเราคงเป็นเด็กใสๆ ไม่คุยกับชาวบ้านคนนึง ทั้งๆที่บางอย่างที่เขาคุยกันเราอยากเล่าให้ฟัง แนะนำและบางทีประสบพบเจอมาหมดแล้วแต่เราไม่กล้าแม้แต่ปริปาก ความเข้าใจในสังคมว่าเขาทำอะไรและเราควรทำอะไรถึงจะดีต่อคนอื่น ควรเริ่มชวนคุยยังไง ควรสนิทมากขนาดนั้นไหม เข้าหายังไง เขาทำแบบนี้เราควรทำยังไงกลับบางทีไม่รู้เลย แต่ต่อให้เรารู้แต่เราก็ลังเลว่าทำหรือไม่ทำดี เช่น การบอกขอบคุณเพื่อนหรือขอโทษเพื่อน พอเราทำผิดหรือคนอื่นให้อะไรมาเรารู้ว่าต้องขอบคุณหรือขอโทษ แต่เราก็ไม่กล้าทำ นานๆทีถึงจะกล้าและอายมาก ไม่กล้าเปิดปาก ทำได้แค่คิดในใจว่าพูดออกไปไหมหรือไม่พูดดี สุดท้ายก็ไม่พูด คนมองว่าไร้มารยาท หยิ่งใส่ จนบางทีเราแตกหักจากเพื่อนคนอื่นๆหรือคนรู้จักก็มีเพราะจุดนี้ แต่เราไม่กล้าพูดออกไปจริง ๆ ไม่กล้าทำ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร บางทีเราหลีกหนีใส่หูฟังไปทำงานคนเดียวเงียบๆ พอมีเรื่องงาน เราก็ไม่กล้าถาม ไม่กล้าโต้ตอบกับคนข้างๆหรือเจ้านาย คิดไปเอง ทำไปเองก่อน พออยู่ส่วนตัวค่อยกล้าๆกลัวๆและเข้าไปถาม มันส่งผลไม่ใช่แค่เรียน แต่รวมไปถึงตอนทำงาน และสังคมในเกม(ไม่กล้าเปิดไมค์คุยดิสกลุ่มหรือดิสคัสร่วมกับคนอื่นในกิลด์) เราจะชอบทุกอย่างที่เป็นแชทและคอลเป็นส่วนตัว แต่ถ้าแชทและคอลกลุ่มเราต้องถอนหายใจ มือสั่น ปิดไมค์ไม่กล้าคุย ไม่กล้าเปิดไมค์ออกความเห็นทั้งๆที่มีไอเดียเต็มหัวและพร้อมจะเป็นคนที่ให้ความช่วยเหลือเต็มที่ พูดเสียงเบาแบบรีบๆเปิดปิดไมค์บ้าง ลังเลนานมากจะพูดจะส่งดีไหม จะเปิดไมค์ดีเปล่า ตื่นเต้น ส่งแล้วพูดแล้วจะมีใครสนใจไหม
หรืออาการแบบนี้เขาเรียกว่า "เข้าสังคมไม่เป็น" "วิตกกังวลไปเอง" คะ หรือมันหนักกว่านั้น แล้วเราควรทำยังไงดีคะ ตอนนี้เราทำงานก็เริ่มมีปัญหาแล้ว มีวิธีทางแก้แบบค่อยเป็นค่อยไปไหม ต้องพบจิตแพทย์ไหม หวังว่าทุกคนจะอ่านข้อความพอรู้เรื่อง เพราะขนาดพิมพ์สื่อสารเรายังไม่รู้จะสื่อยังไงดีให้ทุกคนเข้าใจเลยค่ะ
เป็นคนไม่กล้าทำ ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่กล้าคุย เหมือนเข้าสังคมไม่เป็นเลย ควรแก้ปัญหายังไงดีคะ
ซึ่งจากการที่เราเป็นแบบนี้มันทำให้เราไปเจอสังคมใหม่ๆเข้ากับคนส่วนใหญ่ได้ยากมาก คุยอะไรกับใครไม่ได้สักอย่าง จะทำอะไรเล่าอะไรก็กลัวจะแปลก(เพราะทำอะไรชอบอะไรไม่ค่อยเหมือนชาวบ้าน) แม้แต่หัวเราะยังหัวเราะแห้งๆเลย หลายครั้งก็เงียบทำให้บางคนคิดว่าเราคงเป็นเด็กใสๆ ไม่คุยกับชาวบ้านคนนึง ทั้งๆที่บางอย่างที่เขาคุยกันเราอยากเล่าให้ฟัง แนะนำและบางทีประสบพบเจอมาหมดแล้วแต่เราไม่กล้าแม้แต่ปริปาก ความเข้าใจในสังคมว่าเขาทำอะไรและเราควรทำอะไรถึงจะดีต่อคนอื่น ควรเริ่มชวนคุยยังไง ควรสนิทมากขนาดนั้นไหม เข้าหายังไง เขาทำแบบนี้เราควรทำยังไงกลับบางทีไม่รู้เลย แต่ต่อให้เรารู้แต่เราก็ลังเลว่าทำหรือไม่ทำดี เช่น การบอกขอบคุณเพื่อนหรือขอโทษเพื่อน พอเราทำผิดหรือคนอื่นให้อะไรมาเรารู้ว่าต้องขอบคุณหรือขอโทษ แต่เราก็ไม่กล้าทำ นานๆทีถึงจะกล้าและอายมาก ไม่กล้าเปิดปาก ทำได้แค่คิดในใจว่าพูดออกไปไหมหรือไม่พูดดี สุดท้ายก็ไม่พูด คนมองว่าไร้มารยาท หยิ่งใส่ จนบางทีเราแตกหักจากเพื่อนคนอื่นๆหรือคนรู้จักก็มีเพราะจุดนี้ แต่เราไม่กล้าพูดออกไปจริง ๆ ไม่กล้าทำ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร บางทีเราหลีกหนีใส่หูฟังไปทำงานคนเดียวเงียบๆ พอมีเรื่องงาน เราก็ไม่กล้าถาม ไม่กล้าโต้ตอบกับคนข้างๆหรือเจ้านาย คิดไปเอง ทำไปเองก่อน พออยู่ส่วนตัวค่อยกล้าๆกลัวๆและเข้าไปถาม มันส่งผลไม่ใช่แค่เรียน แต่รวมไปถึงตอนทำงาน และสังคมในเกม(ไม่กล้าเปิดไมค์คุยดิสกลุ่มหรือดิสคัสร่วมกับคนอื่นในกิลด์) เราจะชอบทุกอย่างที่เป็นแชทและคอลเป็นส่วนตัว แต่ถ้าแชทและคอลกลุ่มเราต้องถอนหายใจ มือสั่น ปิดไมค์ไม่กล้าคุย ไม่กล้าเปิดไมค์ออกความเห็นทั้งๆที่มีไอเดียเต็มหัวและพร้อมจะเป็นคนที่ให้ความช่วยเหลือเต็มที่ พูดเสียงเบาแบบรีบๆเปิดปิดไมค์บ้าง ลังเลนานมากจะพูดจะส่งดีไหม จะเปิดไมค์ดีเปล่า ตื่นเต้น ส่งแล้วพูดแล้วจะมีใครสนใจไหม
หรืออาการแบบนี้เขาเรียกว่า "เข้าสังคมไม่เป็น" "วิตกกังวลไปเอง" คะ หรือมันหนักกว่านั้น แล้วเราควรทำยังไงดีคะ ตอนนี้เราทำงานก็เริ่มมีปัญหาแล้ว มีวิธีทางแก้แบบค่อยเป็นค่อยไปไหม ต้องพบจิตแพทย์ไหม หวังว่าทุกคนจะอ่านข้อความพอรู้เรื่อง เพราะขนาดพิมพ์สื่อสารเรายังไม่รู้จะสื่อยังไงดีให้ทุกคนเข้าใจเลยค่ะ